ตอนที่ 873 ตบหน้าครั้งที่เก้า (3) / ตอนที่ 874 ตบหน้าครั้งที่เก้า (4)
ตอนที่ 873 ตบหน้าครั้งที่เก้า (3)
เมื่อเจอกับคำดุด่าอย่างแรงจากเฟิงเย่ว์หยางเข้าไป สยงป้าก็ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่ง
“ท่านผู้อาวุโสเฟิง ท่าน…ท่านว่าอะไรนะ” สยงป้าพูดอย่างสลด
“ข้าว่าอะไรอย่างนั้นรึ! ข้าบอกว่าท่านกล้าทำกับผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่ของเราด้วยท่าทางก้าวร้าวแบบนั้น คราวนี้ท่านทำเกินไปแล้วจริงๆ!” เฟิงเย่ว์หยางพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
“อะ…อะไร…ผู้มีพระคุณ…ของคุณหนูใหญ่” สยงป้าทำตาโต สงสัยอย่างจริงจังว่าหูของเขามีอะไรผิดปกติไปหรือไม่
“ยังไม่วางนางลงอีก!” เฟิงเย่ว์หยางจ้องสยงป้าอย่างเกรี้ยวกราด
สมองของสยงป้าว่างเปล่าขึ้นมาอย่างกะทันหัน เขาทำได้แค่ทำตามคำพูดของเฟิงเย่ว์หยาง เขาวางจวินอู๋เสียลง แค่คราวนี้เขาทำอย่างนุ่มนวลมาก บอกได้เลยว่าเขาระมัดระวังแบบสุดๆ
เมื่อเท้าถึงพื้น จวินอู๋เสียก็จัดแจงอาภรณ์และคอเสื้อที่สยงป้าทำยับยุ่งเอาไว้ให้เรียบร้อยอย่างใจเย็น
เฟิงเย่ว์หยางก้าวเข้ามายืนข้างๆ จวินอู๋เสียทันที เขาประสานมือและก้มศีรษะลงคารวะจวินอู๋เสียแบบโค้งเก้าสิบองศาเลยทีเดียว!
ภาพนั้นทำให้ทุกคนในห้องนิ่งอึ้งอย่างตกตะลึง
เฟิงเย่ว์หยางอยู่ในสถานะใดกัน ในใจของหมอทุกคนที่นั่น เขาเป็นเหมือนจุดสูงสุดของความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับพลังวิญญาณขั้นสีม่วงนั่นเลย! แต่ในวันนี้ทั้งๆ ที่ผมหงอกขาวทั้งศีรษะและยังมีความรู้ความสามารถทางการแพทย์ที่ไม่มีใครเทียบได้ เฟิงเย่ว์หยางกลับโค้งคารวะให้กับเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่อายุยังไม่ถึงสิบห้าปีต่อหน้าทุกๆ คน
ทุกคนในห้องต่างพากันสับสนในทันที
“ชายแก่ผู้นี้ตาบอดนัก มองไม่เห็นภูมิความรู้อันสูงส่งของท่าน ข้ามันกบในกะลาแท้ๆ มองท้องฟ้าจากในก้นบ่อน้ำแล้วก็เข้าใจคุณหนูจวินผิดไปอย่างมาก ขอให้คุณหนูจวินโปรดอภัยให้ข้าด้วย” น้ำเสียงของเฟิงเย่ว์หยางไม่มีความถือตัวและเฉยเมยเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป ทั้งยังสั่นอยู่นิดหน่อยด้วย ความสั่นในน้ำเสียงนั้นมาจากความตื่นเต้นที่เขารู้สึกอยู่ในตอนนี้
“ไม่เป็นไร” จวินอู๋เสียตอบอย่างไม่แยแส ไม่ได้มีทีท่าซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย นางไม่ได้รู้สึกไม่สบายใจที่จะยอมรับคำขอโทษอย่างจริงใจของเฟิงเย่ว์หยางเลย
คนทั้งห้องมองเฟิงเย่ว์หยางอย่างสับสน ลืมสนิทไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ๆ เฟิงเย่ว์หยางถึงได้แสดงความเคารพนับถือจวินอู๋เสียด้วยการคารวะสูงสุดเช่นนั้น ทั้งยังขอโทษขอโพยนางอีกด้วย!
