บทที่ 472 นางอยู่ในห้องของนายน้อย!

เซียนคีย์บอร์ด [陆地键仙]

บทที่ 472 นางอยู่ในห้องของนายน้อย!

บทที่ 472 นางอยู่ในห้องของนายน้อย!

เปาโหย่วหลูรู้สึกท้อแท้เมื่อคิดว่าฉินหว่านหรูยังคงประเมินตัวเขาต่ำไป

“นายหญิง นี่ท่านกำลังดูถูกผู้เฒ่าคนนี้อยู่หรือเปล่า? ถึงแม้ว่าผู้เฒ่าคนนี้จะไม่ได้เก่งกาจเทียบเท่ากับหมอเทวะจี้ แต่ข้าก็ยังมีความสำเร็จในด้านการแพทย์อยู่บ้าง! ข้ามั่นใจว่าไม่มีทักษะทางการแพทย์ใดในโลกนี้ที่ข้าไม่สามารถเรียนรู้ได้!”

“นี่…เฮ้อ…โปรดเชื่อข้าเถอะวิธีการรักษาที่เขาใช้ ท่านไม่สามารถเรียนรู้ได้จริง ๆ ทักษะที่เขาใช้มันพิเศษมากเกินไป” เมื่อพิจารณาร่างชราของ เปาโหย่วหลู เปรียบเทียบกับร่างหนุ่มแน่นกำยำกระฉับกระเฉงของซูอัน หัวใจของนางก็เต้นแรงขึ้นทันที อย่างไรก็ตาม นางจึงรีบไล่ความคิดเหล่านั้นออกจากหัวของตัวเองอย่างสุดความสามารถ

เปาโหย่วหลูไม่เต็มใจที่จะยอมรับการถูกด้อยค่าและตั้งคำถามกับนางอย่างต่อเนื่อง

ฉินหว่านหรูกลัวว่าเขาจะถามเรื่องนี้ต่อไปไม่รู้จบ นางจึงรีบพูดเปลี่ยนเรื่องกับสามีของนางว่า “ที่รัก ทำไมฮวนเจาไม่กลับมาสักที? นี่ก็นานแล้ว เกิดอะไรขึ้นกับนางหรือเปล่า?”

ฉู่จงเทียนงงงวย “อะไรจะเกิดขึ้นในคฤหาสน์ตระกูลฉู่ได้?”

ฉินหว่านหรูตอบกลับ “ฮวนเจาสนิทกับชูเหยียนมาโดยตลอด มันคงไม่ดีแน่ถ้านางโกรธจนใช้แส้คร่ำครวญกับชิวฮัวเล่ย หากเป็นเช่นนั้นชื่อเสียงของตระกูลฉู่ของเราคงจบสิ้นแน่!”

“เจ้าพูดถูก! ข้าจะตามไปดูเดี๋ยวนี้!” ฉู่จงเทียนรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

ก่อนหน้านี้เขามัวแต่กังวลเรื่องฉู่ชูเหยียนจนลืมคิดเรื่องนี้ไปซะสนิท

ตอนนี้ฉู่ชูเหยียนพ้นขีดอันตรายแล้ว เขาจึงรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เขาเริ่มตื่นตระหนกอีกครั้งเมื่อคิดว่าร่างที่สวยงามของ ชิวฮัวเล่ยถูกแส้คร่ำครวญเฆี่ยนตีอย่างทารุณ

แม้ว่าเขาจะไม่มีความคิดนอกลู่นอกทางกับชิวฮัวเล่ย แต่ในฐานะที่เป็นผู้ชาย เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นใบหน้างดงามโดดเด่นของชิวฮัวเล่ยบิดเบี้ยวอย่างทุกข์ทรมานแม้เพียงเล็กน้อย สำหรับเขา มันเกือบจะเป็นการดูหมิ่นเทพบนสรวงสวรรค์

ฉินหว่านหรูรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นสามีของนางจากไป เรื่องระหว่างคู่หนุ่มสาวที่กำลังอยู่ในห้องมันซับซ้อนเกินไป นางจึงยังไม่สะดวกที่จะบอกเขาในตอนนี้

อย่างไรก็ตาม การที่บิดารออยู่ข้างนอกด้วยความไม่รู้ก็ดูไม่เหมาะสมเช่นกัน นี่คือเหตุผลที่ทำให้นางหาข้ออ้างเพื่อให้เขาจากไป

เปาโหย่วหลูกำลังจะขอรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการรักษาของซูอันอีกครั้ง แต่นางหันเหความสนใจของเขาด้วยการพูดอย่างรวดเร็วว่า “ข้าคงต้องขอรบกวนให้หมอเปาเตรียมยาบำรุงร่างกายสำหรับชูเหยียนด้วยเช่นกัน”

“ไม่มีปัญหา ๆ” การแสดงออกของเปาโหย่วหลูพลิกกลับทันที ตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองมีประโยชน์ในที่สุด

