บทที่ 407 พวกแกโง่หรืออย่างไรกัน

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 407 พวกแกโง่หรืออย่างไรกัน?

บทที่ 407 พวกแกโง่หรืออย่างไรกัน?

ในที่สุดดวงตาก็ดีขึ้นเสียที ทว่ายังมองเห็นอะไรไม่ค่อยชัด จึงไม่รู้ว่าสีหน้าของเสี่ยวเถียนในตอนนี้เสียอกเสียใจขนาดไหน

เด็กหญิงอายุยังน้อย ทั้งยังมีหน้าตาน่ารัก เด็กแบบนี้มักเป็นที่รักของคนอื่นเสมอ ผนวกกับท่าทางของการเป็นเหยื่อ ยิ่งน่าเวทนากว่าเดิมเสียอีก

แม้แต่ลุงตำรวจยังเห็นใจกับท่าทางของเด็กหญิงตัวน้อยเลย พวกเขาเห็นใจเสี่ยวเถียนที่เป็นเหยื่อมาก ทั้งยังรังเกียจคนโง่ที่เป็นผู้กระทำอีก

และผลที่เห็นได้ชัดคือ อันธพาลทั้งหกโดนตำรวจทำร้ายเงียบ ๆ โดนไม่รู้ตัว

ไร้ยางอายเกินไปแล้ว แม้แต่เด็กก็ลงมือได้ลงคอ

“คนพวกนี้ลงมือทำร้ายคนอื่นก็ว่าพอแล้ว แต่ยังเผยแพร่ความเชื่องมงาย สร้างเรื่องใหญ่โต คราวนี้ถ้าไม่กำจัดพวกมันที่เป็นเนื้อร้ายของสังคมออกไป จากนี้ไปจะทำยังไงล่ะ?” ผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยอย่างมีคุณธรรม

น้ำตาแห่งความคับข้องใจพรั่งพรูออกมา

ถึงก่อนหน้านี้พวกเราจะทำความผิด แต่คราวนี้พวกเขาคือเหยื่อนะ เข้าใจไหม?

แต่ประโยคพวกนี้จะพูดออกไปก็รู้สึกอายปาก พวกเขาโดนเด็กคนนี้ซ้อมเอานะ ถึงพูดออกมาไปพวกเขาก็อายอยู่ดี

ต้าเหมาผิดสังเกตเป็นพิเศษ ตำรวจพวกนี้ทำแบบนี้ได้อย่างไร?

“จริงนะ ๆ คุณตำรวจ เธอเป็นสัตว์ประหลาดจริง ๆ แถมใช้วิชามารได้ด้วย!” ต้าเหมายังยืนกราน

ผลที่ได้คือเขาโดนเตะอีกครั้ง

ต้าเหมาก้มหน้ามองเท้าตัวเองด้วยความเศร้าสร้อย ดีเหลือเกินที่เท้าข้างนี้มันไม่แข็งแกร่งเหมือนแรงของสัตว์ประหลาดน่ะ

ค่ำคืนนั้นกว่าเสี่ยวเถียนจะกลับบ้านก็มืดแล้ว

อวี่รุ่ยหยวนกำลังรออย่างใจจดใจจ่ออยู่ที่หน้าประตู

ขณะมองท้องฟ้าที่มืดลงเรื่อย ๆ ก็พึมพำกับตัวเอง “เด็กคนนี้ ทำไมยังไม่กลับมาอีกนะ?”

ในตอนที่รอแทบไม่ไหวก็เห็นเงาของหลานสาว

“เสี่ยวเถียน เกิดอะไรขึ้น?”

ตอนที่เสี่ยวเถียนกลับมาถึง หญิงชราก้าวไปข้างหน้า ไม่เห็นสองคนที่ตามหลังมาเลย

ยังไม่ทันที่ซูเสี่ยวเถียนจะได้ตอบคำถาม ตำรวจหญิงที่อยู่ด้านข้างได้ยินประโยคนี้ก็เอ่ยขึ้น

“คุณป้า ป้าเป็นครอบครัวสาวน้อยคนนี้หรือเปล่าคะ?”

