บทที่ 506 ผมมาเพื่อสู่ขอกับทาง honor อย่างเป็นทางการ !

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

“ สุดสัปดาห์หน้าหรอ ?” สือจินหว่านราวกับเด็กนักเรียน เธอนับนิ้วมือ : “ งั้นก็ใกล้ละสิ อ๊า รู้สึกตื่นเต้นจังเลย !”

“ อย่ากังวลใจไปเลย พ่อแม่เธอรักเธอจะตาย แล้วพวกเขาก็เชื่อเธอที่สามารถตัดสินใจในเรื่องของตัวเองได้ และก็สามารถหาของความสุขของตัวเองได้ !” โอหยางจวิ้นก็สตาร์ทรถ : “ อยากกินไรเอ่ย ?”

“ ขอเพียงแค่กินอาหารเช้าด้วยกันกับอา กินอะไรก็ได้ค่ะ !” สือจินหว่านพูดจาหวานน่ารัก

โอหยางจวิ้นถูกคำพูดที่เย้าหยอกของเธอนั้นทำให้ใจเต้นตุ้บๆ เขาเอนตัวเข้าไปจูบบนแก้มของเธอ : “ หวันหว่าน ลืมบอกอรุณสวัสดิ์กับเธอ !”

สือจินหว่านก็ยิ้ม จากนั้นก็เอนตัวเข้าไปเช่นกัน : “ จวิ้นน้อย อรุณสวัสดิ์ ! จุ๊บ !”

ทั้งสองคนก็กินอาหารเช้าด้วยกัน แล้วก็นั่งจู๋จี๋กันที่ร้านสักพัก จากนั้นโอหยางจวิ้นก็ส่งสือจินหว่านกลับไป

หลังจากนั้นไม่กี่วัน ในช่วงกลางวันสือจินหว่านก็กลับมางานยุ่งเหมือนเดิม ในตอนกลางคืนก็โทรคุยสารทุกข์สุขดิบของชีวิตกับโอหยางจวิ้น จนกระทั่งถึงสุดสัปดาห์

สุดสัปดาห์นี้ สือมูเฉินต้องไปทำงานที่ทางตอนเหนือ และเป็นเพราะว่ามีปัญหาในด้านเทคนิคบางอย่าง เขาก็เลยขอให้หยานโม่หานนั้นไปกับเขา มันก็ถือว่าเป็นการไปเรียนรู้ประสบการณ์

ดังนั้นในวันเสาร์ โอหยางจวิ้นจึงพาสือจินหว่านไปปีนเขาด้วยกัน

แสงอาทิตย์ส่องทะลุกิ่งก้านและใบลงมา ถึงแม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน แต่ช่วงเช้าในภูเขาก็ยังถือว่าเย็นชุ่มชื่น ทั้งสองเดินตามลำธารที่คดเคี้ยวบนภูเขา จนกระทั่งมาถึงเนินเขาที่ค่อนข้างราบเรียบ

บนเนินเขามีดอกไม้ป่าเล็กๆที่ไม่รู้จักชื่อนั้นบานสะพรั่งอยู่ทั่วทุ่งหญ้า เมื่อมีลมพัดมา ดอกไม้ก็จะสั่นระริกในทันที

โอหยางจวิ้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา : “ หวันหว่าน เธอนอนลงบนหญ้าสิเดี๋ยวอาจะช่วยถ่ายรูปให้เธอ !”

สือจินหว่านพยักหน้า แล้วนอนลงโดยดี จากนั้นก็มือขึ้นมาวางบนหน้าผากเพื่อบังแสงอาทิตย์

ในขณะที่โอหยางจวิ้นกำลังถ่ายอยู่นั้น ก็อดไม่ได้ที่จะโน้มตัวลงไปจูบเธอ

เธอยื่นแขนออกมาคล้องไว้บนคอของเขา เพื่อที่จะตอบรับจูบของเขา

ทั้งสองคนก็กลิ้งจูบกันไปมาบนหญ้า จนกระทั่งหายใจติดขัด โอหยางจวิ้นถึงได้ปล่อยสือจินหว่าน จากนั้นก็หลับตาและนอนหงาย : “ หวันหว่าน งานแต่งของพวกเราเธอชอบสไตล์แบบไหน ?”

สือจินหว่านคิดอยู่ครู่หนึ่ง : “ อันที่จริงจัดที่ริมทะเลสาบของเพอร์เซลล์ก็ดีนะ สำหรับสไตล์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนฉันก็ชอบ !”

เมื่อเธอพูดจบก็หันกลับไปมองเขา : “ งานแต่งจะจัดขึ้นเร็วขนาดนี้เลยหรอ ?”

“ หวันหว่าน เธออยู่เพอร์เซลล์มาตั้งแต่เด็กๆ เธอก็รู้นิ พวกเราค่อนข้างจะระงับการกระทำบางอย่างก่อนแต่ง ” โอหยางจวิ้นก็ถึงกลับกลืนน้ำลาย

ใบหน้าของสือจินหว่านนั้นก็แดงขึ้นมาในทันที เธอก็ทำปากมุ่ย : “ จวิ้นน้อย ตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นหมาป่าหมาที่หิวโหยเลยนะ !”

