ตอนที่ 392

Great Doctor Ling Ran

หลิงรันอยู่ในโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามมาเป็นเวลาสี่วันแล้วและทำการผ่าตัดข้อเข่าเทียมทั้งหมดสี่สิบห้าเคส

ตลอดสี่วันนี้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามได้เห็นถึงทักษะของหมอหลิงหรันผู้มีชื่อเสียงจากโรงพยาบาลหยุนหัวแล้ว

“ หมอหลิงสามารถรักษาผู้ป่วยสิบห้าคนซึ่งหมายความว่าเขาได้ช่วยเหลือสี่สิบห้าครอบครัวให้พ้นจากความทุกข์ไปด้วย ฉันขอแสดงความยินดีกับคุณในฐานะของผู้ป่วยและญาติของผู้ป่วยทุกคน” ฟูหยวนดัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลประชาชนนแห่งที่สามถือป้ายขอบคุณที่เขาเตรียมไว้ก่อนแล้ว เขาส่งมันให้กับหลิงหรันโดยใช้มือทั้งสองข้างและถ่ายรูปกับเขาเพื่อเป็นภาพที่ระลึกไว้ว่าหลิงรันได้ช่วยเหลือโรงพยาบาลแห่งนี้อย่างสุดความสามารถแล้ว

คนที่ถ่ายภาพคือนักข่าวจาก สำนักข่าวหยุนหัวรายวัน ทีทางโรงพยาบาลจ้างมา

เพื่อแสดงความยินดีกับหลิงรันพวกเขาจงใจเพิ่มการรายงานข่าวของสื่อเกี่ยวกับงานของหลิงรันทำในโรงพยาบาล นี้เป็นเทคนิคที่ทางโรงพยาบาลมักใช้เพราะมันเป็นวิธีที่ง่ายสุดในการโปรโมตโรงพยาบาลและทำให้คนภายนอกเห็นผลงานของทางโรงพยาบาลอีกด้วย นอกจากนี้ส่วนใหญ่แล้วแพทย์ที่ให้คำปรึกษานอกโรงพยาบาลในโรงพยาบาลอื่น ๆ ก็ชอบทำสิ่งนี้เช่นกัน

แม้ว่าฟูหยวนดัน จะคิดว่าหลิงรันอาจไม่เข้าใจสิ่งที่พวกเขาทำว่ามันมีนัยแฝงอยู่ แต่เขาเชื่อว่า โจวซินเยียน จะสามารถอธิบายเรื่องพวกนี้ให้กับหลิงรันเข้าใจได้

หลิงหรันโพสท่าถ่ายรูปกับฟูหยวนดันหน้าตาของหลิงรันนั้นดูไร้อารมณ์มาก ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าหลิงรันนั้นเกลียดการเข้าสังคมมากขนาดไหน

หลังจากถ่ายภาพเสร็จ ฟูหยวนดันก็ขอบคุณนักข่าวและออกไปส่งพวดเขา จากนั้นเขาก็เดินพาหลิงรันไปที่รถและพูดด้วยรอยยิ้มว่า“ หมอหลิงพวกเรากำลังวบรวมเคสอื่นๆมาเพิ่มอีกไม่กี่วัน ถ้าคุณสะดวกเราอาจจะขออนุญาตเชิญคุณมาผ่าตัดแบบส่วนตัวให้กับทางโรงพยาบาลของเรา”

เมื่อเทียบกับการแสดงออกทางวาจาของเขาก่อนหน้านี้ ฟูหยวนดันมีน้ำเสียงที่ดูจริงใจมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

เมื่อแพทย์ถูกเชิญให้ไปผ่าตัดแบบเฉพาะแสดงว่าแพทย์คนนั้นกลายเป็นศัลยแพทย์อิสระไปแล้ว

จากจำนวนการผ่าตัดที่หลิงรันได้ดำเนินการในช่วงสองสามวันนี้ในระหว่างการปรึกษานอกโรงพยาบาลเขาจะได้รับรายได้หลายหมื่นหยวนต่อวันเนื่องจากการผ่าตัดข้อเข่าเทียมทุกครั้งจะมีค่าใช้จ่าย 5,000 หยวน

