EP 413
By loop
“ หมอโจวเราจะเริ่มเย็บเลยไหม?” หลิงรันวางมีดผ่าตัดลง
เช่นเดียวกับทีมแพทย์ที่เฝ้าดูการผ่าตัดหมอโจวรู้สึกตัวหนาวสั่นไปจนกระดูกสันหลังของเขา ของมองหลิงรันตัดลูกอัณฑะของผู้ป่วยและปลายอวัยวะเพศที่ยังคงสดใหม่ ในขณะที่เขากังวลว่าหลิงรันจะกระวนวายใจถ้าเขาตอบช้า หมอโจวจึงฝืนยิ้มแล้วพูดว่า “อย่างงันก็เริ่มการเย็บได้เลย”
หลิงรันเองก็เห็นท่าทางที่ดูไม่ดีนักของหมอโจวจึงถามไปว่า “ถ้าคุณมีธุระคุณมอบหมายหมอประจำบ้านคนอื่นมาทำแทนก็ได้นะ”
หมอโจวรีบพูดขึ้นมาเลยว่า “ฉันไม่ได้ยุ่งอะไรขนาดนั้น แค่ฉันมีบางอย่างภายในใจเท่านั้นเอง… “
หลิงรันพยักหน้าและฮัมเพลงเป็นการยอมรับ “โอกาสที่จะเย็บผิวหนังส่วนนี้เกิดขึ้นได้ยากมากจริงๆ ผมไม่ได้มีโอกาสในการผ่าตัดเคสนี้บ่อยๆแน่นอน นับตั้งแต่ผมได้เรียนรู้เทคนิคการเย็บแบบขัดจังหวะ”
“ นายต้องเย็บแน่นๆ อยู่ในแผนกผู้สูงอายุเนื่องจากผิวของพวกคนแก่มันค่อนข้างเหี่ยวย่น…” หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้นหมอโจวก็นึกบางอย่างได้ทันทีและพูดต่อ“ นายต้องเย็บมันด้วยวิธีนั้น กับการเย็บหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศนะ… “
“เป็นเวลานานมากแล้วที่แผนกฉุกเฉินมีผู้ป่วยที่มีถุงอัณฑะแตก”
“ มันก็มาเรื่อยๆนะเคสเหล่านี้ แต่นายอาจไม่เคยได้เห็น เพราะ นายไม่เคยเข้าไปในห้องผ่าตัด…” น้ำเสียงของหมอโจวดูเคร่งขรึม
“ผมแค่รู้สึกว่ามันค่อนข้างจะสิ้นเปลืองถ้า ผมไม่นำทักษะที่ได้เรียนรู้ไปใช้ประโยชน์”
หลิงรันและหมอโจวคุยกันขณะเย็บส่วนที่เหลือของผู้ป่วย ไม่มีหมอคนใดที่อยู่รอบตัว พวกเขากล้าส่งเสียงและพวกเขาดูเหมือนฝูงกวางที่กำลังเฝ้าดูสิงโตอย่างทะนงตัวกำลังจะลิ้มรสเหยื่อของพวกมัน
อย่างไรก็ตามหลิงรันยังคงได้รับการแจ้งเตือนจากระบบอยู่ในใจ
[ความสำเร็จ: คำสรรเสริญของเพื่อนร่วมงาน]
[ความสำเร็จ: คำสรรเสริญของเพื่อนร่วมงาน]
[ความสำเร็จ: คำสรรเสริญของเพื่อนร่วมงาน]
แพทย์หนุ่มที่กำลังเฝ้าดูการผ่าตัดอยู่ด้วยความกระตือรือร้นในขณะที่หลิงรันและหมอโจวออกจาห้องผ่าตัด
“การตัดอัณฑะ ทำให้เขาใช้เวลาไปประมาณสองนาทีใช่ไหม”
“การเย็บเองก็ใช้เวลานานมากเช่นกัน”
“นั่นเป็นภาพที่น่าจับตามองจริงๆ”
“เฮ้พวกคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับคลินิกที่ครอบครัวของหมอหลิงเป็นเจ้าของหรือเปล่ามันมีชื่อว่าอะไรนะ”
“ คลินิคตระกูลหลิง”.
“ใช่ครับ คลินิคตระกูลหลิง พวกคุณคิดว่าคลินิคตระกูลหลิง รักษาได้ดีขนาดไหน?”
กลุ่มหมอมองหน้ากัน
“ฉันไม่เคยไปที่นั่น”
“ เป็นคลินิกใช่ไหม…คนในคลินิกจะทำอะไรได้ดี ทำแท้งหรอ?”
