บทที่ 463 หาผู้ชายที่ตามใจหนู เหมือนที่อาตามใจหนู

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ภายใต้แววตาที่ใจจดใจจ่อของหวันหว่าน ปลาหลายตัวนั้นถูกปล่อยคืนสู่ทะเล ตบที่หางปลา หายลับตาไปอย่างรวดเร็ว

หวันหว่านมองพวกมันว่ายไป บนใบหน้ามีรอยยิ้มในทันที เธอโบกมือให้พวกปลา ทำท่าทาง “พวกเธอต้องกลับบ้านอย่างปลอดภัยนะ”

“หวันหว่าน แต่ถ้าหากอาจวิ้นตกปลาตัวใหญ่ได้ละก็ พวกเราปล่อยมันกลับไม่ได้นะ”โอหยางจวิ้นพูด“ปลาใหญ่พวกนั้นต่างกินปลาเล็ก และพวกเราไม่ได้เอาของกินมา อีกเดี๋ยวหวันหว่านก็หิวแล้ว”

เขาพูดแบบนี้ เธออดไม่ได้ที่จะลูบท้องเล็กๆของตัวเอง อย่างดังคาด รู้สึกหิวหน่อยๆแล้ว

ดังนั้น เธอพยักหน้า ทำท่าสู้ๆให้โอหยางจวิ้น

ทั้งสองกำลังคุยกันอยู่ ทันใดนั้นคันเบ็ดของโอหยางจวิ้นก็จมลงไป

เขาจ้องตาเขม็ง รีบลุกขึ้นยืน พร้อมดึงสาย

คันเบ็ดถูกดึงจนง้อ โอหยางจวิ้นเก็บสายค่อนข้างลำบาก

“หวันหว่าน น่าจะเป็นปลาตัวใหญ่ตัวหนึ่ง”เขาหมุนสายเบ็ดไปพลาง พูดไปพลาง “เห็นทีเราไม่ต้องทนหิวแล้ว”

อย่างที่คิด เวลาที่ปลาถูกดึงขึ้นมา หวันหว่านถึงกับตกใจ

ปากโตๆ และในปากยังมีฟันแหลม ดูแล้วสูงกว่าเธอครึ่งตัว สีแดงๆสวยงามมาก

“ดีจริงๆ เป็นปลาเก๋าแดง”โอหยางจวิ้นพูด “ซาชิมิกับการตุ๋นซุปก็ดีทั้งนั้น”

พูดอยู่ เขาใช้ถุงมือเอาปลาออกมาอย่างระมัดระวัง แล้วเก็บคันเบ็ด

เนื้อปลาใช้มาซาชิมิ หัวปลากับหางปลามาตุ๋นซุป โอหยางจวิ้นทำด้วยท่าทางชำนาญ ไม่นานก็เตรียมส่วนผสมเสร็จแล้ว

บนเรือยอชต์มีครบทุกอย่าง เขาให้หวันหว่านนั่งอยู่ข้างเขา ดูเขาแล่ปลา

มีดคมมาก เขาแล่เป็นชิ้นบางๆ ตอนจัดวางบนจาน เนื้อปลาดูใสราวคริสทัล

“หวันหว่านยังเด็ก กินปลาดิบมากไม่ได้ เรากินไม่กี่ชิ้นก็พอ”โอหยางจวิ้นพูด“อีกเดี๋ยวซุปเนื้อปลาที่ตุ๋นมาก็อร่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะข้างบนหนังปลา มีคอลลาเจนและโปรตีน เด็กผู้หญิงกินแล้วยิ่งดีต่อผิว”

หวันหว่านไม่เข้าใจอะไรคือคอลลาเจนและโปรตีน แต่เธอเชื่อฟังเขา กินปลาดิบแค่ 4 ชิ้น ความเผ็ดของวาซาบิทำให้มีน้ำตา

ปลาสดมาก บวกกับเต้าหู้และต้นหอม ยิ่งเย้ายวน

ไม่นาน ซุปปลาสีขาวๆก็ออกจากเตา หวันหว่านได้กลิ่น น้ำลายสอทันที

“หวันหว่าน ซุปปลาเพิ่งเดือดร้อนมาก อาจวิ้นช่วยหนูตัก”โอหยางจวิ้นพูดอยู่ ตักน้ำซุปถ้วยหนึ่งให้หวันหว่าน อีกจานหนึ่งคีบปลาให้เธอ ยังตักข้าวสวยหนึ่งถ้วยและสลัดผักให้