นอกเหนือจากนี้ศัลยแพทย์อิสระมักจะนำวัสดทางการแพทย์ของตนเองไปที่โรงพยาบาลที่พวกเขาเปิดดำเนินการอยู่เป็นเรื่องปกติมากที่ บริษัท ขายยาจะได้รับส่วนแบ่งหนึ่งหรือสองพันหยวนสำหรับการผ่าตัดแต่ละครั้งด้วย

นี่เป็นกลยุทธ์ที่โรงพยาบาลใช้กับผู้ป่วยโรคติดต่อมาโดยตลอด ในแง่หนึ่งเป็นเพราะศัลยแพทย์ที่ไม่เคยผ่าตัดผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อมาก่อนมีความเกลียดชังและจะกลัวมากเมื่อต้องรักษาผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อ อีกทั้งผู้ป่วยที่เป็นโรคตับอักเสบบี มักจะสร้างปัญหาให้มากที่สุด เมื่อพูดถึงการผ่าตัดที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยโรคเอดส์และโรคติดต่ออื่น ๆ แม้ว่าอัตราความสำเร็จของการป้องกันโรคหลังสัมผัสจะสูงถึง 98% ในปัจจุบัน แต่แพทย์ส่วนใหญ่ยังไม่เต็มใจที่จะผ่าตัดกับผู้ป่วยเหล่านั้น เนื่องจากยาต้านไวรัสมีผลข้างเคียงมากมายและแพทย์จะทรมานมากหลังจากทานมันเข้าไป

อย่างไรก็ตามหลังจากโรงพยาบาลที่มีผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อสามารถเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดโดยการขอคำปรึกษานอกโรงพยาบาลได้ก็จะค่อนข้างง่ายสำหรับพวกเขาที่จะเชิญศัลยแพทย์คนเดียวกันมาทำศัลยกรรมอิสระให้แทน

ศัลยแพทย์เองก็จะได้รับเงินค่าจ้างระหว่าง 300 ถึง 500 หยวนต่อวันสำหรับการปรึกษานอกโรงพยาบาลและนี่เป็นวงเงินสูงสุดแล้ว ไม่มีอะไรเทียบได้กับค่าธรรมเนียมการผ่าตัดที่พวกเขาจะได้รับจากการเป็นศัลยแพทย์อิสระอีกแล้ว ในขณะนี้ศัลยแพทย์หลายคนยินดีที่จะทำการผ่าตัดอิสระในโรงพยาบาลเหล่านั้น และพวกเขาก็คิดว่าพวกเขาได้ทำการผ่าตัดไปกี่ครั้งแล้วเพื่อดูว่ามันคุ้มค่ากับสิ่งที่เขาทำหรือไม่

แน่นอนว่ามีผู้ป่วยที่ไม่สามารถหรือไม่เต็มใจจ่ายเงินเพียงไม่กี่พันหรือเกือบ 10,000 หยวนเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการ ดังนั้นโรงพยาบาลของประชาชนแห่งสามจะยังคงต้องพึงผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดให้ได้มากที่สุดผ่านการให้คำปรึกษานอกโรงพยาบาลให้มากที่สุด …

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามโรงพยาบาลที่สามารถรวบรวมผู้ป่วยจำนวนมากก็สามารถหาทางรอดได้เสมอ ความแตกต่างคือบางที่อาจะเจริญเติบโตได้ดีแต่บางที่การมีทำเช่นนี้อาจไม่ได้มีผลอะไรเลย

แม้แต่ โจวซินเยียนก็ยังรู้สึกสนใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟูหยวนดันพูด เขาต่อรองในนามของหลิงรัน“ หมอหลิงไม่มีเวลาว่างมากนักดังนั้นคุณจะต้องจองล่วงหน้านอกจากนี้คุณยังได้เห็นทักษะของหมอหลิงไปแล้ว…”

