“ไม่งั้นหล่ะ?”
เป๋าฮวนเหลือบมองเขาอย่างไม่ค่อยมีไรพูดแล้วพูดว่า “คุณคงไม่ใช่ว่าแค่นี้ก็เดินไม่ไหวนะ? ฉันดูคุณก็ยืนได้ดีนี่!”
“เปล่า ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น ผมแค่……” เขาแค่ตื่นเต้น
เพราะเขาไม่คิดว่าเป๋าฮวนจะเป็นคนเริ่มชวนเขาไปที่ห้องของเธอเอง
“อะไรคือแค่นั้นไม่แค่นั้น คุณเก็บขวดยาแล้วตามฉันมา” เป๋าฮวนเริ่มรำคาญนิดหน่อย
เฟิงหานชวนที่ป่วยกำเริบทำไมถึงเป็นเหมือนหญิงแก่ไปได้
เฟิงหานชวนก็เกรงว่าเป๋าฮวนจะรำคาญ ไม่ง่ายเลยที่จะทำให้เธอเชื่อ จะให้เสียเปล่าไม่ได้
เขาหยิบขวดยาบนพื้นทันที จับมือเป๋าฮวนและเดินออกจากห้องน้ำพร้อมกัน
ขณะที่พวกเขากำลังจะเดินออกจากประตูห้องนอนใหญ่ จู่ๆก็ผลุดขึ้นในหัวของเฟิงหานชวน เขาปล่อยมือของเป๋าฮวน แล้วรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าทันที
เป๋าฮวนหันศีรษะและมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
เห็นเพียงแค่เฟิงหานชวนเปิดประตู หยิบชุดนอนออกจากด้านใน และเดินไปหาเป๋าฮวนอีกครั้ง
เป๋าฮวนขมวดคิ้วขณะมองดูเสื้อผ้าในมือของเขา และถามว่า “คุณเอาของพวกนี้ไปทำอะไร?”
“ฮวนฮวน ห้องของคุณก็เหมือนกับห้องของผม ไม่งั้นคืนนี้อยู่พักที่คุณนั่นก็แล้วกัน” เฟิงหานชวนพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ดูไม่เหมือนว่ากำลังล้อเล่น ดูจริงจังมาก
เป๋าฮวน : “……”
แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยมากนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าที่เฟิงหานชวนพูดนั้นมีเหตุผล
เธอมองไปรอบๆทั้งสี่ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเตียงขนาดใหญ่หรือของในห้องเจ้าของห้อง รวมทั้งของตกแต่งอื่นๆทั้งหมดนั้นก็เหมือนกับห้องชุดของเธอ
เห็นได้ชัดว่าได้รับการตกแต่งเพิ่มเติมพร้อมกัน
ดังนั้นนอนที่นี่หรือนอนที่เธอนั้นก็ไม่ต่างกัน
ยิ่งกว่านั้นถ้านอนที่นี่ อาบน้ำเสร็จแล้วเธอยังจะต้องพาเฟิงหานชวนกลับมาอีกครั้ง ซึ่งค่อนข้างลำบากนิดหน่อย
“คุณคิดได้รอบคอบดี งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน” เป๋าฮวนพยักหน้า
ภายใต้ความเคลื่อนไหวของเฟิงหานชวน เป๋าฮวนยังคงเดินเข้าไปติดกับดักของคนอื่นเขาอย่างโง่เขลา
อย่างไรแล้วยังคงเป็นขิงแก่ที่เผ็ด!
……
ไม่นาน ทั้งสองก็มาถึงห้องนอนใหญ่ของห้องเพรสซิเดนสูทที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นที่อาณาเขตของเป๋าฮวน
เป๋าฮวนคิดถึงเฟิงหานชวนที่หมดสติในห้องน้ำ ซึ่งเธอไม่สามารถทนได้และกล่าวว่า “คุณควรไปอาบน้ำก่อน อาบเสร็จแล้วคุณจะได้เข้านอน”
“คุณอาบก่อน” เฟิงหานชวนบอกปัด
“ฉันอาบน้ำช้ามาก ฉันชอบแช่น้ำ” เป๋าฮวนเหนื่อยมาทั้งวันนี้และอยากแช่น้ำเพื่อให้สบายตัวหน่อย
“ก็ได้ งั้นผมอาบก่อน ผมเร็วมาก” เฟิงหานชวนไม่บอกปัดอีก เขาถือชุดนอนและของอื่นๆเข้าห้องน้ำไป
ในขณะที่ประตูมุ้งกระจกห้องน้ำปิดลง เป๋าฮวนก็เบ้ปากแล้วยื่นมือออกมาเกาหัวพร้อมกับนั่งลงข้างเตียง
เธอก็รู้สึกว่าตัวเองบ้าไปแล้วที่รับปากว่าจะอยู่กับเฟิงหานชวนคืนนี้ หรือเป็นเพราะตำหนิตัวเองหรือ?
