ตอนที่ 490 คู่แข่งของฉู่ขวงคือตัวฉู่ขวงเอง

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

หลิน​เยวียน​ไม่ได้​สนใจ​รายการ​อีก​

ระหว่าง​การออกอากาศ​ของ​ทีม​ที่สอง​ เขา​ใช้เวลา​ไป​กับ​การเขียน​นิยาย​ หรือไม่​ก็​ชมการถ่ายทำภาพยนตร์​ใน​กอง​ถ่าย​

ระหว่าง​นั้น​ มีฉาก​หนึ่ง​ซึ่งเขา​แอบ​ใช้น้ำยา​นักแสดง​กับ​เจี่ยน​อี้​

เนื่องจาก​ฉาก​นั้น​คือ​ฉาก​ที่​คุณ​ลุง​ของ​สไปเดอร์แมน​เสียชีวิต​ สไปเดอร์แมน​จึงรู้สึก​เสียใจ​ที่​ตน​ไม่ได้​หยุดยั้ง​พวก​อันธพาล​ เป็น​ฉาก​ซึ่งอัด​แน่น​ไป​ด้วย​ความเสียใจ​และ​เจ็บปวด​ ไม่เพียง​ต้อง​ให้​นักแสดง​หลั่ง​น้ำตา​ แต่​อารมณ์​ยัง​ต้อง​ถึงขั้น​อีกด้วย​

แสดง​ยาก​มาก​

ฝีมือ​การแสดง​ของ​เจี่ยน​อี้​ยอดเยี่ยม​อยู่แล้ว​ ทว่า​หลิน​เยวียน​คิด​ว่า​ควร​ทำ​ฉาก​นั้น​ให้​ซึ้งกินใจ​มากขึ้น​สักหน่อย​ จึงแอบ​เปิด​สูตร​โกง​สำหรับ​ทักษะ​การแสดง​

หลังจาก​แสดง​จบ​

เจี่ยน​อี้​กระซิบ​บอก​กับ​หลิน​เยวียน​ซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​ “เหมือน​ฉัน​จะทะลุ​ขีดจำกัด​ของ​ตัวเอง​ได้​แล้ว​ ซีน​เมื่อกี้​เป็น​ฉาก​ที่​โหด​ที่สุด​เท่าที่​ฉัน​เลย​เล่น​มาตั้งแต่​เริ่ม​เรียน​การแสดง​เลย​!”

หลิน​เยวียน​ “…”

พูดว่า​ทะลุ​ขีดจำกัด​ของ​ตัวเอง​ก็​ไม่ผิด​หรอก​ น้ำยา​นักแสดง​ของ​ระบบ​เป็น​เทคโนโลยี​ซึ่งช่วย​ทลาย​ขีดจำกัด​ครั้ง​ใหญ่​ได้​จริงๆ​

แต่​ที่​อัศจรรย์​คือ​…

หลังจากนั้น​การแสดง​ของ​เจี่ยน​อี้​ก็​ดูเหมือน​จะดีขึ้น​มาก​ แม้ว่า​หลิน​เยวียน​จะไม่ได้​ใช้น้ำยา​นักแสดง​กับ​อีก​ฝ่าย​แล้ว​ อีก​ฝ่าย​ก็​ยัง​สามารถ​ตีความ​ถ่ายทอด​ตัวละคร​ออกมา​ได้​เป็น​อย่าง​ดี​

น่าสนใจ​มาก​ทีเดียว​

สถานการณ์​ที่​คล้ายคลึง​กัน​เกิด​ขึ้นกับ​เฮ่อ​เซิ่งใน​ตอนแรก​ หลิน​เยวียน​จึงถามระบบ​อย่า​งอด​ไม่ได้​ “แน่ใจ​ใช่ไหม​ว่า​น้ำยา​นักแสดง​ใช้ได้​เพียง​ครั้ง​เดียว​ ไม่ได้​มีโบนัส​ถาวร​สำหรับ​การแสดง​”

“แน่ใจ​”

ระบบ​ตอบ​ “แต่​ถ้าเทียบ​กับ​เทคโนโลยี​แล้ว​ ความมั่นใจ​ใน​ตัวเอง​ของ​มนุษย์​คือ​พลัง​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​”

