บทที่ 458 เทพแห่งสงครามเป็นภรรยาตัวน้อยผู้หนึ่ง

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 458 เทพแห่งสงครามเป็นภรรยาตัวน้อยผู้หนึ่ง

สำหรับคำพูดของนาง เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้าอย่างจริงจัง

“เยาเยาพูดถูก” แต่ต่อจากนั้น มุมปากเขาก็ยกขึ้นยิ้มอีกครั้ง “ในเมื่อข้าไม่สามารถมาหาเจ้าบ่อยๆได้ เช่นนั้นก็แบบนี้ดีกว่า พวกเราสามารถกลับกันได้”

กลับกัน?

หมายความว่าอะไร?

ความหมายของเย่แจ๋หยิ่งคงไม่ใช่ให้นางไปจวนอ๋องเย่หรอนะ?

ภายใต้สายตาที่ไม่ประสงค์ดีของเย่แจ๋หยิ่ง นางรู้สึกว่าตัวเองเดาไม่ผิด แอบไปจวนอ๋องเย่ของเขาอย่างลับๆทุกคืน?

หลานเยาเยาไม่พอใจในพริบตา

“ข้าจะไม่ไป ตีให้ตายก็ไม่ไป”

เดินข้างแม่น้ำบ่อยๆ ไหนเลยที่เท้าจะไม่เปียก?

ก่อนหน้านี้นางก็อับอายไปรอบหนึ่งแล้ว โชคดีเป็นเพียงแค่องครักษ์ลับเห็น หากว่าถูกคนที่ราชครูเทียนเวิงซ่อนไว้ในที่ลับพบเข้า บางทีครั้งหนึ่งอาจจะสามารถบอกว่านางเพียงลอบสังหารได้ แต่จะต้องทำให้ราชครูเทียนเวิงสงสัยเป็นแน่

ดังนั้นหลังจากที่เขาพูดจบอย่างแน่วแน่ ยังแอบชำเลืองมองเย่แจ๋หยิ่งแวบหนึ่ง

พบว่าเขากำลังมองดูตัวเองแบบยิ้มแต่ก็เหมือนไม่ได้ยิ้ม นางเปล่งเสียงไม่พอออกมาอย่างเย็นชา รีบหันศีรษะไป พูดอย่างแน่วแน่อีกครั้ง :

“วางใจ ข้าจะไม่ไป ไม่ไปอย่างแน่วแน่ ตีให้ตายก็ไม่ไป”

……

ถึงคืนวันที่สอง

จวนอ๋องเย่ ในห้องบรรทม

หลานเยาเยายืนอยู่ข้างเตียงอย่างหงุดหงิด มองดูเย่แจ๋หยิ่งที่ปลอดภัยไร้กังวล ก็รู้สึกว่าโดนตบหน้าเสียงดังเพี้ยทันที

เมื่อครู่องครักษ์ลับคนไหนบอกนางว่าเย่แจ๋หยิ่งเป็นลม?

สารเลว!

เห็นครั้งหนึ่ง นางจะต้องต่อยเขาหนักๆครั้งหนึ่งเป็นแน่

แต่ทว่า!

มาก็มาแล้ว ในมือก็ล้วนหยิบสิ่งของจัดการบาดแผลของเย่แจ๋หยิ่งมา เพียงเห็นเย่แจ๋หยิ่งค่อยๆลุกขึ้น สีหน้าท่าทียิ้มแต่ก็เหมือนไม่ได้ยิ้ม นี่ทำให้นางอดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดเล็กน้อย

นางรีบอธิบาย :

“ข้ามาที่นี่นี้ เพื่อช่วยท่านเปลี่ยนยา ท่านอย่าคิดมาก”

“เหอะเหอะ ไม่คิดมาก” เย่แจ๋หยิ่งไหนเลยจะกล้าคิดมาก นางไม่โกรธก็นับว่าดีมากแล้ว ดีที่มีบาดแผลปิดบัง นางจะไม่โกรธจริง “เจ้ามาก็ดี ข้าขอร้องก็ไม่ได้!”

ไม่ว่าอย่างไรคนก็มาแล้ว ยังคิดไม่คิดมากอะไรอีก?

รอจนเย่แจ๋หยิ่งถอดเสื้อ ยืนรอจนนางจัดการบาดแผลให้ดีแล้ว เขาก็ไม่ได้อยากสวมเสื้อผ้าอีก แต่กลับนอนบนเตียงโดยตรง นอนตัวแข็ง

หลานเยาเยาหน้าแดง

“ทำไมท่านเป็นแบบนี้? รีบสวมเสื้อผ้า”

“ฟ้ามืดแล้ว บาดแผลเพิ่งจะจัดการเรียบร้อย ข้าง่วงนิดหน่อยแล้ว”

ง่วง?

หึ!

เขาสีหน้าแจ่มใส อมยิ้มมุมปาก แววตาแวววาว ไหนเลยจะเป็นท่าทางเหมือนง่วง?

เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์ไม่ดี

ไม่ว่าอย่างไรบาดแผลก็จัดการดีแล้ว หลานเยาเยาเก็บข้าวของเตรียมจากไป ใครจะรู้ แขนถูกคว้าไว้อย่าไม่น่าแปลกใจ

“เยาเยา มาก็มาแล้ว คิดว่าคงเหนื่อยแล้วสินะ? ต้องการจะพักผ่อนบนเตียงกับข้าหรือไม่?”

เย่แจ๋หยิ่งเคลื่อนมือไปตำแหน่งด้านข้าง ยังจะตบเบาๆ บอกใบ้ให้นางนอนลง

“ไม่ต้องการ”

หลานเยาเยารีบจัดการปัญหา นอนลงก็จะต้องเป็นเรื่องไม่ดี ดังนั้นหลานเยาเยาจึงได้ผละออกจากมือของเย่แจ๋หยิ่ง รีบไปจากสถานที่ที่วุ่นวาย ไม่เช่นนั้นจะเป็นตัวเองที่เสียเปรียบ

เพิ่งจะถึงประตูห้อง

น้ำเสียงที่ดึงดูดและเย้ายวนค่อยๆดังมาจากทางด้านหลังตามคาด

“ขาไก่หนึ่งอัน”

ของกิน?

หลานเยาเยาชะงักฝีเท้า

แต่ว่า หนึ่งอัน

คิดจะซื้อนางด้วยขาได้หนึ่งอัน ไม่มีทาง นางเตรียมยกเท้าอีก

“ขาหมูสองอัน”

แค่ขาหมูสองอัน ชั่งขี้เหนียวเกินไปแล้ว ครู่หนึ่งนางสามารถกินได้สี่อัน ยิ่งไปกว่านั้นนางไม่สามารถที่จะขายตัวเองเพื่อของกิน

ดังนั้นนางจึงเตรียมยกอีก……

“อาหารอันโอชะหนึ่งโต๊ะที่เจ้าชอบกิน เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว”

คราวนี้หลานเยาเยาขยับเท้าก้าวไม่ได้อีก หันหลังไปถามหยั่งเชิงโดยตรง :

“บวกเพิ่มขาไก่หนึ่งอันและขาหมูสองอันก่อนหน้านี้ด้วยหรือไม่?

“บวกเพิ่ม!”

“เยี่ยมเลย!”

เปลี่ยนท่าทางก่อนหน้านี้ สีหน้าหลานเยาเยายิ้มแย้ม นางรีบมาข้างกายเย่แจ๋หยิ่ง มีความตั้งใจอย่างมากในการทุบขาให้เขา นวด

“ท่านอ๋อง ท่านเหนื่อยหรือไม่? ข้านวดตรงนี้ให้ท่าน” นางไม่สนใจท่าทางในตอนนี้ของเย่แจ๋หยิ่ง กลับพูดว่า : “ของอร่อยนี่จะมาเมื่อไหร่หรือเพคะ?”

เย่แจ๋หยิ่งหัวเราะขึ้นทันที

หัวเราะจนหลานเยาเยาหน้าละห้อย เขาถึงได้เก็บความขำขันไว้ :

“เอาอาหารรสเลิศและเหล้าอย่างดีที่เตรียมไว้ยกมาให้หมด”

ได้เห็นใบหน้าที่ละห้อยของหลานเยาเยากลับมายิ้มได้อีกครั้งตามปรารถนา เขาก็มองนางด้วยความรักความเอ็นดู จากนั้นก็เป็นสีหน้าท่าทาง ‘อยากหัวเราะแต่ก็ไม่กล้าหัวเราะออกเสียง’มองดูหลานเยาเยากินอย่างมูมมาม

ในใจมีความสุขเป็นที่สุด

เป็นดังคาด มีนางอยู่ ไม่ว่าทำอะไรก็ล้วนมีความสุข

หลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่ง

“อ้า อิ่มมากเลย!”

หลานเยาเยาลูบท้องที่กลมๆของตัวเอง จากนั้นก็เรอด้วยความอิ่ม

น่าแปลก?

แม้ว่าตัวเองจะเป็นนักกินจุ แต่กินของก็พิถีพิถันมาก และไม่ใช่ว่าของอะไรก็ล้วนกินหมด ทำไมมาถึงที่เย่แจ๋หยิ่งนี้

ก็รู้สึกว่าของทุกอย่างล้วนเอร็ดอร่อยเป็นอย่างมากนะ?

เย่แจ๋หยิ่งเจ้าเล่ห์โดยแท้

อยากจะคว้าใจนางให้แน่นๆ รู้ว่าต้องคว้านท้องของนางก่อน

ตอนนี้!