สุดท้ายแล้วก็เป็นเพราะ “การฆ่าตัวตาย” ของเธอ ที่ทำให้เฟิงหานชวนป่วยเป็นโรคดังกล่าว
เป๋าฮวนนั่งเหม่อลอยอยู่อย่างนั้น ทันใดนั้นกระเป๋าถือในมือก็สั่นขึ้น เห็นชัดว่าเป็นโทรศัพท์มือถือข้างในที่สั่น
เป๋าฮวนเปิดกระเป๋าถือและหยิบโทรศัพท์ออกมา เธอพบว่าเธอได้รับข้อความหลายข้อความที่ไม่มีหมายเลข แต่หลังจากอ่านเนื้อหาแล้ว เธอรู้ว่าหมายเลขนั้นเป็นของเวินซือเหยี่ยน เธอจึงทำเครื่องหมายไว้ทันที
ไม่รู้ว่าเวินซือเหยี่ยนได้หมายเลขโทรศัพท์มือถือของเธอมาจากไหน เวินซือเหยี่ยนส่งข้อความสองสามข้อความถึงเธอ เพื่อถามว่าเธอคุยกับ เฟิงหานชวนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง มีปัญหาอะไรหรือเปล่า มีเรื่องอะไรต้องรีบขอความช่วยเหลือจากเขา
เป๋าฮวนคิดว่าเวินซือเหยี่ยนเป็นคนที่กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือคนอื่นตลอด เขาเป็นห่วงเธอ และเธอก็ไม่อยากทำให้คนอื่นเขาต้องเป็นห่วงเปล่าๆ เขาจึงโทรกลับหาเวินซือเหยี่ยนในทันที
ไม่นาน ก็มีการเชื่อมต่อสาย
“เวินซือเหยี่ยน ขอโทษนะที่ทำให้คุณเป็นห่วง ทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว” เป๋าฮวนพูดเบาๆด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลาย
“ไม่มีเรื่องแล้ว? ไม่มีอะไรแล้วก็ดี ผมเห็นคุณไม่ตอบข้อความสักที และกลัวว่าโทรไปจะรบกวนคุณ ดังนั้น……” เวินซือเหยี่ยนรู้สึกกระสับกระส่ายนั่งไม่ติดจนถึงตอนนี้
“ขอบคุณมากจริงๆ ฉันกับเขาคุยกันถือว่าราบรื่นดี ไม่มีความขัดแย้งหรือทะเลาะวิวาท ไม่ต้องกังวล” เป๋าฮวนคิดเพียงว่าเวินซือเหยี่ยนเป็นห่วงว่าเธอจะทะเลาะกับเฟิงหานชวนหรือไม่
อย่างไรก็ตามหากมีการทะเลาะวิวาทกันระหว่างชายและหญิง ฝ่ายหญิงจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน ถึงเวลาถ้าจมูกเขียวหน้าบวมคงแย่น่าดู
แต่ถึงแม้ว่าเธอและเฟิงหานชวนจะทะเลาะกันอย่างรุนแรง เฟิงหานชวนก็ไม่ตบตีเธอ มีเพียงเธอที่จะตบตีเฟิงหานชวน
เพราะเฟิงหานชวนดูเหมือนจะไม่ตบตีผู้หญิง
“ก็ดี แล้วคุณ……ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน” เวินซือเหยี่ยนยังคงยับยั้งความอยากรู้ของตัวเองไม่ได้
“ฉัน? ฉันอยู่ในห้องของฉันเอง! เดี๋ยวฉันจะอาบน้ำและก็พักผ่อนแล้ว งานเลี้ยงอาหารค่ำของพวกคุณยังไม่เสร็จใช่ไหม?” เป๋าฮวนรู้สึกว่าคุยกับเวินซือเหยี่ยนแล้วผ่อนคลาย และเวินซือเหยี่ยนก็ให้ความรู้สึกอบอุ่นกับเธอ เหมือนความอบอุ่นจากสายลมในฤดูใบไม้ผลิ
