หมอลู่ล้างมืออย่างเงียบ ๆ เขาถูฝ่ามือเข้าด้วยกันถูฝ่ามือกับหลังมือแล้วเอานิ้วถูกัน …
ความเงียบสงบในห้องน้ำทำให้นึกถึงสนามเด็กเล่นตอนกลางคืน เมื่อมีคนเดินผ่านไปมาเป็นครั้งคราวอาจทำให้ใครบางคนตกใจได้
หมอลู่พยายามอย่างมากที่จะนึกถึงกระบวนการผ่าตัดของหลิงรันภายในใจของเขา
แม้ว่าเขาจะเคยเห็นการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถัง ของหลิงรันมาหลายครั้งแล้ว แต่เมื่อเขารู้ว่าเขากำลังจะทำการผ่าตัดด้วยตัวเขาเองเขาก็เริ่มสงสัยในตัวเองอย่างไม่รู้จบว่าเมื่อไรความตื่นเต้นเหล่านี้จะหมดไปสักที่
“ หมอลู่วันนี้ผมจะเป็นผู้ช่วยคุณเอง” มาหยานหลิน เคาะประตูห้องน้ำและเริ่มล้างมือใต้ก๊อกน้ำด้วยเช่นกัน
หมอลู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงของมาหยานหลินถึงกับยืนตัวตรงขึ้นมา เขาหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาหนึ่งผืนข้างประตูเช็ดข้อศอกและแขนของเขาและพูดว่า “คราวนี้ฉันจะต้องทำให้นายลำบาก ฉันหวังว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบต่อกิจวัตรการทำงานปกติของนายนะ”
“กิจวัตรหรอ เหรอคุณจะไม่พบสิ่งนั้นในแผนกศัลยกรรมกระดูกเลย เมื่อเทียบกันแล้วแผนกศัลยกรรมกระดูก ผมควรทำงานในแผนกศัลยกรรมมือมากกว่า”มาหยาลิน ตะคอกเสียงดังด้วยความไม่พอใจ “มันน่าเบื่อมาก” ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมกระดูกก็ไม่ชอบหลิงรันเลย และไม่มีใครรู้ว่าสิ่งนั้นส่งผลทางอ้อมต่อมาหยานลินหรือป่าว
“ แล้วนายเลือกวันแต่งงานของนายแล้วหรือยัง?” หมอลู่พยายามชวนมาหยานลินคุยด้วย
“ตอนนี้เรื่องอื่นๆพร้อมหมดก็เหลือแค่โรงแรมเป็นหลักในการกำหนดวัน ต่อให้คุณจะเลือกวันไว้แล้วแต่โรงแรมไม่ว่างคุณก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี” ใบหน้าสีซีดของมาหยานลินเปล่งประกายด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
หมอลู่จ้องมองเขาก่อนที่เขาจะกล่าวว่า “อย่ากดดันตัวเองมากเกินไป การวางแผนงานแต่งงานเป็นงานที่ยากลำบาก นายอย่าดันทุรังมากนักเดียวจะเหนื่อยตายเอาส่ะก่อน”
“ ผมไม่เหนื่อยหรอกภรรยาของผม กำลังจัดการแผนการแต่งงานทั้งหมดให้” มาหยานลินพูดขณะที่เขาอ้าปากค้าง
หมอลู่หัวเราะเบา ๆ เขาอยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เมื่อเขาหันกลับไปและเห็นประตูห้องผ่าตัดเขาก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที
แน่นอนว่าการแนะนำคนที่กำลังสับสนในชีวิตมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
“ อย่างงั้นฉันขอตัวเข้าไปในห้องผ่าตัดก่อนล่ะกันนะ” หมอลู่ปินยกแขนขึ้นและก้าวไปข้างหน้าห้องผ่าตัด