“ แน่นอนว่าความสามารถของหมอหลิงสามารถนำไปใช้ได้ดีในโรงพยาบาลของประชาชนแห่งที่สาม โรงพยาบาลของประชาชนแห่งที่สามมีข้อดีของตัวเองเมื่อพูดถึงเรื่องนี้” ฟูหยวนดันหัวเราะและพูดว่า“ หลังจากนี้เขาจะต้องผ่าตัดผู้ป่วยโรคติดต่อ แม้ว่าศัลยแพทย์บางคนจะมีทักษะที่ยอดเยี่ยม แต่เราก็ไม่กล้าเข้าร่วมเพราะพวกเขากลัวในเรื่องการควบคุมการติดเชื้อ แต่หมอลิงแตกต่างจากหมอเหล่านั้น แม้ว่าผมจะไม่ค่อยมีประสบการณ์มากนัก แต่ผมก็เห็นได้ว่าหมอหลิงมีบุคลิกที่เป็นมิตรและทำการผ่าตัดอย่างพิถีพิถันมาก ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าเขาดำเนินการกับผู้ป่วยโรคติดต่อหรือผู้ป่วยธรรมดามันเป็นการปฏิบัติที่ดูไม่แตกต่างกันเลย”

เสียงหัวเราะของ ฟูหยวนดันดึงดูดความสนใจของแพทย์จำนวนมากจากโรงพยาบาล และพวกเขาก็เดินไปดู

เนื่องจากแพทย์ทุกคนพยายามจะขึ้นไปสู้หอคอยงาช้างพวกเขาจึงพยายามดึงพวกแพทย์ที่มีทักษะที่ยอดเยี่ยมมาอยู่ด้วย ไม่ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคติดต่อหรือโรงพยาบาลทั่วไป แม้ว่าพวกแพทย์นั้นอาจไม่ได้อ่านใจยากนักแต่อย่างไรก็ตามแพทย์ก็คือแพทย์

แม้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เป็นผู้หญิงก็ยังสูบบุหรี่ดัดผมและสักตามร่างกายก็ เธอก็ยังจะแบ่งประเภทของแพทย์ในโรงพยาบาลตามความสามารถเฉพาะอยู่ดี

แพทย์ทุกคนจากโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามที่ได้เห็นทักษะของหลิงหรันตลอดสองสามวันที่ผ่านมา และมองว่าหลิงรันนั้นเป็นแพทย์ที่มีพรสวรรค์มาก และเป็นแพทย์ที่หาตัวจับยาก

มีผู้อำนวยการแผนกไม่กี่คนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ และยังยินดีที่จะผ่าตัด ที่ไม่จำเป็นต้องมาพยักหน้าให้หลิงรันเพื่อรับทราบ

“ หมอหลิงคุณทำการผ่าตัดมากกว่าสี่สิบครั้งและไม่มีผู้ป่วยรายใดที่มีภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัดเลย ถ้าผมไม่รู้ว่าคุณมาจากแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลหยุนหัวผมคงคิดว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อ”

“ ผมได้ยินมาตลอดว่าแผนกฉุกเฉินทำสิ่งต่างๆได้ค่อนข้างแย่ หมอหลิงได้เปลี่ยนความคิดของผมไปเลย”

“ มีผู้ป่วยคนหนึ่งที่จะต้องออกจากโรงพยาบาลได้ในวันนี้ แต่ฉันบังคับให้เขาอยู่ต่ออีกวัน ฉันรู้ว่าเขาปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมดที่จำเป็นที่ต้องปล่อยเขาออกไป แต่จริงแล้วผมอยากสังเกตอาการเขาเพิ่มเติม หลิงหรันน่าจะเป็นอันดับต้น ๆ ในเมืองหยุนหัวเมื่อพูดถึงการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเข่าเทียมที่ข้อเข่า”

