บทที่ 354 ชอบ

ความรู้สึกแปลกประหลาดแล่นริ้วไปทั่วอกของกู้เจียว นางรู้สึกเหมือนว่าดวงใจของตัวเองกำลังพองโต อุ่นซ่านไปทั้งทรวง จากนั้นก็เริ่มเจ็บแปลบขึ้นมา

นางไม่เคยรับมือกับความรู้สึกแสนรุนแรงและซับซ้อนเช่นนี้มาก่อน ทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะ

‘ชุดสวยจังเลย ทำให้ใครรึ’

‘ชุดนี้เป็นของท่านพี่จิ่นอวี๋เขาน่ะ’

‘ทำไมต้องทำชุดสวยๆ ให้นางด้วย แล้วของเจียวเจียวเล่า’

บทสนทนาของเด็กน้อยและแม่นางเหยาแวบเข้ามาในหัวของกู้เจียว

ใช่ว่านางไม่ได้ยิน เพียงแต่นางไม่เก็บมาใส่ใจ

แต่เด็กน้อยคนนี้เก็บเอามาคิดอย่างนั้นหรือ

เขาปวดใจที่เห็นคนอื่นมีชุดแต่งงานแต่นางไม่มีอย่างนั้นหรือ

นาง…

อันที่จริงนางไม่เคยคิดถึงเรื่องชุดแต่งงานมาก่อนเลย…

นางแต่งงานออกเรือนแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีชุดเจ้าสาวอีกต่อไป ถึงแม้ว่าความเป็นจริงนางเองก็ไม่เคยสวมมันก็ตาม

บนโลกนี้ไม่มีใครคิดว่านางต้องการชุดแต่งงาน

เว้นเสียแต่ก็เด็กน้อยที่ไร้เดียงสาคนนี้ เด็กน้อยที่ต้องการมอบสิ่งที่งดงามที่สุดบนโลกนี้ให้แก่นาง เพื่อจะซื้อชุดแต่งงานผืนงามให้นาง เขาถึงกับยอมขายเจ้าทองสุดที่รักของตัวเอง

น้อยนักที่นางจะร้องขอสิ่งใดจากใคร อาจเป็นเพราะความสิ้นหวังในวัยเด็ก พอเติบใหญ่ขึ้นก็เริ่มหยุดคาดหวังกับทุกสิ่งเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดหวัง

นี่คือวิธีจัดการความรู้สึกของนาง

นางค้นพบแล้วว่าการใช้ชีวิตเช่นนั้นทำให้จิตใจสงบสุข

ทว่าเสี่ยวจิ้งคงเอ๋ย หากเจ้าทำเช่นนั้น จะทำให้ข้าเคยตัวเอานะ

กู้เจียวจ้องมองเขา พูดไม่ออกเลยสักคำ

เสี่ยวจิ้งคงคิดว่านางโกรธ กุ้มหน้างุด กำนิ้วมือป้อมของตัวเอง พลางเอ่ยอย่างกระวนกระวาย “เจียวเจียวไม่โกรธได้หรือไม่ วันหน้าข้าจะหาเงินแล้วซื้อเจ้าทองกลับมา”

เขาแค่อยากจะทำให้เจียวเจียวประหลาดใจ จึงไม่ขอเงินจากเจียวเจียว

แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเจียวเจียวจะจับได้ว่าเขาขายเจ้าทอง

ปวดใจเหลือเกิน

ปวดใจเสียยิ่งกว่าเสียเจ้าทองไปเสียอีก

เขาไม่อยากให้เจียวเจียวเกลียดเขา

องครักษ์ชุดเทาไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะได้เห็นภาพนี้ของเด็กน้อยที่ตนเองจับตามองอยู่ เขากับท่านชายเองก็เคยสงสัยว่า เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ต้องการเงินมากมายขนาดนั้นไปเพื่ออะไร ใครจะไปคาดคิดกันว่าเขาจะซื้อชุดแต่งงานให้เด็กสาวผู้นี้