ตอนนั้นเองถึงได้รู้ว่ามีตำรวจตามหลานมาด้วย

หญิงชราตกใจมากและงุนงงว่าเกิดอะไรขึ้น?

ทำไมหลานสาวของเธอถึงได้กลับมาพร้อมกับตำรวจกัน?

เธอพยักหน้า “ฉันเป็นย่าของเธอเอง!”

ได้ยินเช่นนั้น ตำรวจหญิงพลันโล่งใจ

“วันนี้เธอคงจะตกใจกลัวมาก พวกคุณปลอบเธอทีนะคะ”

“สหาย คุณหมายความว่ายังไงหรือ?”

อวี่รุ่ยหยวนตกใจ มองสำรวจหลานสาวก่อนแล้วค่อยมองตำรวจอีกครั้ง

ฝ่ายตำรวจก็มองเสี่ยวเถียนด้วยความเวทนาเช่นกัน สาวน้อยคนนี้แข็งแกร่งมากจนทำให้คนรู้สึกลำบากใจ

เห็นกันชัด ๆ ว่าเธอเป็นฝ่ายเจอเรื่องมามาก แต่ตอนนี้กลับสงบมากเลย

คงกลัวที่บ้านเป็นห่วงสินะ ช่างเป็นเด็กดีจริง ๆ

ตำรวจหญิงไม่พูดอะไรมากเพื่อไม่ให้หญิงชราตกใจกลัว

“วันนี้เด็กคนนี้โดนคนหมายหัวเอาน่ะค่ะ แต่โชคดีที่เธอเก่งมาก”

มันไม่ใช่แค่ฉลาดนะ ถ้าไม่ฉลาด ไม่มีทางที่เธอจะกลับมามีชีวิตได้หรอก

เสี่ยวเถียนเหลือบมองตำรวจด้วยความซาบซึ้ง แล้วเข้าไปกอดแขนผู้เป็นย่า “หนูไม่เป็นไรค่ะ ต้องขอบคุณพี่สาวที่มาส่งหนู! พี่อยากเข้ามาดื่มน้ำไหมคะ?”

เธอปฏิเสธ “เรามีอย่างอื่นต้องทำน่ะ งั้นขอตัวกลับก่อนนะ!”

หลังจากนั้นอวี่รุ่ยหยวนพาหลานกลับเข้าบ้านแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่เสี่ยวเถียนก็ทำเพียงเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นหนึ่งรอบ

เธอบังเอิญเจอบะหมี่พริกป่นเลยซื้อไว้หนึ่งห่อ ตั้งใจจะเอามาทำอาหาร แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยชีวิตได้

ว่าจบก็เอ่ยด้วยสีหน้าสงสาร “หนูเห็นใจบะหมี่ ตั้งสองหยวนแน่ะ! ต้องให้พวกนั้นชดใช้ให้ได้”

เธอเสียใจ ถ้าคนบนรถมาช้ากว่านี้จะเก็บกวาดอันธพาลให้หมด แถมยังขโมยเงินและข้าวของพวกมันได้ด้วย

เสี่ยวเถียนรู้อยู่แล้วว่าเธอทำแบบนั้นไม่ได้

เพราะถ้าอีกฝ่ายเป็นคนไม่ดีจริง ๆ มันไม่มีทางกลัวหรอก

หญิงชราสำรวจหลานอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าเสี่ยวเถียนไม่เป็นอะไร

แต่เธอยังกังวล และยืนกรานที่จะนอนเป็นเพื่อนหลาน

ทั้งยังบอกอีกว่า จากนี้ไปเสี่ยวเถียนไม่สามารถไปไหนมาไหนคนเดียวได้อีกแล้ว ถ้าจะไปต้องมีพี่ชายไปด้วยหนึ่งคน

