บทที่ 470 ข่าวร้ายมากที่สุด

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

ได้ยินเสียงบ่งบอกว่าสายไม่ว่างมาจากปลายสาย สีหน้าของอันซีหนีก็เปลี่ยนไปทันที

นี่มันหมายความว่ายังไง? ไม่เห็นตัวเองอยู่ในสายตาเลยสักนิดงั้นเหรอ ถึงได้ตัดสายตัวเองง่าย ๆ อย่างนี้?

อันซีหนีโกรธเคืองจนเกือบจะขว้างโทรศัพท์ของตัวเองลงบนพื้น แต่คิดไปคิดมา ก็อดกลั้นเอาไว้ได้

“ลูกพี่ครับ ตอนนี้พวกเราควรทำยังไงดีครับ?” ซาติงก็มีท่าทางตัวสั่นงันงกตลอด

เขารู้อยู่แล้ว ว่าอารมณ์ของอันซีหนีในตอนนี้รู้สึกเสียหน้าอย่างมาก ก่อนหน้านี้เขาเคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้ใส่ที่ไหนกันล่ะ? มีแต่คนอื่นพยายามมาตีสนิทถามนั่นถามนี่ ขอร้องอ้อนวอนให้ได้รับการยอมรับจากเขา

แต่ตอนนี้ ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปแล้ว

“ไอสารเลว! ฉันไม่มีทางปล่อยแกไว้แน่!” อันซีหนีกำหมัดแน่นด้วยสีหน้าโกรธแค้น ในดวงตามีประกายไฟแค้นลุกโชน

เขาคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าครั้งนี้มาถึงประเทศจีนเพื่อช่วยAnthony แต่ผลที่ได้กลับได้รับความเสียหายหนักขนาดนี้

สำหรับอันซีหนีแล้ว นี่ไม่ใช่เรื่องดีเลยจริง ๆ ถึงแม้บริษัทของครอบครัวพวกเขาส่วนใหญ่อยู่ต่างประเทศ แต่สำหรับในประเทศแล้วยังไงก็ถือว่าเป็นตลาดส่วนหนึ่ง

เมื่อเจอเรื่องยากลำบากอย่างนี้ เป็นไปได้ว่าจะสร้างผลกระทบในวันนี้อย่างแน่นอน

คิดทบทวนไปมา อันซีหนีก็รู้สึกว่าจนถึงตอนนี้วิธีที่น่าจะเหมาะสมที่สุดก็คือรีบหาทางกลับบ้าน

“ตอนนี้ไม่มีวิธีอื่นแล้ว พวกเรากลับไปกันก่อนเถอะ” ใบหน้าของอันซีหนีดูเศร้าหมอง

ถึงแม้ยังคงรู้สึกเจ็บใจมาก แต่ตอนนี้ทางเลือกที่ฉลาดที่สุดคือรีบกลับไปให้เร็วที่สุด อย่าให้ลี่จุนถิงหาเรื่องอะไรได้อีก

“ครับ” ซาติงรีบพยักหน้า เขาเองก็คิดว่าการเลือกหนทางนี้ของอันซีหนีในตอนนี้ฉลาดที่สุดแล้ว ฉะนั้นจึงได้รีบเตรียมการเพื่อจะกลับไปทันที

อันซีหนีไม่นานก็จากไปอย่างลำบากใจ สำหรับการไปของเขา ลี่จุนถิงไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด

ขณะเดียวกัน เพราะอันซีหนีก็มีอำนาจไม่ใช่น้อย ทำให้เขายังไม่สามารถหาวิธีกำจัดพวกเขาให้สิ้นซากได้ ครั้งหนีจึงทำได้แค่ไล่พวกเขาไปเท่านั้น แต่ก็ถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว

สำหรับอันซีหนีแล้ว นี่อาจเป็นการล่าถอยที่น่าเจ็บช้ำใจอย่างมากครั้งหนึ่ง Anthonyจึงสงสัยในสิ่งที่เขาทำ

“พี่ พวกเราจะกลับไปทั้งอย่างนี้เหรอ? พี่ไม่คิดจะแก้แค้นให้ผมเหรอ?”

