บทที่ 478 สถานเริงรมย์

เว่ยฉิงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาในหัวใจ มุมปากของเขาโค้งขึ้นจากนั้นจึงรีบหุบยิ้มลง เขาส่งเสียงรับในลำคอ

“แค่ดุหรือ?”

“มากกว่านั้น สามีข้าหน้าตาดี มีความสามารถ เก่งกาจเรื่องการต่อสู้ที่สำคัญคือข้ารักเขา ไม่มีใครดึงดูดสายตาของข้าได้นอกจากเขา!” ถังหลี่ไม่ลังเลที่จะเอ่ยชมเขา

ใบหน้าของเว่ยฉิงแดงขึ้น จนไม่อาจซ่อนความเขินอายได้

“ถ้าเขาดีจริง เจ้าต้องรักเขาให้มาก” เว่ยฉิงพูด

“แน่นอน เพราะเขาคือสมบัติล้ำค่า”

จู่ๆ ถังหลี่ก็เดินเข้ามาหา เมื่อถูกเยินยอเช่นนี้เว่ยฉิงก็ไม่อาจจะกลั้นยิ้มเอาไว้ได้ รอยยิ้มของเขาฉีกขึ้นจนแทบจะถึงหู

ถังหลี่มองสามีของนาง รู้สึกขบขัน ทำไมเขาน่ารักได้ถึงเพียงนี้ ?

หลังจากพูดคุยกัน ทั้งสองคนก็เข้าไปอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด จากนั้นจึงไปกินอาหาร

พวกเขาเดินทางโดยไม่ได้หยุดพัก จนกระทั่งมาถึงถึงโรงเตี๊ยม หลังจากกินอาหารแล้วจึงได้นอนกอดกันงีบหลับไป กว่าจะตื่นมาอีกครั้งก็เป็นเวลาเย็น สามีภรรยาไปกินมื้อเย็นแล้วจึงไปเดินซื้อของที่ตลาด

เมืองหลันซีในยามค่ำมีชีวิตชีวามากกว่าเมืองอี้โจว สองข้างทางมีโคมไฟแขวนไว้ มีร้านค้าเปิดมากมาย ผู้คนในตลาดทั้งกลุ่มสตรี เด็กๆ และคู่รักหลายคู่ ก็เดินกันขวักไขว่ ร้านรวงเต็มไปด้วยผู้คนล้นหลาม

เว่ยฉิงและถังหลี่เดินจับมือกัน บางครั้งเห็นอะไรแปลกๆ พวกเขาก็จะพากันหยุดมอง ทั้งสองคนเดินเที่ยวไปรอบๆ แล้วจึงได้กลับไปยังโรงเตี๊ยม

“เหนื่อยไหม?” ชายหนุ่มถาม

“ไม่เหนื่อย” ถังหลี่ส่ายศีรษะ

“ข้าจะพาไปที่สนุกๆ แห่งหนึ่ง” เว่ยฉิงพูด

“ที่ไหนหรือ?” ถังหลี่อยากรู้อยากเห็นทันที

“ข้าไม่แน่ใจแต่มีคนรู้” เว่ยฉิงทำท่าทีลับลมคมใน ทั้งคู่เดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม

เว่ยฉิงพาไปพบกับเจ้าของโรงเตี๊ยม

“ขอให้เถ้าแก่มีความสุข…”

เถ้าแก่มองเว่ยฉิง เขาจึงพูดต่อว่า

“เหมือนดั่งเมฆหมอกที่ล่องลอย”

เถ้าแก่พูดตอบ

“บ่อเงินบ่อทอง”

“ความฝันของผู้กล้า” เว่ยฉิงพูดต่อ

ถังหลี่มองดูทั้งสองคนแลกเปลี่ยนข้อความลับกัน นางเริ่มสงสัยเกี่ยวกับสถานที่ลับแห่งนี้

