ตอนที่ 807 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (4) ตอนที่ 808

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 807 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (4) / ตอนที่ 808 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (1)
ตอนที่ 807 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (4)

สายลมยามค่ำคืนพัดพาเอาความเย็นมาด้วย จู่ๆ ทหารรักษาการณ์ทั้งสองคนก็รู้สึกง่วงขนาดหนัก และในชั่วพริบตาพวกเขาก็เอนตัวพิงหอกอย่างทนความง่วงไม่ไหว

เมื่อพวกเขากรนเสียงดัง ศีรษะเอนห้อยไปด้านข้างแล้ว จวินอู๋เสียกับสหายของนางก็ก้าวผ่านประตูเรือนฝั่งทิศตะวันตกออกมาโดยไม่ปกปิดตัวตนเลย

พื้นที่ตำหนักรัชทายาทนั้นกว้างใหญ่ และระยะทางระหว่างเรือนฝั่งทิศตะวันตกกับห้องบรรทมขององค์รัชทายาทในเรือนฝั่งทิศตะวันออกก็ค่อนข้างไกลกัน แม้ว่าจะเป็นกลางดึกแต่ทหารรักษาการณ์ที่เดินลาดตระเวนอยู่ภายในตำหนักก็ไม่ได้กำลังพักผ่อนอยู่ ทว่าพวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีแมวดำตัวน้อยขนาดเท่าฝ่ามือกำลังศึกษาเส้นทางลาดตระเวนของพวกเขา และเวลาที่พวกเขาลาดตระเวนเสร็จ หนึ่งนาทีหลังจากที่ทหารลาดตระเวนเดินผ่านทางเดินยาวไป จวินอู๋เสียกับสหายก็วิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วตรงไปยังห้องบรรทมของเหลยเชิน

คืนนี้เหลยเชินเมาค่อนข้างหนัก เขานอนหลับไม่ได้สติอยู่บนแท่นบรรทม นิ่งสนิทไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย

หลังจากที่พวกเขาทำให้ทหารรักษาการณ์ที่ทางเข้าหลับแล้ว จวินอู๋เสียก็เดินเข้าไปในห้องบรรทมของเหลยเชิน ในห้องจุดเทียนไว้เล่มหนึ่ง แสงไฟสลัวเลือนรางนั้นทำให้รอบด้านที่มืดมิดสว่างขึ้นเล็กน้อย

เมื่อเฉียวฉู่เดินผ่านประตูเข้ามา เขาก็เห็นเหลยเชินนอนนิ่งอยู่บนแท่นบรรทม หลับสนิทไม่รู้สึกตัว รอยยิ้มชั่วร้ายก็พลันปรากฏขึ้นบนริมฝีปากของเขา

ในงานเลี้ยงคืนนั้นพวกเขาได้เห็นว่าเหลยเชินคอแข็งมาก และก็รู้ว่าด้วยนิสัยของเหลยเชิน เขาจะไม่ปล่อยให้ตัวเองเมามายไร้สติ แต่คืนนี้มันไม่ได้ขึ้นอยู่ที่เขาอีกแล้ว ในจอกสุราที่จวินอู๋เสียส่งให้เหลยเชินนั้น จวินอู๋เสียได้ลอบใส่โอสถวิเศษลงไป ดังนั้นไม่ว่าเหลยเชินจะคอแข็งสักแค่ไหนก็ตาม เขาก็ไม่สามารถทนต่อฤทธิ์ของโอสถวิเศษของจวินอู๋เสียได้

“สภาพแบบนี้เราจะถามอะไรเขาได้อย่างนั้นหรือ” เฉียวฉู่มายืนอยู่ข้างแท่นบรรทมของเหลยเชินและลงนั่งยองๆ ยกนิ้วขึ้นจิ้มแก้มแดงๆ ของเหลยเชิน

เขาหลับสนิทจริงๆ!

เฉียวฉู่สงสัยเอามากๆ ว่าเหลยเชินที่หมดสติไปโดยสมบูรณ์เช่นนี้ จะสามารถตอบคำถามของจวินอู๋เสียได้อย่างไร

พวกเขามาถึงที่นี่ในวันนี้ ไม่ใช่เพื่อกินดื่มสุราและอาหาร แต่เพื่อหาโอกาสค้นหาที่ซ่อนของแผนที่ส่วนที่สี่ เพื่อที่เฟยเยียนจะได้คัดลอกมันออกมา แล้วพวกเขาจะได้ตัดความสัมพันธ์กับเหลยเชิน

ปัญหายุ่งยากภายในของรัฐเหยียนไม่ใช่สิ่งที่จวินอู๋เสียใส่ใจ เป้าหมายของนางกระจ่างชัดเสมอ