“ท่านผู้อาวุโสเฟิง” ใบหน้าของสยงป้ากระตุกเล็กน้อย “ที่ท่านพูดเมื่อครู่ มันหมายความว่าอย่างไรหรือ ท่านหมายถึงอะไรตอนที่ท่านพูดว่า…ผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่”
เฟิงเย่ว์หยางมองสยงป้าอีกครั้งแล้วพูดว่า “ท่านนี่มันหัวขี้เลื่อยจริงๆ ถ้าเมื่อสักครู่ท่านทำร้ายคุณหนูจวินละก็ พอเรากลับไปที่เมืองพันอสูร ชายแก่คนนี้จะรายงานต่อท่านเจ้าเมืองแน่ ให้ท่านได้รับผลจากการกระทำของท่าน”
สยงป้ารู้สึกหดหู่กับสถานการณ์ของตัวเองมาก หลังจากโดนเฟิงเย่ว์หยางด่าว่าเอาอย่างเจ็บแสบซ้ำๆ เขาก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
เฟิงเย่ว์หยางถอนหายใจและพูดว่า “ชายแก่คนนี้เองก็โง่เขลานัก และเกือบจะทำผิดพลาดแบบเดียวกับท่าน โชคดีที่คุณหนูจวินใจกว้างและให้อภัย”
จวินอู๋เสียยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
เฟิงเย่ว์หยางพูดต่อว่า “ท่านรู้หรือไม่ว่าตอนที่ข้าจับชีพจรของคุณหนูใหญ่ครั้งที่สอง ผลออกมาเป็นอย่างไร”
สยงป้าส่ายศีรษะ
เฟิงเย่ว์หยางร้องออกมา “คุณหนูใหญ่ของเราหายดีแล้ว ตอนนี้นางแค่เสียโลหิตไปมากเท่านั้น เส้นลมปราณที่หัวใจของนางหายดีแล้ว พลังวิญญาณในร่างก็กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้วด้วย”
“อะไรนะ!” สยงป้าร้องออกมาอย่างเหลือเชื่อ เขาทำตาโตอย่างตกใจ
ชายหนุ่มที่ชื่อชิงอวี่ก็แสดงความร้อนรนออกมาเล็กน้อยเช่นกัน เขาซักถามรายละเอียดเพิ่มเติมว่า “ท่านผู้อาวุโสเฟิงหมายความว่า…”
เฟิงเย่ว์หยางพูดว่า “ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเมื่อครู่คุณหนูจวินทำอะไร แต่คุณหนูใหญ่ของเราหายดีแล้วจริงๆ นางต้องการแค่การดูแลพยาบาลอีกเล็กน้อยเท่านั้นก็จะกลับมาแข็งแรงดีเหมือนเดิม ทีนี้รู้หรือยังว่าเมื่อสักครู่ท่านทำเรื่องโง่เขลาแค่ไหน โง่เง่า! ท่านเกือบทำร้ายผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตคุณหนูใหญ่ของเราแล้ว! ยังจะมีหน้ามาจ้องข้าอีก!”
เฟิงเย่ว์หยางพูดยังไม่ทันขาดคำ ทุกคนในห้องก็พร้อมใจกันอ้าปากค้างทันที!
ตอนที่ 874 ตบหน้าครั้งที่เก้า (4)
ไม่มีใครสงสัยคำพูดของเฟิงเย่ว์หยาง ถ้าเขาลงความเห็นว่าชวีหลิงเย่ว์หายดีแล้ว มันก็ต้องเป็นความจริงตามนั้น!
แต่หมอทุกคนที่นั่นคือคนที่ทำการรักษาชวีหลิงเย่ว์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ และพวกเขาก็รู้อาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์ดี จึงรู้สึกว่ามันน่าเหลือเชื่อที่ชวีหลิงเย่ว์หายสนิทได้ในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้…แทบจะเรียกว่าชั่วพริบตาได้เลย มันเป็นไปได้อย่างไรกัน
สีหน้าของสยงป้าตกตะลึงถึงขีดสุดขณะที่มองเฟิงเย่ว์หยางก่อนจะหันไปมองจวินอู๋เสียที่ยืนสงบนิ่งอยู่ด้านหนึ่ง
“จะ…จริงหรือขอรับ” สยงป้าพูดตะกุกตะกัก
“ท่านคิดว่าข้าจะโกหกท่านหรือ” เฟิงเย่ว์หยางพูดเสียดสี
ร่างสูงใหญ่ของสยงป้าสั่นเล็กน้อย
เขารีบหันไปหาจวินอู๋เสียแล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่งทันที พร้อมกับพูดอย่างขึงขังว่า “เมื่อครู่ข้าหยาบคายและล่วงเกินคุณหนูจวิน ได้โปรดอภัยให้ข้าด้วย!”