“พวกท่านตามข้ามา” เถ้าแก่ร้านพูด เขาพาเว่ยฉิงและถังหลี่ที่ถูกปิดตาไว้ไปที่ด้านหลังร้าน คนสองคนจูงมือถังหลี่ คนหนึ่งเป็นคนแปลกหน้า ส่วนอีกคนหนึ่งคือสามีของนาง เว่ยฉิงจับมือของภรรยาไว้แน่น ทำให้ถังหลี่รู้สึกปลอดภัย

นางถูกนำทางไปยังเส้นทางลับ โรงเตี๊ยมแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่แต่มีสถานที่ลับเหมือนโลกอีกใบซ่อนอยู่

ถังหลี่เดินเป็นเวลานาน นางขึ้นและลงบันไดประมาณครึ่งชั่วยามก่อนจะหยุด เมื่อผ้าดำถูกปลดออกนางก็เห็นสามีของตัวเอง ถังหลี่มองไปรอบๆ ก็พบว่าพวกเขายืนอยู่หน้าประตูและมีเสียงที่ดังมาจากด้านใน

“ข้างใน…”

“เข้าไปดูสิ” เว่ยฉิงบอก

เขาจับมือถังหลี่ผลักประตูเข้าไป ด้านในเป็นทางเดินมีคนเข้าออกไม่ขาดสาย ใครบางคนเกือบชนถังหลี่แต่เว่ยฉิงดึงให้หลบไปได้ นางเข้าไปซุกในอ้อมแขนของสามี เขาโอบถังหลี่ไว้พาเดินเข้าไป สุดทางเดินเป็นห้องโถงมีโต๊ะหลายโต๊ะ ผู้คนมากมายล้อมรอบ

ในที่สุดถังหลี่ก็เข้าใจว่าที่นี่คือบ่อนใต้ดิน สถานที่สนุกๆ ของเว่ยฉิงก็คือบ่อนนี่เอง เป็นครั้งแรกที่ถังหลี่ได้มาในที่แบบนี้ นางสอดสายตาดูไปทั่วอย่างแปลกหูแปลกตา

ทันใดนั้นถังหลี่สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองตนเอง นางเงยหน้าขึ้น มองไปที่ทางเดินชั้นสอง แต่กลับไม่เห็นใคร

คิดไปเองหรือ?

“ฮูหยิน” เว่ยฉิงเรียกนางว่าฮูหยินอย่างไม่รู้ตัวก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าถังหลี่แต่งกายด้วยชุดบุรุษ เขาจึงเปลี่ยนคำเรียกทันที

“น้องชาย?”

“ไม่มีอะไร” ถังหลี่รู้สึกตัวจากนั้นทั้งสองคนจึงได้เบียดเข้าไปในฝูงชน

ที่ทางเดินด้านบนชายผู้หนึ่งสวมหน้ากากเห็นแค่ดวงตาดอกท้อที่สวยงาม ดูฉลาดเฉลียว สายตาของเขาจับจ้องไปที่ถังหลี่อีกครั้ง มุมปากของเขายกโค้งขึ้น

ถังหลี่และเว่ยฉิงเบียดเข้าไปที่โต๊ะเพื่อดูว่าเขาเล่นพนันกันอย่างไร ในบ่อนแห่งนี้มีการพนันหลายอย่าง แต่ละโต๊ะจะเล่นพนันแตกต่างกันออกไป ถังหลี่สนใจผายโกวมาก นางจึงลากเว่ยฉิงไปดูหลังจากดูไป สักพักนางก็เริ่มเข้าใจการเล่นของผายโกว

แต่ละคนจะได้รับไพ่สี่ใบหรือสองคู่ โดยคว่ำหน้าแต้มไว้ ไพ่เล็กลงก่อนแล้วตามด้วยไพ่ใหญ่ จากนั้นก็เทียบแต้มกับของเจ้ามือ หากไพ่ทั้งสองคู่มีแต้มสูงกว่าเจ้ามือจึงจะนับได้ว่าชนะ