“เอาตัวเขาขึ้นมา” จวินอู๋เสียพูด

เฉียวฉู่ก็ปรี่เข้าไปทันทีและดึงตัวเหลยเชินขึ้น

ศีรษะของเหลยเชินเอียงพับไปด้านหนึ่ง ไม่มีทีท่าจะได้สติเลยแม้แต่น้อย

“ง้างปากเขา” จวินอู๋เสียพูด

เฟยเยียนก้าวเข้ามาง้างปากของเหลยเชิน ดูจะคุ้นเคยกับการทำเรื่องเช่นนี้มาก จวินอู๋เสียหย่อนโอสถวิเศษเข้าไปในปากของเหลยเชินทันที

เฉียวฉู่พยุงตัวเหลยเชินมานั่งที่เก้าอี้ข้างห้องและก้าวหลบไปด้านข้าง เขามองดูเหลยเชินอย่างตื่นเต้น

“น้องเสีย เจ้าเอาอะไรให้เขากินหรือ” เฉียวฉู่ถามอย่างอยากรู้อยากเห็น เขากระโดดมายืนอยู่ข้างๆ จวินอู๋เสีย ในมือของจวินอู๋เสียมักจะมีโอสถวิเศษแปลกๆ อยู่เสมอ หลายอย่างเป็นโอสถที่เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามีแบบนี้อยู่บนโลกด้วย

“โอสถที่จะทำให้เขาพูดความจริง” จวินอู๋เสียพูดเสียงเรียบ ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะสนองความอยากรู้อยากเห็นของเฉียวฉู่

คนอื่นที่เหลือยืนรออย่างอดทนอยู่ด้านข้างอย่างรู้จักกาลเทศะ ปล่อยให้ทุกอย่างอยู่ในมือของจวินอู๋เสีย ด้วยรู้ว่าสิ่งที่พวกเขาทุกคนต้องทำก็คือรอคอยผลลัพธ์

หลังจากนั้นไม่นาน เหลยเชินที่ไม่ได้สติพลันก็ขยับตัว เขาเงยหน้าขึ้นช้าๆ และลืมตาขึ้น แต่ดวงตาคู่นั้นไม่ได้จับจ้องอยู่ที่สิ่งใดและไร้ชีวิตชีวา เขาแค่มองตรงไปข้างหน้าอย่างเหม่อลอย ไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึกใดๆ อยู่บนใบหน้าหล่อเหลานั้นเลยแม้แต่น้อย มองดูเหมือนเขากำลังละเมอและยังไม่ตื่นเต็มที่

ตอนที่ 808 การเก็บเกี่ยวที่คาดไม่ถึง (1)

จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างหน้าเหลยเชิน นางมองสบดวงตาคู่นั้นที่ไม่ได้จับจ้องสิ่งใด

“ท่านชื่ออะไร” จวินอู๋เสียถามช้าๆ

“เหลยเชิน” เหลยเชินตอบทื่อๆ สีหน้าไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แต่เสียงของเขาได้ยินชัดเจน

เฉียวฉู่ที่ยืนอยู่ด้านข้างกะพริบตาอย่างสงสัย เขามองดูท่าทีแปลกประหลาดของเหลยเชิน

“ฤทธิ์ของโอสถวิเศษตัวนี้สุดยอดไปเลย! ถ้าคราวหน้าเราเจอสถานการณ์เช่นนี้อีก ก็แค่ให้น้องเสียเอาโอสถวิเศษนี่ให้คนผู้นั้นกิน แล้วเราก็จะได้รู้ข้อมูลทุกอย่างที่อยากรู้จากคนผู้นั้น!” เฉียวฉู่กระซิบเบาๆ พร้อมกับกระแทกไหล่ดันฮวาเหยาที่อยู่ข้างๆ

ฮวาเหยาไม่ละสายตาจากเหลยเชินขณะที่พูดด้วยเสียงต่ำว่า “ไม่ใช่ทุกอย่างจะใช้ได้ผลกับทุกๆ คนหรอกนะ”

เฉียวฉู่ยักไหล่และไม่พูดอะไรอีก

ภายใต้แสงเทียนอันริบหรี่ เหลยเชินนั่งเงียบอยู่บนเก้าอี้ไม่ขยับเขยื้อน ทำเพียงแค่ตอบทุกสิ่งที่จวินอู๋เสียถามเขาเท่านั้น

จวินอู๋เสียถามเขาสามคำถามง่ายๆ ติดๆ กัน เพื่อให้แน่ใจว่าโอสถวิเศษออกฤทธิ์กับเหลยเชินแล้ว หลังจากนั้นนางก็หรี่ตาลงและถามด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ท่านเคยติดต่อกับคนจากสามโลกชั้นกลางหรือเปล่า”

