ตอนที่ 422 เรียกรวมพลด่วน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 422 เรียกรวมพลด่วน

หลูผิงลูบไปที่กล่องกำมะหยี่ แววตาซ่อนความแค้นเอาไว้ เขากล่าวขึ้นอย่างไม่รีบร้อนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แม่ทัพชราจ้าวของพวกเจ้าเคยใช้วิธีนี้กับท่านชายห้าของตระกูลไป๋ ทว่า ไม่ได้ข่าวอันใดจากปากของเขาเลย แต่สหายของกองทัพไป๋ทนถูกทรมานไม่ไหวจึงเผลอหลุดปากออกมา สุดท้ายเขาปลิดชีพตัวเองเพื่อไถ่โทษ มีเพียงคนเดียวที่ท่านชายห้าช่วยชีวิตเอาไว้ได้ วันนี้ข้าอยากจะเห็นเสียจริงว่ากระดูกของพวกเจ้าจะแข็งกว่ากองทัพไป๋ของพวกข้าหรือไม่!”

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ลงมาจากกำแพงเมือง หญิงสาวรู้สึกว่าจำนวนของทหารยอดฝีมือของกองทัพจ้าวผิดปกติ สงสัยว่าอาจมีคนรอสังเกตการณ์อยู่ด้านนอก หากทหารยอดฝีมือที่ลอบเข้ามาในเมืองหลงหยางไม่กลับออกไปตามเวลานัด คนที่สังเกตการณ์ต้องกลับไปรายงานที่ค่ายทหารของต้าเหลียงแน่นอน

เสิ่นชิงจู๋เดินทางมาถึงภูเขาชุนมู่ก่อนแล้ว นางสืบจนรู้วิธีการลงมือของแม่ทัพแต่ละคนของต้าเหลียงจนทะลุปรุโปร่ง แม่ทัพของกองทัพจ้าวที่มาในครั้งนี้นอกจากจ้าวถงแล้วยังมีจ้าวเซิ่งอีกคน

จ้าวเซิ่งเป็นคนรอบคอบ เขาไม่มีทางโง่ถึงขนาดให้คนเข้ามาในเมืองหลงหยางทั้งหมดโดยไม่เหลือคนสังเกตการณ์อยู่ด้านนอกแน่นอน

หวังสี่ผิงวิ่งขึ้นไปบนกำแพงเมืองอย่างรวดเร็ว กำหมัดคาราวะไป๋ชิงเหยียนซึ่งซ่อนตัวอยู่ในความมืดบนกำแพงเมือง “แม่ทัพไป๋ หลูผิงสอบสวนจนรู้ตำแหน่งคลังเสบียงของต้าเหลียงแล้วขอรับ เสบียงของพวกเขาไม่ได้อยู่ในค่ายทหารแต่ซ่อนอยู่เนินเว้าระหว่างภูเขาผูเหวินและค่ายทหารใหญ่ของพวกเขาซึ่งห่างออกไปไม่เกินสองลี้ขอรับ คนที่ข้าเลือกไว้เตรียมพร้อมแล้วขอรับ พร้อมออกเดินทางตลอดเวลา ข้าเดาว่าด้านนอกคงมีทหารสังเกตการณ์ของต้าเหลียงอยู่ เพื่อไม่ให้ทางนั้นรู้ตัว ข้าจึงเลือกทหารที่ดำน้ำเป็นขอรับ ทว่า แม่น้ำที่ทอดยาวจากเขื่อนไปนอกเมืองยาวเกินไป ทหารต้าจิ้นว่ายน้ำไม่แข็งมาก คงเลือกทางนั้นไม่ได้ ข้าจึงตัดสินใจจะให้พวกเขาอ้อมไปทางประตูทิศใต้แทนขอรับ”

สวินเทียนจางเป็นคนรอบคอบจริงๆ ด้วย

“เปิดประตูเมือง ออกทางประตูทิศเหนือนี่แหล่ะ ให้คนพาสุนัขล่าเนื้อตามออกไปทีหลังด้วย ค้นหาให้ทั่วทุกทิศ หากพบทหารต้าเหลียงที่จะกลับไปรายงานข่าวที่ค่ายต้าเหลียงให้ฆ่าทิ้งทันที!” ไป๋ชิงเหยียนหันไปมองหวังสี่ผิง “บอกทหารที่จะไปเผาคลังเสบียงของต้าเหลียงว่าหากทำสำเร็จให้หาทางจับทหารของฝ่ายศัตรูมาสอบถามว่าเกาอี้เซี่ยนจู่ถูกขังอยู่ที่ใดด้วย!”

