บทที่ 558 ยั่วยุวิปลาสที่ 6
บทที่ 558 ยั่วยุวิปลาสที่ 6
สถานที่รวมตัวเป็นหุบเขาเพลิงเหมันต์ ! ที่เรียกที่นี่ว่าหุบเขาเพลิงเหมันต์ก็เพราะลักษณะเฉพาะของหุบเขา ที่ด้านขวาของหุบเขาปกคลุมด้วยเปลวจนกลายเป็นภูเขาเพลิง มีไฟปะทุตลอด 4 ฤดูในทุก ๆ 1 ปี อีกทั้งด้านนอกยังมีลาวาไหลออกมาด้วยตลอดเวลา ทำให้อุณหภูมิที่นี่พุ่งสูง !
ส่วนด้านซ้ายของหุบเขานั้นถูกปกคลุมด้วยหิมะ ด้านบนของภูเขาเหมันต์มีหิมะที่ตกลงมาอย่างช้า ๆ โดยใน 1 ปีทั้ง 4 ฤดูก็จะมีหิมะตกลงมาตลอดปี จนทำให้หุบเขาแห่งนี้ถูกเรียกว่าหุบเขาเพลิงเหมันต์ !
และในช่องเขาของหุบเขาเพลิงเหมันต์นี่เอง ก็มีประตูใหญ่อยู่บานหนึ่ง และประตูใหญ่บานนี้ก็คือประตูเชื่อมต่อระหว่างสถานที่ภายนอกกับประตูทางเข้างานประลอง ทำให้คนนอกที่เข้าร่วมการประลองต้องมารวมตัวกันที่นี่
กว่าที่ฉู่เหินและคนอื่น ๆ จะมาถึงที่นี่นั้น มันก็ต้องใช้เวลาถึง 3 วันที่เดียว ทั้ง ๆ ที่นี้เป็นความเร็วของมังกรแล้วนะ ถ้าขืนใช้เรือเหาะธรรมดาละก็ เกรงว่าต่อให้ใช้เวลา 5-8 วันก็คงยังมาไม่ถึง
ส่วนศิษย์ที่มาเร็วที่สุดคือพรรคหมื่นพิษ ทว่าด้วยไม่นานมานี้พรรคหมื่นพิษถูกคนจากพรรคอื่นทำลายจนยับ จึงทำให้พวกเขาโกรธมาก ! และที่สำคัญเลยก็คือพวกเขายังหาตัวคนร้ายไม่พบด้วยว่าเป็นใคร ยิ่งไปกว่านั้น ไม่กี่วันมานี้มีคนกลุ่มหนึ่งจากในวังเข้ามาหา ซึ่งหลังจากคนกลุ่มนี้มาถึงพรรคหมื่นพิษ พวกเขาก็ไม่พูดไม่จาเข้าทำร้ายผู้อาวุโสจนกระอักเลือดออกมา !
ถ้าไม่ใช่เพราะว่ามีคนขอความเมตตาอย่างยากลำบาก เกรงว่าผู้อาวุโสคนนี้ได้จบสิ้นไปแล้ว ! แต่แม้จะเป็นอย่างนั้น จนกระทั่งตอนนี้ผู้อาวุโสคนนี้ยังคงนอนพักฟื้นอยู่บนเตียงอยู่เลย เกรงว่าหากอยากฟื้นคืนสู่สภาพเดิม อย่าว่าแต่ 10 ปีเลย ต่อให้ใช้เวลา 20 ปีก็ใช่ว่าจะฟื้นตัวได้เต็มที่ !
เพราะแบบนี้เอง ทำให้พรรคหมื่นพิษในตอนนี้ต้องข่มกลั้นเอาไว้ !