เฝ้าจับตามองเจ้าเณรน้อยมาก็นาน องครักษ์ชุดเทาย่อมสืบข่าวมาได้บ้าง เณรน้อยนามว่าจิ้งคง มาจากวัดเล็กๆ แสนห่างไกลในเมืองโยวโจว เมื่อประมาณหนึ่งปีก่อนมีคนรับอุปการะเขา จากนั้นก็ลาสิกขาแล้วลงจากเขา

เด็กสาวผู้นี้คงจะเป็นครอบครัวของเจ้าเณรน้อยในตอนนี้

คิดไม่ถึงเลยเชียวว่าเจ้าเณรน้อยจะใส่ใจผู้อื่นเป็นกับเขาด้วย

แปลกจริง ลูกศิษย์ที่เก่งกาจขนาดนี้กลับถูกปล่อยปะละเลย ทั้งยังให้คนอื่นรับไปเลี้ยงดูอีก เพราะเหตุใดกันนะ

เขาไม่กลัวว่าคนอื่นจะโหดร้ายทารุณกับเด็กคนนี้หรือ

แต่พอมาดูแล้วเจ้าเด็กน้อยนี่ก็ขาวจั๊วะจ้ำม่ำ เสื้อผ้าอาภรณ์ก็สะอาดเรียบร้อย เห็นได้ชัดว่าได้รับการเลี้ยงดูมาอย่างดี

ความเจ็บปวดตามร่างกายขององครักษ์ชุดเทาคลายลงไปเสียที เมื่อครู่ถูกระเบิดเข้าอย่างจัง จนผมเขาไหม้แหว่งไปกระจุกหนึ่ง

เขาใช้มือค้ำกำแพงแล้วพยุงร่างยืนขึ้น มืออีกข้างหนึ่งคลำเส้นผมที่แหว่งเป็นดวง ก่อนจะกัดฟันเอ่ยถามกู้เจียว “นี่ เมื่อครู่เจ้าใช้อาวุธอะไรกัน”

กู้เจียวเหลียวกลับไปมองเขา ก่อนจะถามเสียเรียบ “แล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้า”

องครักษ์ชุดเทา “…”

นางเด็กนี่ย้อนคำเขาเมื่อครู่อย่างนั้นรึ

องครักษ์ชุดเทาเอ่ย “ข้าไม่ได้ขโมยไม่ได้จี้ปล้น แต่ต้องมาเจ็บตัวเพราะเจ้าโดยใช่เหตุ เจ้าไม่รู้สึกผิดสักนิดเลยหรือไร”

กู้เจียวเอ่ย “พวกเจ้าซื้อของจากเด็กน้อย ทั้งยังทำท่าทางลับๆ ล่อๆ จับตามองดูเขาอีก เจ้าไม่คิดว่าตัวเองสมควรจะเจ็บตัวหรือไร”

ฟังดูก็มีเหตุผล…องครักษ์ชุดเทาจุกไม่น้อย

กู้เจียวไม่เคยยั้งมือกับคนพวกนี้อยู่แล้ว อย่าว่าแต่ซื้อขายกันอย่างเป็นธรรมเลย ตั้งแต่ที่พวกเขาสะกดรอยตามเสี่ยวจิ้งคง ก็รู้ได้ในทันทีแล้วว่าเจตนาไม่บริสุทธิ์

เพียงแต่อยู่ต่อหน้าเด็กน้อยแบบนี้ นางไม่อยากลงไม้ลงมือ

กู้เจียวเก็บลูกคิดทองคำขึ้นมา “ยังไม่ไปอีก อยากเจ็บตัวอีกหรือไร”

องครักษ์ชุดเทาพยายามยืนให้มั่น รู้ดีแก่ใจว่าตนเองสู้นางไม่ไหว จึงจากไปแต่โดยดี

เสี่ยวจิ้งคงก้มหน้า กำชายเสื้อตัวเองไว้แน่น “เจียวเจียว หากเจ้าไม่ชอบ ข้าจะ…”

