บทที่ 482 กำจัดอันตราย

ถังหลี่และเว่ยฉิงออกจากบ่อนพนันกลับไปที่โรงเตี๊ยมก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว พวกเขาจึงนอนไม่หลับ ทั้งสองนอนอยู่บนเตียง เว่ยฉิงเหม่อมองอย่างมึนงง ถังหลี่จึงพลิกตัวขึ้นนอนทับเขา เอาหน้าผากแนบไว้มี่หน้าผากของเขา

เว่ยฉิงได้สติ

“ฮูหยิน…” ถังหลี่จูบเขาที่ริมฝีปาก มุมปากของเว่ยฉิงยกโค้งขึ้น เขาโอบแขนรัดเอวของภรรยา กอดนางเอาไว้แน่น

“สามี ท่านคิดอะไรอยู่หรือ?” ถังหลี่ถาม

“คิดถึงท่านปู่ ท่านลุงและ…มารดาของข้า” เมื่อถังหลี่ได้ฟังนางรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งนี้เกิดจากความทุกข์ ในนวนิยายหลายๆ เรื่อง ตัวโกงหรือวายร้ายในเรื่องนั้นมักจะมีประสบการณ์ชีวิตที่น่าเศร้า เพื่อต้องการใส่ร้ายป้ายสีตัวโกงให้ไปเป็นตามโครงเรื่องของนวนิยายเล่มนั้น

สามีของนางคือวายร้ายของนวนิยายเล่มนี้ แต่สำหรับถังหลี่แล้ว เขาคือคนจริงๆ และเขาเป็นสามีของเธอ

ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากให้เขาไปเกิดในครอบครัวที่มีความสุขและมีชีวิตที่สงบโดยไม่ต้องเผชิญกับความสูญเสียหรือความตายให้มากจนเกินไป ไม่อยากให้เขาต้องมาแบกรับความเกลียดชังและหนี้แค้นเหล่านี้

แต่…มันเป็นไปไม่ได้ นี่เป็นเรื่องจริงที่นางต้องยอมรับและอยู่กับมันให้ได้ ต่อให้เป็นภูเขาดาบและทะเลเพลิง นางจะต้องฝ่าฝันไปกับด้วยเช่นกัน

“สามี ตราบใดที่ข้าได้อยู่กับท่านเช่นนี้ สักวันความคับแค้นอยุติธรรมที่สกุลเซียวได้รับ แม้กระทั่งหนี้แค้นก็จะถูกชำระล้างให้หมดสิ้นไปอย่างแน่นอน” ถังหลี่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ

เว่ยฉิงพยักหน้ารับ

ใช่! เขามีภรรยา เรื่องที่ควรยากลำบากแสนเข็ญจะถูกปัดเป่าไป เว่ยฉิงพลิกตัวกดภรรยาไว้ข้างล่างแล้วก้มลงจูบนาง

วันต่อมา

หลังจากที่ทั้งสองคนลุกจากที่นอนแล้ว เสี่ยวเอ้อร์ก็นำอาหารเช้าเข้ามาให้

“นายท่าน นี่เป็นอาหารจานพิเศษของหลันซี เสี่ยวหลงเปาและนมถั่วเหลือง ได้โปรดรับประทาน” เสี่ยวเอ้อร์พูดอย่างกระตือรือร้น

เว่ยฉิงหยิบอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะ ถังหลี่เดินผ่านมาพอดี นางฉวยถ้วยใส่นมถั่วเหลืองขึ้นมาทำท่าจะดื่มหากเว่ยฉิงกลับรั้งเอาไว้ เว่ยฉิงหยิบถ้วยใส่นมถั่วเหลืองขึ้นมาดมกลิ่น

“มีบางอย่างถูกใส่ลงไปในนมถั่วเหลือง” กลิ่นของนมถั่วเหลืองผสมกับกลิ่นของยา แม้ว่าจะได้กลิ่นเจือจาง แต่ถ้าลองดมดูอย่างระมัดระวังจะได้กลิ่นอย่างชัดเจน

ถังหลี่ขมวดคิ้ว

ใครกันที่ใส่ยาพิษลงในอาหารเช้า?