หลิน​เยวียน​พยักหน้า​

เจี่ยน​อี้​แสดง​ด้วย​ความมั่นใจ​ใน​ตัวเอง​แล้ว​

เรื่อง​นี้​อาจ​เกี่ยวข้อง​กับ​ที่​เจี่ยน​อี้​เข้ามา​รับบท​ด้วย​ช่อง​ทางพิเศษ​

เจี่ยน​อี้​มัก​คิด​อยู่​เสมอ​ว่า​ตนเอง​ใช้เส้นสาย​ของ​หลิน​เยวียน​เข้ามา​ นอกจากนั้น​ยัง​เป็น​นักแสดง​หน้าใหม่​ตัว​กระจิริด​ซึ่งโผล่​เข้ามา​รับบท​พระเอก​ เพราะฉะนั้น​ใน​ใจจึงรู้สึก​หวาดระแวง​อยู่​เล็กน้อย​ ความรู้สึก​วิตกกังวล​และ​น้อยเนื้อต่ำใจ​นี้​เป็น​แรงกดดัน​ที่​หนักหน่วง​ที่สุด​สำหรับ​เขา​

แรงกดดัน​สามารถ​แปร​เปลี่ยนเป็น​แรงผลักดัน​

แต่​แรงกดดัน​ที่​เกิน​ขีดจำกัด​นั้น​ไม่ใช่เรื่อง​ดี​

ตอนนี้​เขา​ต้องการ​ความมั่นใจ​ใน​ตนเอง​ และ​น้ำยา​นักแสดง​ซึ่งหลิน​เยวียน​ใช้นั้น​เพิ่ม​ความมั่นใจ​ให้​กับ​เจี่ยน​อี้​ได้​ เมื่อ​คนเรา​มีความมั่นใจ​ใน​ตนเอง​ขึ้น​มา มุมมอง​ทางจิตใจ​จะเปลี่ยนไป​อย่าง​สิ้นเชิง​

นอกจากนี้​

ยังมี​ข่าวดี​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​สำหรับ​หลิน​เยวียน​ นั่น​คือ​เรื่อง​สไปเดอร์แมน​กำลังจะ​ถ่ายทำ​จบ​ลง​แล้ว​ ต่อ​จาก​การถ่ายทำ​หน้า​กรีน​สกรีน​ โดยมาก​เหลือ​เพียง​ฉาก​เอาท์ดอร์​ เนื้อหา​ใน​ส่วน​นี้​ไม่นับว่า​มาก​

ความคืบหน้า​ดีมาก​ทีเดียว​

ใช้ระบบ​ผู้เขียนบท​เป็นหลัก​ บวก​กับ​ฉาก​ซึ่งออกแบบ​ไว้​ล่วงหน้า​ ส่งผล​ให้​การถ่ายทำ​ของ​ทั้ง​กอง​ถ่าย​ดำเนิน​ไป​อย่าง​ราบรื่น​ ทุกคน​เพียง​ทำ​ตามหน้าที่​ซึ่งตน​ได้​รับมอบหมาย​ให้​ดี​ ก็​สามารถ​ทำให้​งาน​สำเร็จ​ลุล่วง​แล้ว​

แต่​นั่น​ก็​คือ​สิ่งที่​ภาพยนตร์​เชิงพาณิชย์​สามารถ​ทำได้​

การถ่ายทำภาพยนตร์​เชิงศิลปะ​นั้น​ยาก​กว่า​นี้​มาก​

อีก​ด้าน​หนึ่ง​

ถึงแม้หลิน​เยวียน​จะไม่ได้​ติดตาม​การแข่งขัน​ของ​ทีม​ที่สอง​ ทว่า​คนใน​ครอบครัว​กลับเป็น​แฟน​ตัวยง​ของ​รายการ​นี้​

หลิน​เซวียน​พูดคุย​กับ​เหยา​เหยา​อยู่​บ่อยครั้ง​

“วังหลัง​ของ​พี่ชาย​เธอ​นี่​น่าสนใจ​จริงๆ​!”

“หนู​ว่า​ปลา​กลุ่ม​นั้น​ต้อง​ไป​ตี​กัน​หลัง​เวที​แน่​เลย​”

“จิก​วิก​ทึ้ง​หัว​กัน​เลย​ว่า​งั้น​?”

“ผู้ชาย​ไม่จิก​วิก​หรอก​ จะดวล​วรยุทธ์​กัน​มากกว่า​”

“ปล่อย​หมัด​สาย​ฟ้าแลบ​งี้เหรอ​?”

