ตอนที่ 481 พบซินหยา

ตอนที่ 481 พบซินหยา

คำสั่งการของลุคค่อนข้างเหมาะสม เขาสั่งอสุรกายยักษ์กว่าห้าร้อยตัวให้กีดขวางการมองเห็นของเหล่าศัตรู เมื่อไหร่ก็ตามที่ศัตรูเข้ามาในลู่ทางที่ถูกต้อง และเตรียมไล่ล่าเพื่อสกัดกั้นพวกเขา เสี่ยวอ้ายกับบอนาร์ก็จะรีบลงมือทันที

ขณะที่ต้นไม้แห่งชีวิตจะลงมือเป็นครั้งคราว…

ต้นไม้แห่งชีวิตจะขยับกิ่งก้านของมัน และสลับเปลี่ยนโลกให้กลับตาลปัตร น่าสะพรึงกลัวอย่างมาก!

ยานรบบางลำเริ่มไม่ตอบสนอง และทันใดนั้นก็กลายเป็นเถ้าถ่านและจางหายไป ลุคและคนอื่น ๆ คิดว่านี่เป็นการกระทำของเสี่ยวอ้ายกับบอนาร์ แต่แล้วพวกเขาก็รู้ว่านี่คือฝีมือของต้นไม้แห่งชีวิตทั้งสองต้น!

ทว่ายานรบที่หายไปนั้นมีจำนวนมาก! หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เหล่านักเรียนทหารที่รออยู่จะกลายมาเป็นผู้บัญชาการได้อย่างไร?

เพียงแค่พละกำลังของต้นไม้แห่งชีวิต ยานรบทั้งหมดก็เกือบจะถูกกวาดล้างไปจนหมดแล้ว!

ลุคหันไปพูดกับเสี่ยวอวิ๋นและเสี่ยวโอว่า “ลูกพี่ทั้งสองอย่าเพิ่งลงมือครับ ถ้ายังทำแบบนี้ต่อไป นักเรียนคนอื่นจะอดขึ้นมาเป็นผู้บัญชาการ!”

หลังจากที่ลุคกลายเป็นผู้บัญชาการ ฉินหยวน เบนเน็ต และคนอื่น ๆ ก็สลับกันมาเป็นผู้บัญชาการบ้าง

นักเรียนทหารเหล่านี้สามารถเอาชนะยานรบเหล่านั้นได้โดยแทบไม่ต้องใช้สมอง เพราะพวกเขามีนักฆ่าตัวฉกาจอยู่ในมือ

และดูเหมือนว่าจะไม่มีความท้าทายอะไรเลย

หลังจากที่นักเรียนทหารทั้งหมดสลับเปลี่ยนตำแหน่งกัน ยานรบหลายแสนลำก็ถูกกวาดล้างออกไปจนหมด…

ยานรบและอสุรกายยักษ์กว่าห้าร้อยตัวของสวี่หลิงอวิ๋นกลายเป็นฝันร้ายในเขตดาวต่างแดน จักรวรรดิไหนที่อสุรกายยักษ์เคลื่อนตัวผ่านจะต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว หวั่นเกรงว่าสวี่หลิงอวิ๋นจะตรวจพบและปราบปรามพวกเขาอย่างไร้ความปรานี

เผ่ามนุษย์กลายเป็นฝันร้ายของจักรวรรดิเหล่านี้!

ในขณะเดียวกัน อวี้ซินได้มาถึงเมืองหลวงเคทเลอร์แล้ว

“ท่านมาทำอะไรครับ? จักรวรรดิดวงดาวของพวกเราเป็นยังไงบ้าง? ปรับตัวกันได้หรือยังครับ?” ซินหยาตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้เจออวี้ซิน “ดีใจที่ได้เจอท่านนะครับ”

“เหมือนกัน!” อวี้ซินมองดูซินหยาด้วยความปลงใจ “นายทำงานหนักมาตลอดเลยสินะ”

“จักรวรรดิดวงดาวสบายดี ตอนนี้ถูกรวมตัวเข้ากับจักรวรรดิชิงเหย้า เป็นจักรวรรดิขององค์หญิงสามสวี่หลิงอวิ๋น ทุกคนที่นั่นเป็นมนุษย์เหมือนกัน ตอนที่ผมออกมา จักรวรรดิชิงเหย้าได้ส่งคนไปรับช่วงต่อที่จักรวรรดิดวงดาวแล้ว ก็น่าจะประมาณนี้แหละ”

“ผมได้อ่านจดหมายลายมือจากจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิชิงเหย้าแล้ว พวกเขาจัดการดาวเคราะห์แต่ละดวงอย่างหละหลวม แต่ให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีทุกรูปแบบเต็มที่ คิดว่ามันน่าจะเหมาะสมกับจักรวรรดิดวงดาวของเรา”

อวี้ซินพูดสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ของจักรวรรดิดวงดาว “แล้วทางนายเป็นยยังไงบ้าง? มีใครมาทำให้ลำบากใจอีกหรือเปล่า?!”

