บทที่ 579 อุบายที่ยอดเยี่ยม

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 579 อุบายที่ยอดเยี่ยม

บทที่ 579 อุบายที่ยอดเยี่ยม

ตอนที่ฉู่เหินและหลิวซินยี่คิดแผนการอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านนอก “คุณชายหวังอยู่ไหม ? อ๋องน้อยของเราชวนคุณชายหวังไปดื่มเหล้าด้วยกันที่ร้านสุราสวรรค์ !”

คนคนนี้วิ่งไปแล้ว 3 สถานที่ ไปหาปีศาจงูสาวก่อนคนแรก ทว่าสุดท้ายก็หาไม่เจอ จึงไปที่บ่อนต่อ และมาลงเอยที่บ้านของเขาด้วยความจนใจ ซึ่งก็คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าอีกฝ่ายจะอยู่ที่นี่ !

ต้องเข้าใจว่ามีความเป็นไปได้กว่า 80% ที่หวังเชิงจะอยู่กับปีศาจงูสาว กับอีก 20% อยู่ที่บ่อน และสำหรับที่สุดท้ายนั้นมันก็เป็นแค่ฉากหน้าเอาไว้รับแขกก็เท่านั้น กระทั่งตอนนอนเขายังไม่กลับบ้านเลย ไม่คิดว่าวันนี้พระอาทิตย์จะขึ้นทางทิศตกวันตกหรือไร ทำไมหวังเชิงถึงอยู่บ้าน !

เมื่อฉู่เหินรู้ว่าคนคนนี้เชิญตัวเองไปดื่มเหล้ากับนายน้อยของกลุ่มเต่าดำ ! มันก็ทำให้ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกสงสัยเล็ก ๆ ในใจ เพราะเขาไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้หวังเชิงมีความสัมพันธ์ยังไงกับอีกฝ่าย และถ้าตัวเองไปตามคำเชิญล่ะก็ มันก็มีความเสี่ยงที่จะถูกดูออก !

กลับกับ เมื่อหลิวซินยี่ได้ยินคำพูดของคนด้านนอก ดวงตาก็สั่นไหวเล็กน้อย ด้วยเธอรู้ว่าเรื่องมันจะออกมาเป็นอย่างไร จึงหันไปกระซิบข้างหูของฉู่เหินเบา ๆ ซึ่งชายหนุ่มที่ได้ยินดังแบบนั้นก็พยักหน้ารับทราบ ! พร้อมกับที่ในใจเขาคิดแผนการขึ้นมาแผนหนึ่งและหันไปบอกหญิงสาว !

หลังหญิงสาวได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ! แต่หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่งก็พยักหน้าเบา ๆ เพราะกับคนชั่ว ๆ แบบนี้ถือว่าจัดการได้เหมาะสมแล้ว ก่อนที่ฉู่เหินจะยิ้ม ๆ เดินตามคนคนนี้ไปที่ร้านสุราสวรรค์

ระหว่างนั้นเอง หลิวซินยี่ก็ออกมาจากบ้านด้วยเช่นเดียวกัน ! ด้วยจุดมุ่งหมายของชายหนุ่มในครั้งนี้ก็คือจางหว่านฉาย แต่เนื่องจากเขาปลอมตัวเป็นหวังเชิง ทำให้ไม่มีเวลาเหลือขนาดนั้น ! จึงได้ขอให้หลิวซินยี่ไปเป็นตัวแทน !

ซึ่งก็เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้หญิงสาวทำได้ดีว่าตัวเองนัก เนื่องจากเธอคุ้นเคยพื้นที่มากกว่าเขาเยอะ !

หลังจากตามชายคนนี้มา ในที่สุดตอนนี้ฉู่เหินก็ได้มาถึงที่ร้านสุราสวรรค์เป็นที่เรียบร้อย ! โดยในระหว่างทางเขาก็ได้รู้อะไรไม่น้อยมาจากปากของชายคนนี้ ทำให้ในใจนึกถึงแผนการบางอย่างขึ้นมาอีก !

“น้องหวัง นายปล่อยให้ฉันรอนานเชียว !” พอเห็นฉู่เหินในร่างของหวังเชิงมาถึง อ๋องน้อยแห่งกลุ่มเต่าดำก็เดินออกมารับยิ้ม ๆ สองมือผสานกันพูดออกมาเช่นนี้

หากเปรียบเทียบแม่ทัพกลุ่มเต่าดำเป็นอ๋องคนหนึ่ง งั้นแล้วบุตรชายของผู้เป็นอ๋องก็ย่อมต้องเรียกว่าอ๋องน้อยเพื่อแสดงออกถึงการให้เกียรติ และในขณะเดียวกันก็เป็นการล้อเลียนว่าที่เขาได้ตำแหน่งนี้ก็เพราะบิดาตนเอง เพียงแต่อ๋องน้อยคนนี้กลับไม่สนใจสักนิดเดียว

เขาคิดว่าไม่ว่าอย่างไรผู้คนก็เรียกเขาว่าอ๋องน้อยไม่ใช่หรือ งั้นจะมีอะไรไม่คุ้มกันล่ะ ! อีกทั้งเขายังภูมิใจในฐานะของตัวเองอย่างยิ่ง ดังนั้นพอได้ยินฉู่เหินเรียกตัวเองว่าอ๋องน้อย มันก็ทำให้เขาอดหัวเราะอย่างเบิกบานออกมาไม่ได้ ! ก่อนจะยื่นมือข้างหนึ่งออกไปลากพาชายหนุ่มเข้าไปในห้อง !

