ตอนที่ 419 ล้มศัตรูในสามกระบวนท่า

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 419 ล้มศัตรูในสามกระบวนท่า

สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่ม้าสีดำของจ้าวถง จ้าวถงรับรู้ได้ทันทีว่าไป๋ชิงเหยียนต้องการจะโจมตีม้าของเขา สายตาของเขาจึงหยุดอยู่ที่ม้าของไป๋ชิงเหยียนเช่นเดียวกันพลางยกยิ้มมุมปากเล็กน้อย

สังหารคนต้องสังหารม้าก่อน…

ดูเหมือนว่าเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ผู้นี้ต้องการโจมตีให้เขาหล่นลงมาจากหลังม้าสินะ!

แววตาของจ้าวถงเต็มไปด้วยแววแห่งชัยชนะ เขาชูหอกขึ้น แทงตรงไปยังม้าของไป๋ชิงเหยียนก่อนที่หญิงสาวจะได้ทันลงมือ

พริบตานั้นเอง ไป๋ชิงเหยียนพลิกข้อมือ แทงหอกลง หอกสองเล่มกระทบกันจนเกิดประกายไฟขึ้น หญิงสาวกดหอกของจ้าวถงไว้ที่พื้นจนขยับเขยื้อนไม่ได้ แขนของจ้าวถงชาวาบ หอกยาวหลุดออกจากมือทันที

ไป๋ชิงเหยียนรวบรวมแรงถีบจ้าวถงจนกระเด็นหล่นจากหลังม้า ขณะเดียวกันก็กระชากหอกของตัวเองกลับคืนแล้วแทงไปยังร่างของจ้าวถงที่ร่วงลงบนพื้น จ้าวถงไม่เคยคิดมาก่อนว่าแรงของสตรีผู้หนึ่งจะมากมายมหาศาลถึงเพียงนี้ เขาหลบไม่ทัน หอกเงินยาวแหลมแทงทะลุหัวไหล่ของเขาจนเขาขยับกายไม่ได้

ล้มศัตรูในสามกระบวนท่า!

“ท่านแม่ทัพ! ท่านแม่ทัพจ้าว!” รองแม่ทัพของจ้าวถงตะโกนสุดเสียง

ม้าของจ้าวถงยกขาหน้าทั้งสองข้างขึ้นกลางอากาศด้วยความตกใจ จากนั้นวิ่งหนีกลับไปยังค่ายทหารของต้าเหลียง

จ้าวถงอยากโต้ตอบ ทว่า เขาโดนไป๋ชิงเหยียนเหยียบอกไว้แน่นจึงต้องนอนนิ่งตามเดิม เขากำหอกที่แทงทะลุบ่าของตัวเองแน่นด้วยแววตาเกรี้ยวกราด เขาตอบโต้ไม่ได้เลยหรือ!

องครักษ์สวมชุดเกราะยี่สิบนายของไป๋ชิงเหยียนรีบถลาเข้าไปด้านหน้า ไป๋ชิงเหยียนจึงชักหอกที่เต็มไปด้วยเลือดกลับ จ้าวถงส่งเสียงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดครั้งหนึ่ง เขาโดนองครักษ์กระชากตัวขึ้นมาและจับตัวเข้าไปในเมือง

บนกำแพงเมืองเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องของบรรดาทหารต้าจิ้น เสียงกลองดังรัวกว่าเดิม

ไป๋ชิงเหยียนก้าวขึ้นไปบนหลังม้า ควบม้าทะยานไปด้านหน้า พลทหารโล่รีบก้าวไปด้านหน้า คุ้มกันรองแม่ทัพไว้ทางด้านหลัง

ไป๋ชิงเหยียนขี่ม้าไปหยุดอยู่ที่ร่างไร้ลมหายใจของทหารต้าเหลียงสองนาย ใช้หอกหยิบธงเฮยฟานไป๋หมั่งของกองทัพไป๋ขึ้นมา เก็บไว้ในอก กวาดสายตาเย็นชามองไปยังบรรดาแม่ทัพที่อยู่บนหลังม้าของต้าเหลียง เกราะเงินส่องแสงสะท้อน เสื้อคลุมกันลมสีแดงสยายตามแรงลม หญิงสาวชี้หอกเงินเปื้อนเลือดไปยังกองทัพต้าเหลียง ตะโกนกร้าวอย่างโอหัง “ผู้ใดกล้าท้ารบอีก!”