“ลำบากใจ? ตอนนี้ใครจะมาทำให้ผมลำบากใจได้? พวกเขายังเอาตัวเองไม่รอดเลย!”

ซินหยาแทบจะอดหัวเราะไม่ได้ เมื่อนึกถึงสถานการณ์ในปัจจุบัน

วิธีการขององค์หญิงสามเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิดและไม่เคยเห็นมาก่อน! พลังการต่อสู้ของผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ด้านข้างแข็งแกร่งกันมาก กุญแจสำคัญคือความปราดเปรียวที่ไร้ยางอาย นั่นทำให้ผู้คนรู้สึกกระปรี้กระเปร่ากันอย่างยิ่ง!

รีดไถ่เงินจากจักรวรรดิพวกนั้นก็ได้ จะยึดครองอาณาเขตก็ได้ จักรวรรดิพวกนั้นไม่แม้แต่จะกล้าคัดค้านด้วยซ้ำ!

เพราะตราบใดที่พวกเขากล้าคัดค้าน! สวี่หลิงอวิ๋นก็จะนำกองทัพทหารเข้ามาทำให้คนพวกนั้นประหลาดใจทันที!

ความ ‘ประหลาดใจ’ นี้ช่างน่าตกตะลึงเกินไป อีกทั้งยังสามารถทำให้จักรวรรดิเหล่านี้หวาดกลัวแทบตาย!

เพราะฉะนั้น ตราบใดที่สวี่หลิงอวิ๋นต้องการเงิน ต่อให้จักรพรรดิไม่เต็มใจจะให้ ประชากรของเขาก็จะถ่มน้ำลายใส่เขาจนจมน้ำตาย!

แล้วถ้าสวี่หลิงอวิ๋นต้องการอาณาเขตล่ะ?! ฮิ ๆๆ! จะไม่ให้เหรอ? ไม่ให้ก็ไม่เป็นไร! เพราะเธอจะคัดเลือกดาวเคราะห์ดวงสำคัญและทำลายมันทิ้งซะ!

หากไม่รู้จักวางกลยุทธ์ แล้วผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร? อีกฝ่ายอาจคิดว่าพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดคืออสุรกายยักษ์พวกนั้น แต่อันที่จริงพวกเขาคิดผิด!

เพราะนอกจากนี้ยังมีสุดยอดอสุรกายอีกสองตัว! ถึงอย่างนั้นสุดยอดอสุรกายทั้งสองตัวก็ยังปลีกตัวออกไปได้เสมอ ดูเหมือนว่าจะมีอาวุธขั้นสุดยอดที่สามารถเปลี่ยนดาวเคราะห์ทั้งใบให้กลายเป็นผงธุลีได้!

พระเจ้า! อาวุธขั้นเทพพวกนั้นคืออะไร?!

เยี่ยมมาก!

จักรวรรดิพวกนั้นหวาดกลัวกันจนตาขาว! ขี้ขลาดกันมาก!

อยากได้อะไรก็ยอมยกให้ด้วยความเต็มใจ! ทั้งหมดตกอยู่ในสภาพเดียวกัน!

สำหรับมนุษย์ที่กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงน่ะเหรอ? โอ้ พวกเขาได้กลายเป็นแขกผู้มีเกียรติ และตอนนี้ได้รับการพักผ่อนแล้ว ระดับสติปัญญาก็ค่อนข้างดี อีกฝ่ายจะส่งคนพวกนั้นขึ้นมาบนยานอวกาศ! และจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าคนพวกนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร!

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือห้ามปล่อยให้เผ่ามนุษย์ค้นพบว่ามีมนุษย์หลงเหลืออยู่บนดาวเคราะห์ของพวกเขาเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นผลลัพธ์ที่ตามมาอาจยากเกินกว่าจะจินตนาการได้!

“องค์หญิงสามมีความสามารถมากจริง ๆ! ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าผู้หญิงจะเก่งกาจขนาดนี้! นึกไม่ถึงเลยแฮะ!” ซินหยาพูด “อยากเจอฝ่าบาทสักครั้งจังครับ ไม่รู้ว่าฝ่าบาทจะยอมรับความสวามิภักดิ์ของผมหรือเปล่า?”