ฉู่เหินกวาดตามองสภาพแวดล้อมรอบ ๆ ครั้งหนึ่ง ก่อนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้นมา “อ๋องน้อย ฐานะอย่างคุณทำไมถึงมากินอาหารในที่แบบนี้ล่ะ ดูเหมือนมันจะไม่ค่อยสมฐานะเท่าไรเลย ฉันว่าคุณน่าจะซื้อบ้านสักหลังในกลุ่มเสือขาวไปเลยดีไหม แล้วก็เชิญพ่อครัวมาทำอาหารให้ ถึงตอนนั้นพวกเราค่อยมาร่วมกินร่วมดื่มด้วยกันเป็นไง ?”

พออ๋องน้อยคนนี้ได้ยินที่ฉู่เหินพูดก็ตบโต๊ะอย่างเห็นด้วย เขาคิดว่าที่อีกฝ่ายพูดมาก็ถูก ฐานะอย่างเขาไม่เป็นจำต้องมาอยู่ในที่แบบนี้เลย ! ช่างเสียเกียรติจริง ๆ

“งั้นแล้วอ๋องน้อยอย่างฉันควรจะซื้อที่ไหนถึงจะดีล่ะ !” ที่จริงเขามีแผนไว้ตั้งนานแล้ว ด้วยเพียงแค่ตัวเองมีที่เป็นของตัวเอง ก็จะสามารถเอานางบำเรอมาไว้ที่นั่นได้ ทว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจ ดังนั้นพอฉู่เหินพูดขึ้นมาจึงได้ถามกลับไปแบบนั้น !

“เท่าที่ฉันรู้มา ทางตอนใต้ของที่นี่มีบ้านหรูอยู่หลังหนึ่ง และตั้งแต่ที่นั่นสร้างเสร็จก็ยังไม่เคยมีใครเข้าไปอยู่ ! ถ้าคุณสนใจละก็ฉันจะไปถามให้ เนื่องจากบ้านนั้นตอนนี้อยู่ในกำมือของท่านแม่ทัพหลิว อีกทั้งความสัมพันธ์ของพวกเราสองคนก็ไม่เลวเลย ! ทว่าห้องตรงนั้นมันก็แพงไม่น้อย ด้วยเพราะมันตั้งอยู่ใกล้กับบ้านของท่านแม่ทัพมาก !”

อ๋องน้อยที่ได้ยินว่าบ้านนั้นใกล้กับบ้านแม่ทัพก็ดีใจสุดขีด ! เพราะเขาได้ข่าวแม่ทัพคนนี้มีเมียน้อยที่สวยมาก ๆ ชนิดที่ว่าแค่เห็นครั้งหนึ่งก็ไม่สามารถลืมได้ ! ดังนั้นมาตอนนี้พอรู้ว่าบ้านอยู่ไม่ไกลกับบ้านแม่ทัพ มันก็ไม่แน่ว่าถึงตอนนั้นเขาอาจจะมีโอกาสได้สานสัมพันธ์กับเธอก็ได้ !

แต่นี่ก็เป็นเพียงความคิดเท่านั้น ไม่กล้าทำจริง ๆ หรอก เนื่องจากอีกฝ่ายเป็นเมียน้อยของแม่ทัพ ถ้าถูกรู้เข้าก็คงไม่แคล้วถูกฆ่าตาย ! แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น อย่างน้อยเขาก็มีโอกาสได้เห็นสาวสวยทุกวัน และแค่นั้นมันก็ถือได้ว่าดีไม่น้อย ! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า

พอคิดถึงตรงนี้ ก็ยิ่งรู้สึกอดรนทนไม่ไหว รีบบอกให้ฉู่เหินไปช่วยเขาติดต่อเร็ว ๆ! ส่วนเรื่องกินข้าวก็ลืมไปได้เลย !

เมื่อชายหนุ่มได้ยินแบบนั้น เขาก็รีบบอกลาเพื่อไปจัดการเรื่องนี้ให้ในทันที ! สำหรับเรื่องเงิน อ๋องน้อยบอกว่าถ้าใช้เงินได้จริง งั้นแล้วมันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับตัวเองแต่อย่างใด !