“จะบ้าหรอการรับทำแท้งและผ่าตัดลูกอัณฑะออกมันคนล่ะเรื่องกัน! อย่างไรก็ตามคุณแน่ใจหรือไม่ว่าเป็นคลินิกที่รักษาคนไข้จริงๆ”
“ฉันแน่ใจ.”
“เฮ้พวกคุณคิดว่าพวกเขาอาจจะทำธุรกิจผิดกฎหมายอยู่หรือเปล่า?”
ยิ่งหมอพูดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่พวกเขาก็ยิ่งพบว่าเรื่องทั้งหมดมันน่าขนลุก
มีข่าวลือมากมายเกี่ยวกับหลิงรัน ในโรงพยาบาลหยุนหัวในตอนที่เขามาใหม่ๆด้วยหรอ
ความจริงที่ว่าเขาเพิ่งทำการผ่าตัดอัณฑะในเวลาประมาณสองนาทีทำให้แพทย์ทุกคนงงงวยอย่างมากที่ได้เห็นการผ่าตัดเนื่องจากเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้สำหรับแพทย์ทั่วไป
… ..
หลิงรันไม่ได้รีบร้อนที่จะมุ่งหน้าไปที่ห้องรักษา และห้องช่วยชีวิตที่อยู่ชั้นล่าง แต่เขาหันหลังเดินไปที่ห้องทำงานแทน
ในขณะที่เขากำลังเดินไปตามทางเดินเขาก็ได้ยินเสียงต่างๆเช่นเสียงหายใจหอบหายใจหอบเสียงพูดว่า “ทำต่อไป” และ “ใช้แรงมากขึ้น” ดังออกมาทางประตู
ทันทีที่เขาเปิดประตูเขาเห็นหมอลู่กดหน้าอก หุ่นจำลองด้วยแรงทั้งหมดที่เขามี แขนเสื้อทั้งสองข้างของเขาถูกยกขึ้นและมองเห็นกล้ามแขนของเขาอย่างชัดเจน
กล้ามเนื้อเหล่านั้นเป็นผลมาจากการออกกำลังกายอย่างหนัก และมันพิสูจน์แล้วว่ากล้ามเนื้อเหล่านั้นมันมีประโยชน์มากๆเลย
ตัวแบบจำลอง CPR ซึ่งเคยผ่านมือคนมามากมายหลายพันคนแล้วแต่ดูเหมือนว่ามันจะสู้แรงของ หมอลู่ได้เลยเลย อย่างไรก็ตามเช่นเดียวกับกวีที่มีชื่อเสียงเสี่ยวซินมง กล่าวในบทกวีของเขา “แม้ว่าคุณจะกรีดร้องจนคอแตกก็ไม่มีใครได้ยินคุณ” ศีรษะแบบจำลอง CPR กระดกขึ้นลงราวกับต้องการจะกรีดร้อง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ …
หมอลู่เป็นคนที่กรีดร้องแทน
“หนึ่งสองสาม…
“อีกชุดครับ.
“หนึ่งสองสาม…”
หลิงรันได้ยินเพียงเสียงคำรามของหมอลู่เมื่อหลิงรันเดินไปใกล้ๆเขา
“การซ้อมเป็นอย่างไรบ้าง” เสียงของหลิงรันดังออกมาจากด้านหลังหมอลู่และมันทำให้เขาตกใจมากจนเกือบจะกระโจนหนีออกไปจากแบบจำลอง CPR เลย
“ หมอ…หมอหลิงผ่าตัดเสร็จแล้วเหรอ?” หมอลู่หอบ สครับของเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อราวกับว่าเขาเพิ่งฝึกการผ่าตัดที่มีความยากมากๆอยู่
หลิงรันพยักหน้า “มันถูกตัดออกเรียบร้อยแล้ว”
“ อืม…หมายความว่ายังไง?” หมอลู่ตกตะลึงเล็กน้อย
“ หมอลู่หมอหลิงผมจัดการตัดส่วนที่เสียหายทิ้งไปหมดแล้ว” โจวซินเยียนแสดงท่าทางที่เป้าของเขาและตัวของเขาสั่นทันทีที่พูดถึงมัน
แม้ว่าหมอลู่จะรู้สึกร้อนมากหลังจากฝึก CPR เป็นเวลานาน แต่เขาก็รู้สึกหนาวสั่นก็ลงไปถึงกระดูกสันหลังได้
“หมอหลิงคุณต้องการดูสิ่งที่เราได้มาจากการซ้อมในครั้งนี้ไหม” หยูหยวนเองไม่ได้สนใจบทสนทนาของโจวซินเยียนเลย แต่ดูเหมือนตอนนี้เธอเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลที่พร้อมจะแสดงผลของการฝึกออกมา
ความจริงแม้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุจากการก่อสร้าง แต่นี้ก็เป็นเวลาทำงานปกติของพวกเขาในเวลานั้น
หลิงรันพยักหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
หยูหยวน กระโดดขึ้นทันที “ไปเตรียมตัวกันเถอะ!”