คำตอบที่เขาได้รับคืออ้อมกอดอันแสนอบอุ่น

เขาชะงักไป กะพริบปริบๆ แพขาตาขยับไหว “เจียวเจียว”

“ชอบสิ” กู้เจียวกอดเด็กน้อยไว้แน่น สูดกลิ่นลมหายใจร้อนกรุ่นและกลิ่นนมจางๆ จากตัวเขา “ข้าชอบมาก ขอบคุณจิ้งคงนัก”

ดวงใจที่วูบโหวงของเสี่ยวจิ้งคงก็กลับมาพองโตอีกครั้ง ศีรษะน้อยของเข้าซุกเข้าหาอ้อมกอดของกู้เจียว

เจียวเจียวชอบของขวัญจากเขา

ดีเสียจริง

กู้เจียวลูกศีรษะน้อยๆ ของเขา แล้ววางลูกคิดทองคำลงบนฝ่ามืออีกฝ่าย “จากนี้ไปอย่าขายเจ้าสิ่งนี้อีกเลย มันสวยขนาดนี้ ข้าเองก็ทำใจไม่ลง”

“อื้อ!” เขาพยักหน้า

เจ้าทองกลับมาแล้ว

ดีจังเลย

ผู้ใหญ่หนึ่งคนกับเด็กอีกหนึ่งคนกลับบ้านอย่างอิ่มเอมใจ

องครักษ์ชุดเทากลับมายังเรือนที่พวกเขาพักอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราว เดิมทีพวกเขาพักอยู่ที่โรงเตี๊ยม ต่อมาท่านชายของเขารู้สึกว่าที่โรงเตี๊ยมนั้นคนเยอะแสนวุ่นวาย จึงหานายหน้าเช่าเรือนหลังหนึ่งใกล้กับตรอกปี้สุ่ย

เรือนหลังนี้อยู่ในตรอกเล็กๆ แห่งหนึ่งของสุดสายถนนฉังอาน

เขาเลือกเรือนหลังนี้ด้วยเหตุผลประการแรกคือสะอาด ประการที่สองคือระยะทางใกล้ เหมาะแก่การจับตาดูเสี่ยวจิ้งคง

แต่ดูเหมือนว่าวันนี้จะไม่ราบรื่นนัก

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ชายที่เคยเรียกตนเองว่าท่านชายหมิงต่อหน้าเสี่ยวจิ้งคงกำลังมององครักษ์ชุดเทาสภาพสะบักสะบอม ผมเผ้ายุ่งเหยิง ก่อนจะขมวดคิ้วเอ่ยต่อ “เหตุใดเจ้าถึงได้มอมแมมไปทั้งตัวเช่นนี้ อีกอย่าง เหตุใดหัวเจ้าถึงได้ล้านเล่า”

องครักษ์ชุดเทารีบกุมผมที่แหว่งเป็นดวงของตัวเองก่อนจะเอ่ยเสียงหงุดหงิด “ท่านชายยังจะถามอีกหรือ หากไม่ใช่เพราะท่านสั่งให้จับตามองเจ้าเณรน้อยนั่น ข้าคงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้”

ชายหนุ่มว่าเครื่องหอมที่ปรุงไปได้เพียงครึ่ง ก่อนจะส่งเสียงเย้ยหยัน “ยังมีหน้ามาตัดพ้ออีก ที่ผ่านมาข้าคงให้ท้ายเจ้าจนเคยตัว เจ้าเป็นองครักษ์ แต่ไม่ช่ำชองในวิชา ฝีมือสู้คนเขาไม่ได้ แต่กลับมาโทษข้าอย่างนั้นหรือ!”

