ตอนที่ 829 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (4) / ตอนที่ 830 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (5)
ตอนที่ 829 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (4)
นี่มันเรื่องตลกอะไรกันเนี่ย! จวินอู๋เสียเป็นสัตว์ประหลาดเรอะ! องค์รัชทายาทคิดอะไรอยู่กันแน่! พระองค์คิดว่าสัตว์ประหลาดนั่นจะผ่านเข้ารอบการประลองนี้ไปไม่ได้ได้อย่างไร! ไม่มีความจำเป็นที่พระองค์จะต้องแอบสั่งให้ผู้เข้าแข่งขันสละสิทธิ์เลยสักนิด! เรื่องทั้งหมดนี้ไม่กลายเป็นเรื่องตลกสำหรับทุกคนไปแล้วหรือ
พวกผู้เยาว์ที่เชื่อว่าจวินอู๋เสียทำเรื่องขี้ขลาดตาขาวเพราะเขาอ่อนแอและหมดหนทาง ก็พลันพบว่าตัวเองไม่สามารถเข้าใจสถานการณ์ได้เลย
ด้วยระดับพลังวิญญาณของจวินเสีย เขาสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้ได้อย่างง่ายดายในวินาทีเดียว แล้วทำไมเขาจะต้องทำเรื่องยุ่งยากทั้งหมดนี้ด้วย
บนเวทีประลอง แสงจากพลังวิญญาณรอบตัวจวินอู๋เสียจางหายไปแล้ว นางจัดแจงอาภรณ์ให้เรียบร้อยอย่างเงียบๆ แล้วหันไปมองผู้ตัดสินการประลองที่ยืนอ้าปากค้างอยู่ด้านข้าง
“ประกาศผลได้แล้วกระมัง”
ผู้ตัดสินการประลองยืนอ้าปากค้างอยู่อีกครู่หนึ่งก่อนจะหุบปากฉับ เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่และมองจวินอู๋เสียที่ยืนทำหน้านิ่งเฉยด้วยสีหน้าประหลาดใจ เขาไม่กล้าแสดงความดูถูกเหยียดหยามอย่างที่ทำเมื่อครู่อีก ในแววตาของเขามีแต่ความหวาดกลัวอย่างมากมาย
“จวินเสียจากสำนักศึกษาเฟิงหัวเป็นผู้ชนะ!” ผู้ตัดสินการประลองประกาศพลางมองไปที่สัตว์ประหลาดน่ากลัวนั้น
เด็กนี่อย่างมากก็อายุสิบห้าปีเท่านั้น!
แต่มีพลังวิญญาณขั้นสีเขียวแล้วเนี่ยนะ!
สำนักศึกษาเฟิงหัวสั่นสะเทือนการประลองทั้งหมดด้วยผู้เยาว์อายุสิบเจ็ดและสิบแปดปีที่มีพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินหลายคนยังไม่พอ ตอนนี้ยังมีเด็กหนุ่มอายุสิบห้าปีที่มีพลังวิญญาณขั้นสีเขียวอีก!
ผู้ตัดสินการประลองพลันรู้สึกสำนึกขอบคุณอย่างใหญ่หลวงที่เขาไม่ได้พูดอะไรเสียดสีเหน็บแนมจวินอู๋เสียเนื่องจากกลัวการแก้แค้นจากเหลยเชินเมื่อครู่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหลยเชินไม่จำเป็นต้องกระดิกนิ้ว จวินอู๋เสียก็สามารถบี้เขาเหมือนแมลงได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว!