“ระวังร้อน”เขาเห็นท่าทางทนรอไม่ไหวที่อยากจะกินของสาวน้อย อดยิ้มไม่ได้

“อร่อย”หวันหว่านใช้มือทำท่าทาง แล้วกัดหนังปลาเก๋าแดง

หนังปลาหนามาก ด้านในเต็มไปด้วยคอลลาเจน กัดแล้วเด้งๆ หวันหว่านเดิมที่หิวอยู่แล้ว อุทานอยากพอใจทันที

จนกระทั่งท้องเล็กๆเติมไปครึ่งหนึ่ง หวันหว่านมองโอหยางจวิ้นที่อยู่ตรงข้าม เขากำลังกินอย่างช้าๆ การกระทำสง่างาม

เธอกะพริบตาโตอย่างห้ามไม่ได้ ก้มดูเม็ดขาวหลายเม็ดที่เลอะตรงหน้าตัวเอง แล้วเกาหัวน้อยๆอย่างเกรงใจ

“ไม่เป็นไร เป็นอาจวิ้นที่ตกปลาได้ช้า ทำให้หวันหว่านของเราหิว”โอหยางจวิ้นเห็นท่าทางเกรงใจของสาวน้อย ดังนั้นเลยพูดปลอบโยน

เธอพยักหน้า คิดแล้วคิดอีก พูดพร้อมประกอบท่าทาง“คุณอาจวิ้นทำกับข้าวอร่อย รอหวันหว่านโตแล้ว จะทำกับข้าวให้คุณอากินเหมือนกัน”

เดิมเขาอยากพูดกับเธอว่าไม่ต้องทำกับข้าว จะลำบากแต่ตอนสบตาที่แวววาวของสาวน้อย โอหยางจวิ้นไม่กล้าขัดความตั้งใจของหวันหว่าน ยิ้มและพยักหน้า “ตกลง”

ด้วยเหตุนี้ หวันหว่านยิ่งกระปรี้กระเปร่า คาดหวังวันนั้นที่ตัวเองทำกับข้าวเป็น

ภาคเรียนหนึ่ง ในการใช้ชีวิตแบบนี้ คิดไม่ถึงว่าจะผ่านไปเร็วมาก

ในบ้านที่หวันหว่านอาศัยมีที่สติกเกอร์ส่วนสูงแปะอยู่ ทุกครั้งที่เธอกลับบ้านในวันหยุดสุดสัปดาห์ ก็จะเดินเข้าไปวัดส่วนสูงตัวเอง

สติกเกอร์ส่วนสูงมีลายเส้นที่เธอเป็นคนวาดเองอย่างช้าๆ เธอเห็นว่า เส้นแนวนอนสูงขึ้นเรื่อย ๆ เธอโตขึ้นทุกวันจริงๆ

ในคืนนี้ เธอวิดีโอคอลกับพ่อแม่

แต่กลับเห็น เด็กทารกน้อยหนึ่งคนในกล้อง

ทารกน้อยละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ ดวงตาโตแต่ดูคม ขนตายาว ผิวที่บอบบาง เหมือนของเล่นเสมือนจริง

ดังนั้นเธอทำท่าทางให้หลานเสี่ยวถาง “คุณแม่ เด็กน้อยมาจากไหน ใช่น้องสาวหนูไหม?”

“เป็นน้องสาวของลูก เป็นลูกแม่บุญธรรมของลูก ชื่อหยานมู่จิ่น ชื่อเล่นว่าเหมิงเหมิง”หลานเสี่ยวถางพูด“ชอบน้องไหม?”

กำลังจะพูด ซูสือจิ่นกับหยานชิงเจ๋อเข้าใกล้กล้อง จับมือมู่จิ่นน้อยโบกให้หวันหว่าน“หวันหว่าน หนูดู เหมิงเหมิงน้องสาวทักทายหนู”

หวันหว่านคิดๆ ส่งจุ๊บไปให้มู่จิ่นน้อย

“จริงด้วย”หลานเสี่ยวถางพูดต่อ“ป้าชิงชิงลูกยังจำได้ไหม?ครอบครัวพวกเขามีลูกชายหนึ่งคน”

พูดถึงทางฮั่วชิงชิงก็ตลก คิดเหมือนกับซูสือจิ่น เดิมคิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง แต่คลอดออกมากลับเป็นเด็กผู้ชาย ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้ที่บ้านเตรียมแต่ของสีชมพู เพราะสร้างบรรยากาศล่วงหน้า3เดือน ดังนั้นจะเปลี่ยนก็ลำบาก

แต่เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารัก คนส่วนใหญ่เห็นแล้ว ต่างคิดว่าเป็นลูกสาว

เรื่องฮั่วชิงชิงป่วยและเรื่องหันจื่ออี้บริจาคไตให้ หลานเสี่ยวถางรู้เข้าอย่างไม่ตั้งใจ รู้สึกคลอดเด็กผู้ชายก็ดี วันหลังงานในบ้าน เด็กผู้ชายถึงสามารถช่วยแบ่งเบา