เว่ยฉิงเทนมถั่วเหลืองใส่ในกระถางดอกไม้ จากนั้นจึงนำซาลาเปาเก็บใส่ไว้ในถุง

ทั้งสองคนนั่งอยู่ในโรงเต๊ยมสักครู่ จากนั้นจึงได้เดินออกไป ไม่นานนักหลังจากที่พวกเขาคล้อยหลังไปแล้ว มีคนสองคนเข้าไปในห้องพัก เมื่อเห็นว่าในห้องที่โรงแรมมีแต่ชามเปล่าเหลือทิ้งไว้บนโต๊ะ ใบหน้าของคนทั้งสองก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

เว่ยฉิงและถังหลี่เดินลงไปข้างล่างจากนั้นจึงได้ขี่ม้าออกจากเมืองหลันซี

ระหว่างทางทั้งคู่รู้ว่ามีคนสะกดรอยตาม แต่ไม่รู้ว่าเป็นใคร หลังจากออกจากเมืองแล้ว เมื่อขี่ม้าไปสี่ห้าลี้พวกเขาก็เห็นใครบางคนยืนขวางถนนอยู่ เป็นคุณชายหยางนั่นเอง เขายืนเอามือไพล่หลังรายล้อมด้วยเหล่าอันธพาลหลายสิบคนที่อยู่รอบตัว ดวงตาหื่นกระหายจ้องไปที่ถังหลี่อย่างมุ่งมั่น เมื่อคืนในความฝันเขาได้แต่จินตนาการถึงหนุ่มน้อยผู้นี้ หากนายท่านเป่ยไม่ออกหน้าขัดขวางเอาไว้ เขาคงได้กอดหนุ่มคนนี้บนเตียงแล้ว

ในเมืองหลันซีหรือแม้กระทั่งเหลียงโจวไม่มีใครที่เขาอยากได้แล้วจะไม่ได้ เมื่อวานคนผู้นี้กล้าที่จะปฏิเสธเขา หากได้มาอยู่ในกำมือของเขาเมื่อไหร่ เขาจะทรมานให้สาแก่ใจเพื่อระบายความโกรธของเขา

ถังหลี่และเว่ยฉิงมองหน้ากัน คนที่ตามพวกเขามาเมื่อครู่นี้คือคนของคุณชายหยางหรือ?

ทั้งสองคนลงจากหลังม้า เว่ยฉิงยืนขวางให้ถังหลี่อยู่ข้างหลังเขา เพื่อปิดกั้นสายตาลามกของคนเหล่านั้น

ดวงตาของเว่ยฉิงระแวดระวัง ดุร้าย เขาจ้องมองคุณชายหยางเหมือนสัตว์ป่ารอตะครุบเหยื่อ

คุณชายหยางใจสั่น เมื่อเห็นสายตาที่จ้องเขม็งของเขา แต่แล้วกลับได้สติขึ้นมา เขาไม่ยอมรับว่าเขากลัว…

ดวงตาคู่นี้ช่างน่ารังเกียจสิ้นดี เมื่อถึงเวลารับรองได้ว่าเขาจะต้องเหยียบย่ำมันให้จมดินไปลงไปให้ได้

“เจ้ายังดูอะไรไม่ชัดเจนอีกหรือ?” คุณชายหยางพูดอย่างเย็นชา

เว่นฉิงไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว

“ดูเหมือนว่าถ้าไม่เห็นโลงศพจะไม่หลั่งน้ำตาสินะ!” คุณชายหยางโบกมือ อันธพาลหลายสิบคนเข้ามาล้อมรอบพวกเขาทั้งสองคน

“อาหารเช้าที่โรงเตี๊ยมวันนี้รสชาติดีหรือไม่?” คุณชายหยางถามด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเขาเห็นร่างกายที่ตึงเครียดและมือที่กำหมัดแน่นเตรียมจะฟาดฟันของเว่ยฉิง เขานึกเย้ยหยันอยู่ในใจ

กระดูกช่างแข็งจริงนะ อีกไม่นานยาจะออกฤทธิ์แล้ว ดวงตาของถังหลี่หรี่ลง มองคุณชายหยางที่เป็นคนวางยาพวกเขาสามีภรรยา

ช่างเป็นวิธีการสกปรกยิ่งนัก

ไม่รู้ว่ามีผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อโดนเขาทรมานไปมากน้อยสักเท่าใด เด็กหนุ่มที่โดนเขาฆ่าตาย นายน้อยเหล่านั้นที่ถูกเขาทรมานจนแทบเป็นบ้า…บางคนถึงกับเสียชีวิต บางคนเสียสติไปก็มี เพราะเขาเป็นบุตรชายของเจ้าเมืองเหลียงโจวจึงไม่มีใครห้ามปรามเขาได้ เขามีนิสัยชอบทรมานผู้อื่น มีความสุขเมื่อเห็นคู่นอนได้รับความเจ็บปวด คนแบบนี้ไม่สมควรอยู่ในโลกใบนี้ ดวงตาของถังหลี่เต็มไปด้วยเจตนาสังหาร นางกำหน้าไม้ที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อไว้แน่น

