บทที่ 464 ข้าอยากเป็นอนุภรรยาของวีรบุรุษมากกว่าภรรยาของใครบางคน
บทที่ 464 ข้าอยากเป็นอนุภรรยาของวีรบุรุษมากกว่าภรรยาของใครบางคน
ฉินหว่านหรูเยาะเย้ยอยู่ภายในใจ ในที่สุดผู้หญิงคนนี้ก็เปิดเผยความตั้งใจที่แท้จริงของนาง! เรื่องที่เกี่ยวกับการเป็นคนรับใช้หรือทาสล้วนแต่เป็นการเสแสร้ง ด้วยสถานะของชิวฮัวเล่ยมันเป็นไปไม่ได้เลย
นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของนาง
นางเข้ามาที่คฤหาสน์ตระกูลฉู่เพื่อขโมยผู้ชายของคนอื่น ชั่วร้ายไร้ยางอายจริง ๆ!
ฉินหว่านหรูระงับความโกรธของนาง และไม่ได้แสดงออกมาทันที แต่ยิ้มกว้างให้ซูอัน
“ตระกูลฉู่ของเราเป็นตระกูลที่มีเหตุผลมาโดยตลอด เราไม่เคยใช้อำนาจบังคับใจใคร นี่คือเหตุผลที่การตัดสินใจครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับอาซูเอง เขาควรตัดสินใจว่ายินดีที่จะมีเจ้าเป็นอนุภรรยาหรือไม่?”
นางไม่ต้องการให้ชื่อเสียงของตระกูลฉู่มัวหมองเช่นกัน ความสกปรกนี้เริ่มมาจากซูอัน ดังนั้นเขาควรเป็นคนทำความสะอาดมัน
“แน่นอนว่าข้าเต็มใจ ทำไมข้าถึงจะไม่อยากมีผู้หญิงสวย ๆ แบบนี้มาเป็นอนุภรรยา?” ซูอันโพล่งออกมา ทำไมเขาถึงปฏิเสธคณิกาโฉมงามที่ยอมไถ่ตัวเองมาเป็นอนุภรรยาของเขา? ต่อไปทุกคนสามารถเรียกเขาว่าจักรพรรดิเทพแห่งแมงดาได้เลย!
เดี๋ยวนะ ทำไมมันฟังเหมือนว่าข้ากำลังด่าตัวเอง?
แม้ว่าเขาจะไม่รังเกียจที่จะเย้าแหย่ผู้หญิง แต่การโต้เถียงกับฉินหว่านหรูครั้งสุดท้าย มันทำให้เขาตระหนักว่าสถานะของลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านนั้นต่ำเกินไปจริง ๆ เขาถูกผูกเข้ากับตระกูลอย่างสมบูรณ์ และไม่มีกฎหมายใดที่จะปกป้องเขาได้
ข้าควรจะกำจัดสถานะนี้โดยเร็วที่สุด
ฉินหว่านหรูจ้องมองเขาโดยไม่พูดอะไร
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 666!
—
นางคาดหวังให้ซูอันหาข้ออ้างที่จะปฏิเสธชิวฮัวเล่ยไป ในความเห็นของนาง ไม่มีใครยอมทิ้งฉู่ชูเหยียนที่งดงามและงามสง่าแล้วไปคว้าสาวคณิกา ต่อให้คณิกานางนั้นจะเป็นนางคณิกาอันดับหนึ่งของโลกก็ตาม!
ด้วยเหตุนี้ นางจึงบอกให้เขาตัดสินใจแทน
แต่ไอ้เด็กเหลือขอนี่กลับไม่เหมือนคนปกติ!
และในฐานะฮูหยินของตระกูลฉู่ นางจะกลับคำพูดของนางอย่างไร้ยางอายได้ยังไง?
ขณะที่นางต่อสู้กับภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ ฉู่ชูเหยียนก็พูดออกมาทันที
“ข้าไม่ยอม!”
ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูต่างก็ประหลาดใจ ลูกสาวของพวกเขาปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา!
ปฏิกิริยาของฉู่จงเทียนเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ฉินหว่านหรูรู้บางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างลูกสาวของนางกับซูอัน อย่าบอกนะว่า…ลูกสาวของข้าชอบซูอันจริง ๆ เหรอ?
ลูกสาวของนางซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเทพธิดา และชิวฮัวเล่ยที่โด่งดังอย่างมากต่างก็ไล่ตามชายคนเดียวกัน! คนที่ไม่รู้รายละเอียดทั้งหมดอาจคิดว่าชายคนนี้เป็นคนที่น่าทึ่ง
คุณธรรมหรือความสามารถอะไรที่ซูอันมี?
—
ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!
—
ชิวฮัวเล่ยดูประหลาดใจ “ทำไมคุณหนูฉู่ต่อต้านเรื่องนี้? ตามที่ข้าได้ยินมา ท่านสองคนไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น สถานะของอาซูในตระกูลของท่านก็ต่ำมากเช่นกัน ดังนั้นการทำแบบนี้ต่อไปจะมีแต่เป็นการทรมานทั้งสองฝ่ายเท่านั้น”
ซูอันถอนหายใจข้างใน ผู้หญิงคนนี้ช่างพูดตรงใจข้า!
ถ้าข้าไม่รู้เรื่องแอบแฝงของผู้หญิงคนนี้ ข้าคงน้ำตาซึมไปแล้ว!
“ซูอันบอกเจ้าอย่างนี้เหรอ?” ฉู่ชูเหยียนหรี่ตามองอย่างอันตราย
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 587!
—
ซูอันสัมผัสได้ว่าคราวนี้ภรรยาของเขาโกรธจริง ๆ เพราะนางไม่ได้เรียกเขาว่า ‘อาซู’ อีกต่อไป
ชิวฮัวเล่ยส่ายหัว “ชายที่วิเศษอย่างอาซูจะพูดลับหลังคนอื่นได้ยังไง? นี่คือสิ่งที่เขาไม่จำเป็นต้องพูดด้วยซ้ำ แต่มันเป็นสิ่งที่ทุกคนในเมืองจันทร์กระจ่างรับรู้อยู่แล้ว”
ผู้ชายที่วิเศษ?
ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูต่างแสดงสีหน้าแปลกประหลาด นี่นางไม่รู้หรือไงว่า คำว่า ‘วิเศษ’ มันหมายความว่าอะไร? คำ ๆ นี้มันใกล้เคียงกับลูกเขยของพวกเราตรงไหน!
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกใจสั่น แน่นอนว่านางรู้ความจริงข้อนี้มาโดยตลอดเช่นกัน แต่ที่ผ่านมาหญิงสาวก็เลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจ
แต่เมื่อตอนนี้ เมื่อนางได้ยินเรื่องนี้จากปากของผู้หญิงคนอื่น ความรู้สึกผิดก็เริ่มผุดขึ้นในใจของนาง นางรู้หรือไม่ว่าอาซูถูกทำร้ายมาโดยตลอด? และคนอื่นดูถูกเขามากแค่ไหน?
แน่นอนนางรู้!
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกผิดมากขึ้นเมื่อนางคิดถึงสิ่งเหล่านี้ “ใครบอกว่าเราไม่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน?” นางคว้าแขนซูอัน “เราได้ผ่านช่วงเวลาแห่งชีวิตและความตายอย่างยากลำบากในมิติลับหยกจรัสมาแล้ว ความรักของเราที่มีต่อกันนั้นเกินกว่าที่เจ้าจะจินตนาการได้!! ใช่ไหมอาซู??”
แม้ว่านางจะมีรอยยิ้มบนใบหน้า แต่ก็หยิกเอวเขาอย่างแรง เตือนให้เขาระวังปากเอาไว้
ฉู่จงเทียนตกตะลึงอย่างยิ่งเมื่อเห็นท่าทีสนิทสนมระหว่างลูกสาวของเขากับซูอัน เขามองภรรยาของเขาโดยไม่รู้ตัว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสน มีอะไรที่ข้าไม่รู้หรือเปล่า?
ฉินหว่านหรูมีสีหน้าที่ไม่เชื่อเช่นกัน นี่ไม่เข้ากับนิสัยตามปกติของลูกสาวนางเลย!
