บทที่ 565 มารดาที่เป็นบ้า

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 565 มารดาที่เป็นบ้า

บทที่ 565 มารดาที่เป็นบ้า

“ลูกจ๋า ลูกเรียกแม่ว่าอะไรนะ แม่เป็นแม่ของหนูนะ รีบเรียกแม่เร็ว ! เด็กดีเรียกแม่สิลูก” หวังซานเหนียงอุ้มฉู่เหินแล้วพูดเช่นนี้ ! อีกทั้งสายตาที่เธอใช้มองก็ยังแสดงถึงความวิตกกังวล จนนัยน์ตาที่เหม่อลอยเกิดการกระเพื่อมเล็กน้อย

ฉู่เหินรู้ว่าคน ๆ นี้เป็นผู้หญิงสติไม่ดีคนหนึ่ง แต่เธอก็เป็นแม่คนหนึ่งด้วยเช่นกัน เขาอาจสามารถไม่เชื่อฟังผู้หญิงสติไม่ดีคนหนึ่งได้ แต่ไม่สามารถไม่เชื่อฟังความปรารถนาที่จะเป็นแม่คนได้หรอก ! โดยเฉพาะเมื่อเห็นแม่สติไม่ดีตรงหน้าน้ำตาแทบจะไหลออกมาอยู่แล้ว ! พอเห็นแบบนี้เขาก็จำต้องอดทนไม่พูดความจริงออกไป !

ชายหนุ่มรู้ดี ถ้าตัวเองบอกกับเธอ ว่าตนนั้นไม่ใช่ลูกของเธอ เป็นไปได้มากว่าเธอจะสติแตกยิ่งกว่าเดิม ! และเมื่อเห็นคนตรงหน้า มันก็ทำให้เขานึกถึงแม่ของตัวเอง พร้อมทั้งนึกถึงพี่สะใภ้ซวี่เหม่ยด้วยเช่นกัน ! เพราะสำหรับเขาแล้ว พวกเธอก็คือแม่ของตัวเองทั้งคู่ !

มาตอนนี้พอได้ยินผู้หญิงสติไม่ดีนี้พูดแบบนี้ ก็เลยทำให้เขาตัดสินใจไม่ได้เล็กน้อย ! แต่เมื่อชายหนุ่มลองมองอีกครั้ง ดวงตาของมารดาสติไม่ดีก็เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลลงมา ทำให้รู้สึกว่าในโลกใบนี้อะไรก็ไม่สำคัญ เท่ากับความรู้สึกของผู้เป็นแม่ !

“คุณแม่….” ฉู่เหินพูดคำคำนี้ออกมาอย่างยากลำบาก ด้วยรู้สึกแปลกประหลาดใจไม่น้อย ! ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองเพิ่งจะมาถึงสนามรบชิงคง สิ่งที่เจออย่างแรกคือผู้หญิงสติไม่ดีคนหนึ่ง เมื่อคิด ๆ ดูแล้วนี้มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ? แต่ไม่ว่าในหัวเขาจะคิดอะไรอยู่ เขาก็ไม่อาจปฏิเสธคนตรงหน้านี้ได้เลย !

หลังจากหวังซานเหนียงได้ยินฉู่เหินพูดคำนี้ด้วยเสียงแผ่ว ๆ เธอก็ดีใจจนน้ำตาแห่งความสุขไหลอาบสองข้างแก้ม ! ก่อนที่ต่อมาจะกระชับกอดฉู่เหินแนบแน่น หอมเขาไปเสียหลายที ! ทำให้ชายหนุ่มที่ถูกหอม น้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน ! แม้ว่าอีกฝ่ายจะสติไม่ปกติ แต่เธอก็รู้สึกรักลูกเช่นเดียวกับมารดาทั่วไป !