ตัวเองก็กินอิ่มดื่มจนพอแล้ว บาดแผลของเย่แจ๋หยิ่งก็จัดการเรียบร้อยแล้ว เป็นเวลาที่คนควรจะแวบไปแล้ว

ด้วยเหตุนี้นางเหลือบมองเย่แจ๋หยิ่งที่เอนพินอยู่บนเตียงแวบหนึ่ง ดวงตาที่สวยงามทั้งคู่ของเขาปิดลงเบาๆ หายใจสม่ำเสมอ ราวกับว่าหลับแล้ว

เห็นดังนั้น นางรีบเดินย่องไปทางประตูใหญ่ห้องบรรทมทันที เมื่อมือสองข้างดึงประตูเบาๆ ดังไม่ขยับ

หืม?

จากนั้นก็ใช้แรงนิดหน่อย ก็ยังดึงไม่ขยับ

ดูแล้ว จะต้องใช้แรงอีกหน่อยแล้ว ด้วยเหตุนี้ก็ดึงโดยพลัน ประตูห้องยังคงไม่ขยับแม้สักนิด

เกิดเรื่องอะไรขึ้น?

ประตูใหญ่ห้องบรรทมนี้คงไม่ได้ลงกลอนจากด้านนอกหรอกนะ?

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ก็ได้ยินน้ำสบายๆของเย่แจ๋หยิ่งดังมา : “ประตูหน้าต่างลงกลอนแล้ว เยาเยา รีบมาที่เตียง”

ทันใดนั้นหลานเยาเยาอยากร้องแต่ก็ไม่มีน้ำตา

ยังจะลงกลอนไว้แล้วจริงๆ……

นี่เป็นเรื่องตั้งแต่เมื่อไหร่? ทำไมนางไม่รู้สึกตัวสักนิด?

มองดูท่าทางที่กลัดกลุ้มของนาง เย่แจ๋หยิ่งก็ไม่ได้พูดจา เขาจะไม่บอกนางหรอก ว่าเป็นตอนที่นางกำลังกวาดอาหารรสเลิศบนโต๊ะ เขาแอบสั่งการ ให้เหล่าองครักษ์ลับทำเช่นนี้

ไม่มีวิธีอื่น หลานเยาเยาทำได้เพียงหันกลับเดินไปทางเตียงของเย่แจ๋หยิ่งอย่างกลุ้มใจ

แต่นางก็ไม่ได้กังวล และก็ไม่คิดว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บหนักผู้หนึ่งจะสามารถทำอะไรนางได้ ยิ่งไปกว่านั้นตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บยังอยู่ที่ท้อง สำหรับบางด้านแล้วเดิมทีเขาก็ไม่สามารถใช้แรงได้

ดังนั้นนางจะกลัวอะไร?

ควรจะเป็นเย่แจ๋หยิ่งกลัวนางถึงจะถูก

ด้วยเหตุนี้!

เมื่อนางนั่งบนเตียง ก็ชำเลืองมองเย่แจ๋หยิ่งแวบหนึ่ง เอ่ยขึ้นด้วยความหมายที่แฝงอยู่ในใจ :

“เป็นท่านทำให้ข้าอยู่ต่อ หากว่าคืนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นท่านต้องรับผิดชอบทั้งหมด”

“ได้!”

เย่แจ๋หยิ่งพยักหน้าตอบรับ เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าหลานเยาเยาจะทำเรื่องอะไรที่เกินไปได้ แต่ทว่า ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือ

เมื่อเขาเพิ่งพยักหน้า สีหน้าของหลานเยาเยาก็เปลี่ยนไปในพริบตา ออกคำสั่งกับเขาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ท่านไปนอนด้านหลัง คืนนี้ข้าจะยึดเตียงของท่าน และนอนเพียงด้านหน้า ไปไม่ไป?”

ในความงงงัน ภายใต้อำนาจบีบบังคับของหลานเยาเยา เย่แจ๋หยิ่งค่อยๆขยับไปทางด้านหลัง หลังจากที่หลานเยาเยานอนหลับบนเตียงอย่างอำนาจบาตรใหญ่ เขาก็ถามอย่างอ่อนแรงประโยคหนึ่ง :

“ปกติแล้วล้วนเป็นสามีนอนด้านหน้าภรรยานอนด้านหลังมิใช่หรือ?”

ได้ยินดังนั้น!

หลานเยาเยาก็ตาขวางใส่เขาโดยตรง

“ตอนนี้ก็ไม่ใช่เช่นนี้หรือ?”

เหมือนกันที่ไหนล่ะ?

เย่แจ๋หยิ่งเปิดปากขึ้น สุดท้ายอะไรก็ไม่ได้พูด

เพียงแค่มองดูว่านางอยากทำอย่างไร เพียงแค่นางไม่จากไป สำหรับเขาแล้ว ก็ล้วนดีหมดทุกอย่าง เดิมทีเย่แจ๋หยิ่งยังคิด รอสักครู่รอจนหลานเยาเยา

เมื่อหลับแล้ว ค่อยกอดนางไว้ในอ้อมกอด เช่นนี้เขาก็สามารถนอนหลับได้อย่างปลอดภัยไร้กังวลหน่อย

กลับคิดไม่ถึง….