องครักษ์ชุดเทาหน้าเจื่อน

ชายหนุ่มปรุงเครื่องหอมต่อ “เกิดอะไรขึ้นล่ะ ถูกจับได้อย่างนั้นรึ”

“ขอรับ เด็กสาวที่ดูแลเจ้าเณรน้อยนั้นฝีมือเก่งกาจนัก ไม่รู้ว่าใช้อาวุธอะไร คิดไม่ถึงเลยว่าจะ…” องครักษ์ชุดเทาเอ่ยออกท่าออกทาง “คิดไม่ถึงเลยว่าจะระเบิดได้! เหมือนไผ่ประทัดไม่มีผิด!”

เรียวคิ้วได้รูปของเขาขมวดเข้าหากัน “ระเบิดได้อย่างนั้นรึ ไผ่ประทัดรึ”

องครักษ์ชุดเทาส่ายหน้า “ไม่ใช้ไผ่ประทัด”

ไผ่ประทัดคือไม้ไผ่ หากนำไปเผาไฟจะส่งเสียงโป้งป้างเหมือนกับระเบิด ถึงได้เรียกได้ว่าไผ่ประทัด

“ไอ้หยา ข้าเองก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ข้ามองเห็นไม่ชัด! นึกว่าลูกดอกเสียอีก ก็เลยชักมีดสั้นออกมากันไว้ กลับกลายเป็นว่า…” เขาคลำศีรษะที่เส้นผมหายไปเป็นด่างดวง “ข้าก็กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว”

มือไม้ที่กำลังปรุงเครื่องหอมของชายหนุ่มชะงักไป เขานิ่งไปครู่หนึ่งราวกับกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “หรือว่าจะเป็นลูกแก้วเพลิงดำ”

องครักษ์ชุดเทาถามอย่างสงสัย “อะไรคือลูกแก้วเพลิงดำหรือขอรับท่านชาย”

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเนิบ “เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของแคว้นเยียน ลักษณะเดียวกับที่เจ้าอธิบายเมื่อครู่ ได้ยินมาว่าอาวุธชนิดนี้ทำมาจากกำมะถัน ฤทธิ์ร้ายแรงยิ่งกว่าลูกดอก หากสัมผัสโดนแล้วห้ามโต้กลับ ต้องหลบเลี่ยงเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะถูกระเบิดจนเละไม่มีชิ้นดีแน่นอน”

“กำมะถันอย่างนั้นหรือ” องครักษ์ชุดเทานึกออกในทันที “ไม่ผิดแน่ ไม่ผิดแน่! นั่นคือกลิ่นกำมะถันจริงๆ!”

หลังจากนั้นชายหนุ่มก็ส่ายหน้า “คงไม่ใช่แค่กำมะถันหรอก ข้าเองก็เคยใช้กำมะถัน แต่ทำออกมาไม่สำเร็จ”

องครักษชุดเทาสงสัย “หากพูดเช่นนั้น แปลว่าเด็กผู้นั้นเป็นคนแคว้นเยียนหรือขอรับ”

ชายหนุ่มยิ้มบาง “เจ้ารู้หรือไม่อาวุธนั้นใช้เฉพาะในหมู่ราชนิกูลของแคว้นเยี่ยนเท่านั้น”

“ว่าอย่างไรนะขอรับ!”

ท่านชายเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “แต่ก็นะ อาจเป็นไปได้ว่าคนผู้นั้นให้มา ในเมื่อแม้แต่ตำราหลวงของแคว้นเยียนยังเอาไปได้ นับประสาอะไรกับลูกแก้วเพลิงดำ”

องครักษ์ชุดเทาพยักหน้า “หากพูดเช่นนั้นก็เป็นไปได้อย่างที่ว่าจริงๆ ขอรับ”

ชายหนุ่มเอ่ยพลางหัวเราะ “แล้วจะเป็นอย่างไรไปได้อีกเล่า เจ้าคิดว่านางทำขึ้นมาเองอย่างนั้นหรือ หรือว่านางมีความสัมพันธ์กับราชวงศ์แคว้นเยียน”