เสียงของผู้ตัดสินการประลองดังก้องไปทั่วลานประลอง คนที่ยังไม่ได้สติจากการตกใจก็พลันได้สติกลับคืนมา พวกเขาหันไปมองจวินอู๋เสียที่เดินลงเวทีประลองไปช้าๆ อย่างไม่เชื่อสายตา
ทันใดนั้นเอง ฝูงชนที่ล้อมรอบเวทีอยู่ก็แยกออกเป็นทางโดยไม่รู้ตัวให้จวินอู๋เสียเดินผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ไม่มีใครกล้าพูดอะไรกับนาง หัวใจของพวกเขายังคงเต้นรัวด้วยความตกใจ
จวินอู๋เสียเดินลงจากเวทีอย่างสงบนิ่งภายใต้สายตานับไม่ถ้วนที่จับจ้องมองมาที่นาง จนกระทั่งแผ่นหลังของนางหายไปจากทางออกของลานประลอง สายตาของพวกเขาก็ยังมองไปที่ประตูที่จวินอู๋เสียเพิ่งเดินออกไปอย่างเหม่อลอย
มันก็แค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น แต่ทุกอย่างดูเกินจริงไปมากราวกับความฝัน
ไม่มีใครสังเกตสักคนว่าจ้าวซวินที่ถูกจวินอู๋เสียเตะกระเด็นไปนั้นได้ฉวยโอกาสตอนที่เห็นทุกคนตกใจและมึนงงลุกขึ้นอย่างเงียบๆ ใบหน้าของเขาไม่มีวี่แววของความเจ็บปวดใดๆ เขาปัดฝุ่นออกจากอาภรณ์แล้วก็ออกจากลานประลองไปโดยไร้เสียง
วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นจวินอู๋เสียลงมือในศึกประลองภูติวิญญาณ และการลงมือเพียงครั้งเดียวนั้นก็เกินพอที่จะลบมลทินที่แปดเปื้อนชื่อของจวินอู๋เสียออกไปได้ทั้งหมด
ถ้าจวินอู๋เสียเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีส้ม เรื่องก็คงจะไม่ถึงขนาดนี้ และผู้คนก็จะไม่ตกใจกันมากขนาดนี้ด้วย
แต่เมื่อนางแสดงพลังวิญญาณขั้นสีเขียวออกมา ก็ไม่มีข้อสงสัยแม้แต่น้อยว่านางสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้คนใดก็ได้อย่างขาดลอยในเขตประลองที่หนึ่ง
พูดได้เลยว่าด้วยสายพันธุ์พิเศษชนิดหายากของพวกสัตว์ประหลาดจากสำนักศึกษาเฟิงหัวนี้ ผู้เข้าแข่งขันศึกประลองภูติวิญญาณทุกคน ไม่อาจจะหาใครที่สามารถยืนหยัดต่อต้านพลังอันเหนือชั้นของจวินอู๋เสียได้ เมื่อพวกเขาเห็นเด็กหนุ่มคนนั้นมีพลังที่น่าเหลือเชื่อจนเกือบเป็นปีศาจเช่นนี้ ทุกคนก็ไม่อาจเข้าใจได้ว่าทำไมองค์รัชทายาทถึงต้องทำเรื่องน่าอัปยศในการแข่งขันเช่นนั้น
หลายคนยังคิดไปถึงขั้นที่ว่าคู่ต่อสู้ที่ถอนตัวจากการแข่งขันไปก่อนหน้านี้โชคดีมากจริงๆ
อย่างน้อยการสละสิทธิ์ออกไปเองก็ดีกว่าการให้ทุกคนได้เห็นตัวเองถูกกระทืบเละเทะโดยคู่ต่อสู้ที่อายุน้อยกว่าและตัวเล็กกว่า อย่างน้อยศักดิ์ศรีของพวกเขาก็ยังไม่ถูกทำลายอย่างจ้าวซวินในวันนี้ที่พ่ายแพ้ให้แก่จวินอู๋เสียในวินาทีเดียวด้วยการโจมตีเพียงแค่หนึ่งครั้ง นั่นเป็นเรื่องที่น่าอายมากๆ ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่นเลย แค่โอกาสที่จะถูกมองเป็นอะไรที่ใกล้เคียงกับคำว่าน่ากลัวก็ถูกบดขยี้โดยสมบูรณ์
ตอนที่ 830 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (5)
ขณะที่ทุกคนในเขตประลองที่หนึ่งยังคงตกตะลึงกันอยู่ บุรุษผู้หนึ่งที่เฝ้ามองทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นั่นก็ทำสีหน้าบึ้งตึง พร้อมกับเดินออกทางประตูหลังของลานประลองไปอย่างเงียบๆ
จ้าวซวินกำลังเดินอยู่บนถนนใหญ่สายหนึ่งที่เป็นเส้นทางกลับโรงเตี๊ยมที่พัก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีคนเข้ามาประชิดตัวจากด้านหลัง เขายังไม่ทันหันหน้ากลับไป ก็มีมือขยุ้มลงบนบ่าของเขาพร้อมกับรู้สึกได้ถึงปลายแหลมแข็งๆ เย็นๆ กดลงที่ด้านหลัง
“อย่าส่งเสียงแล้วตามข้ามา” เสียงแหบต่ำดังขึ้นจากด้านหลังของจ้าวซวิน ร่างของจ้าวซวินพลันแข็งทื่อและมีสีหน้าหวาดกลัว เขาพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