แม้แต่ผู้อำนวยการแผนกของโรงพยาบาลประชาชนที่สามก็ยังยกย่องหลิงรัน

นี่เป็นเพราะหลิงรันเป็นหัวหน้าทีมแพทย์ในศูนย์การแพทย์ฉุกเฉิน หยุนหัวอยู่แล้ว ในโรงพยาบาลแพทย์ที่ดำรงตำแหน่งนี้มักจะมาเป็นผู้อำนวยการแผนก พวกเขาได้รับการจัดอันดับให้สูงกว่าหัวหน้าแพทย์ทั่วไป

แน่นอนว่าในแผนกสามัญของโรงพยาบาลทั่วไปหัวหน้ากลุ่มการรักษาทั้งหมดเป็นแพทย์ระดับหัวหน้ามีเพียงบางคนเท่านั้นที่เป็นข้อยกเว้น

หลักทั่วไปในแผนกโรงพยาบาลส่วนใหญ่คือเมื่อเวลาผ่านไปพวกเขาจะถูกแบ่งออกเป็นแผนกย่อย ๆ

ยกตัวอย่างแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาล หยุนหัว หากผู้อำนวยการฮวงไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งเช่นนี้เมื่อเวลาผ่านไปผู้ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าแพทย์มาระยะหนึ่งอาจขอให้แผนกฉุกเฉินแบ่งออกเป็นแผนกย่อยเช่นแผนกแรก แผนกฉุกเฉินแผนกฉุกเฉินแผนกที่สองแผนกฉุกเฉินสำหรับเด็กคลินิกไข้และแผนกฉุกเฉินสำหรับผู้ป่วยวิกฤตและอื่น ๆ ด้วยชื่อใหม่ทุกคนอาจมีผู้อำนวยการแผนกได้อีกหนึ่งจุด

นี่เป็นหนึ่งในกลวิธีที่โรงพยาบาลหลายแห่งใช้เพื่อป้องกันไม่ให้แพทย์หนีไปโรงพยาบาลอื่น

การเป็นหัวหน้ากลุ่มการรักษาของศูนย์การแพทย์ฉุกเฉินหยุนหัวนั้นเพียงพอที่จะได้รับความเคารพจากแพทย์จากโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สามของเมืองหยุนหัวซึ่งเป็นโรงพยาบาลเกรด B

นอกจากนี้หลายคนยังประทับใจในทักษะของหลิงรัน

เขาแสดงความสามารถทั้งหมดของศัลยแพทย์ที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากเขามีทักษะที่เก่งกาจ และปฏิบัติตามขั้นตอนการผ่าตัดอย่างพิถีพิถันและอีกทั้งเจาดูมีสมาธิมากๆเลย

แพทย์ทุกคนชอบที่จะตีสนิทกับศัลยแพทย์เก่งๆอย่างเช่นหลิงรัน

หลิงรันทำได้เพีบงยืนฟังคำชมก่อนที่จะยิ้มออกมา

เขามีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับเรื่องการเข้าสังคมเช่นนี้แล้วจึงไม่หน้าแปลกที่จะเห็นหลิงรันทำท่าทางสบายๆไม่รู้สึกอะไร

“ หมอหลิงผมจะเชิญคุณให้มาผ่าตัดให้เราเร็วๆนี้” ฟูหยวนดัน เปิดประตูที่นั่งหลังรถให้กับหลิงรัน

“ น้องหวังฝากดูแลให้ด้วยนะ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าหมอหลิงไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของกรมการแพทย์เตือนคนขับรถ

“ หมอหลิงบางทีเราอาจจะได้พบกันอีกครั้งในอีกไม่กี่วัน” ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมสำหรับผู้ป่วยโรคติดต่อขยิบตาให้หลิงรัน

แม้ว่าค่าตอบแทนสำหรับการทำศัลยกรรมอิสระมักจะเทียบเท่ากับจำนวนงานที่ทำ แต่ในบางที่การออกแรงเพิ่มนิดหน่อยก็แลกมากับค่าตอบแทนที่มหาศาล