Anthonyในตอนนี้ ร่างกายอ่อนแอมาก แต่เพราะถูกลูกน้องของลี่จุนถิงกระทำขนาดนั้น เขาจึงไม่มีทางยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ

จึงต่างกับอันซีหนี อันซีหนีไม่ได้เผชิญเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เขาอาจจะรู้สึกเจ็บปวดและทนไม่ได้แทนAnthony แต่เขาไม่มีทางรับรู้ได้ถึงความทุกข์ทรมานที่Anthonyได้รับในตอนนั้นแน่นอน

“เฮ้อ ฉันก็อยากแก้แค้นเหมือนกัน แต่ว่า…… Anthony ตอนนี้พวกเราไม่มีวิธีเอาคืน ถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อไป มีแต่ทำให้พวกเราเสียหายมากขึ้นเท่านั้น”

อันซีหนีได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แล้วถอนหายใจออกมาเสียงดัง ๆ

Anthonyก็จนปัญญาที่จะพูดหว่านล้อมพี่ชายของตัวเอง จึงได้แต่ออกจากที่แห่งนี้ตามพวกเขาไปด้วยความอัปยศ

หลังจากที่อันซีหนีจากไปแล้ว เรียกได้ว่าสภาพของลี่หุยก็ห่อเหี่ยวมาก

การจากไปของฝ่ายนั้นเรียกได้ว่าจากไปอย่างไร้ร่องรอย เดิมทีลี่หุยคิดจะไปหาอันซีหนีเพื่อหารือกันว่าหลังจากนี้ควรทำอย่างไร เพราะเขาเองก็เสียหายหนักมาก แต่คิดไม่ถึงว่าอันซีหนีจะไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้ หนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เดิมทีคิดว่าได้พันธมิตรที่ถูกอกถูกใจมากที่ไหนได้จู่ ๆ กลับหนีไปกะทันหันอย่างนี้ เป็นใครก็รับไม่ได้ทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลี่หุยที่เดิมทีไม่ได้มีความสามารถโดดเด่นอะไร ก่อนหน้านี้เป็นเพราะคอยเกาะขาพึ่งพาคนอื่นทั้งนั้นถึงได้มีดีขึ้นมาสักหน่อย

“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเขาถึงหนีไปโดยไม่บอกอะไรสักคำ?”

ในห้องทำงาน ลี่หุยเดินไปเดินมาด้วยท่าทางร้อนใจ เพราะนึกไม่ถึงว่าอันซีหนีจะเป็นคนอย่างนี้ เดิมทีเขาคิดว่าด้วยนิสัยของอันซีหนี ต้องตอบโต้กลับแน่นอน

ตอนนี้อันซีหนีหนีไปแล้ว แล้วเขาจะมีปัญญาไปสู้กับลี่จุนถิง? สำหรับลี่หุยแล้วนี่คือข่าวร้ายมากที่สุดเลยล่ะ

เมื่อหมดหนทาง ลี่หุยจึงได้แต่ไปหาเคธี่หารือเรื่องแผนการที่จะรับมือ

“เคธี่ เธอว่าตอนนี้ควรทำยังไงดี? อันซีหนีกลับหนีไปโดยไม่บอกอะไรสักคำ!”

ลี่หุยแอบโทรศัพท์ไปหาเคธี่ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความร้อนใจ

สำหรับเรื่องนี้ เคธี่ก็รู้สึกคาดไม่ถึงอย่างมาก ถึงยังไงก่อนหน้านี้ลี่หุยก็ได้ให้คำมั่นสัญญาต่อหน้าเธอไว้ ว่าได้ร่วมมือกับอันซีหนีไว้ยังไงบ้าง ต้องจัดการเจียงหยุนเอ๋อไปให้พ้นทางได้อย่างแน่นอน

แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับแจ่มแจ้งอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว ถึงแม้เจียงหยุนเอ๋อต้องเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ยิ่งได้รับความสนใจจากลี่จุนถิง ทำให้เคธี่ได้แต่อิจฉาริษยามากขึ้นไปอีก

เคธี่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าลี่หุยจะพลาดโอกาสดี ๆ อย่างนี้ไปได้ ตอนนี้อันซีหนีก็หนีไปแล้ว จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเจียงหยุนเอ๋อครั้งนี้ทางฝ่ายลี่จุนถิงก็คงต้องเฝ้าระวังมากขึ้นไปอีก เธอไม่รู้เลยว่าต่อไปจะใช้วิธีไหนไปจัดการเจียงหยุนเอ๋อ