“…”

เห็นได้ชัด​ว่า​วังหลัง​ของ​เซี่ยนอวี๋​กำลัง​ช่วงชิง​ความ​โปรดปราน​ นำพา​ความ​สนุกสนาน​มาให้​ผู้ชม​อย่าง​ไม่มีสิ้นสุด​

ไม่มีหลาน​ห​ลิง​อ๋อง​ รายการ​ก็​ยัง​ตื่นเต้น​ดังเดิม​!

หลิน​เซวียน​ถึงกับ​สะกิด​หลิน​เยวียน​ “นาย​ไป​ออก​รายการ​ก็​สิ้นเรื่อง​ พี่​อยาก​ฟังนาย​วิจารณ์​”

หลิน​เยวียน​ “…”

พูด​ไป​พี่​คง​ไม่เชื่อ​

ผม​ไป​ออก​รายการ​จริงๆ​ แถมยัง​วิจารณ์​ทุก​สัปดาห์​ แต่​พอ​วิจารณ์​ไป​แล้ว​ผม​โดน​ด่า​ทุกครั้ง​เลย​

……

ปลายเดือน​มีนาคม​

ในที่สุด​การ​บันทึกเทป​รายการ​ของ​ทีม​ที่สอง​ก็​เป็นอัน​จบ​ลง​

ฉาก​ของ​ ‘ศึก​ชิงความ​โปรดปราน​ใน​วังหลัง​ของ​เซี่ยนอวี๋’​ ปิดฉาก​ลง​ในที่สุด​

ใน​รูปแบบ​สุดท้าย​ของ​ทีม​ ปลา​ทั้ง​สามล้วน​ผ่าน​เข้ารอบ​!

ที่​บังเอิญ​ก็​คือ​…

ใน​วันนี้​ หลิน​เยวียน​เอง​ก็​เพิ่ง​พิมพ์​ ‘ปริศนา​คดี​สีเลือด​’ เสร็จ​

จะบอ​กว่า​คัดลอก​มาทั้งหมด​คง​ไม่ได้​ ครั้งนี้​มีการ​สร้างสรรค์​ด้วย​ตนเอง​ด้วย​ เนื่องจาก​ฉากหลัง​ของ​ปริศนา​คดี​สีเลือด​นั้น​อยู่​ใน​ดินแดน​ตะวันตก​สมัย​สงครามโลก​

ภูมิหลัง​ของ​ยุค​สมัยนี้​กิน​พื้นที่​ส่วนใหญ่​ใน​นิยาย​ชุด​รหัส​คดี​โฮล์มส์​

เป็นเรื่อง​ยุ่งยาก​เหลือเกิน​สำหรับ​หลิน​เยวียน​ที่จะ​จัดการ​กับ​พล็อต​นิยาย​สืบสวนสอบสวน​ซึ่งดำเนินเรื่อง​ใน​ยุค​สงคราม​ เขา​จำเป็นต้อง​จัดเรียง​เรื่องราว​ให้​เข้ากับ​ภูมิหลัง​ของ​ยุคสมัย​บน​บลู​สตาร์​ เช่นเดียวกับ​ที่​เขา​เขียน​นิยาย​ชุด​รหัส​คดี​ปัว​โร​ต์​ก่อนหน้านี้​

ต้อง​เจียระไน​ และ​แต่งเติม​

โชค​ที​ที่​เมื่อ​ราชวงศ์​ฉิน​ใน​บลู​สตาร์​ถูก​ทำลาย​ และ​กลาย​เป็นระบบ​การปกครอง​ใน​ปัจจุบัน​ ก็​เกิด​สงคราม​ขึ้น​มา

สงคราม​เหล่านี้​กลายเป็น​ฉากหลัง​ซึ่งหลิน​เยวียน​หยิบยืม​มาใช้มาก​ที่สุด​

ทุกครั้งที่​เขา​เขียน​เกี่ยวกับ​ผลงาน​จาก​โลก​ตะวันตก​ ก็​มักจะ​เกี่ยวโยง​ถึงส่วน​ที่​ต้อง​ปรับเปลี่ยน​ใน​ทำนอง​นี้​เสมอ​ ยุค​ของ​การเปลี่ยนแปลง​ระบอบ​การปกครอง​ใน​บลู​สตาร์​ กลายเป็น​คลัง​แรงบันดาลใจ​ที่​ยิ่งใหญ่​ที่สุด​สำหรับ​เขา​

แน่นอน​

ใน​เรื่องราว​ของ​โฮล์มส์​ หลิน​เยวียน​กล่าวถึง​ปัว​โร​ต์​เป็นครั้งคราว​ นับว่า​เป็นการ​รำลึกถึง​การ​จากไป​ของ​นักสืบ​ผู้ยิ่งใหญ่​