เหลยเชินที่ตอบคำถามโดยไม่มีการลังเลเลยดูเหมือนจะนิ่งค้างไปทันที ใบหน้าไร้ความรู้สึกของเขาบิดเบี้ยวราวกับกำลังดิ้นรน

จวินอู๋เสียประหลาดใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยานั้น โอสถวิเศษที่นางให้เหลยเชินกิน เป็นโอสถวิเศษชนิดที่จะทำให้สติสัมปชัญญะและระบบประสาทด้านชาหมดความรู้สึก ฤทธิ์โอสถจะแสดงออกมาก็ต่อเมื่อกินร่วมกับสุราเป็นจำนวนมากเท่านั้น นี่เป็นครั้งแรกที่นางใช้มันตั้งแต่มาเกิดใหม่ ถึงแม้ว่านางเคยใช้มันบ่อยๆ ตอนที่ยังอยู่กับองค์กรก็ตาม และปฏิกิริยาของเหลยเชินก่อให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ ในใจของจวินอู๋เสีย

ในสถานการณ์นั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เหลยเชินจะแสดงความรู้สึกใดๆ ออกมา เนื่องจากสมองของเขาน่าจะมึนชาไปหมดแล้ว และระบบประสาทก็ไม่น่าจะสามารถส่งสัญญาณถ่ายทอดความรู้สึกใดๆ ออกมาได้

“เขา…ทำไมเขาไม่ตอบแล้วเล่า” เฉียวฉู่ที่กำลังคาดหวังให้เหลยเชินเปิดเผยความจริงออกมาให้พวกเขาได้รู้ ทว่าพอกำลังเข้าประเด็นสำคัญเขาก็ดันนิ่งค้างไปเสียดื้อๆ

จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าบิดเบี้ยวของเหลยเชิน

“มีอะไรผิดปกติหรือ” ฟ่านจัวสังเกตเห็นว่าจวินอู๋เสียมีท่าทางผิดปกติ จึงถามขึ้นทันที

จวินอู๋เสียตอบว่า “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง”

“ไม่ถูกต้องหรือ”

จวินอู๋เสียกัดริมฝีปากแน่นแล้วพูดว่า “เว้นเสียแต่ว่าเขาจะผ่านการฝึกพิเศษมาก่อน แต่ถ้าไม่ใช่ เขาก็น่าจะตอบทุกอย่างที่ข้าถามโดยไม่ลังเล” ในชาติก่อนของนาง นางเคยเจอผู้คนที่ผ่านการฝึกต่อต้านการสะกดจิต คนกลุ่มนั้นจะฟื้นสภาพได้เร็วมาก และโอสถพวกนี้ที่ใช้ควบคุมระบบประสาทก็จะใช้ไม่ได้ผล โอสถที่นางใช้นั้นไม่สามารถสะกดคนกลุ่มนี้ได้อย่างสมบูรณ์

แต่หลังจากที่กลับมาเกิดใหม่ในโลกนี้เป็นเวลานาน นางไม่เคยพบเห็นหรือได้ยินการกล่าวถึงสิ่งที่ใช้สะกดจิตในโลกใบนี้เลย และถ้ามันไม่มี แล้วเหลยเชินจะเคยผ่านการฝึกต่อต้านมันได้อย่างไร

จวินอู๋เสียคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายนางก็ตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการเข้าถึงข้อมูล นางอ้าปากแล้วถามขึ้นว่า “ท่านเคยส่งคนกลุ่มหนึ่งไปที่ผาสุดขอบฟ้าหรือไม่”

ทันทีที่คำถามออกจากปากของจวินอู๋เสีย อาการดิ้นรนบนใบหน้าของเหลยเชินก็หายไปทันที สีหน้าของเขากลับมาซึมไร้ชีวิตชีวาและไม่มีความรู้สึก เขาตอบอย่างรวดเร็วว่า “เคย”

“ตอนนั้นท่านให้แผนที่พวกเขาไปฉบับหนึ่ง แล้วท่านเก็บแผนที่ต้นฉบับเอาไว้ที่ไหน” จวินอู๋เสียถาม

“ไม่มีต้นฉบับ แผนที่นั่นเป็นฉบับคัดลอกที่ลอบเอามาจากองครักษ์ของเสด็จพ่อ” ใบหน้าไร้ความรู้สึกของเหลยเชินไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อยขณะที่พูด แต่คำพูดพวกนั้นทำให้ทุกคนในห้องตัวแข็งทื่ออย่างตกใจ

แผนที่ไม่ได้อยู่กับเหลยเชิน! เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่!