ขณะที่เขาเริ่มออกเดิน ฉินหว่านหรูก็เรียกเขาอีกครั้ง “ช้าก่อนท่านหมอเปา! ท่านช่วยเตรียมยาฟื้นพลังชีวิตมาอีกสักถ้วยด้วยก็ดี”

“ฟื้นพลังชีวิต?” เปาโหย่วหลูตกตะลึงชั่วขณะ แต่แล้วความเข้าใจก็เกิดขึ้นกับเขา ด้วยสภาพปัจจุบันของคุณหนูใหญ่ เป็นการดีที่จะเตรียมยาฟื้นพลังชีวิตเผื่อเอาไว้

ส่วนพวกที่มาจากสาขารองและสาขาที่สามที่ตามมาทีหลัง พวกเขาต่างแยกย้ายกันจากไปเมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอะไรให้น่าดูแล้ว

ในที่สุด ฉินหว่านหรูก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อทุกคนจากไป นางจึงไม่ต้องกังวลว่าใครจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างในอีกต่อไป

หากสิ่งที่เกิดขึ้นข้างในหลุดรอดออกมา เรื่องอื้อฉาวครั้งใหญ่จะต้องปะทุขึ้นอย่างแน่นอน!

ทุกอย่างเป็นความผิดของไอ้เด็กเหลือขอซูอัน!

ท่านยั่วยุฉินหว่านหรูสำเร็จ

ได้รับคะแนนความโกรธแค้น + 233!

ฉู่จงเทียนเดินมาถึงกลางทาง เมื่อฉู่ฮวนเจาสวนกลับมา เขาก็ถามทันทีว่า “ฮวนเจา เจ้าทำอะไรกับแม่นางชิวหรือเปล่า?”

“ข้าแค่จะถามอะไรนางนิดหน่อยแค่นั้นเองไม่ต้องกังวลหรอกน่าท่านพ่อ! แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่พบผู้หญิงคนนั้นเลย!” ฉู่ฮวนเจากล่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว จู่ ๆ ก็มีแววประหลาดใจในดวงตาของนาง “ท่านพ่อ ท่านนี่แปลก ๆ นะ นางไม่ใช่อนุภรรยาของท่าน ทำไมท่านถึงรู้สึกร้อนรนนักล่ะ?”

ฉู่จงเทียนมองลูกสาวของเขาอย่างหงุดหงิด “ในหัวของเจ้าทำไมถึงมีแต่เรื่องไร้สาระแบบนี้! เจ้าอย่าเที่ยวคิดอะไรมั่ว ๆ ไปเรื่อยเชียว ข้าเป็นพ่อของเจ้านะ!”

หลังจากพูดจบเขามองไปรอบ ๆ บริเวณด้วยสีหน้าสงสัย ผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่เพื่ออะไรกันแน่? หรือว่า…นางมาที่นี่เพื่อขโมยอะไรบางอย่าง!?”

ฉู่จงเทียนตื่นตระหนก เขารีบวิ่งออกไปตั้งใจที่จะรีบไปตรวจสอบทรัพย์สินมีค่าในคฤหาสน์ทันที

จากท่าทางของพ่อ ฉู่ฮวนเจาสันนิษฐานว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น นางจึงวิ่งตามเขาไปอย่างเป็นห่วง

ฉู่จงเทียนตรวจสอบสมบัติของตระกูลอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบสิ่งใดที่ขาดหายไป ส่วนบ่อน้ำแห่งจิตวิญญาณที่สำคัญอย่างยิ่งที่พวกเขาครอบครองอยู่ก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง มันยังคงปนเปื้อนอยู่ตามเดิม

ข้าคิดมากไปหรือเปล่า? ฉู่จงเทียนเรียกคนรับใช้ชื่อ จิ่นจู มาถามว่าพา ชิวฮัวเล่ยไปที่ไหน

จิ่นจูงงงวย “เอ…ก็นายท่านบอกให้ข้าพาแม่นางชิวไปที่ห้องของนายน้อยไม่ใช่เหรอ?”

ฉู่จงเทียนมีสีหน้าว่างเปล่า “ข้าไปพูดตอนไหน?”

“แม่นางชิวบอกว่าท่านบอก” จิ่นจูตอบด้วยท่าทางจริงจัง

ฉู่จงเทียนพูดไม่ออก

เหตุใดตระกูลของข้าจึงมีตัวปัญหาเพิ่มขึ้นอีกแล้ว แค่เฉิงโซวผิงก็ทำให้ข้าปวดหัวมากเกินพอ และตอนนี้ข้ายังต้องรับมือกับจิ่นจูด้วยอีกเนี่ยนะ?

ฉู่ฮวนเจารีบพูด “นางไปที่ห้องพี่เขย? นังจิ้งจอกตัวนี้ไร้ยางอายเกินไปแล้ว!” ความโกรธของฉู่ฮวนเจาปะทุขึ้นทันที นางรีบวิ่งไปที่ห้องของซูอันอย่างรวดเร็ว

ฉู่จงเทียนเบิกตากว้าง เขาสังเกตเห็นว่าลูกสาวได้นำแส้คร่ำครวญของนางออกมาถือเรียบร้อยแล้ว!

