ตอนที่ 484 วิกฤตของเหม่ยซิน

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 484 วิกฤตของเหม่ยซิน

ตอนที่ 484 วิกฤตของเหม่ยซิน

อย่างที่โมยาตบอกว่าทำไมจะต้องจำกัดความสามารถของเขาเพียงเพราะเขาเป็นมนุษย์ด้วย?

ตราบใดที่เขามีสติปัญญาก็คงจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม? การที่จักรวรรดิของพวกเขาเปิดกว้าง ไม่จำกัดเชื้อชาติ อายุ และอัตลักษณ์ มันน่าภาคภูมิใจกว่าไม่ใช่เหรอ?

[ท่านจักรพรรดิพูดถูก ฟังขึ้นมากกว่าการอ่านหนังสือยืดยาวอีก!]

[สมแล้วที่เป็นฝ่าบาท ประสบการณ์แตกต่างอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด!]

[ฝ่าบาทพูดถูก เขาจะเป็นมนุษย์หรือไม่ก็ช่างเถอะ ขอแค่เต็มใจมีส่วนร่วมกับเคทเลอร์ของเราก็พอ!]

[แต่ที่จริงผมก็ยังอยากจะถามนะ พวกเขาเป็นมนุษย์กันหรือเปล่า? ถ้าเป็นมนุษย์จริง ๆ นั่นก็หมายความว่าพวกเขาไม่ได้ตายใช่ไหม? พวกเขาขึ้นไปยานรบของเผ่ามนุษย์แล้วงั้นเหรอ?]

เหม่ยซินรู้สึกโกรธจัด ความตั้งใจเดิมของเธอคือการสั่งสอนบทเรียนให้กับจางเล่อ แต่คำพูดเพียงไม่กี่คำของจักรพรรดิกลับเปลี่ยนทิศทางของชาวเน็ตไปได้!

เธอรู้สึกหมดหนทาง เพราะอำนาจของเธอไม่อาจเทียบกับจักรพรรดิได้ นอกจากนี้เธอยังมาจากเผ่าโกต้าที่ไม่ได้เป็นชนชั้นสูง

ไม่มีทางที่จะทำให้ข้อโต้แย้งของจักรพรรดิสั่นคลอนได้เลย

เดิมทีทุกอย่างจบลงแล้ว แต่ในไม่ช้าเธอก็พบว่าเธอกำลังถูกจับตามอง!

และถูกชายชุดดำที่อยู่ตรงหน้าลักพาตัวไป

“แกคือใคร? ลักพาตัวฉันมาทำไม? ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ ฉันไม่ได้มีเรื่องอะไรกับแก ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเสียหายสักหน่อย!”

“เกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น แต่มาบอกว่าไม่ทำอะไรเสียหาย มันไม่ฟังดูตลกไปหน่อยเหรอ?” ชายในชุดดำส่ายหัว พูดเยาะเย้ยขณะจ้องมองเหม่ยซิน “แค่เธอแอบถ่ายวิดีโอตอนข้าราชการอาบน้ำ ฉันก็ฟ้องเธอได้แล้ว!”

“ฉันไม่ได้ตั้งใจ ถ้าแกมาเพราะเรื่องนี้ ฉันเอาวิดีโอนั้นให้แกก็ได้นะ ได้โปรดปล่อยฉันไป!”

สายตาของเหม่ยซินจับจ้องผนังบริเวณโดยรอบที่เต็มไปด้วยผิวหนังมนุษย์ อีกทั้งยังมีหัวกะโหลกมากมายถูกแขวนเอาไว้บนผนัง เห็นได้ชัดว่าชายที่อยู่ตรงหน้าคือคนเลวที่ชั่วร้ายอำมหิต!

เธอรู้สึกสยองมาก เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อนซะที่ไหน?!

“เอาวิดีโอมาให้ฉันแล้วจะมีประโยชน์อะไร?” ชายที่อยู่ตรงหน้าช้อนคางเธอขึ้นมา และพูดเยาะเย้ย “ตั้งใจจะยั่วฉันหรือไง? ฉันคงไม่ได้บอกเธอสินะว่าเธอน่าเกลียดขนาดไหน!”

“ไม่แปลกใจที่จางเล่อรังเกียจเธอ!”