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเกลียดชังรอบตัวเขา ซูอันก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “แท้จริงแล้ว เราสามีและภรรยาต่างรู้สึกรักกันอย่างลึกล้ำ เฮ้อ ข้าไม่อยากทำผิดต่อเมียของข้าจริง ๆ! แต่การที่เจ้ายอมบากหน้าตัวเองมาถึงที่นี่เพื่อมาขอเป็นอนุภรรยาของข้า มันก็ทำให้ข้าซึ้งใจมากจริง ๆ เช่นกัน ฮัวเล่ย…ข้าเกรงว่าข้าคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับให้เจ้ากลายมาเป็นอนุภรรยาของข้า!”
คนหล่อ ๆ อย่างเขาจะละทิ้งโอกาสอันยิ่งใหญ่นี้ได้ยังไง? เขาเอื้อมมือไปโอบเอวของฉู่ชูเหยียนขณะที่พูด ใช่เลย! นี่ล่ะคือสิ่งที่ข้าฝันถึงมาโดยตลอด!
ฉู่ชูเหยียนตัวแข็งทื่อเมื่อถูกซูอันโอบเอว และเมื่อรวมกับคำพูดของเขา สีหน้าของนางก็เปลี่ยนเป็นเครียดมาก ราวกับว่าจะระเบิดได้ทุกเมื่อ
อย่างไรก็ตามนางไม่ได้พูดอะไรในท้ายที่สุด นางเม้มริมฝีปากและค่อย ๆ ผ่อนคลายร่างกายทั้งหมด
ฉู่จงเทียนและฉินหว่านหรูเกือบจะกระอักเลือด เมื่อพวกเขาได้ยินซูอัน ยังคงยอมรับให้ชิวฮัวเล่ยมาเป็นอนุภรรยา ความไร้ยางอายของชายคนนี้ไร้เทียมทานจริง ๆ!
แต่พวกเขาก็สังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างซูอันและลูกสาวของพวกเขาเช่นกัน พวกเขามองมือที่โอบรอบเอวของลูกสาวตัวเอง แล้วก็เห็นว่านางไม่ได้แสดงอาการต่อต้านอะไรเลย สิ่งนี้ทำให้พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองหน้ากัน ลูกสาวของพวกเขาและชายคนนี้กลายเป็นสามีภรรยาที่แท้จริงแล้วงั้นเหรอ?
ฉู่จงเทียนมักจะใจดีและสุภาพต่อซูอัน แต่นั่นเป็นเพียงเพราะมโนธรรมในใจของตัวเองเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อคิดถึงว่าลูกสาวล้ำค่าของเขากลายเป็นของเล่นของซูอัน ไปแล้ว เขาก็รู้สึกเศร้าและหดหู่ใจ
—
ท่านยั่วยุฉู่จงเทียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 211!
—
ทางด้านฉินหว่านหรูดีกว่าเล็กน้อย นางเคยได้ยินจากลูกสาวว่าได้รับการรักษาจากซูอันโดยการเปลื้องผ้าฝังเข็ม ดังนั้นจิตใจของนางจึงพร้อมมากกว่า
ชิวฮัวเล่ยมองคู่สามีภรรยาที่แนบชิดกัน รอยยิ้มที่มองเห็นได้จาง ๆ ก็ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของนาง “ฮัวเล่ยไม่ใช่หญิงหน้าด้านที่ประสงค์จะทำให้ครอบครัวของอาซูแตกแยกอย่างแน่นอน”
ฉินหว่านหรูเย้ยหยันอยู่ภายในเมื่อนางได้ยินคำเหล่านี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นหญิงคณิกาหรอกเหรอ? พวกหญิงคณิกาต่างหน้าด้านกันทั้งนั้น!
ฉู่ชูเหยียนมีสีหน้าเย็นชา และอารมณ์ของนางก็ไม่ค่อยดีนักเช่นกัน
ชิวฮัวเล่ยกล่าวว่า “เนื่องจากอาซูไม่ต้องการทิ้งคุณหนูฉู่ และข้าก็ไม่ต้องการที่จะอยู่ห่างจากเขาเช่นกัน ถ้างั้นหากข้าจะขอเป็นน้องสาวของคุณหนูฉู่ ท่านจะเต็มใจหรือไม่?”