บุรุษผู้นั้นผลักจ้าวซวินเข้าไปในตรอกมืดๆ แห่งหนึ่ง
ในตรอกนั้นมีบุรุษชุดดำยืนยกมือไพล่หลังอยู่ ใบหน้านั้นก็ไม่น่ามองตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่ เขามองจ้าวซวินที่ถูกลูกน้องของตัวเองลากเข้ามาด้วยแววตาน่ากลัว สายตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างรุนแรง
“รู้หรือไม่ว่าทำอะไรลงไป” บุรุษชุดดำผู้นั้นมองจ้าวซวินอย่างเย็นชา เสียงของเขาสั่นด้วยความโกรธ
จ้าวซวินตัวสั่น ใบหน้าซีดขาว
“ข้าสั่งให้เจ้าไปกระจายข่าวลือแล้วก็สละสิทธิ์การประลอง แล้วเจ้าโผล่หัวไปที่นั่นทำไม” ดวงตาของบุรุษชุดดำคนนั้นลุกวาวด้วยโทสะที่โหมกระหน่ำ
จ้าวซวินตอบอย่างแข็งทื่อและตะกุกตะกัก “ข้า…ข้า…ข้าคิดว่า…ข้าสามารถเอาชนะเขาได้…”
“ไอ้บัดซบ!” ดวงตาของบุรุษชุดดำยิ่งเบิกกว้างมากขึ้นขณะที่จ้องมองจ้าวซวิน “ผู้ใดบอกว่าเจ้าสามารถตัดสินใจทำอะไรเองได้! ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วใช่หรือไม่! ลืมคำสั่งข้าไปแล้วอย่างนั้นหรือ! แผนสมบูรณ์แบบเช่นนั้นต้องมาพังเพราะไอ้โง่คนหนึ่งเนี่ยนะ! สิ่งที่ข้าอยากให้เจ้าทำก็คือไปทำลายชื่อเสียงของจวินเสีย! ทำลายชื่อเสียงขององค์รัชทายาท! แต่เจ้ากลับไปยื่นโอกาสให้จวินเสียแทนเสียอย่างนั้น! ข่าวเรื่องจวินเสียเอาชนะเจ้าในวันนี้กระจายไปรวดเร็วมาก พลังวิญญาณขั้นสีเขียวของเขาถูกเปิดเผยออกมาแล้ว! เจ้าคิดว่าคนจะยังเชื่อว่าเขาเป็นแค่ไอ้สวะที่รู้แค่วิธีประจบคนมีอำนาจอยู่อีกหรือไม่!”
บุรุษชุดดำกำลังจะระเบิดโทสะอยู่แล้ว แผนการดำเนินอย่างราบรื่นมาตลอดจนถึงจุดนี้ จ้าวซวินตกลงทำตามทุกอย่างแล้ว ใครจะรู้ว่ามันเกิดบ้าอะไรขึ้นถึงได้ตัดสินใจไปโผล่ที่เขตประลองที่หนึ่งในวันนี้ แถมยังทำให้จวินอู๋เสียมีโอกาสแสดงพลังของนางอีกด้วย!
ด้วยการกระทำโง่ๆ เพียงครั้งเดียว ทั้งหมดที่พวกเขาทำมาก็พังพินาศไม่เป็นท่า! พลังวิญญาณขั้นสีเขียวของเด็กนั่นถูกเปิดเผยออกมาแล้ว มันเพียงพอที่จะลบล้างคำโกหกและข่าวลือทั้งหมดได้เลย!
จ้าวซวินตัวสั่นและไม่พูดอะไรออกมาอีก
“ในเมื่อโง่ขนาดนี้แถมยังไม่มีประโยชน์อะไรเลย ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเก็บเจ้าไว้อีกต่อไป!” บุรุษชุดดำหรี่ตาลงและส่งสายตาเป็นสัญญาณให้คนของเขาจัดการกับจ้าวซวิน
กริชที่กดอยู่ที่แผ่นหลังของจ้าวซวินก็แทงเข้ามาทันที!
แต่ในขณะที่กริชกำลังจะแทงทะลุเข้ามา จ้าวซวินก็ทรุดตัวลงกับพื้นด้วยความหวาดกลัว เขาล้มตัวลงนั่งบนพื้น หลุดออกจากการจับกุมของลูกน้องของบุรุษชุดดำ!
บุรุษผู้นั้นอยากจะจับตัวเขา แต่จ้าวซวินก็กลิ้งตัวออกไป เขาพยายามตะเกียกตะกายหนีออกไป!
“จับมันไว้ เอาตัวมันกลับมา!” บุรุษชุดดำตกใจ เขาไม่คิดว่าจ้าวซวินจะสามารถหลบหนีการจับกุมของลูกน้องของตัวเองไปได้!
จ้าวซวินวิ่งหนีสุดกำลังและทันทีที่เขากำลังจะออกจากตรอกมืดๆ นั้น นัยน์ตาของเขาก็ทอประกายรื่นเริง!
“อย่าฆ่าข้า! อย่าฆ่าข้าเลย! ข้าไม่ได้ตั้งใจขัดคำสั่งของท่าน! ข้าผิดไปแล้ว! ข้าไม่ควรไปประลอง! ข้าควรจะฟังท่านและถอนตัวออกจากการแข่งขันแล้วก็โยนความผิดไปให้องค์รัชทายาท! ข้าผิดไปแล้วจริงๆ! ขอร้อง อย่าฆ่าข้าเลย!”
ในชั่วระยะเวลาสั้นๆ ที่เขาวิ่งออกไปจากตรอกมืดและเงียบนั้น จ้าวซวินก็ส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาทันที เสียงของเขาดังชัดเจน ได้ยินไปไกล และดึงดูดความสนใจของผู้คนมากมายที่เดินผ่านไปมาบนถนนได้อย่างรวดเร็ว!