“แม่ ปล่อยผมลงก่อนเถอะ ผมโตแล้วนะ จะให้แม่อุ้มตลอดก็คงจะไม่ได้ !” หลังจากพูดคำว่าแม่ไปแล้วหนหนึ่ง เมื่อพูดครั้งที่สองก็พูดได้อย่างไหลลื่น เดิมทีฉู่เหินคิดว่าตัวเองเรียกผู้หญิงแปลกหน้าคนหนึ่งว่าแม่จะลำบากใจกว่านี้ ! ทว่าคิดไม่ถึงว่ามันกลับง่ายดายเพียงนี้

พอหวังซานเหนียงได้ยินที่ฉู่เหินบอก เธอก็พลันวางเขาลงที่พื้น “ลูกแม่โตแล้ว ลูกของแม่สามารถเดินด้วยตัวเองได้แล้ว !” มองออกเลยว่าตอนที่พูดประโยคนี้ เธอรู้สึกภาคภูมิมากขนาดไหน !

มีคนบอกว่าผู้เป็นแม่นั้นยิ่งใหญ่มาก เพราะว่าเธอจะไม่มีความเห็นแก่ตัว ในใจจะมีแต่ลูกของตัวเองมาก่อน ขอเพียงลูกกินดีอยู่ดีก็ถือว่าเป็นความสุขที่สุดของเธอแล้ว ! และแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่รู้ว่าหวังซานเหนียงไปเจอเรื่องอะไรมา แต่สถานะของพวกเขาสองคนในตอนนี้นั้นมันก็ดูจะพิลึกจนยากจะอธิบาย !

ต่อมาหวังซานเหนียงก็คล้ายจะอดทนไม่ไหว พาตัวฉู่เหินกลับบ้านในทันที ! อีกทั้งระหว่างทางกลับ พอพบใครเดินมา หวังซานเหนียงก็จะพุ่งตัวเข้าไปบอกพวกเขาอย่างกระตือรือร้นว่า เห็นไหมนี้คือลูกชายฉัน ฉันหาลูกชายเจอแล้ว !

ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ว่าถ้าลูกชายของหวังซานเหนียงยังมีชีวิตอยู่ เขาก็น่าจะมีอายุใกล้เคียงกับฉู่เหิน ดังนั้นเมื่อเป็นแบบนี้ มันก็ทำให้คนส่วนมากสงสัยว่าหรือลูกชายของเธอจะยังไม่ตายกันนะ ! เพราะต้องเข้าใจว่ามีเรื่องหลายเรื่องที่อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้ และเรื่องราวจริง ๆ จะเป็นยังไงก็มีเพียงเจ้าของเรื่องเท่านั้นที่รู้ !

หลังจากที่ชายหนุ่มปรากฏตัวไม่นาน คนทั้งกลุ่มหงส์เพลิงก็พากันคิดขึ้นมาจริง ๆ แล้วว่าฉู่เหินเป็นลูกชายของหญิงบ้าคนนี้ ! อย่างแรกเพราะอายุฉู่เหิน ด้วยถ้าลูกของเธอยังมีชีวิตอยู่ล่ะก็ เขาก็คงมีอายุไม่ต่างจากชายหนุ่มเท่าไร ! อย่างที่สองคือใบหน้าของฉู่เหิน ที่คนในกลุ่มหงส์เพลิงต่างก็ยืนยันแล้วว่าไม่เคยเห็นใบหน้าแบบนี้มาก่อน !

ยิ่งบวกกับกลิ่นอายที่เขาปล่อยออกมา ที่ทุกคนสัมผัสได้ว่าไม่ใช่กลิ่นอายของกลุ่มไหนสักกลุ่ม ! หรือก็คือเขาไม่ใช่คนของกลุ่มไหนเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ทุกคนก็ยิ่งคิดว่าฉู่เหินน่าจะเพิ่งออกมาจากถ้ำที่ไหนสักแห่ง !