“ฮ่า ๆ!” อวี้ซินมองดูท่าทางยกย่องของซินหยา ก่อนจะพยักหน้า “คิดเหมือนผมเลยสินะ!”

“ตัวตนขององค์หญิงสามไม่ธรรมดา ในอนาคตฝ่าบาทจะกลายเป็นผู้สืบทอดบัลลังก์แห่งจักรวรรดิชิงเหย้า เพราะงั้นถ้าเราเลือกสวามิภักดิ์ต่อฝ่าบาทและได้ขึ้นเป็นสายตรง มันคงจะดีกับจักรวรรดิดวงดาวของเราไม่น้อย นายคิดว่าไงล่ะ?”

“แน่นอนสิครับ! หนทางนี้ดีที่สุดแล้ว!” ซินหยาพยักหน้า “แต่แค่ไม่รู้ว่าองค์หญิงจะมีท่าทียังไง?”

“ไม่น่ามีปัญหาอะไร ผมสวามิภักษ์กับองค์หญิงสามไปแล้ว!” อวี้ซินยังเอ่ยต่อ “ฝ่าบาทยอดเยี่ยมมาก เป็นผู้หญิงที่ตรงไปตรงมา!”

“พอได้เห็นท่าทีของท่านแล้ว ท่านปลื้มองค์หญิงสามใช่ไหมครับ? ไม่คิดจะตามจีบดูบ้างเหรอ?!” ซินหยายิ้มขณะมองดูอวี้ซิน

อวี้ซินเป็นชายหนุ่มรูปงามที่พบเจอได้ยาก เป็นเทพบุตรที่มีชื่อเสียงมากในจักรวรรดิดวงดาว และเป็นชายในฝันของหญิงสาวหลายคน

“นายก็คิดมากไป องค์หญิงสามมีคู่หมั้นอยู่แล้ว” อวี้ซินรู้สึกเสียดายเล็กน้อย แต่ก็รู้ดีว่าเขาไม่มีโอกาสอะไร เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่เคยคิดจะไล่ตามจีบเธอ

เขารู้จักโอคาซี ความเป็นเลิศของผู้ชายคนนั้นทำให้เขาต้องทิ้งช่วงห่างไปถึงสองสามก้าว! แม้แต่ในแง่ของความสามารถหรือรูปลักษณ์ก็ยังทำให้เขารู้สึกห่างไกลกว่าอีกฝ่ายมาก!

อวี้ซินหันไปมองซินหยา “อยากจะกลับไปกับผมไหม?”

ซินหยาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และส่ายหัว “ผมจะต้องอยู่ที่นี่ต่อครับ! กว่าเราจะสู้กันมาถึงขนาดนี้ได้มันไม่ง่ายเลย”

“แต่ท่านไปถามคนอื่นได้นะครับ เผื่อพวกเขาอยากไปกับท่าน”

อวี้ซินพยักหน้า

เขารู้ว่าซินหยาหมายถึงอะไร นอกจากนี้การที่อีกฝ่ายยังอยู่ในเคทเลอร์อาจจะช่วยสวี่หลิงอวิ๋นในวิธีการที่แตกต่างออกไปได้?!

เรื่องแบบนี้ย่อมต้องใช้แผนการระยะยาว

“อีกอย่าง แม่ของโมยาตที่อยู่บนดาวโจรสลัดส่งข้อความมาหาผมอีกแล้วครับ!” ซินหยาพูด

“ว่ายังไงล่ะ?” อวี้ซินกำลังนึกถึงดาวโจรสลัดเช่นกัน “บอกว่า อยากตายเหรอ?”

“เธอหวังว่าเคทเลอร์จะให้ความช่วยเหลือทางการเงินกับดาวโจรสลัด ไม่งั้นเธอจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของผมกับเธอ”

“ผู้หญิงคนนี้อันตรายจริง ๆ!” อวี้ซินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เอาล่ะ เข้าใจแล้ว! ผมจะไปแจ้งเรื่องนี้กับองค์หญิงสาม”

“นายรักษาสถานการณ์เอาไว้ก่อน ถ้าเธอเป็นบ้าขึ้นมาเมื่อไหร่ อะไรก็เกิดขึ้นได้!”

ขนาดคนเป็นแม่ยังบ้าได้ขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่โมยาตจะเสแสร้งเก่ง! ที่แท้ก็มาจากกรรมพันธุ์นี่เอง!