ฉากในครั้งแรกที่เขาก้าวเข้ามาในห้องผ่าตัดเมื่อไม่กี่ปีก่อนปรากฏขึ้นในใจของหมอลู่โดยไม่ได้ตั้งใจ ในตอนนั้นที่ปรึกษาทางคลินิกของเขาเป็นแพทย์จากแผนกศัลยกรรมทั่วไป งานที่มอบหมายให้เขาคือการล้างแผลด้วยน้ำเกลือ แต่สิ่งที่เขาทำคือการเอาน้ำเกลือเทไปบนมือของแพทย์คนนั้นทำให้มือของเขาเลอะไปหมด ซึ่งตอนนั้นมันกลายเป็นภาพฝั่งใจที่ติดอยู่ในใจของหมอลู่ตลอดมา ในเวลานั้นหมอลู่เริ่มตั้งคำถามกับชีวิตว่าเขาได้เรียนแพทย์มาจริงๆหรือเปล่า
อย่างไรก็ตามเมื่อนึกย้อนกลับไปตอนนี้เขารู้สึกเพียงว่าเขาโชคดีมากที่เขาผ่านมันมาได้
หมอลู่ไม่สามารถแม้แต่จะหยุดคิดได้ว่าวันนี้เขาควรจะดุเด็กฝึกงานอย่างไรถ้าพวกเขาทำแบบเดียวกัน
มันคงไม่เพียงพอแน่ถ้าเขาดุพวกนั้นแค่สิบห้านาที เขาอาจต้องดุเด็กฝึกงานพวกนั้นตลอดการผ่าตัด
เมื่อเขาคิดเรื่องนี้ที่ปรึกษาทางคลินิกของเขาที่กำลังดุเขาอยู่ตอนที่กำลังผ่าตัดอยู่นั้น มันทำให้เขากลายเป็นคนที่อดทนอดกลั่นขึ้น
ขณะที่หมอลู่คิดเช่นนั้นเขาก็อดยิ้มไม่ได้
ตอนที่เขาเข้าไปในห้องผ่าตัดใบหน้าของหมอลู่เผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่นและหมอลู่ยังคิดถึงเรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลา
“ เยี่ยมไปเลยตามหมอลู่!” ซูเจียฟูที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ที่รักของเขาและวิเคราะห์การแสดงออกของหมอลู่ ด้วยเหตุผลที่พิถีพิถันซึ่งเขาได้คะแนนมากกว่าหกร้อยคะแนนในระหว่างการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ‘เขามีรอยยิ้มที่มั่นใจ ตอนที่ไม่มีเจ้านายอยู่รอบ ๆ เขาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น ฉันคิดว่าเขารู้สึกมั่นใจเพราะเขามีประสบการณ์มากมายแล้วสำหรับเรื่องนี้ ‘ เมื่อเขาจำได้ว่าหมอลู่เคยเป็นผู้ช่วยในการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถัง เกือบสามร้อยเคสซูเจียฟูก็ชมเชยเขาขึ้นมา
โดยทั่วไปแล้วผู้ช่วยที่ทำหน้าที่มากกว่า 10 ครั้งจะสามารถเขาไปรับหน้าที่เป็นแพทย์ผ่าตัดได้เลย และสำหรับผู้ช่วยที่ทำหน้าที่ช่วยเหลือหัวหน้าศัลยแพทย์หลักมามากกว่า 100 ครั้ง พวกเขามีโอกาสที่จะไปชิงตำแหน่งระดับสูงหรือระดับบริหารของโรงพยาบาลได้เลย
แน่นอนว่าการเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์ในเวลานี้ไม่ได้หมายความว่า เขาจะเลิกเป็นแพทย์ผู้ช่วยไปเลย แต่มันก็ยังดีกว่าการเป็นผู้ช่วยตลอดเวลา
อย่างไรก็ตามหากต้องคำนวณเวลาระยะเวลาที่ หมอลู่ใช้เวลาในการผ่าตัดเทคนิคเอ็มถึงในการผ่าตัดมากกว่าสามร้อยครั้งในฐานะผู้ช่วยนั้นถือว่าเขาใช้เวลาสั้นมากในการเก็บรวบรมเคสจำนวนมากขนาดนี้
ถ้าให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากต้องไปเทียบกับ ไท่เปิ้นที่เป็นแพทย์ประจำแผนกศัลยกรรมมือ เขาติดตามผู้อำนวยการแผนกแพน เพื่อเรียนรู้เทคนิคเอ็มถังมานานกว่าสองปีแล้วและตอนนี้ก็เกือบสามปีแล้ว แต่เขาก็ยังไม่เคยได้รับโอกาสในการผ่าตัดด้วยตนเอง
