บทที่ 451 อะไรนะ! ภรรยาของจักรพรรดิเซียนซู่หัวเป็นอาจารย์อสูร!

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 451 อะไรนะ?! ภรรยาของจักรพรรดิเซียนซู่หัวเป็นอาจารย์อสูร?!

บทที่ 451 อะไรนะ?! ภรรยาของจักรพรรดิเซียนซู่หัวเป็นอาจารย์อสูร?!

อาจารย์อสูรเจี้ยนอวี้และอสูรทั้งหมดบนท้องฟ้าถูกไป๋ชิวหรานกำจัดสิ้น ปัจจุบันมิติเงาเต็มไปด้วยแนวคิด และพลังจิตวิญญาณที่ล่องลอยอยู่ในทุกหนแห่ง นี่คืออาหารชั้นดีสำหรับเหล่าอาจารย์อสูร!

และเนื่องจากไป๋ชิวหรานปิดกั้นเขตแดนจิตสำนึกของมิติอื่น ๆ แล้ว มิติที่อยู่ด้านนอกมิติเงาจึงไม่อาจรับรู้ได้ถึงการต่อสู้ที่น่าประทับใจนี้ และไม่มีผู้ใดทราบว่าอาจาราย์อสูรเจี้ยนอวี้และกองทัพทั้งหมดของมันถูกกวาดล้างหมดสิ้นแล้ว

มิติเงานี้กลายเป็นจานที่เต็มไปด้วยอาหาร

“จบเสียที!”

ไป๋ชิวหรานนั่งลงบนพื้นก่อนจะปัดมือเบา ๆ จากนั้นดึงซูเซียงเสวี่ยและเจียงหลานขึ้นจากพื้น ก่อนจะช่วยปัดร่างกายให้กับพวกนาง

โหรวเยว่หมิงยังคงนั่งยอง ๆ อยู่บนพื้นในท่าใช้มือกุมศีรษะป้องกันตัว จนกระทั่งไป๋ชิวหรานเรียกขานนางอีกครั้ง จึงตอบสนองและค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน จากนั้นจ้องมองไปที่แนวคิดและพลังแห่งจิตสำนึกบริสุทธิ์มากมายที่กระจัดกระจายอยู่ในอากาศด้วยสีหน้าสับสน

“ความแข็งแกร่งนี้คืออะไร?”

นางกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ

“ข้าเป็นอาจารย์ลุงของซู่หัว”

ไป๋ชิวหรานเหลือบมองพร้อมกล่าวตอบ

“เราจะออกเดินทางตอนนี้เลยหรือไม่?”

เจียงหลานเงยหน้าแล้วถามขึ้น

“ไว้ค่อยพูดคุยกันภายหลังเถิด…”

ไป๋ชิวหรานมองขึ้นไปในอากาศ ได้เห็นแนวคิดและพลังแห่งจิตสำนึกบริสุทธิ์บนท้องฟ้ามากมายเหลือคณานับ จากนั้นร่างของเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานจึงปรากฏขึ้นด้านหลังอย่างเชื่องช้า

“รีบไปจัดการอาหารเย็นซะ!”

ซูเซียงเสวี่ยและเจียงหลานเข้าใจทันที นางจึงปลดปล่อยอาจารย์อสูรของตนเองออกมา โดยไป๋ชิวหรานไม่ลืมที่จะปลดปล่อยจักรพรรดิเซียนองค์แรกที่ถูกขังอยู่ในทะเลจิตสำนึกออกมาด้วยเช่นกัน

“เอาล่ะ! ได้เวลากินข้าวแล้วเด็ก ๆ!!”

ไป๋ชิวหรานควบคุมเทพอาวุโสก่อสร้างรากฐานให้ก้าวไปด้านหน้า ก่อนจะกวักมือเรียกโหรวเยว่หมิง

“นี่! แม่หนูน้อย มัวทำอะไรอยู่? มากินข้าวกัน”

มีแนวคิดและพลังแห่งจิตสำนึกบริสุทธิ์มากมายของอสูรเจี้ยนอวี้และเหล่าสมุนของมัน แม้ไป๋ชิวหรานกับคนอื่น ๆ จะดูดซับพวกมันร่วมกัน แต่ก็ต้องใช้เวลามากในการทำความสะอาดมิติเงาทั้งหมด

หลังจากดูดซับเสร็จสิ้นแล้ว ร่างจำแลงอาจารย์อสูรทั้งสามล้วนผล็อยหลับไป เห็นได้ว่าแนวคิดมหาศาลเหล่านั้นทำให้พวกมันสามารถพัฒนาไปได้อีกขั้น

จักรพรรดิเซียนองค์แรกของไป๋ลี่ยังนิ่งเงียบและอยู่ในขั้นพัฒนา โชคดีที่ตอนนี้ได้พบตำแหน่งของจักรพรรดิเซียนซู่หัวและโหรวเยว่หมิงแล้ว เช่นนี้เจ้าเครื่องมือช่างเช่นจักรพรรดิเซียนองค์แรกจึงไม่มีประโยชน์ใดอีกต่อไป

“ไปกันเถอะ… อึ่ก!”