หมอลู่ลังเลสักครู่ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นจากพื้น เขาวางตำแหน่งตัวเองไว้ด้านหลังโจวซินเยียน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังหยูหยวน
แม้ว่าหมอลู่ และ หยูหยวนจะเป็นคนเดียวที่ฝึก CPR ในช่วงแรก แต่ โจวซินเยียนก็ขอเข้าร่วมการฝึก CPR ของ ทีมรักษาหลิงรันด้วย
ในฐานะแพทย์ประจำแผนกนในวัยสี่สิบสองปี โจวซินเยียน ไม่ต้องการที่จะเดินตามแพทย์คนอื่นๆ
“ ผู้ป่วยทรุดลงกับพื้น” หยูหยวนนปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างสมบูรณ์และทำราวกับว่ามีผู้ป่วยที่ต้องการ CPR จริงๆ จากนั้นเธอก็แตะไหล่ของตัวแบบจำลองแล้วพูดว่า “คุณรู้สึกยังไงบาง ได้ยินฉันไหม”
จากนั้น หยูหยวนก็ตรวจดูบริเวณคอและตัวแบบจำลอง ก่อนที่เธอจะปลดกระดุมเสื้อผ้าของตัวแบบจำลองออก จากนั้นเธอคุกเข่าลงข้างหนึ่งข้างแบบจำลองและเริ่มทำการกดหน้าอก
หมอลู่ยืนอยู่ตรงหน้าศีรษะของตัวแบบจำลอง เขาได้ยินหยูหยวน นบถึงสามสิบและทำการหายใจสองครั้ง
หยูหยวนทำการกดหน้าอกห้าเซต ก่อนที่เธอจะพายปอดของตัวแบบจำลองและทำการกดหน้าอกอีกสองชุด จากนั้นเธอก็หลีกทางให้หมอลู่
ในทำนองเดียวกันหมอลู่เริ่มต้นด้วยกดห้าเซ็ตและเปลี่ยนให้โจวซินเยียนหลังจากที่เขาทำเสร็จ
หลิงรันเฝ้าดูการฝึกซ้อมโดยไม่ได้พูดอะไรออกมา
ทั้งสามคนเป็นหมอประจำบ้านอยู่แล้วและ หยูหยวนก็เป็นหัวหน้าแพทย์ประจำบ้านแล้ว ในฐานะแพทย์ที่มีประสบการณ์มากกว่าในหมู่แพทย์รุ่นน้อง ตอนนนี้เธอการเพียงคำแนะจากหลิงรันเพื่อให้สามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในการทำ CPR ได้
แน่นอนว่าการซ้อมของพวกเขายังไม่ดีนัก แต่มันจะดีขึ้นเมื่อฝึกฝนบ่อยๆ
“ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเธอใช้แรงเท่าเดิมสำหรับการกดทั้งหมดนอกจากนี้เมื่อต้องเปลี่ยนให้คนอื่นมาช่วยพยายามใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้” หลิงรันรอจนกว่าพวกเขาจะทำตามขั้นตอนทั้งหมดเสร็จสิ้นก่อนที่เขาจะแสดงความคิดเห็น
ทั้งสามคนพยักหน้าพร้อมเพรียงกัน
“ไปชั้นล่างกันเถอะ” หลิงรันเหลือบมองนาฬิกา เป็นเวลาพอสมควรแล้วที่ผู้ป่วยกลุ่มสุดท้ายถูกส่งตัวไป ชุดต่อไปอาจจะมาถึงในเร็ว ๆ นี้
โจวซินเยียนเดินไปข้างหน้าและเปิดประตูทันที เขาดูตื่นเต้นเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นหมอมายี่สิบปีแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้ฝึกฝนทักษะที่สามารถช่วยชีวิตคนได้อย่างแน่นอน
“ หมอลิงถ้ามีคนไข้อีกคนที่ต้องการ CPR ในภายหลังเราจะทำไหม?” โจวซินเยียนถามด้วยเสียงต่ำขณะที่เขาเดินตามหลัง หลิงรัน
“ผู้อำนวยการแผนกฮวงไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้” หลิงรันหยุดชั่วขณะและพูดต่อ “แต่ถ้าพวกเราเต็มใจที่จะทำฉันก็ไม่คิดว่าเขาจะคัดค้าน”