“ข้ามีน้องสาวอยู่แล้ว!” ฉู่ชูเหยียนต้องการปฏิเสธนางอย่างเด็ดขาด แต่นางตระหนักดีถึงสถานการณ์ปัจจุบันที่ตระกูลฉู่เผชิญอยู่ นางจึงถามต่ออย่างเย็นชาว่า “ถ้าข้าบอกว่าข้าไม่เต็มใจ เจ้าจะไม่บอกเราเกี่ยวกับที่อยู่ของนายน้อยหวางใช่หรือไม่?”
“คำพูดของพี่สาวทำให้ข้ารู้สึกละอายใจเล็กน้อยจริง ๆ อย่างไรก็ตาม คนอย่างข้าซึ่งปรารถนาที่จะแสวงหารักแท้นั้น ช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่จะต้องทำอย่างนี้ ข้าหวังว่าพี่สาวจะไม่คิดว่าข้าเป็นคนเห็นแก่ตัว”
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกไม่สบายใจมากกว่าเดิม ผู้หญิงคนนี้ถึงกับเรียกนางว่าพี่สาว!
—
ท่านยั่วยุฉู่ชูเหยียนสำเร็จ
ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 369!
—
ฉู่ชูเหยียนพยายามปรับอารมณ์โดยการหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ด้วยศักดิ์ศรีและชื่อเสียงที่โด่งดังของแม่นางชิว มีผู้ชายจำนวนนับไม่ถ้วนที่เต็มใจยอมรับเจ้าเป็นภรรยาหลวง เจ้าจะไม่รู้สึกว่ามันเป็นความอยุติธรรมหรอกเหรอ ถ้าเจ้าต้องมากลายเป็นแค่อนุภรรยาของซูอัน?”
นางยังคงงุนงงเล็กน้อย ไม่ว่าอาซูจะโดดเด่นแค่ไหน เขาก็เป็นแค่ลูกเขยที่แต่งเข้าบ้านภรรยา ผู้หญิงคนนี้กำลังวางแผนอะไรอยู่?
“ข้าไม่รู้สึกเลยว่ากำลังถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม!” ชิวฮัวเล่ยหันกลับมามองซูอันอย่างจริงใจ “ข้ายอมเป็นอนุภรรยาของวีรบุรุษ ดีกว่าเป็นภรรยาของคนสามัญ! ถ้าข้าสามารถเป็นผู้หญิงของอาซูได้ นั่นจะเป็นพรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของข้า! ข้าจะเรียกสิ่งนี้ว่าความอยุติธรรมได้ยังไง?”
สมาชิกทั้งสามของตระกูลฉู่แทบไม่เชื่อหูของพวกเขา พวกเขาจ้องมองที่นางอย่างตกตะลึง
ซูอันเป็นคนเดียวที่พยายามกลั้นเสียงหัวเราะของเขาจนดูเหมือนคนงี่เง่า
ใบหน้าของฉู่ชูเหยียนเริ่มมืดมน นางเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ข้ามีคำถามอยากจะถามแม่นางชิว เจ้ารู้ได้อย่างไรว่านายน้อยหวางอยู่ที่ไหน? ขนาดตระกูลฉู่ของเรายังไม่สามารถหาเขาเจอได้ แม้จะระดมพลทั้งหมดแล้วก็ตาม”
“พี่หญิงใหญ่สงสัยว่าข้าส่งคนไปลักพาตัวนายน้อยหวางเหรอ? ฮัวเล่ยจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?” ชิวฮัวเล่ยยิ้ม “ทุกคนต่างมีวิธีการของตนเอง หอสุขนิรันดร์ของเรามีแขกทุกประเภท และรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าเมื่อเทียบกับที่อื่น ข้าเองก็เพิ่งได้รับข้อมูลนี้เช่นกัน”
ฉู่ชูเหยียนพยักหน้ายอมรับคำอธิบายของนาง “ตกลง ข้าจะยอมให้เจ้าเข้าร่วมครอบครัวของเรา เมื่อถึงเวลา ตระกูลฉู่จะส่งคนไปจ่ายค่าไถ่ตัวเจ้าจากหอสุขนิรันดร์ และรับเจ้าเข้ามาอย่างเป็นทางการ ทีนี้บอกเราได้หรือยังว่าตอนนี้นายน้อยหวางอยู่ที่ไหน?”