สามารถพูดได้ว่า ในสายตาของเคธี่ตอนนี้ ลี่หุยกลายเป็นคนไร้ประโยชน์ที่ไม่มีดีอะไรสักอย่างคนหนึ่ง

“ก่อนหน้านี้นายรับปากไว้อย่างดีไม่ใช่เหรอ บอกว่าต้องช่วยฉันกำจัดเจียงหยุนเอ๋อได้แน่? ข้อเสนอที่นายเอ่ยถึงพวกนั้น ฉันก็ทำให้นายได้ไม่ขาดตกบกพร่อง สุดท้ายนายกลับไม่มีปัญญาทำอย่างที่รับปากกับฉันไว้ได้เลย” เคธี่พูดเสียงขรึม

หน้าผากของลี่หุยมีเหงื่อตกเล็กน้อย ที่จริงเขาอยากให้เคธี่มีศัตรูคู่แค้นร่วมกันกับเขา แต่นึกไม่ถึงว่าเคธี่กลับคิดว่าอันซีหนีไม่ได้ทำผิดอะไร แล้วเอาแต่สงสัยตัวเอง

ก็จริง ยังไงตอนนี้อันซีหนีก็หนีไปแล้ว ต่อให้อยู่ที่นี่ แต่ด้วยอำนาจของอันซีหนี เคธี่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากอยู่ดี สุดท้ายคนที่เป็นแพะรับบาปก็มีแค่เขาลี่หุยคนเดียวเท่านั้น

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ลี่หุยก็รู้สึกไม่พอใจเคธี่ รู้สึกว่าเธอก็แค่อาศัยอำนาจและอิทธิพลของคนอื่นมารังแกคนอื่น

ทั้งสองคนได้แต่ต่างคนต่างคิดแล้ววางสายไป ที่จริงไม่ได้หารือเรื่องแผนการรับมืออะไรเลย อีกทั้งยังทำให้ลี่หุยยิ่งทุกข์ใจมากขึ้นไปอีก

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ในเมื่อก่อนหน้านี้รับปากเคธี่ไว้แล้ว ตอนนี้เคธี่ก็ได้ช่วยเหลือตัวเองมากมายขนาดนั้น เรื่องของเจียงหยุนเอ๋อ เขาต้องหาวิธีจัดการให้ได้แน่นอน

เพียงแต่ว่า หลังจากที่อันซีหนีหนีไปแล้ว ปัญหาพวกนี้ก็ยากมากขึ้นเยอะเลย

……

สำหรับเรื่องที่เจียงหยุนเอ๋อถูกอันซีหนีลักพาตัว ลี่จุนถิงให้ความสนใจมาตลอด หลังจากที่ให้คนไปสืบหาความจริงมาแล้ว ก็พบว่าที่แท้เป็นพ่อของตัวเองนั่นเอง ลี่เจี้ยนหวาโทรศัพท์เรียกให้เจียงหยุนเอ๋อออกไปหา

ถึงแม้ตอนนี้ลี่เจี้ยนหวายังไม่กลับบ้าน แต่ลี่จุนถิงก็มีวิธีหาที่อยู่ใหม่ของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่พูดพร่ำทำเพลงรีบไปหาลี่เจี้ยนหวาถึงที่

วินาทีที่เห็นลี่จุนถิงโผล่มา ลี่เจี้ยนหวาก็เข้าใจได้ทันทีว่าเขามาทำไม แต่เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เขายังคงแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“จุนถิงมาเหรอ”

สีหน้าท่าทางของลี่จุนถิงเย็นชามาก : “คุณน่าจะรู้ว่าที่ผมมาที่นี่เพราะอะไร ผมเห็นว่าคุณเป็นพ่อของผม ครั้งนี้ผมจะไม่สืบสวนอะไรมาก แต่ถ้ายังมีครั้งต่อไป ผมไม่มีทางปล่อยคุณไว้แน่”

คำพูดนี้ของลี่จุนถิงถึงแม้ฟังดูไม่รุนแรง แต่เมื่อฟังแล้ว ลี่เจี้ยนหวาถึงได้รู้ว่า การที่เขาบอกว่าไม่สืบสวนอะไรมากมาย ก็ถือว่าหนักหนาสำหรับลี่เจี้ยนหวาแล้ว