ในระหว่างที่พวกเขากำลังรอนั่นเอง ก็ยังไม่เห็นเงาร่างของใครสักคน ทำให้ในใจเกิดความยินดี ! ทว่าตอนนี้เอง จู่ ๆ กลางอากาศก็พลันปรากฏมังกรตัวหนึ่งพุ่งเข้ามา
บอกตามตรงว่าตอนที่มองเห็นมังกรครั้งแรก พวกเขาก็ตกใจไม่น้อย แต่เมื่อสังเกตมองอย่างละเอียด ก็พบว่านี้ไม่ใช่มังกรจริง ๆ แต่เป็นกระบองใหญ่อันหนึ่ง ! ทำให้ลูกศิษย์พรรคหมื่นพิษอดไม่ไหว หัวเราะออกมา !
“พรรควายุอัสนีของพวกแกยากจนมากหรือไง ถึงได้ขี่กระบอกอันหนึ่งมาเข้าร่วมประลองแบบนี้ ถ้าจนมากล่ะก็เดี๋ยวพวกฉันช่วยส่งเสียให้สัก 180 เหรียญดีไหม ! ว่าแต่คนที่พาพวกแกมาเป็นใครกัน หน้าอย่างกับคิงคอง ฉันว่านะ พรรควายุอัสนีของพวกแกเนี่ยนับวันยิ่งถดถอย !”
พูดจบหัวหน้าทีมพรรคหมื่นพิษคนนั้นก็หัวเราะยกใหญ่ ราวกับไม่เห็นคนพรรควายุอัสนีอยู่ในสายตา !
ทุกคนที่เพิ่งมาถึงก็ถูกคนพรรคอื่นหัวเราะเยาะใส่ ทำให้ในใจรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ! แต่พอมาถึงท่อนที่คนคนนี้กล้าเหน็บแนมวิปลาสที่ 6 พวกเขาก็พากันแสดงสีหน้าแปลกประหลาดขึ้นมาทันที !
วิปลาสที่ 6 ใช่คนที่สามารถเยาะเย้ยได้ง่าย ๆ หรือไง ? ต่อมาคนจากพรรควายุอัสนีก็ค่อย ๆ พากันหลบไปยืนข้าง ๆ ด้วยพวกเขาคิดว่าหัวหน้าทีมพรรคหมื่นพิษถึงคราวซวยเสียแล้ว ! พูดแบบนี้ออกไปแล้ว มีหรือที่คนอย่างวิปลาสที่ 6 จะห้ามใจไม่ซัดหน้าไหว !
เป็นไปตามคาด หลังศิษย์พี่ 6 ได้ยินแบบนี้ เขาก็หัวร้อนขึ้นมาทันที จนดวงตาสองข้างแผ่รังสีสังหารออกมา ! อีกทั้งยังปล่อยพลังกดดันออกไป ทำให้คนจากพรรคหมื่นพิษใจสั่นไหว ซึ่งถ้าพวกเขารู้ว่าคนตรงหน้าเป็นจอมวิปลาสแห่งพรรควายุอัสนีล่ะก็ น่ากลัวว่าพวกเขาจะวิ่งหนีไปนานแล้ว
ที่พวกเขาไม่รู้จักศิษย์พี่ 6 สาเหตุก็ง่ายมาก เพียงเพราะแต่ละครั้งที่สองพรรคต่อสู้กัน บ้านวายุไม่เคยยื่นมือเข้าช่วยมาก่อน ดังนั้นถ้ารู้มาก่อนว่านี้คือเจ้าวิปลาสที่ 6 ผู้มีชื่อเสียงโด่งเด่น คนพวกนี้มีหรือจะกล้ายั่วยุแบบนี้ เพราะนี้มันเป็นการหาเรื่องตายชัด ๆ!
“อย่ายุ่งกับฉัน ไม่งั้นหัวพวกแกแหลกแน่ !” หลังจากพูดด้วยน้ำเสียงดุดันหนึ่งประโยค ก็ไม่สนใจพวกนี้อีก หันกลับไปสั่งให้ทุกคนลงมาจากกระบอง แล้วก็เก็บกระบองไป !