พวกเขาทั้งสามเข้าใจว่าหลิงรันหมายถึงอะไร การทำ CPR ไม่ใช่ทักษะขั้นสูงและแน่นอนมันก็แค่การใช้แรงในการกดปั๊มหัวใจเท่านั้น
มีงานหนักเพียงพอในโรงพยาบาลและไม่มีใครต้องการมันอีกแล้ว
แต่สำหรับแพทย์รุ่นน้องในกลุ่มรักษาหลิงงานใด ๆ ก็เป็นโอกาสที่จะแสดงสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้
แม้แต่หยูหยวน ที่เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าและรู้สึกเหนื่อยมากก็อดไม่ได้ที่จะคิดขึ้นมา “แม้ว่าจะมีทีมกู้ชีพในโรงพยาบาล หยูหยวน อยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีกลุ่มใดที่เชี่ยวชาญในการทำ CPR ฉันคิดว่าเราสามารถเขียนบทความวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้แนวทางการปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิตระหว่างประเทศยังสนับสนุนการจัดตั้งกลุ่ม CPR เฉพาะทางโดยมีจุดมุ่งหมาย ของการลดเวลาที่ใช้ในการทำ CPR … “
หลิงรันเห็นด้วย “ทีม CPR เฉพาะทางจะมีบทบาทที่ซับซ้อนกว่าในทางตรงกันข้ามกับการฝึกทำ CPR ให้กับทีมรักษาของพวกเขาเราสามารถหาเวลาฝึกฝนได้ … อืมแล้วจะว่างเมื่อไหร่?”
“ตอนบ่ายฉํนคิดว่าช่วงบ่ายเป็นช่วงเวลาที่ดี” หยูหยวน ตอบทันที
หมอลู่ และ โจวซินเยียนก็ตระหนักถึงสิ่งที่เกิดขึ้นและพยักหน้าพร้อมกัน “ใช่ช่วงบ่ายเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ”
“เอาล่ะอย่างงั้นเรานัดซ้อมกันตอนบ่าย” หลิงหรันไม่มีท่าทีคัดค้าน
“ และเราจะไม่พูดถึงทีม CPR เลยหรอ”หยูหยวนกล่าวเพื่อเป็นข้อเสนอแนะและเป็นการเตือนด้วย
โจวซินเยียนเข้าใจทันทีว่าหยูหยวน หมายถึงอะไรและพูดอย่างรวดเร็วว่า “เธอพูดถูกถ้าเรากลายเป็นทีม CPR อย่างเป็นทางการและละทิ้งเรื่องอื่น ๆ เราจะใช้วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์และยาที่มีราคาถูกจำนวนมากแทนอย่างแน่นอน และจะมีปัญหากับตัวแทนจำหน่าย “
แน่นอนว่าทั้งสามไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆได้อย่างเฉียบขาดเท่ากับโจวซินเยียน
หลิงรันรับคำแนะนำของโจวซินเยียน และเห็นด้วยกับเขา
โจวซินเยียนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอกและรอยยิ้ม “ มาดูกันว่าใครเข้าข่ายหัวใจหยุดเต้นแล้ว”
หยูหยวน ปล่อยไอเบา ๆ ออกมา
โจวซินเยียน แข็งตัวชั่วขณะและแก้ไขตัวเองทันที “สิ่งที่ผมหมายถึงคือตอนนี้เราเตรียมพร้อมรับมือเคสที่ผู้ป่วยเข้าสู่ภาวะหัวใจหยุดเต้นแล้ว”
* ดิง! *
ประตูลิฟต์เลื่อนเปิดออก
โจวซินเยียน ลดศีรษะลงและให้ หลิงรันออกจากลิฟต์ก่อน
หมอลู่, หยูหยวน และ โจวซินเยียน เดินตามหลัง หลิงรัน โดยหลิงรันเดินหลังตรงและเงยหน้าขึ้น ราวกับว่าสุนัขจิ้งจอกและลิ่วล้อกำลังเดินตามหลังหมาป่าที่สง่างามที่สุดในหุบเขา