แน่นอนว่าสิ่งนี้ใช้ไม่ได้กับการผ่าตัดใหญ่ ๆ เช่นการผ่าตัดหัวใจและทรวงอก แต่สำหรับการผ่าตัดเล็กเช่นการผ่าตัดข้อเข่าเทียมหากศัลยแพทย์ต้องการเพิ่มราคาของการผ่าตัดแต่ละครั้งเล็กน้อยเป็น 6,000 หรือ 7,000 หยวนเขาจะได้รับเงินหลายหมื่นหยวนภายในหนึ่งวันในทันที

และเมื่อพูดถึงตลาดการทำผ่าตัดอิสระแม้ว่าทักษะของศัลยแพทย์อิสระจะเป็นปัจจัยชี้ขาด แต่ความเชื่อมโยงส่วนบุคคลและความสัมพันธ์ระหว่างอุปสงค์และอุปทานของการผ่าตัดบางประเภทมีบทบาทสำคัญในรายได้ของแพทย์อิสระ

หลิงรันเข้าใจสิ่งที่ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมสำหรับผู้ป่วยโรคติดต่อกำลังจะสื่อถึง เขาอดไม่ได้ที่จะส่ายหัว “ น่าเสียดายที่ผมไม่ว่างเลยช่วงนี้ และร่วมถึงอีกสองสัปดาห์หน้าด้วย”

“ฮะ? คุณต้อผ่าตัดอย่างงั้นหรอ?”

“ ไม่ผมต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบใบอนุญาตทางการแพทย์” หลิงรันเงยศีรษะขึ้นเล็กน้อยขณะที่เขานั่งอยู่ในรถ สีหน้าของเขาในขณะที่แสงแดดส่องสว่างนั้นอ่อนโยน

ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมผู้ป่วยโรคติดเชื้อดูเหมือนเขาจะเวียนหัวจากแสงแดด เขาขมวดคิ้วอย่างมึนงง “ การสอบใบอนุญาตทางการแพทย์? คุณต้องเตรียมตัวสำหรับการสอบใบอนุญาตทางการแพทย์อย่างงั้นหรอ”

“ใช่.”

ในขณะที่ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมสำหรับผู้ป่วยโรคติดต่อจ้องมองไปที่หลิงหรันเขารู้สึกอยากถามหลิงรันว่าเขาจะไปที่นั่นในฐานะคนตรวจสอบข้อสอบหรืออย่างไร

แต่หลังจากมองไปที่ใบหน้าของหลิงหรันแล้วผู้อำนวยการแผนกก็ถึงกับพูดไม่ออกมันขัดกับเหตุผลเชิงตรรกะของเขาได้เห็นได้ชัดว่าหลิงหรันไม่ได้อยู่ในวัยที่เขาสามารถเป็นคนตรวจสอบแพทย์ได้ แม้ว่าหน่วยงานที่ควบคุมจะขาดกำลังคน แต่พวกเขาก็ไม่ยอมรับหมอหนุ่มแบบนี้ …

ดังนั้น…

หลิงรันกำลังจะเตรียมตัวสำหรับการสอบใบอนุญาตทางการแพทย์ของเขาจริงๆ“ ‘มันน่าเหลือเชื่อ

“ อย่างงั้นเราขอตัวก่อนนะ” โจวซินเยียนพยักหน้าให้กับผู้อำนวยการแผนกและปิดประตูรถอย่างเบามือที่สุด จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่รถคันที่สอง

รถเก๋งคันเล็กที่มีหลิงรันอยู่ข้างในค่อยๆขับออกไปพ้นจากสายตาของทุกคน

“ ฉันจำได้ว่ามีคนบอกฉันก่อนหน้านี้ว่าหลิงรันยังเป็นเด็กฝึกงานอยู่”

“ ทักษะของนักศึกษาฝึกงานจะยอดเยี่ยมขนาดนี้ได้อย่างไร”

“ ถ้าอายุเป็นปัจจัยหนึ่งคงไม่มีหมอคนไหนถือมีดผ่าตัดตอนอายุสี่สิบไม่ได้เลย”

“ เมื่อคุณเปรียบเทียบเขากับศัลยแพทย์อิสระเขาทำให้ดูเหมือนว่าไม่มีอะไรน่าแปลกใจเกี่ยวกับนักศึกษาฝึกงานที่ทำการผ่าตัดอีกต่อไป”