สาเหตุนี้มาจากประสบการณ์การผ่าตัดที่ต่ำมาก
สำหรับโรงพยาบาลหยุนฮัวหรือโรงพยาบาลอื่น ๆ ไม่มีแพทย์คนไหนสามารถพ่าตัดได้รวดเร็วและแม่นยำเท่ากับหลิงรันอีกแล้ว
“ ผู้ป่วยเป็นยังไงบ้าง?” หมอลู่ไม่ตอบสนองต่อการล้อเล่นของซูเจียฟู เพราะเขารู้ว่ายังไงเขาก็ต้องคุยกันตลอดการผ่าตัดอยู่แล้ว
ตอนที่เป็นผู้ช่วยแพทย์ลู่หมอลู่ชอบพูดแซวซูเจียฟูอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์ที่ทำการผ่าตัดด้วยเทคนิคเอ็มถังเป็นครั้งแรก ทำให้หมอลู่ไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยกับใครเลยในเวลานั้น
เขารู้สึกประหม่ามาก จนทานตีนหมูมาตั้งสี่ขาและผัดผักถ่วยใหญ่มา!
“ผู้ป่วยบาดเจ็บจากการจุดประทัดและได้รับบาดเจ็บที่มือระหว่างการระเบิด จากการวินิจฉัยเบื้องต้นของแผนกฉุกเฉินคืออาการบาดเจ็บที่เส้นเอ็นกล้ามเนื้อในโซนสอง … ” ผู้ป่วยได้รับการส่งตัวมาจากแพทย์ประจำแผนกที่มีหน้าตาธรรมดา
หมอลู่ จ้องมองไปที่ผู้ป่วยอย่างตั้งจเขาส่ายหัวและถามว่า “คุณหมายถึงอะไรที่เขาจุดประทัดและทำให้มือได้รับบาดเจ็บ”
ขณะที่เขาพูดเขาไปดูฝ่ามือของผู้ป่วยและพบว่ามันยุ่งเหยิง
“จากที่ฉันเห็นคร่าวๆ ฉันคิดว่ามันน่าจะเกิดขึ้นตอนที่สอดดินปืนเข้าไป” แพทย์ประจำบ้านหยุดพูดครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะอธิบายว่า “ดูเหมือนว่าเขาจะจุดประทัดระหว่างงานแต่งงานและหันหน้าไปทางอื่นไม่ได้สนใจมัน จากนั้นเขาก็ได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด”
“เขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักการระเบิดแสดงว่าประทัดนั้นน่าจะรุนแรงมาก” หมอลู่ขมวดคิ้ว
“เขาล้มลงหลังจากได้รับบาดเจ็บเราทำการเอ็กซ์เรย์สแกนเขาและพบว่ากระดูกที่นิ้วของเขาดูเหมือนจะเคลื่อนเล็กน้อยด้วย”
“ ผู้ป่วยได้รับบาดเจ็บส่วนอื่นด้วยหรอ?” หมอลู่เองรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อยทันที ความซับซ้อนของการบาดเจ็บค่อนข้างเกินขอบเขตปกติที่เขาจะรับได้ ถ้าหมอหลิงมาจัดการเรื่องนี้…เขาอาจจะยังรับมือสถานการณ์ได้อย่างสบายใจ
หมอลู่อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจในใจ
มันเป็นเรื่องปกติมาที่หัวหน้าศัลยแพทย์มือใหม่จะรู้สึกหมดความมั่นใจเมื่อต้องเจอกับเคสยากๆตรงหน้า
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาคนนั้นเคยทำการผ่าตัดกับแพทย์ที่มีความสามารถและมีพรสวรรค์สูง มันยิ่งทำให้หมอลู่รู้สึกไม่มั่นใจเลยเลย
หมอลู่จึงนึกถึงกลยุทธ์ของหลิงหรันในระหว่างการผ่าตัดของเขาอย่างหมดหวังและเขาก็หลงคิดไปในทันที
“ หมอลู่?