หลิน​เยวียน​ไม่ได้​ดื้อดึง​

เขา​มั่นใจ​ว่า​ผู้อ่าน​คง​ชอบ​ความรู้สึก​เช่นนี้​

สิ่งที่​หลิน​เยวียน​ไม่มั่นใจ​ใน​ยาม​นี้​คือ​ ความนิยม​ของ​โฮล์มส์​จะเป็น​อย่างไร​หาก​เทียบ​กับ​ปัว​โร​ต์​

บน​โลก​ โฮล์มส์​ถือกำเนิด​ขึ้น​ก่อน​

แต่​บน​บลู​สตาร์​​ กลับเป็น​ปัว​โร​ต์​ที่​ออก​เดิน​ก่อน​

อคติ​เป็น​สิ่งที่​น่ากลัว​ ถ้าทุกคน​หลงรัก​ปัว​โร​ต์จน​หมดใจ​ จะส่งผล​ต่อ​สถานะ​ของ​โฮล์มส์​ใน​โลก​วรรณกรรม​สืบสวนสอบสวน​หรือไม่​?

หลิน​เยวียน​ไม่รู้​เลย​

ดังนั้น​หลิน​เยวียน​จึงไม่กล้า​มั่นใจ​ว่า​นิยาย​ชุด​รหัส​คดี​ของ​โฮล์มส์​จะทำ​ผลงาน​ได้​ดีกว่า​นิยาย​ชุด​รหัส​คดี​ของ​ปัว​โร​ต์​

ส่งต่อให้​ผู้อ่าน​ตัดสิน​แล้วกัน​

หลังจาก​ขัดเกลา​เรียบร้อย​ จากนั้น​จึงตรวจทาน​นิยาย​อีก​หนึ่ง​รอบ​ หลิน​เยวียน​จึงเตรียม​ส่งต้นฉบับ​ปริศนา​คดี​สีเลือด​

เวลา​นั้น​

คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​

กองบรรณาธิการ​แผนก​วรรณกรรม​สืบสวนสอบสวน​

หัวหน้า​บรรณาธิการ​เฉาเต๋อจื้อ​กำลัง​หารือ​กับ​บรรณาธิการ​ใน​แผนก​เกี่ยวกับ​สถานการณ์​ที่​เป็นไปได้​ของ​หนังสือ​เรื่อง​ใหม่​ของ​ฉู่ขวง​

ใน​ห้องประชุม​

บรรณาธิการ​คน​หนึ่ง​เอ่ย​ขึ้น​ “เป็นไปไม่ได้​ที่จะ​เหนือกว่า​ปัว​โร​ต์​​ ปัจ​จุ บัน​นี้​ปัว​โร​ต์​ได้รับ​การ​ยอมรับ​ว่า​เป็น​นักสืบ​อันดับ​หนึ่ง​ใน​โลก​วรรณกรรม​สืบสวนสอบสวน​ ผู้อ่าน​บางคน​ถึงกับ​บอ​กว่า​ควร​สร้าง​อนุสาวรีย์​หรือ​บางอย่าง​เพื่อ​รำลึกถึง​ยอด​นักสืบ​ปัว​โร​ต์​ อิทธิพล​แบบนี้​ น่ากลัว​มาก​จน​แทบไม่น่าเชื่อ​ว่า​ปัว​โร​ต์​เป็น​แค่​ตัวละคร​สมมุติ​”

“เห็นด้วย​”

บรรณาธิการ​ด้าน​ข้าง​เอ่ย​อย่าง​สะท้อนใจ​ “โฮล์มส์คง​มาใน​เส้นทาง​ยอด​นักสืบ​เหมือนกัน​ ผม​ว่า​สร้าง​อิทธิพล​ให้ได้​สัก​แปดสิบ​เปอร์เซ็นต์​ของ​ปัว​โร​ต์​ก็​ดีมาก​แล้ว​”

“แปดสิบ​เปอร์เซ็นต์​?”