ขณะที่แพทย์พูดคุยกันสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยบางคนก็รีบออกจากวอร์ดทันที

“ ฉันได้ยินจากพยาบาลว่าวันนี้หมอหลิงจะกลับไปที่โรงพยาบาลหยุนหัวใช่ไหม” เมื่อญาติของผู้ป่วยคนหนึ่งเห็นแพทย์ที่มารวมตัวกันเขารีบเดินไปข้างหน้าและถาม

แพทย์ทุกคนมองเขาและไม่มีใครตอบอะไรเขาเลย

“ ผมมาที่นี้เพราะมีของขวัญมาให้หมอหลิง นี่คือพุทราจากบ้านเกิดของผมมันผลิตจากโรงงานที่ผมซื้อมา มันบรรจุเรียบร้อยแล้ว…”

ญาติของผู้ป่วยที่มาหลังจากเขาพยักหน้าและถามพร้อมเพรียงกัน“ หมอหลิงอยู่ไหน? เขาไปแล้วเหรอ”

“เขาไปแล้ว.” ผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมสำหรับผู้ป่วยโรคติดต่ออดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะอยู่ในโรงพยาบาลแห่งที่สามมามาเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่ค่อยมีสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยที่ให้ของขวัญเขาเช่นนี้มาก่อน

ญาติของผู้ป่วยชำเลืองมองอีกคน มีคนแนะนำว่า“ มาส่งของขวัญไปให้หมอหลิงกันเถอะ”

“ ฉันไม่คิดจะค่าส่งเหล่านั้นเลย”

“ฉันจะไปกับคุณ…”

“ไม่ดีกว่า. ถ้าเขาไม่ชอบให้เราทำแบบนั้นล่ะ? เราต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลพร้อมกับผู้ป่วยโรคติดต่อ”

“ หมอหลิงไม่ใช่คนอย่างนั้น”

“ ถ้าคนอื่นรังเกียจก็จะทำให้หมอหลิงอึดอัดเช่นกัน ฉันคิดว่าเราควรส่งของขวัญของเราไปให้หมอหลิงก่อนได้ หลังจากนั้นเราจะมอบป้ายแสดงความขอบคุณส่งให้โรงพยาบาลหยุนหัว”

หลังจากสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยพูดคุยกันมากมายพวกเขาก็จองรถบรรทุกเพื่อไปส่งของขวัญให้หลิงรัน

หลังจากนั้นไม่นานรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่มีน้ำหนักประมาณ 2 ตันก็เข้ามาในลานจอดรถของโรงพยาบาลประชาชนแห่งที่สาม

“ ตอนนี้เรามีโปรโมชั่นปลาคราฟ เราจะจัดส่งสิ่งของให้ทุกคนฟรีวันนี้” หลังจากคนขับรถบรรทุกโบกมือให้พวกเขาชายรูปร่างกำยำสองคนก็ออกจากรถบรรทุกจากด้านหลัง พวกเขาทั้งสามห่อของขวัญในชั้นฟองสบู่และวางไว้ในกล่องยาว จากนั้นจึงใส่ขี้เลื่อยลงในกล่องไม้ยาว หลังจากที่พวกเขายึดกล่องไม้ยาวเข้ากับภาชนะแล้วชายล่ำสันทั้งสองก็นั่งบนม้านั่งยาวที่แต่ละด้านของภาชนะตามลำดับ

พวกเขาดูเหมือนกำลังส่งอาวุธปืน

ประตูอัตโนมัติค่อยๆเปิดขึ้นและแยกตู้คอนเทนเนอร์ออกจากด้านนอก

จากนั้นคนขับพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมใส่ญาติของผู้ป่วยซึ่งตกตะลึงและกลับไปที่ที่นั่งคนขับด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ขณะที่เขาสตาร์ทรถบรรทุกรถ เอสยูวีขนาดใหญ่สองคันประกบรถบรรทุกไป

รถ เอสยูวีสองคันและรถบรรทุกเร่งความเร็วไปยังรวดเร็ว