เขารีบวิ่งตามนางไปโดยกลัวว่าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้น!

ชิวฮัวเล่ยและเพ่ยเหมียนหมานแลกหมัดและแข้งกันไปมากกว่าร้อยครั้งแล้ว

หลังจากได้รับบาดเจ็บภายในกันทั้งคู่ พวกนางจึงเริ่มตะโกนด่ากัน

“กัดไม่ปล่อยอย่างกับหมา! เจ้าเป็นใครบอกมา!” เพ่ยเหมียนหมาน ตะโกนอย่างดุเดือด พลางหอบหายใจไปด้วย

นางมาตั้งแต่ตะวันยังไม่ลับขอบฟ้าและรอคอยการกลับมาของซูอันอย่างมีความสุข ใครจะไปคิดว่า จู่ ๆ ผู้หญิงคนนี้จะโผล่เข้ามา! สิ่งที่เกิดขึ้นแตกต่างจากที่นางคาดไว้มาก มันทำให้นางแทบบ้าตาย

ชิวฮัวเล่ยตอบโต้ “ถ้าข้าเป็นหมาเจ้าก็เป็นหมาเหมือนกันนั่นแหละ! เจ้าหมา บอกชื่อของเจ้ามา!”

แต่ละคนต่างก็สงสัยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เป็นมิตรหรือศัตรูของซูอันกันแน่?

น่าเสียดายที่ทั้งคู่ไม่สามารถคาดเดาตัวตนของอีกฝ่ายได้

ทั้งสองคนต่างมีแรงจูงใจแอบแฝง และทั้งคู่ก็ไม่เต็มใจที่จะถามอีกฝ่ายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางกับซูอัน เนื่องจากกลัวว่าตัวตนจะถูกเปิดเผย

ทั้งสองกระโดดเข้าหากันอีกรอบ ทั้งสองแลกหมัดใส่เข้าที่หน้าอกของอีกฝ่าย

เอ๊ะ? ทำไมหน้าอกใหญ่?

ผู้หญิงคนนี้ไม่ด้อยกว่าข้า! ไม่นึกเลยว่าอาซูจะมีคนแบบนี้อยู่เคียงข้างเขา!

การต่อสู้รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทันใดนั้น เพ่ยเหมียนหมานก็ตกใจกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาใกล้ “นับว่าครั้งนี้เจ้าโชคดี!” นางสบถ

นางไม่ต้องการให้ตระกูลฉู่รู้ว่านางอยู่ที่นี่ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถจบการต่อสู้กับผู้หญิงคนนี้ได้

ฮึ่ม! แค่ระดับที่ห้า! ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจในครั้งต่อไปที่ข้าเห็นเจ้า!

นางกระโดดออกไปในพริบตา และเร่งฝีเท้าจากไปด้วยความเร็วสูงสุด จากนั้นร่างของนางก็หายไปในความมืดมิดยามค่ำคืน

ชิวฮัวเล่ยลูบหน้าอก ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนาง การโจมตีของยัยนั่นรุนแรงจริง ๆ ถ้าข้าไม่กลัวว่าตระกูลฉู่จะได้ยิน ข้าคงฆ่าเจ้าไปมากกว่าร้อยรอบแล้ว!

ฮึ่ม เจ้ามันก็แค่ระดับที่ห้าเท่านั้น!

“ชิวฮัวเล่ย ไสหัวออกมาจากห้องของพี่เขยข้าเดี๋ยวนี้!”

เสียงตะโกนด้วยความโกรธของสาวน้อยดังขึ้นมาแต่ไกล

นั่นคือเสียงของลูกสาวคนรองของตระกูลฉู่ใช่ไหม? ชิวฮัวเล่ยได้ทำการตรวจสอบตระกูลฉู่อย่างละเอียดก่อนที่ตัวเองจะมาที่นี่ นางจึงรู้จักตัวตนของคนสำคัญทั้งหมดเป็นอย่างดี

ในตอนแรกนางคิดจะทำให้เสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของนางเรียบร้อย แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งนางก็ตัดสินใจเดินออกไปทั้งเสื้อยับ ๆ อย่างที่เป็นอยู่

“เอ๊ะ? เกิดอะไรขึ้นกับเจ้า?” ฉู่ฮวนเจาเดิมทีมาเพื่อประณามชิวฮัวเล่ย แต่เมื่อนางเห็นสภาพที่ยับเยินของอีกฝ่าย นางก็กลืนคำพูดเหล่านั้นกลับไปโดยไม่รู้ตัว

ฉู่จงเทียนตกตะลึงเช่นกัน เสื้อผ้าและผมของชิวฮัวเล่ยยุ่งเหยิง ใบหน้าของนางแดงก่ำอย่างมีเสน่ห์ มีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นบนหน้าผากของนาง ทั้งหมดนี้ทำให้นางดูเย้ายวนยิ่งขึ้น ทวีความน่ารักและน่าเอ็นดูยิ่งขึ้นไปอีก!