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้ไม่เชื่อใจฝีมือการสอบสวนทหารกองทัพจ้าวของหลูผิง จ้าวอี้ปู่ของจ้าวถงเคยได้สมญานามเจ้าปีศาจแห่งการทรมานคน นางไม่เชื่อว่าทหารของกองทัพจ้าวสิบกว่าที่ถูกจับตัวมาจะกระดูกแข็งกันทุกคน

ให้คนของหวังสี่ผิงไปสอบถามอีกครั้งเพื่อต้องการพิสูจน์ว่าข่าวที่ได้รับเป็นความจริงหรือไม่

หวังสี่ผิงกำหมัดรับคำ “ขอรับ!”

ไป๋ชิงเหยียนหยิบธนูขึ้นมาหนึ่งดอก ใส่ไปในคันธนูเซ่อรื้อ แม้จะอยู่ในยามวิกาลที่มืดสนิท ทว่า หญิงสาวจ้องไปในความมืดนานแล้ว ดวงตาของนางคุ้นเคยกับมันเรียบร้อย หากมีความเคลื่อนไหวใดๆ เกิดขึ้นในความมืด หญิงสาวจะรับรู้ได้ทันที

ไม่นานประตูเมืองถูกเปิดออก สะพานแขวนถูกปล่อยลง ทหารจำนวนยี่สิบนายที่มีตู้ซานเป่าเป็นผู้นำขี่ม้าออกไปจากเมืองอย่างรวดเร็ว พวกเขาปลดชุดเกราะออก สวมเสื้อผ้าสบายๆ ถือเพียงคบไฟมุ่งหน้าไปยังค่ายทหารของต้าเหลียงอย่างรวดเร็ว

ทหารคนหนึ่งของกองทัพจ้าวเห็นเหตุการณ์จึงรีบหมอบลงกับพื้น กุมดาบที่เอวไว้แน่นด้วยความกระวนกระวาย สำรวจรอบด้านอย่างหวาดระแวง

จนเมื่อทหารต้าจิ้นขี่ม้าผ่านหน้าเขาไปด้วยความรวดเร็วจนหมด ทหารกองทัพจ้าวจึงค่อยๆ โผล่หน้าขึ้น หันไปมองทางเมืองหลงหยางนิ่ง สะพานแขวนยังอยู่ที่เดิม ประตูเมืองไม่ได้ถูกปิด ใจของเขากระตุกวูบ

ไม่นาน ภายในเมืองมีเสียงสุนัขดังแว่วออกมา เขายันเท้าข้างหนึ่งเพื่อหยัดกายขึ้นนั่งยองๆ เตรียมพร้อมถอยหนีทุกเมื่อ

เมื่อเห็นทหารต้าจิ้นถือคบไฟพลางจูงสุนัขเก้าตัวออกมาจากเมือง เขาจับดาบที่เอวแน่น ค่อยๆ ขยับถอยหลัง

ไป๋ชิงเหยียนกวาดสายตาสำรวจไปในความมืดตลอดเวลา หญิงสาวเห็นเงาๆ หนึ่งกำลังย่องถอยหลังอยู่ในมุมมืด นางง้างสายธนูเต็มเหนี่ยว ธนูแหลมคมเล็งไปยังร่างที่กำลังเคลื่อนไหวไปทางด้านหลังนิ่ง

พลธนูที่ยืนอยู่บนกำแพงกับไป๋ชิงเหยียน เล็งธนูไปยังทิศทางเดียวกันกับไป๋ชิงเหยียนอย่างพร้อมเพรียง

“ยิง!”

สิ้นคำสั่งของไป๋ชิงเหยียน เสียงลูกธนูมากมายลอยผ่านอากาศพุ่งตรงไปยังร่างของทหารของกองทัพจ้าวผู้นั้นราวกับปลิง

ทหารกองทัพจ้าวที่กำลังถอยหลังไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงลมจึงเงยหน้าขึ้นมอง ลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งเข้าใส่ดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความหวาดกลัวของเขา

เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นกลางอากาศ ทหาต้าจิ้นที่เดินผ่านสะพานแขวนออกมารีบปล่อยตัวสุนัขล่าเนื้อทันที สุนัขเก้าตัววิ่งตรงไปทางต้นเสียง ทหารต้าจิ้นวิ่งตามไปติดๆ

ไม่นาน ร่างของทหารกองทัพจ้าวที่ถูกธนูแทงจนพรุนไปทั้งร่างถูกทหารต้าจิ้นลากเข้าไปในเมือง

แม้กระทั่งม้าที่ทหารต้าเหลียงเหล่านั้นขี่มาก็ถูกสุนัขล่าเนื้อหาจนพบ ทหารต้าจิ้นจูงม้าเหล่านั้นเข้าไปในเมือง

“มีคนจริงๆ ด้วย!” หวังสี่ผิงมองดูทหารต้าเหลียงและม้าอีกสิบสี่ตัวตรงหน้าพลางถอนหายใจออกมา