“โอ้โห ! พรรคเล็ก ๆ อย่างพวกวายุอัสนี ไม่เจอกันไม่กี่เดือนดูใจกล้าขึ้นนี่ ฉันพูดถึงแกแล้วยังไง ? หรือว่าแกกล้าซ้อมฉัน ? แกไม่กลัวความบาดหมางระหว่างสองพรรคหรือไง แกไม่กลัวว่าพรรคหมื่นพิษของพวกเราจะทำลายพรรควายุอัสนีของพวกแกงั้นเหรอ !”
“หมาอย่างแกกล้ามาเห่าต่อหน้าฉันงั้นเหรอ รีบหุบปากซะ ไม่งั้นฉันจะต่อยปากแก !” สิ้นเสียง ทุกคนก็ต่างกันนิ่งเงียบ ด้วยพวกเขารู้ว่าวิปลาสที่ 6 กำลังจะคลั่งแล้ว เพียงแต่ว่าความคลั่งแบบนี้ พวกเขาชื่นชอบนัก
ก่อนหน้านี้ตอนที่เห็นวิปลาสที่ 6 เรียกได้ว่าทุกคนในพรรควายุอัสนี นอกจากบ้านวายุแล้วก็มีไม่กี่คนที่ชอบหน้าเขา แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน รุ่นน้องพรรควายุอัสนีเริ่มจะรู้สึกว่าวิปลาสที่ 6 น่ารักเกินไปแล้ว ! โดยเฉพาะคนที่เคยเข้าร่วมการประลองมาก่อน ที่ยิ่งรู้สึกซาบซึ้งใจ !
ครั้งก่อน ตอนที่พวกเขามาเข้าร่วมการประลอง ทุกครั้งก็ได้แต่กล้ำกลืนฝืนทน ! เพราะผู้อาวุโสที่พามาพวกนั้น พอเห็นพรรคหมื่นพิษเมื่อไร ก็ทำตัวเหมือนหนูเห็นแมวทุกครั้งไป ! ซึ่งความรู้สึกแบบนั้นมันก็ทำให้พวกลูกศิษย์รู้สึกอับอายมาก อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่เหมือนกัน พอมาได้ยินที่วิปลาสที่ 6 พูด ก็ทำให้ลูกศิษย์ในพรรคมีความสุขมาก !
“แก ! แกกล้าว่าฉันว่าเป็นหมาเหรอ ? เบื่อชีวิตแล้วใช้ไหม ! หรือแกไม่รู้ว่าฉันคือผู้อาวุโสของพรรคหมื่นพิษ” ผู้อาวุโสของพรรคหมื่นพิษ รู้สึกแปลกใจมาก ! ก่อนหน้านี้พอพวกพรรควายุอัสนีได้ยินตัวเองพูดเยาะเย้ยใส่ก็ทำได้เพียงโมโห แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก แล้วทำไมครั้งนี้ถึงได้เปลี่ยนท่าทางไปล่ะ !
ศิษย์พี่ 6 เมื่อเห็นคน ๆ นี้ที่ต่อให้ตายก็เปลี่ยนนิสัยมันไม่ได้ จึงไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เพียงยื่นมือข้างหนึ่ง โบกไปด้านหน้า แล้วก็ได้เห็นมือข้างนั้นของศิษย์พี่ 6 ขยายใหญ่ขึ้น เพียงพริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้าของคนคนนี้แล้ว จากนั้นมือใหญ่ ๆ ของศิษย์พี่ 6 ก็พลันกำรอบลำคอของหมอนี้เอาไว้ จนมันตาเหลือกค้างเห็นแต่ตาขาว !
ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วเกินไป บวกกับคาดไม่ถึงว่าศิษย์พี่ 6 จะลงมือ เลยไม่ได้เตรียมการป้องกันพอ ทำให้ความสำเร็จของการโจมตีนี้มีมากถึง 69 เปอร์เซ็นต์ ! ทว่าหลังบีบคออีกฝ่ายเอาไว้ได้ มือของศิษย์พี่ 6 ก็พลันขยายใหญ่ขึ้นอีก จนสุดท้ายก็กำรอบได้ทั้งหน้าของคนคนนี้ ก่อนตามมาด้วยเสียงดังกรอบ !!
ตอนนี้หัวหน้าทีมพรรคหมื่นพิษมึนไปแล้ว เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เจ้าคนต่ำต้อยจากพรรควายุอัสนีทำไมถึงกล้าลงมือกับตัวเอง ! อย่างไรก็ตามฝีมือของอีกฝ่ายกลับแข็งแกร่งมาก ทำให้ตัวเองไม่มีโอกาสแม้แต่จะตอบโต้ ! ทั้ง ๆ ที่เป็นขั้นเทพดาราเหมือนกัน แล้วทำไมอีกฝ่ายถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้กัน ?
ทั้ง ๆ ที่ในพรรคหมื่นพิษ นอกจากผู้อาวุโสสูงสุดแล้ว ก็ไม่มีใครเทียบฝีมือตัวเองได้แท้ แต่นี่มันอะไรกัน ! ระหว่างที่เขากำลังคิดไม่ตกอยู่นั้น ตอนนี้เขาถึงเพิ่งรู้ว่าเท้าตัวเองไม่ติดพื้นแล้ว และก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากตอบโต้ แต่ทว่าเขานั้นถูกขัดขวางเอาไว้ทั้งหมด จนไม่อาจตอบโต้ได้เลยต่างหาก !
ปากของเขาที่ถูกบีบอัด ทำให้มันมีสภาพราวกับหัวหมู ! และเมื่อรู้สึกตัว ก็พลันโกรธจนคำรามลั่นออกมา !!!
“พรรควายุอัสนี พวกแกคิดจะประกาศสงครามกับพวกฉันใช่ไหม ?” อีกฝ่ายประคองหน้าที่บวมช้ำเอาไว้ และคำรามออกมา
“ถ้ากล้าพูดมากอีกล่ะก็ ฉันจะฆ่าแกซะ พรรคหมื่นพิษของพวกแกจะแน่แค่ไหนกันวะ ก่อนหน้าบ้านวายุพวกฉันไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องนี้ด้วยหรอกนะ แต่ถ้าพวกแกกล้าเปิดศึกล่ะก็ พรรคพวกแกถึงกาลอวสานแน่ ! อย่างพวกแกฉันจะทำยังไงก็ได้ ไม่กลัวอยู่แล้ว ! อีกอย่างผู้อาวุโสสูงสุดของพวกแกก็นอนบาดเจ็บสาหัสอยู่ไม่ใช่หรือไง ! ยังกล้ามาเห่าที่นี่อีก !”
ประโยคสั้น ๆ นั้น ทำให้ผู้อาวุโสพรรคหมื่นพิษทุกคนพากันอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าความลับของพรรคอีกฝ่ายจะรู้แล้ว ! แบบนี้จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง ต้องเข้าใจว่าเรื่องนี้ พวกเขาสั่งปิดปากไม่ให้ใครแพร่งพรายบอกใครแล้ว แต่กลับถูกอีกฝ่ายรู้ได้ยังไงกัน ?
“ถ้าไม่อยากให้คนอื่นรู้ งั้นก็อย่าทำเรื่องชั่วอีก ! สิ่งที่พวกแกทำไปแล้ว คิดหรือว่าคนอื่นเขาจะไม่รู้ ตอนนี้หุบปากให้ฉันได้หรือยัง ฉันไม่อยากได้ยินเสียงพูดของแกอีก !” ศิษย์พี่ 6 พูดอย่างดุดัน ทำให้ผู้อาวุโสพรรคหมื่นพิษเงียบเป็นเป่าสาก ด้วยไม่รู้จะพูดอย่างไรดี !