เลือดสดจากปลายหอกยังคงหยดลงพื้นดินเป็นหยดๆ เป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับทุกคนเป็นอย่างยิ่ง

ถึงแม้เมื่อครู่จ้าวถงอาจประมาทคู่ต่อสู้ไปบ้าง ทว่า จากกระบวนท่าสามกระบวนเมื่อครู่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าสตรีผู้นี้ไม่ใช่คนธรรมดา ที่สำคัญไป๋ชิงเหยียนได้สมญานามว่าเทพแห่งการสังหาร สิ่งเหล่านี้ทำให้กองทัพต้าเหลียงหวาดกลัวมากแล้ว

นางคือหลานสาวคนโตของเจิ้นกั๋วอ๋องไป๋เวยถิงแห่งแคว้นต้าจิ้น ติดตามเจิ้นกั๋วกงไปออกรบในสนามรบไม่รู้ตั้งกี่ศึก ไม่เคยพ่ายแพ้เลยสักครั้ง ต่อให้จะได้รับบาดเจ็บหนักจากสงคราม ทว่า นางตัดศีรษะของแม่ทัพใหญ่ผางผิงกั๋วแห่งแคว้นสู่ได้!

ยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเรื่องที่นางสังหารทหารยอมจำนนนับแสนของซีเหลียง เห็นได้ชัดว่านางอำมหิตมากเพียงใด

รองแม่ทัพของจ้าวถงหวาดกลัวจับใจ เมื่อเห็นว่าไม่มีผู้ใดกล้าออกไปรบ เขากุมบังเหียนในมือแน่น ยกมือส่งสัญญาณ “ถอย!”

เมื่อไป๋ชิงเหยียนเห็นว่ากองทัพต้าเหลียงถอยทัพแล้ว นางจึงขี่ม้ากลับไปยังเมืองหลงหยาง

บันไดแขวนถูกยกเก็บ ประตูเมืองปิดลงอีกครั้ง

บรรดาชาวบ้านและทหารในเมืองต่างพากันตื่นเต้นดีใจ ไป๋ชิงเหยียนลงมาจากหลังม้าท่ามกลางเสียงตะโกนร้องต้อนรับอย่างดีใจของชาวบ้าน หลูผิงรีบเข้าไปรับเชือกม้าจากมือของไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองหลินคังเล่อ “จ้าวถงอยู่ที่ใด”

“ถูกขังอยู่ในคุกขอรับ” หลินคังเล่อหันไปตะโกนสั่งทหาร

ไป๋ชิงเหยียนโยนหอกเงินให้องครักษ์ตระกูลไป๋ ก้าวขึ้นไปบนหลังม้า หันไปมองหลินคังเล่อ “นำทาง!”

บัดนี้นางร้อนใจอยากรู้ข่าวคราวของไป๋จิ่นจื้อจนแทบทนไม่ไหวแล้ว!

ตอนที่ไป๋ชิงเหยียนไปถึงคุกของเมืองหลงหยาง หมอทหารทำแผลให้จ้าวถงเรียบร้อยแล้ว

จ้าวถงถูกองครักษ์ของตระกูลไป๋จับกดให้คุกเข่าลงบนพื้น จ้าวถงไม่ยอม องครักษ์จึงใช้ดาบทุบไปที่ใบหน้าของจ้าวถง บังคับให้เขาคุกเข่าลง

ดวงตาของจ้าวถงเต็มไปด้วยรอยยิ้มอำมหิต เขาเงยหน้าขึ้นมองไปยังไป๋ชิงเหยียนที่ยืนเด่นอยู่ตรงนั้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม บ้วนเลือดออกมาจากปาก “เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่หลงใหลในตัวข้า อยากนอนกับข้าหรืออย่างไรกัน”

องครักษ์ของตระกูลไป๋เดือดดาลขึ้นทันที ถีบไปที่ใบหน้าของจ้าวถงจนฟันหลุดกระเด็นออกมาสองซี่

จ้าวถงที่เจ็บจนใบหน้าซีดเผือดถูกองครักษ์กระชากตัวขึ้นมาคุกเข่าอยู่บนพื้นตามเดิม ไป๋ชิงเหยียนเอ่ยถามขึ้น “คนอย่างพวกเจ้าคิดจะจับเป็นเกาอี้เซี่ยนจู่อย่างนั้นหรือ”

“อีกไม่กี่วันหรอก พวกเจ้าไม่รู้ว่าเกาอี้เซี่ยนจู่อยู่ที่ใด ไม่มีทางนำทัพไปช่วยเหลือได้ กองทัพของพวกข้าล้อมนางเอาไว้อีกไม่กี่วันก็คงไม่รอดแล้ว!” จ้าวถงหัวเราะออกมาโดยที่ปากเต็มไปด้วยเลือด “เจ้าอย่าหวังจะได้ข่าวของเกาอี้เซี่ยนจู่จากปากของข้า ต่อให้ตายข้าก็ไม่มีวันบอก! เสียดายก็แต่ข้าสังหารเจ้าไม่สำเร็จ หากข้าลงมือสังหารเจ้าด้วยตัวเอง ชื่อเสียงของข้าคงกระฉ่อนไปทั่วทุกแคว้นแน่นอน”