แม้ว่า ตอนนี้ตอนนี้เหมือนไม่ต้องการแรงงานมากเท่าไหร่ แต่หากมีละก็ เด็กผู้ชายดีกว่ามาก

มู่จิ่นน้อยของบ้านซูสือจิ่นเพิ่ง 2 ขวบ ดังนั้นมองกล้องแค่ไม่กี่วินาที เด็กน้อยก็สนใจสิ่งอื่นแล้ว

มู่จิ่นน้อยเพิ่งคลานไป หยานโม่หานกลับวิ่งเข้าไป

เขาแย่งมือถือจากมือผู้ใหญ่มา ตอนเห็นหวันหว่าน จุ๊บหลายทีส่งให้หวันหว่านอย่างกระตือรือร้น

ซูสือจิ่นข้างๆ ยิ้มอย่างจนใจ ลูกชายของเธอ ทำไมถึงชอบพี่หวันหว่านขนาดนี้?

และหยานชิงเจ๋อ กลับพูดกับสือมูเฉินที่อยู่ข้างๆ“พี่เฉิน พี่ดูลูกชายผมชอบเจ้าหญิงน้อยบ้านพี่ขนาดนี้ พวกเราจับเด็กๆหมั้นหมายกันไว้ดีไหม”

ซูสือจิ่นได้ยิน รู้สึกไม่เลว

เธอรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนช่างเลือก ถ้าหากลูกชายขอลูกสาวบ้านอื่น เธอกลับลูกสะใภ้คนนั้นเข้ากันไม่ได้จะทำยังไง?

สือมูเฉินและหลานเสี่ยวถางรู้ดีแต่ไม่พูด ความสัมพันธ์ดีต่อกันขนาดนี้ หวันหว่านยังเป็นที่ชื่นชอบของทุกคนแบบนี้ แม้ว่าจะแก่กว่าหยานโม่หาน 2 ปี แต่ไม่เป็นไร ความรักแบบผู้หญิงแก่กว่าผู้ชายยิ่งตื่นเต้นรู้ไหม

เธอเห็นด้วยทันที“ก็ดีนะ ฉันอยากได้หวันหว่านมาเป็นลูกสะใภ้บ้านฉัน”

พูดอยู่ กอดแขนหลานเสี่ยวถางไว้“ได้ไหมพี่สะใภ้? ให้หวันหว่านกับโม่หานหมั้นหมายกันไว้แต่เด็ก”

สือมูเฉินที่อยู่ข้างๆยิ้ม“พวกเราไม่ขัด แต่เธอมั่นใจไหมว่าพวกเด็กๆโตมาจะยอมแต่ง?”

ซูสือจิ่นยกลูกชายขึ้นจากพื้นทันที แล้วกอดไว้ที่หน้าอก พูดกับเขา“โม่หาน ลูกอยากให้พี่หวันหว่านมาเป็นเจ้าสาวของลูกไหม?”

แม้ว่าหยานโม่หานไม่มีแนวคิดเรื่องแต่งงานอะไร แต่เคยเล่นเกมพ่อแม่ลูกอยู่

ดวงตาเขาเปล่งแสงทันที พยักหน้าอยากดีใจ รู้สึกสุขใจ แล้วเรียกหวันหว่านในมือถือด้วยเสียงหวานๆไม่หยุด

ซูสือจิ่นเห็นแวว ตื่นเต้นขึ้นมาทันที “หวันหว่าน หนูยอมไหม? ถ้าหากยอมละก็ พวกเราก็ตกลงตามนี้”

หวันหว่านรู้ว่าลูกสะใภ้หมายถึงอะไร แต่เธอไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ เห็นเด็กน้อยบนจอที่อ่อนกว่าตัวเอง รู้สึกหวั่นๆ

“ฮ่าๆ ทำไมหวันหว่านทำท่าทางเหมือนไม่ยอมอย่างนั้น”สือมูเฉินตบไปที่ไหล่ของหยานชิงเจ๋อ “เห็นทีโม่หานบ้านนายยังต้องพยายามต่อไป”

“โม่หานน้อย สู้ๆ”หยานชิงเจ๋อพูดด้วยความสนุก

มู่จิ่นน้อยเหมือนรับรู้ว่าไม่มีคนสนใจเธอ ร้องไห้แงๆทันที

ซูสือจิ่นอุ้มเธอขึ้นจากเตียง “โอ้ๆ ทำไมเหมิงเหมิงของเราถึงร้องไห้ หิวแล้วใช่ไหม?”