สายตาของไป๋ชิงเหยียนหยุดอยู่ที่ม้าสีดำทั้งสิบสี่ตัวตรงหน้า หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้จากนั้นยกมือลูบแผงคอของม้าอย่างแผ่วเบา ในใจกระจ่างแจ้งทันที

มิน่าเซียวหรงเหยี่ยนจึงบอกกับนางอย่างมั่นใจว่าต้าเหลียงจะเปิดศึกกับต้าจิ้นอย่างแน่นอน

ต้าเยี่ยนรับปากนำทัพไปช่วยเป่ยหรง ดังนั้นพวกเขาจึงเสนอให้เป่ยหรงมอบม้าแรงดีให้ต้าเหลียงเพื่อให้ต้าเหลียงกล้าเปิดศึกกับต้าจิ้น

ส่วนเป่ยหรงต้องการความช่วยเหลือจากต้าเยี่ยน ทว่า กลัวต้าจิ้นลอบแทงข้างหลัง ดังนั้นลากต้าจิ้นเข้าไปในสงครามจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เป่ยหรงย่อมยอมรับข้อเสนอนี้

ส่วนต้าเหลียง เมื่อมีทั้งกำลังทหารและม้าดี อีกทั้งเจิ้นกั๋วอ๋องและบุรุษของตระกูลไป๋ล้วนเสียชีวิตอยู่ในสนามรบที่หนานเจียงหมดแล้ว หรงตี๋กำลังทำสงครามภายในแคว้น ต้าเยี่ยนเคลื่อนทัพไปช่วยเหลือ ต้าเหลียงมีโอกาสยึดเมืองที่เคยเสียไปคืนอีกทั้งได้ผลประโยชน์อื่นจากสงครามครั้งนี้ ต้าเหลียงจะไม่ตกลงได้อย่างไรกัน

เซียวหรงเหยี่ยนคำนวณทุกอย่างได้อย่างแม่นยำมาก

“สำรวจทั่วแล้วหรือไม่ มีแค่คนเดียวแน่นะ” ไป๋ชิงเหยียนมองไปทางร่างของทหารต้าเหลียงที่เต็มไปด้วยลูกธนู เอ่ยถามขึ้น

“ข้าสำรวจอย่างละเอียดแล้วขอรับ ตรวจสอบแม้กระทั่งรอยเท้าของม้า ทั้งหมดมีเพียงสิบสี่ตัวเท่านั้น ล้วนอยู่ที่นี่หมดแล้วขอรับ” หวังสี่ผิงกล่าวอย่างนอบน้อม

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ลำบากทุกคนแล้ว ไปพักผ่อนเถิด!”

เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนขึ้นไปบนหลังม้า ทว่า ไม่ได้จะกลับไปยังค่ายทหาร หวังสี่ผิงจึงก้าวไปด้านหน้าเพื่อสอบถาม “แม่ทัพไป๋ไม่กลับค่ายทหารหรือขอรับ”

“ข้าจะไปที่คุกสักหน่อย” ไป๋ชิงเหยียนรับแส้ม้าสีดำมาจากมือของทหารต้าจิ้น

“แม่ทัพไป๋ควรพักผ่อนสักหน่อยนะขอรับ ตั้งแต่มาถึงเมืองหลงหยางท่านยังไม่ได้พักผ่อนเลย เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ขอรับ” หวังสี่ผิงโน้มน้าว

“มิเป็นอันใด ข้ารู้ขอบเขตดี!”

ไป๋ชิงเหยียนยังไม่ทันขี่ม้าจากไป ลูกน้องของหวังสี่ผิงก็ขี่ม้าเร็วเข้ามารายงาน

“รายงาน! แม่ทัพไป๋ แม่ทัพหวัง แม่ทัพใหญ่หลิวหงนำราชโองการของฮ่องเต้เดินทางเข้ามาทางประตูทิศเหนือแล้วขอรับ เขาเรียกรวมแม่ทัพทุกคนในเมืองหลงหยางไปที่สนามฝึกซ้อมเดี๋ยวนี้ขอรับ!”

ครั้งนี้ฮ่องเต้แต่งตั้งให้แม่ทัพหลิวหงเป็นแม่ทัพใหญ่ ก่อนออกเดินทาง ฮ่องเต้เรียกหลิวหงไปพบเป็นการส่วนตัว กำชับว่าหากไม่ใช้งานไป๋ชิงเหยียนได้ก็อย่าใช้นาง พยายามกดนางไว้ให้ได้มากที่สุด

ประการแรก แคว้นอื่นจะได้ไม่คิดว่าบุรุษของแคว้นต้าจิ้นไร้ประโยชน์ ต้องพึ่งพาสตรีเพียงคนเดียวเพื่อให้ได้รับชัยชนะ