องครักษ์ชุดเทาคิดว่าเป็นไปไม่ได้ทั้งสองอย่าง

สิ่งที่ท่านชายของเขาประดิษฐ์ขึ้นมาไม่ได้ แล้วเด็กสาวผู้นั้นจะทำขึ้นมาได้อย่างไร ส่วนเรื่องความสัมพันธ์กับราชวงศ์แคว้นเยี่ยนน่ะหรือ เลิกฝันเถอะ แคว้นต่ำต้อยที่แม้แต่ขุนนางแคว้นเยี่ยนยังไม่เหลียวแลอย่างแคว้นเจา แล้วคนอย่างนางจะข้องเกี่ยวกับราชวงศ์ได้อย่างไร

องครักษ์ชุดเทาถาม “เช่นนั้นจะให้ข้าจับตามองที่ตรอกปี้สุ่ยต่อไปหรือไม่ ท่านชาย”

ชายหนุ่มเหลือบตามองเขา เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นัก “เจ้าถูกจับได้แล้ว พักนี้ยังไม่ต้องโผล่หน้าไปก็แล้วกัน”

องครักษ์ชุดเทา “ขอรับ”

แต่ทำไมของถึงอยากไปเสียอย่างนั้น

อยากเห็นลูกแก้วเพลิงดำอีกครั้ง แม้ถูกระเบิดก็ไม่เป็นไร

หลังจากกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวจิ้งคงก็อยากให้กู้เจียวลองสวมชุดใหม่ที่ตนซื้อให้เสียเดี๋ยวนั้น

กู้เจียวคิดไปคิดมา สุดท้ายก็ถามเขาอออกไปว่ารู้หรือไม่ว่าสิ่งที่ตนเองซื้อมาคืออะไร

“ก็ชุดสวยน่ะสิ!” เสี่ยวจิ้งคงตอบ

ดูท่าแล้วคงไม่รู้ว่าคือชุดแต่งงานสินะ

กู้เจียวอธิบายกับเขาในที่สุด “นี่คือชุดแต่งงาน ใช้สวมตอนพิธีแต่งงานเท่านั้น”

“เอ๊ะ” เสี่ยวจิ้งคงชะงักไป เขายกมือป้อมสองข้างขึ้นมาแล้วกุมศีรษะน้อยของตัวเองไว้ “เจียวเจียวแต่งงานกับพี่เขยแล้ว แปลว่าเจียวเจียวใส่ชุดนี้ไม่ได้แล้วหรือ”

เหมือนจะ…ใช่อย่างที่พูด

“ไม่เป็นไร!” เสี่ยวจิ้งคงยืดอกน้อยของตัวเอง แล้วทุบอย่างมาดมั่น “เจียวเจียวแต่งงานกับข้าอีกครั้งก็ได้!”

กู้เจียวถึงกับขำออกมา “เป็นเด็กยังแต่งงานไม่ได้หรอก”

เขาครุ่นคิด “เช่นนั้น…เช่นนั้นรอข้าโตแล้ว! โตแล้วข้าจะแต่งงานกับเจียวเจียว! เจียวเจียวแต่งงานอีกครั้ง ก็จะได้สวมชุดเจ้าสาว!”

ถูกต้องแล้ว วิธีนี้เท่านั้น!

ไอ้หยา เขานี่มันหนูน้อยเจ้าปัญญาจริงๆ!

เขายืดอกอย่างภาคภูมิใจ

ในตอนนั้นเสี่ยวจิ้งคงยังไม่รู้ว่าคำพูดของตัวเองได้กลายเป็นเรื่องจริง

หลังจากนั้นกู้เจียวก็ได้แต่งงานอีกครั้งจริงๆ และสวมชุดแต่งงานที่เขามอบให้ แต่น่าเสียดายที่เจ้าบ่าวไม่ใช่เขา…