“ยังเลย ยังอยู่ในระหว่างดำเนินงาน” เวินซือเหยี่ยนถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินเป๋าฮวนบอกว่าเธออยู่ในห้องตัวเอง
ในสมองของเขาก็ปรากฏใบหน้าเคร่งขรึมของเฟิงหานชวนขึ้นมา แม้ว่ามันจะดูเย็นชา แต่ก็เต็มไปด้วยแข็งกร้าว
เขายังกังวลว่าเป๋าฮวนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟิงหานชวน และกังวลว่าตัวเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟิงหานชวน ความกังวลทั้งสองไม่เหมือนกัน
แต่เห็นได้ชัดว่าความกังวลของเขาตอนนี้ดูเหมือนจะมากเกินไป
งั้นคุณยุ่งก่อนเถอะ ฉันไม่รบกวนคุณแล้ว” เป๋าฮวนกำลังคิดจะวางสาย แต่จู่ๆก็ถามขึ้นด้วยความสงสัยว่า “ใช่แล้ว คุณรู้เบอร์มือถือของฉันที่ประเทศฮัวได้ยังไง”
“อันนี้ง่ายมาก ขอจากทางโรงแรม” เวินซือเหยี่ยนอดหัวเราะไม่ได้ เขาพบว่าบางครั้งเป๋าฮวนดูฉลาดมากและบางครั้งก็ดูโง่มาก
โง่เขลาเลยถูกหลอกเอาง่ายๆ
“อย่างนี้นี่เอง!” เป๋าฮวนก็นึกออกและพูดว่า: “ยังไงก็ตาม ขอบคุณที่เป็นห่วงฉัน ฉันวางสายก่อนนะ!”
“อืม แล้วเจอกัน” เวินซือเหยี่ยนเปิดปากพูด แต่สิ่งที่เขาต้องการพูดกลับเปลี่ยนเป็นกล่าวคำอำลา
อย่างไรก็ตาม อนาคตยังอีกยาวไกล ทุกสิ่งอย่ารีบร้อนมากเกินไป
ทันทีที่เป๋าฮวนวางสายโทรศัพท์มือถือ ขณะที่เธอเงยหน้าขึ้น เธอก็ต้องตกใจเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ
“เฟิงหานชวน คุณเป็นผีเหรอ! คุณออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่ โห! ตกใจหมดเลย!” เป๋าฮวนจับหน้าอกตัวเอง เธอตกใจจริงๆ
“คุณโทรหาใคร? เวินซือเหยี่ยน?” น้ำเสียงของชายหนุ่มเย็นชาเป็นพิเศษและแสดงถึงความโกรธปะปนอยู่
“ใช่! ฉันกำลังจะทานอาหารเย็นกับเขาอยู่ดีๆ แต่แล้วจู่ๆฉันก็ถูกคุณอุ้มมา คนเขาส่งข้อความห่วงใยฉัน ฉันก็ต้องโทรหาเขาสิ” เป๋าฮวนนึกถึงความบ้าบิ่นของเฟิงหานชวนในร้านอาหารฝรั่ง โกรธถึงขนาดกล่าวโทษเขา
เห็นแก่อาการป่วยกำเริบของเขา เธอแค่บ่นอย่างเร็วและก็ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยมากนัก
เป๋าฮวนลุกขึ้นยืน หันไปทางห้องน้ำแล้วพูดว่า “ฉันจะไปอาบน้ำ คุณนอนเถอะ”
เพราะเธอหันหลังให้เฟิงหานชวน เธอเลยไม่ได้สังเกตเห็นสีหน้าที่หมองคล้ำของชายหนุ่ม
เวินซือเหยี่ยน?
ไอ้คนเข้ามาแทรกกลาง!
เฟิงหานชวนกัดฟันและกำมือทั้งสองแน่น