“ หมอลู่!”
มาหยานหลินตะโกนหลายครั้งก่อนที่เขาจะเห็นหมอลู่หันศีรษะไปรอบ ๆ เขารู้ทันทีว่าหมอลู่กำลังตกตะลึงอยู่
จู่ๆ มาหยานหลินก็เกิดความคิดบางอย่างและพูดว่า “ผมต้องบอกว่าผมอยากจะจุดพลุในงานแต่งงานของผมด้วย”
“นายพึงบ่นว่างานแต่งของนายมันเวอร์เกินไปไม่ใช่หรอ” ซูเจียฟูหัวเราะออกมาเบา ๆ
“มันก็ช่วยสร้างบรรยากาศงานเฉลิมฉลองไม่ใช่หรอ มันแปลกตรงไหนกัน?” มาหยานลิน ตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
ซูเจียฟูมองไปที่มาหยานหลินอย่างละเอียด “ใครบอกว่างานแต่งงานเป็นเพียงการเฉลิมฉลองงานแต่งงานคือการแลกเปลี่ยนคำสาบานและ เป็นการยืนยันว่าต่อจากนี้ไปนายกับภรรยาของนายได้สมรสกันตามกฏหมายแล้ว อีกทั้งงานส่วนใหญ่มันคือการจัดงานให้กับเจ้าสาว ไม่ใช่งานของนาย”
มาหยานลิยพูดแทรกขึ้นมาทันควัน “การแลกเปลี่ยนคำสาบานและการประกาศอีกฝ่ายว่าเป็นคู่สมรสที่ชอบตามกฎหมายด้วยการจุดปะทัดมันให้เสียงดังให้คนอื่นรับรู้มันไม่ได้หรือยังไงกัน … “
“เลิกสนใจเรื่องนั้นก่อนเถอะ มาเย็บแผลให้ผู้ป่วยก่อน” ในที่สุดหมอลู่ก็ตั้งสติได้ ตอนนี้เขาพร้อมทำงานแล้ว
“จากการสังเกตดู ช่วยเตรียอุปกรณ์การเย็บด้วย” มาหยานลินมีทักษะในการเป็นผู้ช่วยมากเช่นกันและเขาดูมีทักษะในการเป็นผู้ช่วยมากกว่าหมอลู่เสียวด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อขั้นตอนเสร็จสิ้นและการผ่าตัดมาถึงขั้นตอนที่พวกเขาต้องเย็บเอ็นกล้ามเนื้อในที่สุดหัวใจของหมอลู่ก็กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง
แม้ว่าเขาจะแทบไม่ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งหัวหน้าศัลยแพทย์ แต่เขาก็มักจะฝันกลางวันเกี่ยวกับความรู้สึกของการเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขายืนอยู่ข้างเตียงผ่าตัดในฐานะหัวหน้าศัลยแพทย์ หมอลู่พบว่าตำแหน่งนี้… มันช่างน่ากลัวจริงๆ
เขาต้องตัดสินใจในการรักษาทั้งหมดและต้องแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมดไว้ที่ตัวของเขาเอง
การตัดสินใจส่วนใหญ่ตามมาด้วยขั้นตอนการผ่าตัดของเขาเองและมันต้องใช้ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก
การตัดสินใจทุกอย่างจำเป็นต้องทำอย่างรวดเร็ว เขาไม่มีเวลามากและอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยก็บีบขันให้หมอลู่ต้องรีบตัดสินใจ
มันเหมือนกับการอัดข้อสอบหนึ่งร้อยยี่สิบนาทีลงในยี่สิบนาทีและเป็นแบบทดสอบที่คุณไม่สามารถตอบคำถามผิดได้มิฉะนั้นคุณจะสอบไม่ผ่านเลย
หมอลู่ต้องสะกดจิตตัวเองเอาไว้อย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะอดทนกับงานที่อยู่ตรงหน้า
“มันก็แค่กีบเท้าหมู… นี่มันก็แค่กีบเท้าหมู… “
มาหยานหลิน ไม่สามารถได้ยินสิ่งที่ หมอลู่พูดได้อย่างชัดเจน เขามั่นใจว่าการผ่าตัดต้องเป็นไปอย่างราบรื่นและเขาเองก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาเช่นกัน
มาหยานหลิย เพิกเฉยต่อคำบ่นของหมอลู่ โดยสิ้นเชิง
ศัลยแพทย์ส่วนใหญ่นั้นชอบมีนิสัยแปลกประหลาดมาก ไม่น่าแปลกใจที่แพทย์บางคนจะแสดงลักษณะบางอย่างที่ปกติคนทั่วไปจะไม่แสดงออกมาเมื่อพวกเขากลายเป็นหัวหน้าศัลยแพทย์
… ..