“อาหารเช้าหรือ?” เว่ยฉิงพูดพลางยกมือขึ้นลูบหัวของตนเอง

“จู่ๆ ข้าก็รู้สึกเวียนหัว” เขาแสร้งทำเป็นยืนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้

นายท่านหยางหัวเราะออกมาดังๆ ต่อให้ไม่เต็มใจ อย่างไรก็ไม่อาจต้านทานเขาได้หรอก!

แต่ชั่วพริบตาถัดมาเว่ยฉิงก็เคลื่อนไหวอย่างกระทันหัน เขาปล่อยหมัดคู่ออกไปพร้อมกัน ต่อยอันธพาลที่อยู่ใกล้ที่สุดกระเด็นออกไป ถังหลี่ยกหน้าไม้ขึ้นแล้วง้างออก ปล่อยลูกธนูออกไปจนโดนชายผู้หนึ่งล้มลงกับพื้นทันที

การโจมตีของเว่ยฉิงและถังหลี่เป็นไปอย่างกระทันหัน โดยที่เหล่าอันธพาลเหล่านั้นไม่ได้คาดคิดมาก่อน กว่าพวกเขาจะรู้ตัว ก็ล้มลงกับพื้นไปถึงสี่ห้าคนแล้ว

คุณชายหยางยืนมองอย่างตกตะลึง

เป็นไปได้อย่างไร? พวกเขาไม่ได้โดยวางยาหรอกหรือ?

แม่งเอ๊ย! เขากัดฟันกรอดอย่างเคียดแค้น

ไม่เคยมีใครตบหน้าเขาเช่นนี้มาก่อนเลย

เมื่อเห็นเว่ยฉิงกำลังเดินย่างสามขุมเข้ามา คุณชายหยางก็ได้สำเหนียกถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวเขา

เขาหันหลังกลับ ทำท่าจะวิ่งหนี แต่ก่อนที่จะทันได้ขยับกาย เว่ยฉิงก็จับเขาราวกับจับไก่ คุณชายหยางเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์เช่นกัน เขาหันหลังกลับมาโจมตีเว่ยฉิง หากแต่ความเหนือชั้นและทักษะแตกต่างกันเกินไป เว่ยฉิงจึงเอาชนะเขาได้ในไม่ช้า

เว่ยฉิงทั้งเตะ ทั้งต่อย ทุบตีคุณชายหยางที่ได้บังอาจมาโลภในตัวภรรยาของเขา พูดจาดูหมิ่นเหลวไหลกับนาง ความแข็งแกร่งของเว่ยฉิงมีมากมายมหาศาล ทุกครั้งที่เขาทุบตีคุณชายหยาง อวัยวะภายในของคุณชายหยางก็บอบช้ำไปหมด เมื่อเว่ยฉิงทุบตีจนสาแก่ใจแล้วเขาหยิบมีดสั้นขึ้นมา ชี้ไปที่คุณชายหยาง

คนผู้นั้นตัวสั่นอย่างตื่นตกใจ

“ยกโทษให้ข้าด้วย ข้าผิดไปแล้วต่อไปข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว…”

ปลายมีดค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้

“เจ้าฆ่าข้าไม่ได้…หากเจ้าฆ่าข้า ท่านพ่อข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป…” มีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่หน้าอก เสียงร้องขอชีวิตของเขาหายไป

หลังจากจัดการกับคุณชายหยางเสร็จสิ้นลง เว่ยฉิงจึงได้ดึงมือถังหลี่ขึ้นหลังม้าเดินทางต่อไปทันที

หลังจากพวกเขาไปได้ไม่นาน คนอีกกลุ่มหนึ่งก็มาถึง ผู้นำกลุ่มสวมใส่เสื้อคลุมสีขาว รูปร่างสูงใหญ่ สวมหน้ากากสีเงินไว้ที่ใบหน้า เขามีดวงตาดอกท้อคู่หนึ่งที่ดูเฉลียวฉลาดเต็มไปด้วยไหวพริบ

เขาคือเป่ยเหยี่ยนนั่นเอง เขาสั่งคนที่ตามมาด้วยกันว่า

“ตรวจดูพวกเขา อย่าให้มีใครเล็ดลอดหนีไปได้!”

…………………