เพราะแบบนี้ทุกคนก็ยิ่งมั่นใจ ว่านี้น่าจะเป็นลูกชายของหวังซานเหนียงจริง ๆ! พวกเขาคิดกระทั่งว่า หวังซานเหนียงอาจจะเอาลูกตัวเองไปซ่อนจนเป็นบ้า ! และหลังจากคิดถึงตรงนี้ ทุกคนก็ยิ่งมั่นใจ !

บนท้องถนน หวังซานเหนียงคล้ายจะถูกพูดถึงกันให้ทั่ว ! เพราะต้องเข้าใจว่าหวังซานเหนียงนั้นเป็นคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง แน่นอนว่าชื่อเสียงที่ว่านั้นเป็นเรื่องที่เธอสติไม่ดี ! และอย่างมองว่าเธอเป็นคนสติไม่ดีแล้วจะไม่มีใครกล้ารับไปดูแล เพราะต้องอย่าลืมพลังวรยุทธ์ของเธอด้วย ! ทำให้กระทั่งแม่ทัพกลุ่มหงส์เพลิงก็ยังคล้ายจะให้การดูแลหวังซานเหนียงอย่างดี !

กระทั่งหลังจากที่หวังซานเหนียงมาถึงที่กลุ่มหงส์เพลิง หัวหน้ากลุ่มหงส์เพลิงก็ได้โจมตีกลุ่มเสือขาวไปเสียหนหนึ่งเพื่อเธอ ซึ่งก็ได้ยินมาว่าการโจมตีในครั้งนั้น ทำให้กลุ่มเสือขาวต้องตกอยู่ในสภาพน่าเวทนาสุด ๆ ด้วยเพราะพวกเขาคิดไม่ถึงว่า กองทัพกลุ่มหงส์เพลิงจะโจมตีใส่พวกเขา !

ซึ่งหลังจากเรื่องนี้ผ่านไป ก็ได้นำไปสู่การแตกหักของกลุ่มหงส์เพลิงและเสือขาว ทำให้พันธมิตรเกิดการเปลี่ยนแปลง และกลุ่มหงส์เพลิงก็ได้ไปร่วมมืออย่างเป็นทางการกับกลุ่มมังกรเขียวแทน ! เพราะกลุ่มมังกรเขียวและกลุ่มเสือขาวเองก็มีความแค้นเก่าเหมือนกัน ! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า

บวกกับหลายปีมานี้ กลุ่มมังกรเขียวและกลุ่มเต่าดำไม่ค่อยสนิทกันเท่าไร เช่นนี้จึงเป็นเวลาเหมาะที่ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ! และก็เป็นเพราะทุกคนรู้ว่าหวังซานเหนียงคนนี้ มีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับหัวหน้ากองทัพพวกเขา ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้ารังแก !

ฉู่เหินที่เดินอยู่บนท้องถนนก็พยักหน้ายิ้ม ๆ ให้แต่ละคนที่ผ่านไปมา ไม่ว่าหวังซานเหนียงจะบอกให้เขาทักทายใคร หรือว่าให้พูดอะไร เขาก็จะพูดอย่างนั้น จนทำให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าตนเองนั้นได้ลุงรองมาเยอะไม่น้อยเลย ! กระทั่งคุณน้าคุณป้าเองก็ได้มาเยอะเป็นกอบเป็นกำ !

สุดท้ายที่ทำให้ฉู่เหินกลัดกลุ้มใจก็คือ ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ คนที่รุ่นเดียวกับเขาไม่มีเลยสักคน เพราะทุก ๆ คนดูคล้ายจะเป็นผู้ใหญ่กว่าหมด ! ทำให้บนท้องถนน ฉู่เหินกลายเป็นเหมือนเด็กว่านอนสอนง่ายทักทายทุกคน ยิ้มหัวเราะให้ จนพวกเขาคิดว่าชายหนุ่มเป็นคนสุภาพ !