รูปแบบการเล่นเช่นนี้ไม่เพียงแต่ต้องอาศัยโชคเท่านั้นแต่ยังต้องมีจิตวิทยาในการคาดเดาฝ่ายตรงข้ามอีกด้วยซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก

“พี่ชายมาเล่นไพ่กันเถอะ” ถังหลี่พูด

“ตามใจน้องชาย” เว่ยฉิงตอบ

ทั้งสองคนหน้าตาหล่อเหลา เรียกความสนใจจากคนรอบข้างได้ทันที ผู้คนรู้สึกว่าพี่น้องสองคนนี้ดูแปลก น้ำเสียงของคนที่ตัวสูงกว่าฟังดูไม่เหมือนเวลาคุยกับพี่น้องเลย

เว่ยฉิงเล่นไปสองรอบ เขาเอาชนะได้ทั้งสองรอบ

ถังหลี่ยืนมองจากด้านข้าง สามีของนางเป็นคนชนะได้ไม่ใช่เพราะโชคช่วย แต่เป็นเพราะไพ่ทั้งสี่ใบนั้นดีมาก สามีของนางฉลาดจริงๆ!

เว่ยฉิงเล่นอีกสองสามรอบ เขาเอาชนะได้ทุกรอบ ตรงหน้าเขามีเหรียญพนันมากมายกองอยู่ ทำให้ผู้คนต่างกันชื่นชมเขา

“ข้าขอท้าเจ้าสักสองตา” มีเสียงคนผู้หนึ่งดังขึ้น

ถังหลี่หันหน้าไปมอง เป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆ แต่งกายหรูหรา ที่ด้านหลังของเขามีบ่าวรับใช้ที่ดูตัวใหญ่และแข็งแรง

เมื่อถังหลี่มองเขา สายตาของเขาจับจ้องนาง หญิงสาวหรี่ตาขมวดคิ้ว แววตาดูน่ารังเกียจ ตอนนี้นางดูเหมือนเด็กหนุ่ม หรือว่าคนผู้นี้…เป็นพวกตัดแขนเสื้อหรือ?

เว่ยฉิงเดินไปยืนที่ด้านหน้าถังหลี่ ปิดกั้นไม่ให้คนผู้นั้นมองภรรยาของเขา

“คุณชายหยาง!”

“คุณชายหยางเป็นคนที่เล่นผายโกวเก่งที่สุด!”

“ผู้ชายคนนี้ก็เช่นกัน คุณชายหยางเองก็มีฝีมือ นับว่าเป็นการแข่งขันที่ดี”

“คุณชายหยางไม่เคยพ่ายแพ้มาก่อน คนผู้นี้จะเอาชนะเขาได้หรือ?”

คนเหล่านั้นต่างหลีกทางให้แก่คุณชายหยาง แม้แต่เจ้ามือเองก็ออกจากตำแหน่งที่เล่นมอบตำแหน่งที่นั่งให้แก่คุณชายหยาง เขานั่งลง ท่ามกลางเสียงเยินยอชื่นชมของคนรอบข้างเห็นได้ชัดว่าคุณชายหยางผู้นี้ไม่ธรรมดา

“บุตรชายของเจ้าเมืองเหลียงโจว” เว่ยฉิงกระซิบที่ข้างหูถังหลี่

เจ้าเมืองเหลียงโจวเป็นผู้ควบคุมกำลังทหารของเหลียงโจว สถานะของคุณชายหยางจึงไม่ธรรมดา คุณชายหยางมองเว่ยฉิง

“หนึ่งรอบเท่านั้น หากข้าชนะ เขาจะเป็นของข้า” คุณชายหยางชี้ไปที่ถังหลี่ด้วยสายตาโลภตัณหา

ผู้คนที่ยืนอยู่เข้าใจได้ทันทีว่าเหตุใดคุณชายหยางจึงต้องการแข่งกับชายแปลกหน้าผู้นี้ เพราะเขาปรารถนาในตัวเด็กหนุ่มคนนี้นั่นเอง

สายตาที่มองไปยังถังหลี่จึงเต็มไปด้วยตวามเห็นใจ