“งั้น​คุณ​คง​ประเมิน​ปัว​โร​ต์​ต่ำ​ไป​”

“คุณ​ต้อง​เข้าใจ​ว่า​ตอนที่​ฉู่ขวง​เขียน​นิยาย​ชุด​รหัส​คดี​ปัว​โร​ต์​​ คุณภาพ​ของ​ผลงาน​ผันผวน​ไม่แน่นอน​ ฆาตกรรม​บน​รถด่วน​โอ​เรียนท์​เอ็กซ์เพรส​เป็นคดี​ที่​ปัง​ที่สุด​ของ​ปัว​โร​ต์​ ฆาตกรรม​บน​ลำน้ำ​ไนล์​ก็​ไม่เลว​ แต่​ลองดู​คดี​อื่นๆ​ ของ​ปัว​โร​ต์​สิ ยาก​ที่จะ​แตะ​ถึงระดับสูง​ได้​แบบ​นั้น​ เห็นได้ชัด​ว่า​ความสามารถ​ของ​ฉู่ขวง​ก็​มีขีดจำกัด​”

“ยิ่งไปกว่านั้น​…”

“เทคนิค​การ​สร้างสรรค์​ผลงาน​ของ​นักเขียน​ สุดท้าย​แล้ว​ล้วน​นำไปสู่​เป้าหมาย​เดียวกัน​ โฮล์มส์​ของ​ฉู่ขวง​นี่​คง​ยาก​ที่จะ​หนี​จาก​เงาของ​ปัว​โร​ต์​ ตอนนี้​ฉัน​กลัว​ว่า​ตัวละคร​ทั้งสอง​คน​นี้​จะเหมือนกัน​เกินไป​”

“…”

เฉาเต๋อจื้อ​ไม่ได้​พูด​อะไร​

อันที่จริง​เขา​เอง​ก็​มีความกังวล​ต่อ​เรื่อง​ดังกล่าว​

เป็น​นักสืบ​ผู้ยิ่งใหญ่​เหมือนกัน​ เมื่อ​นิยาย​สืบสวนสอบสวน​เรื่อง​ใหม่​เผยแพร่​ออก​ไป​ ผู้อ่าน​คงจะ​นำ​นักสืบ​คน​ใหม่​จาก​ปลาย​ปากกา​ของ​ฉู่ขวง​ ไป​เปรียบเทียบ​กับ​ปัว​โร​ต์​อย่าง​แน่นอน​

แต่​เรื่อง​นี้​ไม่ค่อย​ยุติธรรม​กับ​โฮล์มส์​สัก​เท่าไหร่​

มีอิทธิพล​ของ​ปัว​โร​ต์​ตั้ง​ตระหง่าน​เด่น​ตา​ โฮล์มส์​จะต้อง​ยอดเยี่ยม​แค่​ไหน​ ถึงจะทัดเทียม​กับ​ปัว​โร​ต์​ได้​?

ยิ่งไปกว่านั้น​…

เรื่องราว​สืบสวนสอบสวน​ซึ่งเผยแพร่​ติดต่อกัน​มากมาย​เช่นนี้​ ยอด​นักสืบ​โฮล์มส์​ซึ่งมาจาก​ปลาย​ปากกา​ของ​ฉู่ขวง​ จะผลัด​เนื้อ​เปลี่ยน​กระดูก​ทิ้ง​รูปแบบ​ของ​ปัว​โร​ต์​ได้​อย่างไร​?

ก็​เหมือนกับ​เมื่อ​คน​ขุด​สุสาน​ประสบความสำเร็จ​อย่าง​ล้นหลาม​

ฉู่ขวง​จะเขียน​นิยาย​ขุด​สุสาน​อย่างไร​ให้​เทียบ​ชั้น​กับ​คน​ขุด​สุสาน​ได้​อีก​ โดยที่​ผลงาน​ทั้งสอง​ชิ้น​จะไม่เหมือนกัน​

ยาก​เหลือเกิน​!

เมื่อ​คิด​เช่นนี้​

ทันใดนั้น​เอง​โทรศัพท์มือถือ​ของ​เฉาเต๋อจื้อ​ก็​ดัง​ขึ้น​

เฉาเต๋อจื้อ​ชำเลือง​มอง​หน้าจอ​ สีหน้า​พลัน​เคร่งขรึม​ กระซิบ​เสียง​เบา​ “หนังสือ​เรื่อง​ใหม่​ของ​อาจารย์​ฉู่ขวง​ส่งมาแล้ว​”

ทุกคน​พา​กัน​หันมา​มอง​เฉาเต๋อจื้อ​ “โฮล์มส์​อะไร​นั่น​น่ะ​หรือ​?”

เฉาเต๋อจื้อ​พยักหน้า​

คู่แข่ง​ของ​โฮล์มส์​ คือ​ปัว​โร​ต์​

ส่วน​คู่แข่ง​ของ​ฉู่ขวง​…

คือ​ตัว​ฉู่ขวง​เอง​

………………………………………………