แทงใจดำทุกคำพูด! ใบหน้าของเหม่ยซินแดงก่ำ ไม่อาจหักล้างคำพูดดังกล่าวได้

“แกบอกมาเลยดีกว่าว่าแกต้องการอะไร จะฆ่าจะแกงกันก็ทำเลย!”

“ทีนี้ใจกล้าขึ้นมาแล้วสินะ ไม่กลัวตายแล้วหรือไง? หรือว่าไม่พอใจที่ฉันบอกว่าเธอน่าเกลียด?”

ชายในชุดดำส่ายหัว รู้สึกได้ว่าหัวข้อสนทนานี้น่าเบื่อเกินไป

“เธอไม่อยากตามหาจางเล่อหรือไง? ง่าย ๆ เลยนะ ขอแค่เธอรับปากว่าเธอจะช่วยอะไรฉันสักอย่าง แล้วฉันจะจัดส่งจางเล่อให้ถึงมือเธอเลย เธอพอจะจัดการมันได้ไหมล่ะ?”

“เขาตายไปแล้ว แกจะให้ฉันทำอะไร? แกจะบุกยานรบของมนุษย์แล้วแย่งชิงศพมาหรือไง?”

เหม่ยซินไม่เชื่อในคำพูดของอีกฝ่าย

เธอไม่ใช่เด็กสามขวบ…!

“อย่ามาเสแสร้งนักเลย ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเธอจะคิดว่าจางเล่อตายแล้ว!” ชายในชุดดำพูดเยาะเย้ย “บอกมาดีกว่าว่าเธอต้องการจางเล่อไหม?”

“แต่ไม่ว่าเธอจะต้องการหรือไม่ ผลลัพธ์สุดท้ายก็มีเพียงอย่างเดียว เธอจะต้องทำภารกิจที่ฉันมอบให้ ไม่อย่างงั้นโชคชะตาของเธอจะต้องพบกับความตาย!”

เหม่ยซินกัดริมฝีปากแน่นขณะมองดูชายตรงหน้า “แกต้องการให้ฉันทำอะไร?”

เธอกลัว! ดวงตาของผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความเย็นชา ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้พูดล้อเล่น และนี่คือความจริง

“ง่ายมาก เธอก็แค่ต้อง…”

“อะไรนะ แกจะให้ฉันจัดการกับจักรพรรดิ? ไม่มีทางซะหรอก!”

เหม่ยซินตกใจมากเมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอโบกมือครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่กล้าจะลงมือทำ

“แน่ใจนะว่าจะไม่ทำ? ถ้าไม่ทำก็ไม่เป็นไร งั้นก็เอาหัวกะโหลกมาให้ฉันสะสมซะ!” ชายในชุดดำพูดอย่างเย็นชา “อย่าคิดว่าฉันไม่กล้าทำนะ เธอทำภารกิจและเอาเหรียญทองอินทนิลหนึ่งหมื่นเหรียญไป แค่นี้ก็พอให้เธอได้ลืมตาอ้าปากไปตลอดชีวิตแล้ว!”

“คิดว่าไงล่ะ? จะอยู่หรือจะตาย?” ชายในชุดดำถือมีดเล่มใหญ่อยู่ในมือ แสงแวววาวสะท้อนอยู่ในห้องที่มืดสลัว ดูเหมือนว่าถ้าเหม่ยซินปฏิเสธ มีดเล่มใหญ่ในมือของเขาจะบั่นเข้าที่คอของเธอจนกลายเป็นศพไม่มีหัวทันที

“ฉันจะทำ!” เหม่ยซินยิ้มเหยเกและพยักหน้า

“ให้ได้แบบนี้สิ มีคำกล่าวไว้ว่าผู้ที่เข้าใจสถานการณ์คือผู้เฉลียวฉลาด แล้วเธอจะขอบคุณที่วันนี้เธอเลือกแบบนี้”

กลางดึกที่เงียบสงัด เหม่ยซินนั่งอยู่ด้านหน้าคอมพิวเตอร์ปัญญาประดิษฐ์ ขณะที่ชายชุดดำนั่งอยู่ด้านข้างเธออีกที

“ตอนนี้โพสต์ข้อความที่ฉันเขียนลงบนอินเทอร์เน็ตซะ!”