พูดอยู่ รีบอุ้มเธอไปป้อนนมข้างใน

พูดถึง2 เดือนก่อนที่หยานมู่จิ่นเพิ่งคลอด เธอกังวลมากจริงๆ

ลูกคนที่ 2แล้ว ถ้าหากยังเป็นลูกชาย เธอต้องร้องไห้จนล้มกำแพงเมืองจีนพังแน่ ๆ

โดยเฉพาะ ตอนเห็นฮั่วชิงชิงเดิมที่คิดว่าเป็นลูกสาว ตอนคลอดออกมากลับเป็นลูกชาย ในใจตอนนั้นของซูสือจิ่นอย่าให้พูดถึงว่าแย่แค่ไหน

ดีตรงที่ สวรรค์ไม่ได้เล่นตลกกับเธอเป็นครั้งที่ 2

ลูกคนที่ 2คลอดง่ายขึ้นมาก และเป็นลูกสาว เธอร้องไห้ออกมาอยากดีใจทันที รู้สึกว่าสมบูรณ์แบบแล้ว

มีบางครั้งผู้หญิงก็ต้องริเริ่มก่อนจริงๆ วันนั้นยั่วหยานชิงเจ๋อสำเร็จ ในที่สุดก็ได้เจ้าหญิงน้อยสมใจอยาก

ตอนนี้ดูแล้ว เจ้าหญิงน้อยได้ยีนเด่นของหยานชิงเจ๋อ แค่สองเดือนก็งดงามจนคนอดไม่ได้ที่จะหอมแก้ม ซูสือจิ่นป้อนนมไปพลาง ยิ้มไปพลาง เต็มไปด้วยความสุข

ทางด้าน หวันหว่านคุยกับทุกคนสักพัก หลานเสี่ยวถางไม่อยากให้เธอมองหน้าจอมากจะเสียสายตา ถึงวางสายไป

หวันหว่านเอามือถือยื่นให้โอหยางจวิ้น แล้วถามข้อสงสัยของเธอกับโอหยางจวิ้น

“คุณอาโอหยาง การหมั้นหมายคืออะไร พวกเขาบอกว่าให้หนูหมั้นหมายกับน้องโม่หาน” หวันหว่านทำท่าหมั้นหมายไม่เป็น ด้วยเหตุนี้ เลยดึงมือโอหยางจวิ้นขึ้น เขียนเสียงอ่านในมือของเขา

โอหยางจวิ้นนิ่งไปหลายวินาที แล้วค้นหาในอินเทอร์เน็ตครู่หนึ่ง ถึงรู้ว่าหมายถึงอะไร

เขาพูดไม่ออกบอกไม่ถูก “อนาคตพวกเขาอยากให้เธอกับหยานโม่หานแต่งงาน แต่งให้กับเขา”

หวันหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง จินตนาการถึงฉากเกี้ยวเจ้าสาวและสวมชุดแต่งงานสีขาวในทีวี

เห็นหวันหว่านเงียบไม่พูด โอหยางจวิ้นอดที่จะสนใจไม่ได้ “หวันหว่าน แล้วหนูยอมไหม?”

แต่งกับเด็กน้อยคนนั้น?หวันหว่านส่ายหน้า “เขาเด็กเกินไป ทำอะไรก็ไม่เป็น”

โอหยางจวิ้นยิ้ม พูดว่า“หวันหว่านเติบโตได้ น้องโม่หานก็เติบโตได้เหมือนกับหนู”

เธอนิ่งไป เหมือนเมื่อกี้ไม่ได้คิดถึงปัญหานี้ ดังนั้นพูดพร้อมประกอบท่าทาง “หวันหว่านไม่รู้ เพราะไม่รู้ว่าน้องโม่หานโตมาจะเป็นยังไง”

พูดจบ นึกอะไรได้ เธอพูดเสริม“ถ้าหากเหมือนคุณอาจวิ้น งั้นก็ได้”

โอหยางจวิ้นยิ้ม พูดว่า “อืม หวันหว่านโตแล้ว ต้องหาผู้ชายที่ตามใจหนู เหมือนที่อาตามใจหนู”

เธอพยักหน้า จู่ ๆนึกถึงวิดีโอคอลเมื่อครู่ ฉากที่คึกคัก ดังนั้นมองโอหยางจวิ้นหลายนาที ทำท่าทางและพูดว่า“คุณอาจวิ้น ทำไมคุณอายังไม่มีลูก?”

โอหยางจวิ้นหัวเราะไม่ออก “อาจวิ้นยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีภรรยา จะมีลูกได้ยังไง?”

หวันหว่านเข้าใจทันที ดังนั้นเลยทำท่า“งั้นคุณอาจวิ้นเถอะ ไม่อย่างงั้นไม่มีเด็กคนอื่นเป็นเพื่อนคุณอา คุณอาจะเหงาไหม?”