เรียกได้ว่าอ๋องน้อยคนนี้เป็นคนรวยอย่างแท้จริง เขารีบบอกให้ฉู่เหินไปจัดการ อีกทั้งยังนำของมีค่าออกมามากมาย ซึ่งมันก็มีของวิเศษถึง 5 ชิ้นด้วยกันอยู่ในนั้น ! อีกทั้งถ้ายังไม่มากพอละก็ เขาก็สามารถที่จะนำเอาไข่มุกนำโชค 3 ถึง 4 มาจ่ายได้เลย ! ซึ่งก็บอกได้เลยว่านี่เป็นมูลค่าที่มหาศาลทีเดียว

ไม่เพียงซื้อบ้านหลังหนึ่ง กระทั่งสามารถซื้อตึกนับร้อยตึกในสนามรบชิงคงได้แบบไม่มีปัญหาเลยทีเดียว !

ฉู่เหินเดินทางตรงไปยังที่ที่แม่ทัพนามสกุลว่าหลิวอยู่ ซึ่งหญิงสาวก็ได้บอกทางให้เขารู้เรียบร้อยแล้ว และก็เป็นคนคนนี้นี่แหละที่มีบ้านใกล้ ๆ กับแม่ทัพ

ทว่าที่นี่ไม่ได้มีไว้ให้ตัวเองอยู่ แต่เอาไว้ให้ทหารคนสนิทที่สุดของท่านแม่ทัพตังหาก !

ซึ่งบ้านที่ว่าก็มีเนื้อที่ไม่มากนัก ใช้ไข่มุกนำโชคสีขาวไม่ถึงครึ่งเม็ดด้วยซ้ำไป และถ้าถามว่าตอนนี้แม่ทัพหลิวกำลังคิดว่าจะเอาบ้านนี้ให้ใคร ? งั้นแล้วก็ต้องบอกว่าหวังเชิงถือเป็นตัวเลือกอันดับแรก !

เพียงแต่หวังเชิงเป็นเหมือนกับแม่ทัพ ที่นิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ทำอะไรก็ชอบทำคนเดียว ดังนั้นการยกบ้านนี้ให้เขาก็น่ากลัวว่าถึงเวลานั้นอีกฝ่ายจะเป็นยังไง ! แต่นอกจากหวังเชิงแล้ว ก็มีเพียงญาติฝั่งภรรยาน้อยของท่านแม่ทัพเท่านั้นที่ดูเหมาะสม

ทว่ามันก็ติดที่คนคนนี้เป็นพวกผีพนันตัวยง ทำให้ท่านแม่ทัพไม่ค่อยชอบเท่าไร และถ้าให้อีกฝ่ายมาอยู่ในสายตาแม่ทัพ เขาก็รู้สึกว่าคงไม่ใช่เรื่องดีนัก

ดังนั้นเมื่อเห็นหลิวเชิงมาหา แม่ทัพหลิวก็รีบออกมาต้อนรับอย่างไว !

“แม่ทัพหลิวไม่ได้เจอเสียหลายวัน หน้าตาดูดีขึ้นนะ ! มีเรื่องอะไรน่ายินดีเกิดขึ้นงั้นหรือ ?” พอฉู่เหินมาถึงก็ยิ้มแย้มด้วยใบหน้าเป็นมิตร อีกทั้งก็ไม่ลืมทำใบหน้าหยิ่งนิด ๆ ให้สมกับตัวหวังเชิง ซึ่งสิ่งที่แตกต่างอย่างเดียวก็คือ หวังเชิงไม่เคยเรียกแม่ทัพหลิวว่าแม่ทัพหลิว ทว่าเพียงแค่นี้ก็ถือว่าชายหนุ่มทำได้ไม่เลวแล้ว !

พอแม่ทัพหลิวได้ยินคนตรงหน้าเรียกแบบนั้น เขาก็ขนลุกชัน ด้วยไม่รู้จริง ๆ ว่าคนคนนี้มีจุดประสงค์อะไรแอบแฝงกันแน่ ?

“องครักษ์สูงสุดมาถึง จะไม่ให้ฉันต้อนรับอย่างดีได้อย่างไร !” เพราะหวังเชิงมีอาจารย์เป็นแม่ทัพใหญ่ ทุกคนจึงเรียกเขาว่าองครักษ์อย่างนับถือ ! ซึ่งก็เรียกได้ว่าฐานะของหวังเชิงกับอ๋องน้อยนั่นไม่ได้แตกต่างกันเลย

“แม่ทัพหลิวเกรงใจเกินไปแล้ว วันนี้ฉันมีเรื่องจะขอร้อง ! ไม่รู้ว่าแม่ทัพหลิวจะไว้หน้าฉันได้หรือเปล่า !” ฉู่เหินโบกไม้โบกมือให้อีกฝ่ายไม่ต้องมากพิธี ! ก่อนจะพูดออกมาด้วยท่าทางจนใจ