เหม่ยซินลงมือโพสต์ข้อความดังกล่าว

เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น เหม่ยซินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และทันใดนั้นเธอก็รู้สึกถึงความเจ็บแปลบที่แล่นเข้ามาบริเวณลำคอ ศีรษะของเธอเคลื่อนตัวเข้าใกล้พื้นมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะกลิ้งไปมา ขณะที่ศพหัวขาดยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ทำไมศพนี้ถึงได้มีเสื้อผ้าคล้ายคลึงกับเธอนะ?

“เยี่ยม รักษาหมื่นเหรียญทองอินทนิลไว้ได้อีกครั้งสินะ!”

ชายคนดังกล่าวสะบัดมีดเล่มใหญ่ที่อยู่ในมือ หยาดเลือดไหลลงมาจากปลายมีด โดยไม่ทิ้งรอยเปื้อนไว้แม้แต่น้อย

เขาปิดประตูลง และเดินจากไป

กลางดึก ชาวเน็ตทั้งหลายที่ยังไม่หลับใหลต่างรู้สึกตกใจกับการคาดเดาของเหม่ยซิน!

[ท่านจักรพรรดิคือลูกชายขององค์หญิงแห่งดาวโจรสลัด เป็นไปได้ยังไง?]

ชาวเน็ตทั้งหลายมองดูการคาดเดาที่อยู่บนหน้าจอด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง รู้สึกวิตกกังวลแทนเหม่ยซิน

ผู้หญิงคนนี้บ้าไปแล้ว ไม่เพียงแต่จะกล้าแอบถ่ายข้าราชการตอนอาบน้ำเท่านั้น แต่ตอนนี้ยังมาคาดเดาเกี่ยวกับจักรพรรดิอีก เธอไม่กลัวว่าหัวจะหลุดออกจากบ่าบ้างหรือไง?

[เหม่ยซินเสียสติไปแล้วหรือไง? ถึงได้กล้าพูดอะไรไร้สาระไปหมด กล้ามาพูดล้อเล่นว่าท่านจักรพรรดิเป็นลูกชายขององค์หญิงแห่งดาวโจรสลัดเชียวเหรอ?]

[เหมือนจะไม่มีอะไร แต่พอคิดก็น่ากลัวแฮะ คิดว่าเหม่ยซินจะไม่มีหลักฐานเลยเหรอ? ไม่งั้นเธอคงไม่ทำตัวยุ่งเหยิงแล้วพ่นประโยคอะไรแบบนี้ออกมาหรอก?]

[เธอก็แค่อยากทำตัวเป็นกระแสหรือเปล่า?]

[ไม่ ผมคิดว่าเธอเป็นบ้ามากกว่า!]

[ผมว่าสิ่งที่เหม่ยซินพูดน่าจะเป็นไปได้นะ พวกคุณลองคิดดูสิ ท่านจักรพรรดิไม่ได้เกิดจากจักรพรรดินีองค์ล่าสุดสักหน่อย แต่ถูกพาตัวกลับมาจากด้านนอก ในเมื่อเป็นลูกนอกสมรส ใครก็สามารถเป็นแม่ของฝ่าบาทได้]

[แต่คงไม่ใช่องค์หญิงแห่งดาวโจรสลัดปะ ต่อให้จักรพรรดิเฒ่าจะเลอะเลือนขนาดไหน ก็ไม่น่าไปยุ่งกับผู้หญิงพรรค์นั้นไหม?]

[ใครจะไปรู้ พวกคุณก็รู้ว่าถึงเหม่ยซินจะไม่กล้าพูดอะไรไร้สาระแบบนี้ แต่คนอื่นก็ต้องพูดถึงอยู่ดี]

[ผมเริ่มรู้สึกว่าตลอดสองวันที่ผ่านมา หัวสมองเริ่มคิดไม่ทันแล้ว เรื่องใหญ่สองเรื่องออกมาติดต่อกันจนทำให้ผมช็อกสุด ๆ ไปเลย ตอนนี้ต่อให้บอกว่าท่านจักรพรรดิเป็นมนุษย์ ผมก็เชื่อ]

[ใช่ ๆๆ ผมยอมเชื่อว่าจักรพรรดิเป็นมนุษย์มากกว่าจะเชื่อว่าเขาเป็นลูกชายขององค์หญิงแห่งดาวโจรสลัด!]