ไป๋ชิงเหยียนเดินไปหยุดอยู่หน้าเตาผิงอย่างไม่รีบร้อน หยิบเหล็กสำหรับเขี่ยถ่านซึ่งกำลังร้อนระอุขึ้นมาจากเตา เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ข้าให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง ขอเพียงเจ้าบอกมาว่าเกาอี้เซี่ยนจู่อยู่ที่ใด ข้าจะไว้ชีวิตของเจ้า เมื่อต้าเหลียงมาเจรจาสงบศึก ข้าจะปล่อยเจ้ากลับไป”

สายตาของจ้าวถงหยุดอยู่ที่เหล็กร้อนซึ่งอยู่ในมือของไป๋ชิงเหยียน หัวเราะออกมา “กองทัพต้าเหลียงของข้ามีทหารสี่หมื่นกว่านาย ท่านแม่ทัพสวินเทียนจางเป็นแม่ทัพใหญ่ เจ้าคิดว่าสตรีอย่างเจ้าจะรบชนะอย่างนั้นหรือ หากท่านปู่หรือท่านพ่อของเจ้ายังอยู่ก็ว่าไปอย่าง!”

สายตาเย็นชาของไป๋ชิงเหยียนจ้องไปยังเปลวไฟในเตาผิงที่กำลังปะทุนิ่ง เอ่ยถาม “แต่งงานแล้วหรือไม่”

จ้าวถงนึกไม่ถึงว่าไป๋ชิงเหยียนจะถามเช่นนี้ เขาหัวเราะออกมาทันที “เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่หลงเสน่ห์ข้าเข้าจริงๆ อย่างนั้นหรือ แม้ข้าจะยังไม่ได้แต่งงาน แต่ก็สามารถรับอนุก่อนได้!”

“ยังไม่ได้แต่งงานก็ดีแล้วจะได้ไม่เสียเวลาสตรีนางอื่น” ไป๋ชิงเหยียนวางเหล็กในมือลง หันไปมองจ้าวถงพลางเอ่ยขึ้น “ข้าได้ยินว่าท่านปู่ของเจ้าคิดวิธีทรมานนักโทษปากแข็งขึ้นมาได้หนึ่งวิธี ใช้เหล็กร้อนจี้ไปตรงจุดนั้นของบุรุษจนกว่ามันจะไหม้เกรียมและเสื่อมสภาพไปเองใช่หรือไม่”

สีหน้าของจ้าวถงซีดเผือด กำหมัดแน่น เขาขบกรามมองไปทางไป๋ชิงเหยียนเขม็ง

“มีคนกล่าวว่าท่านปู่ของเจ้ายังพอมีเมตตาอยู่บ้าง เขาจะใช้วิธีนี้กับนักโทษของฝ่ายศัตรูที่มีทายาทสืบทอดแล้วเท่านั้น ทว่า ข้าเป็นเพียงสตรี ข้าต้องเข้าข้างสตรีด้วยกัน เศษสวะที่ไม่มีปัญญาสืบทอดทายาทไม่ควรทำให้หญิงสาวคนใดต้องเสียเวลาทั้งสิ้น เจ้าว่าจริงหรือไม่”

ใจของจ้าวถงกระตุกวูบ ลำคอร้อนผ่าว สายตาหยุดอยู่ที่เหล็กร้อนซึ่งไป๋ชิงเหยียนเพิ่งวางลงในเตา “หากเจ้ากล้า เมื่อทหารต้าเหลียงจับตัวน้องสาวของเจ้าได้ ต้องทรมานนางให้ตายทั้งเป็นแน่นอน!”

ไป๋ชิงเหยียนหันไปทางหลูผิง “ลุงผิง ทรมานจนกว่าเขาจะยอมบอก อย่าให้ตายเชียว ตายแล้วคงหมดสนุกกันพอดี! ข้าต้องใช้เขาเป็นเหยื่อล่อให้กองทัพจ้าวแห่งต้าเหลียงมาช่วยเขาอยู่ ถึงแม้เขาจะหัวแข็ง แต่ข้าไม่เชื่อว่าคนอื่นในกองทัพจ้าวจะดื้อด้านเช่นเดียวกับเขา ต้องมีสักคนยอมปริปากแน่นอน!”

“คุณหนูใหญ่วางใจได้ขอรับ ข้าจะใช้วิธีที่แม่ทัพชราจ้าวเคยใช้กับทหารของเราในตอนนั้นคืนให้จ้าวถงแน่นอนขอรับ วิธีที่แม่ทัพชราจ้าวคิดค้นขึ้นมาจะได้ไม่เสียเปล่าขอรับ” หลูผิงกำหมัดคารวะพลางกล่าวขึ้น

ไป๋ชิงเหยียนมองจ้าวถงนิ่งๆ จากนั้นหมุนตัวเดินจากไป

“ไป๋ชิงเหยียน! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” จ้าวถงตวาดลั่น

หลินคังเล่อยืนอยู่ทางด้านหลังของไป๋ชิงเหยียน เขาหันไปมองจ้าวถงแวบหนึ่ง จากนั้นเดินตามไป๋ชิงเหยียนออกไป