หัวหน้าตึกเพลิงพิโรธที่ดุร้ายและก้าวร้าว คุกเข่าลงเพื่อขอโทษจวินอู๋เสียจริงๆ เหตุการณ์ที่พลิกกลับอย่างฉับพลันนี้ทำให้ทุกคนที่นั่นตะลึงงันกันไปหมด
เป็นไปได้อย่างไรที่จวินอู๋เสียจะสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์ได้ นั่นต้องเป็นเรื่องล้อกันเล่นแน่ๆ!
หมอทุกคนในห้องตกใจจนพูดไม่ออกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า พวกเขาแทบจะบ้ากันอยู่แล้ว ไม่รู้แล้วว่านี่เป็นความฝันหรือความจริง
“ลุกขึ้นเถอะ” จวินอู๋เสียพูด
สยงป้าลุกขึ้นยืน สีหน้ายังคงเจื่อนอยู่ ดูเหมือนเขาจะรู้สึกเสียใจมาก ท่าทางดุร้ายรุนแรงก่อนหน้านี้หายไปจนหมดสิ้น ตรงกันข้ามสายตาที่มองจวินอู๋เสียนั้นดูสำนึกผิดและเสียใจ
“คุณหนูจวิน เกิดอะไรขึ้นกับคุณหนูใหญ่กันแน่ แล้วเมื่อครู่ท่านทำอะไร ทำไมอยู่ดีๆ นางก็หายทันที” ครั้งนี้สยงป้าพูดกับจวินอู๋เสียด้วยน้ำเสียงที่สุภาพและเคารพเป็นอย่างมาก
จวินอู๋เสียตอบว่า “นางไม่ได้บาดเจ็บเลยสักนิด เพราะอย่างนั้นจึงไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลกันเลย”
“ไม่บาดเจ็บหรือ” สยงป้ามองจวินอู๋เสียอย่างสับสน
จวินอู๋เสียเดินไปที่เตียงของชวีหลิงเย่ว์และรวบผมของนางยกขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวผ่อง ที่ผิวเนียนเรียบที่คอระหงนั้นมีเข็มเงินสามเล่มฝังลงไปในเนื้อครึ่งหนึ่ง ตรงกลางของเข็มทั้งสามเล่ม ปรากฏรอยช้ำจางๆ ที่เห็นได้เนื่องจากสีผิวที่ขาวเนียนราวกับหยกนั้น
“นี่คือ” ดวงตาของเฟิงเย่ว์หยางทอประกายงุนงงทันทีที่เห็นรอยช้ำนั้น มันถูกซ่อนเอาไว้อย่างดีที่ด้านหลังคอของชวีหลิงเย่ว์ภายใต้ผมยาวสยายของนาง แม้แต่เขาก็ยังสังเกตไม่เห็นถึงความผิดปกติ
“บางครั้งการทำให้คนดูเหมือนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็ไม่จำเป็นจะต้องทำร้ายร่างกายกันจริงๆ แค่ปิดผนึกเส้นลมปราณเอาไว้เพื่อทำให้ชีพจรสับสนก็ได้ผลแล้ว” จวินอู๋เสียอธิบาย
ในที่สุดเฟิงเย่ว์หยางก็เข้าใจ “ที่คุณหนูจวินพูด หมายความว่าแท้จริงแล้วคุณหนูใหญ่ของเราไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่ แต่ที่ชีพจรของนางเป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่ามีบางคนจงใจทำให้ดูเป็นแบบนั้น”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
หมอหลวงหลี่มองดูจวินอู๋เสียอธิบายเรื่องราวทั้งหมดด้วยใบหน้าปราศจากสีเลือด เขาพยายามอย่างหนักที่จะซ่อนความตื่นตระหนกเอาไว้ในใจ และเคลื่อนที่ไปด้านหลังกลุ่มหมออย่างช้าๆ ทีละนิด ตั้งใจว่าจะแอบหนีออกจากห้อง
“หมอหลวงหลี่ ท่านจะไม่อธิบายให้ทุกคนที่นี่ฟังหน่อยหรือ” จู่ๆ เสียงของจวินอู๋เสียก็ดังทะลุปล้องขึ้นมาโดยไม่ได้หันกลับมามอง!
เมื่อได้ยินเสียงเรียกนั้น ทุกสายตาก็หันไปมองหมอหลวงหลี่ที่กำลังเตรียมตัวจะหลบหนี
หมอหลวงหลี่หน้าซีดเผือด เขามองจวินอู๋เสียแล้วรีบทำเป็นใจกล้าพูดขึ้นมาว่า “ทำไมข้าต้องอธิบายอะไรด้วย!”
“อ้าว” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นเยียบ “ก็ตอนที่ข้าปลดผนึกเส้นลมปราณให้ชวีหลิงเย่ว์คราวที่แล้ว อาการของนางก็หายเป็นปกติดีแล้วนี่”