โหรวเยว่หมิงปิดปากอย่างรวดเร็ว นางเรอออกมาอย่างไม่อาจควบคุมได้!

ในฐานะอาจารย์อสูรที่อ่อนแอกว่าหกอสูรแห่งความปรารถนาเพียงคืบเดียว นางจึงไม่หลับไหล แต่ในเวลานี้การเคลื่อนไหวก็ช้าลงมาก และนางไม่อาจปิดบังความอิ่มหนำจนพุงกางไว้ได้

“ตอนที่ซู่หัวเลี้ยงนาง… นางก็เป็นเช่นนี้หรือ?”

ซูเซียงเสวี่ยไม่อาจควบคุมตัวเองได้ จึงกล่าวกับเจียงหลานเงียบ ๆ

“นางจับผู้ชายคนนั้นได้อย่างไร?”

“บุรุษคนอื่นไม่ได้เป็นเช่นเดียวกับชิวหราน!”

เจียงหลานตอบกลับ

“เซียงเสวี่ย เจ้าเลือกพิชิตการละเล่นระดับความยากสูงสุดทันทีที่เกิดมา แน่นอนว่าจะไม่สามารถเข้าใจผู้เล่นที่สามารถผ่านระดับความยากปกติได้… นอกจากนี้ ตอนที่ข้าอยู่ในยุคทวยเทพ ข้าไม่ชอบการแต่งตัว และก็ชื่นชอบพวกแมลงพิษ งูพิษ คางคกพิษ และอีกมากมายที่น่ารังเกียจติดกายตลอดเวลา ข้ากับชิวหรานเองก็ไม่เหมือนกันใช่หรือไม่? ถึงแม้ตอนนั้นจักรพรรดิตะวันออกไท่อีจะเป็นผู้บังคับให้เราแต่งงานกันก็ตาม!”

ซูเซียงเสวี่ยคิดครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจ

“จักรพรรดิตะวันออกไท่อียอดเยี่ยมนัก…”

เนื่องจากมีโหรวเยว่หมิงมาเพิ่มเติม ทำให้วารีสารทกระจ่างฟ้าไม่อาจบรรทุกคนจำนวนมากได้อีกต่อไป! อีกทั้งตัวตนของโหรวเยว่หมิงยังเป็นถึงหลานสะใภ้ของเขา ดังนั้นไป๋ชิวหรานจึงรู้สึกว่าควรรักษาระยะห่างกับนาง

นี่คือทางเลือกสุดท้าย ไป๋ชิวหรานปรับแต่งเรือเหาะที่ว่างเปล่าทันที เพื่อบรรทุกทุกคนกลับสู่ป้อมปราการที่ชายแดน ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับกำแพงแห่งความตระหนักรู้

ภายในสายธารแห่งความว่างเปล่า ไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ จากไปเป็นเวลาหลายปี เวลานี้เกิดการก่อสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีป้อมปราการมากมาย และชายแดนทั้งหมดของเมืองเซียนถูกป้องกันอย่างหนาแน่นแล้ว

ป้อมปราการมากมายรายล้อม และชั้นของตาข่ายปิดกั้นการทะลักของจิตสำนึก ภายในคือเมืองเซียนที่มีเหล่าเซียนนับไม่ถ้วนเดินไปมา สิ่งต่าง ๆ ภายในโลกค่อย ๆ โคจรไป ทั้งหมดเป็นไปตามกระแสห้วงเวลา ภายในโลกแห่งนี้มีป้อมปืนใหญ่เซียนที่สามารถใช้โจมตีได้ครบทุกชนิด ทั้งหมดมุ่งเป้าไปที่พลังจากโลกภายนอก

ไป๋ชิวหรานหยุดที่ด้านนอกโลก และรอให้เหล่าเซียนภายในเมืองออกมาตรวจสอบ หลังจากยืนยันตัวตนเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ยืนรอเงียบ ๆ ก่อนที่ตาข่ายจะเปิด และกลุ่มเซียนเล็ก ๆ ออกมาพร้อมกับเรือลำเล็กที่ว่างเปล่า ก่อนจะเชิญพวกเขาเข้าสู่ด้านใน

เรือลำนี้พาพวกเขาเข้าสู่ศูนย์กลางของป้อมปราการของเขตชายแดน เมืองเซียนขนาดใหญ่สง่างามกว่าที่อื่น ๆ มันลอยอยู่ในอากาศอย่างเงียบเชียบ

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ตอนนี้ไม่สามารถเรียกขานว่า ‘เมือง’ ได้อีกต่อไปแล้ว แต่มันเป็นผืนแผ่นดินที่เกิดจากเมืองเซียนหลายแห่งหลอมรวมกันดุจอาณาจักร

เรือจอดเทียบท่า และเมื่อไป๋ชิวหรานและคนอื่น ๆ ลงจากเรือ เหล่าผู้คนภายในเมืองเซียนก็มารอต้อนรับแล้ว

หลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน แม้แต่เล่อเจิ้นเทียนกับเซียนหงเฉินก็ยืนอยู่ด้วย

“ข้ากลับมาแล้ว!”