“แล้วจะมีพี่ชายไว้ทำอะไร? ไม่ใช่มีไว้ปกป้องน้องหรือ?” อวี่รุ่ยหยวนพูดอย่างมีเหตุผล

พอพี่ ๆ รู้ว่าน้องเจอเรื่องมาก็รู้สึกเสียใจเหมือนกัน

โดยเฉพาะเสี่ยวปาและเสี่ยวจิ่วที่รู้ว่าน้องไปไหน แต่ไม่ได้ทำอะไรเลย

เลยยิ่งทำให้โทษตัวเองมากขึ้นไปอีก

พวกเขายืนกรานว่าหลังจากนี้จะตามเสี่ยวเถียนไปทุกอย่างก้าว

ตอนที่นอนอยู่บนเตียง อวี่รุ่ยหยวนถามหลานว่าไม่มีทางที่คนพวกนี้ที่จู่ ๆ ก็จะปรากฏตัวออกมาใช่ไหม?

ซูเสี่ยวเถียนเองก็ไม่คิดจะปิดบังคนที่บ้านอยู่แล้ว จึงเล่าออกมาจนหมดเปลือก

หลังจากฟังจบ หญิงชรามีรู้สึกโมโหขึ้นมาทันที

“เด็กดีเหลือเกิน ที่บ้านสั่งสอนมายังไง?”

“ทำไมถึงขายตัวเองเพื่อทำร้ายคนอื่นแบบนี้?”

“แบบนี้ก็ทำร้ายทั้งตัวเองและคนอื่นเลย ไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าเด็กที่ชื่อโจวหรุ่ยซูคิดอะไรอยู่!”

“ความหึงหวงบังตาค่ะ” เสี่ยวเถียนตอบอย่างเฉยเมย

แต่หญิงชรายังไม่เข้าใจความหมายของซูเสี่ยวเถียน จึงถามออกมาอีกหนึ่งประโยค

“เธอน่าจะชอบพี่อี้หย่วน แต่พี่เขาไม่ชอบเธอ เธอก็เลยมาระบายความโกรธใส่หนู”

เสี่ยวเถียนคิดว่าอธิบายแบบนี้ก็ดี อีกอย่างเธอไม่เข้าใจว่าทำไมโจวหรุ่ยซูถึงเกลียดเธอนัก

อย่ามาพูดหน่อยเลย เธอไปทำลายชีวิตอีกฝ่าย ถ้ามีสมองหน่อยก็รู้เองแหละว่าโจวหรุ่ยซูมาถึงจุดนี้ได้เพราะทำตัวเองทั้งนั้น

การที่ตระกูลโจวและตระกูลว่านตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็เพราะการกระทำของตัวเองเหมือนกัน โทษคนอื่นไม่ได้หรอก

หญิงชราตกใจมาก นี่คือสาเหตุหรือ?

เด็กหญิงคนนั้นโง่หรือเปล่า

ชอบคนที่เขาไม่ได้ชอบ ถึงขนาดต้องบ้าคลั่งเลยหรือ!

แต่เรื่องนี้พูดกันแค่นี้เท่านั้น ไม่ได้บอกปู่ย่าแล้วก็แม่ เพราะพวกเขาต้องทำงานที่ร้าน ไม่อยากให้ต้องมากังวลกับเรื่องพวกนี้

วันต่อมา ขบวนพี่ชายห้อมล้อมพาเจ้าหญิงเสี่ยวเถียนไปโรงเรียน

เมื่อเห็นพี่ ๆ ปกป้องเธอราวกับเพชร เสี่ยวเถียนก็ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี

ส่วนสองสามีภรรยาตู้ที่ส่งหลาน ๆ ไปโรงเรียนแล้วก็ไม่ได้อยู่บ้านต่อ และออกไปข้างนอกกัน