ตอนนี้หลิงรันแต่งตัวเรียบร้อยแล้วและเริ่มกระบวนการเคลียร์การผ่าตัดในโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัว
เขาเป็นคนที่เข้มงวดและรอบคอบและมีละเอียดอย่างมากในขั้นตอนการผ่าตัดของเขา อย่างไรก็ตามเมื่อการผ่าตัดเริ่มขึ้นความกระตือรือร้นก็เพิ่มขึ้นเช่นกันความอดทนและการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าที่สมบูรณ์แบบของหลิงหรันมีบทบาทสำคัญต่อประสิทธิผลของการผ่าตัด
ตารางการผ่าตัดของเขาในช่วงเวลาสามสิบนาทีในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหยุนหัวมักถูก จำกัด ด้วยจำนวนผู้ป่วยและเตียงทำให้หลิงหรันไม่สามารถเพลิดเพลินกับตัวเองได้เต็มที่
อย่างไรก็ตามมีผู้ป่วยเก่าบางคนที่รอการผ่าตัดเป็นเวลาสองหรือสามปีในโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัว
มันเป็นการบาดเจ็บลูกสะบ้าทั้งหมดและไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดในทันที แม้ว่าจากมุมมองทางการแพทย์ในปัจจุบันเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยงการรับการผ่าตัดเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่ลูกสะบ้า แต่เวลาในการผ่าตัดอาจล่าช้าเนื่องจากการรักษาแบบดั้งเดิมและผู้ป่วยจำนวนมากต้องใช้เวลาในการรอการผ่าตัดนานเป็นปีๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับคนทั่วไปแล้วผู้ที่เข้ารับการรักษาที่เป็นโรคเอดส์เป็นทุนเดิมอยู่แล้วนั้นก็รักษายากกว่ามาก ด้วยการขาดภูมิต้านทานเนื้อเยื่อการบาดเจ็บจะแย่ลงตามระยะขอบมาก
มีผู้ป่วยจำนวนมากที่ปรารถนาจะได้รับการผ่าตัดเป็นอย่างมากแม้ว่าหลิงหรันจะทำการผ่าตัดแบบกลับไปกลับมา แต่เขาก็ยังไม่สามารถทำให้เสร็จได้ทั้งหมดในหนึ่งวัน
หลิงรันไม่รังเกียจผู้ป่วยเหล่านั้นเลย เขากับรู้สึกตื่นเต้นเล็กมากกว่าเดิมเล็กน้อยด้วยซ้ำ
* ดิง *
[ความสำเร็จใหม่ปลดล็อค: การเติบโตของแพทย์]
[คำอธิบายผลสัมฤทธิ์: การให้คำปรึกษาแพทย์ที่สามารถทำขั้นตอนการผ่าตัดใหม่ได้อย่างอิสระ]
[รางวัล: หีบสมบัติระดับกลาง]