ไป๋ชิวหรานกล่าวทักทาย

“ยินดีที่ได้พบท่านบรรพชนกระบี่”

เหล่าเซียนโค้งคำนับ

ไป๋ชิวหรานโบกมือ พร้อมกับหันมองเล่อเจิ้นเทียน

“ข้าสังหารหนึ่งในหกอสูรแห่งความปรารถนาแล้ว อีกทั้งยังได้พบศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าด้วย”

“จริงหรือ!?”

เล่อเจิ้นเทียนอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น ก่อนจะกล่าวถามอย่างลังเล

“ศิษย์พี่ใหญ่… สบายดีหรือไม่?”

“ไม่เป็นไร …แต่ข้าเกือบตาย ถูกรีดพลังจนแทบทรุด!”

ไป๋ชิวหรานถอนหายใจพร้อมกล่าวตอบเป็นนัยว่า ‘สนใจข้าบ้าง ข้ายืนอยู่ตรงนี้’

เวลานี้โหรวเยว่หมิงเดินตามเจียงหลานและซูเซียงเสวี่ยออกจากเรือด้วยท่าทีประหม่า แต่สายตาก็ยังทอดมองไปโดยรอบอย่างใคร่รู้

เมื่อเห็นโหรวเยว่หมิง แววตาของหลีจิ่นเหยาและถังรั่วเวยถึงกับเปลี่ยนไป

ถังรั่วเวยมองโหรวเยว่หมิง จากนั้นหันไปหาไป๋ชิวหราน แววตาของนางมากด้วยคำถาม?

ในทางกลับกัน หลีจิ่นเหยากลับทักทายอีกฝ่ายด้วยรอยยิ้ม นางจัดเสื้อผ้าของไป๋ชิวหรานให้เข้าที่ก่อนจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์วุ่นวาย เพื่อถามเจียงหลานและซูเซียงเสวี่ยถึงตัวตนของโหรวเยว่หมิงอย่างระมัดระวัง

“ศิษย์พี่หญิงหลาน ศิษย์พี่หญิงเซียงเสวี่ย นางผู้นี้เป็นใครหรือ?”

“ไม่มีอะไร”

ไป๋ชิวหรานเห็นถึงการกระทำของนางแล้ว เขาหันกลับมาลูบศีรษะภรรยาเบา ๆ จากนั้นชี้ไปที่โหรวเยว่หมิง และแนะนำนางให้เหล่าเซียนรู้จัก

“ข้าจะแนะนำให้รู้จัก โหรวเยว่หมิงเป็นภรรยาของจักรพรรดิเซียนซู่หัว”

หลังจากหยุดชั่วคราว เขาก็กล่าวเสริมว่า

“เป็นอาจารย์อสูร”

“อะไรนะ?!”

เล่อเจิ้นเทียนและเซียนหงเฉินมองโหรวเยว่หมิงด้วยความประหลาดใจ

เหล่าเซียนทั้งหมดตาค้างทันที อีกทั้งยังกล่าวอุทาน

“เหนือกว่าที่คิดไว้เสียอีก! จักรพรรดิเซียนซู่หัวไม่เพียงแต่ต้องต่อสู้ตะลุมบอนกับอสูร! แต่เขายังหลับนอนกับ…”

ก่อนที่จะกล่าวจบ เหล่าเซียนทั้งหมดก็ล้อมรอบร่างกายของผู้พูด ก่อนจะเกิดเสียงทุบตีรุนแรง และมีเสียงโอดโอยเล็ดลอดออกมา

“ข้าไม่ได้คาดหวังว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น…”

ไป๋ชิวหรานถอนหายใจพร้อมกล่าวคำ

“ท่านอาจารย์”

เล่อเจิ้นเทียนโน้มตัวอย่างเงียบ ๆ พร้อมเหลือบมองโหรวเยว่หมิง

“มันเกิดสิ่งใดขึ้นขอรับ?”

“ไม่ต้องรีบร้อน ไว้เราค่อย ๆ พูดคุยกันเมื่อกลับไปนั่งดื่มชาร่วมกัน”