เรื่องที่เกิดขึ้นบนท้องถนน แน่นอนว่าได้เข้ามาถึงหูของแม่ทัพกลุ่มหงส์เพลิงตั้งแต่แรกแล้ว ! ซึ่งหลังจากที่แม่ทัพคนนี้ได้ยิน เขาก็รีบส่งคนของตัวเองออกไปตรวจสอบ เดิมเรื่องระหว่างแม่ทัพกับหวังซานเหนียงเป็นเพียงข่าวลือ แต่มาตอนนี้พอลูกน้องของท่านแม่ทันคนนี้เห็นอาการใส่ใจหวังซานเหนียงแบบนี้ มันก็ยืนยันได้ว่าทั้งสองต้องมีความสัมพันธ์อะไรกันบางอย่างแน่ !

ข่าวลือที่ไม่รู้ที่มาที่ไปถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้คนในกลุ่มหงส์เพลิงจับกลุ่มพูดกันให้ทั่ว ! และตอนที่ข่าวลือนี้ถูกเผยแพร่ออกไปนี่เอง แม่ทันคนนั้นเองก็ไม่คิดออกมาหยุดยั้งเลยสักนิด กลับประกาศออกมาเองว่ารับฉู่เหินเข้ากลุ่มแล้ว !

หลังจากหวังซานเหนียงพามาถึงบ้าน ฉู่เหินก็ทำการสังเกตรอบ ๆ บ้านหวังซานเหนียงรอบหนึ่ง ก่อนคิดในใจว่าบ้านเธอช่างยากจนเสียจริง ! ห้องกว้าง ๆ ห้องหนึ่งไม่มีของสิ่งใดวางอยู่เลย โชคดีที่พลังวรยุทธ์ของเธอสูง จึงไม่จำเป็นต้องกินข้าว 3 เวลา ไม่งั้นเกรงว่าคงจะอดตายไปนานแล้ว !

เห็นใบหน้าหวังซานเหนียงสกปรกมอมแมม ฉู่เหินก็มองหาอ่างล้างหน้าแล้วมาเช็ดให้ ! อีกทั้งเส้นผมที่ติดกันเป็นตังเมนั้นของเธอ เขาก็วางแผนจะสระให้รอบหนึ่ง ! ทำให้ชายหนุ่มแวะออกไปข้างนอกเพื่อหาไม้มาอันหนึ่ง เอามาทำหวีไม้ให้ ! ก่อนจะเริ่มทำการหวีและสระผมหวังซานเหนียง !

ผ่านไปพักหนึ่ง หวังซานเหนียงก็ถูกแปลงโฉมใหม่ นอกจากเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่เธอสวม เธอก็ถือว่าเป็นสาวงามคนหนึ่งเลยทีเดียว ! เดิมทีฉู่เหินคิดอยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หวังซานเหนียงใหม่ แต่การซื้อขายที่นี่ไม่ได้ใช้หินวิญญาณ(สกุลเงินอาณาจักรเทียนชิง)ซื้อ และก็ไม่ใช่การซื้อด้วยแต้มผลงานที่เขามีด้วย ! หากแต่เป็นแต้มผลงานที่คนที่นี่ใช้

ซึ่งสำหรับฉู่เหินแล้ว ตอนนี้เขามีแต้มผลงานเท่ากับ 0 ! นอกจากนี้ เขาเองก็ไม่รู้ว่าอะไรที่เรียกว่าแต้มผลงานของที่นี่เลย ดังนั้นเขาจึงต้องหยุดความคิดเอาไว้ชั่วคราว ! แต่โชคยังดีที่ภายในแหวนมิติของฉู่เหิน มีเสื้อผ้าสตรีอยู่ 2-3 ชุด ! และนั่นก็คือเสื้อผ้าของพวกเสี่ยวชิงที่เก็บเอาไว้ ที่ในที่สุด ก็ได้นำพวกมันออกมาใช้แล้ว !