โอหยางจวิ้นก็ทำหน้าไม่ถูก : “ อยู่ต่อหน้าผู้หญิงที่ตัวเองชอบ ในบางครั้งมันก็……” ก็ราวกับเมื่อกี้ ตอนที่เขาจูบเธอ อีกนิดก็แทบจะเบรคไม่อยู่แล้ว

ด้านหนึ่ง ก็อยากจะเข้าใกล้ด้วยความบ้าคลั่ง ส่วนอีกด้านหนึ่ง ก็พยายามควบคุมอารมณ์อย่างสุดความสามารถ

“ จู่ๆฉันก็นึกอะไรขึ้นมาได้หนึ่งอย่าง——” เมื่อสือจินหว่านพูดถึงตรงนี้ เธอก็ลุกขึ้นนั่งตัวตรงและสายตาก็ล็อคไปที่โอหยางจวิ้น : “ เจ็ดปีที่แล้ว พวกเรา เฉียวซือ และคุณน้ามู่ไปแช่ออนเซ็น ตอนนั้นฉันเห็นอาจูบกับคุณน้ามู่ ! อีกทั้งหลังจากที่พวกเราไปแล้ว พวกคุณก็……”

เมื่อพูดมาถึงจุดนี้ สาวน้อยก็รู้สึกอารมณ์เสียขึ้นมาในทันที

เธอมองไปยังโอหยางจวิ้นด้วยความโมโห : “ พอฉันคิดขึ้นได้ตอนนี้ ก็รู้สึกโกรธและเสียใจมาก ฉันไม่สนใจอาแล้ว !”

ในขณะที่เธอพูดนั้น ก็หันหลังใส่เขา

เมื่อโอหยางจวิ้นเห็นแบบนี้ ก็รีบลุกขึ้นไปกอดสือจินหว่านจากด้านหลัง : “ หวันหว่าน ระหว่างอากับเค้าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นเลยนะ !”

“ ฉันไม่เชื่อ ฉันไม่เชื่อ !” สือจินหว่านก็บิดตัว : “ คุณน้ามู่ใส่บิกินี่ ส่วนอาก็ใส่เพียงแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว จากนั้นพวกอาก็จูบกันในสระน้ำ แน่นอนว่าต่อจากนั้น……”

ยิ่งเธอพูด เธอก็ยิ่งเศร้า ราวกับว่าเหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีก่อนนี้ได้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาเธออีกครั้ง

“ หวันหว่าน ระหว่างอากับเค้าไม่มีเกิดขึ้นจริงๆ ” โอหยางจวิ้นพบว่า เขาจำเป็นที่จะต้องอธิบายอย่างจริงจัง ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดว่าสาวตัวน้อยของเขาโกรธและไม่สนใจเขาขึ้นมาละก็เขาจะทำยังไงกันล่ะที่นี้ ?

แต่เขาจำได้ว่า หลังจากเหตุการณ์นั้นที่เกิดขึ้น สือจินหว่านก็แทบจะไม่กลับไปที่เพอร์เซลล์เลย เป็นเวลากว่าครึ่งปี ที่เธอถอยห่างจากเขามากขึ้นเรื่อยๆ นอกสักจากบอกฝันดีในทุกคืน นอกนั้นก็ไม่มีอะไรแล้ว

เขาพลิกตัวเธอกลับมา แล้วก็พูดกับเธออย่างจริงจัง : “ หวันหว่าน อายอมรับว่าในตอนนั้นอาจูบเค้าจริงๆ แต่ท้ายที่สุดอาก็ไม่ได้แตะต้องตัวเธอเลย ในตอนนั้น อาคิดว่าในไม่ช้าอาก็ต้องแต่งงานกับเค้าอยู่ดี ในฐานะทายาทของตระกูลเพอร์เซลล์ อาก็จำเป็นที่จะต้องทำภารกิจมีลูกเพื่อสืบสกุลให้สำเร็จ ดังนั้น อาตั้งใจว่าจะลองดู ”

สือจินหว่านก็ปากมุ่ย แล้วฟังเขาพูดต่อ

“ แต่ในตอนนั้นเมื่ออาเข้าไปใกล้ ก็ไม่มีความรู้สึกที่ใจเต้นเลย มีเพียงแค่อย่างเดียวคือความกังวล แต่ก็เป็นเพราะรูสึกว่าไม่มีอารมณ์และรู้สึกถึงการกีดกัน ” โอหยางจวิ้นพูด : “ และทุกครั้งที่อยากจะจูบเธอความรู้สึกนั้นมันก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ! นี่ก็เป็นเหตุผลหลังจากที่อาตกหลุมรักเธอ อาก็เพิ่งจะรู้ว่า ความรักจากใจจริงของตัวเองและความรู้สึกที่จะต้องทำภารกิจให้สำเร็จนั้น มันมีความแตกต่างกันมากแค่ไหน !”

เมื่อสินจินหว่านได้ยินแบบนี้ สภาพจิตใจก็ดีขึ้นอย่างมาก และเธอก็กระพริบตาปริบๆ

“ หวันหว่าน อันที่จริงแล้วครึ่งปีที่เธอไม่ได้กลับบ้านมาเลยนั้น ในใจฉันรู้สึกไม่สบายใจมากๆ ” โอหยางจวิ้นมองเธอและพูดว่า : “ ถึงแม้ว่าในตอนนั้นอาจะยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองที่มีต่อเธอเลยก็ตาม แต่การแข่งขันว่ายน้ำของเธอ อาก็ตามไปดูทุกครั้ง เพียงแค่อาไม่ได้เดินเข้าไป เธอก็เลยไม่รู้ ”

เธอก็มองเขาด้วยประหลาดใจ

สายตาของโอหยางจวิ้น ราวกับย้อนกลับไปเมื่อเจ็ดปีก่อน : “ ในตอนนั้น อารู้สึกดีมากที่ในที่สุดก็หาข้ออ้างที่จะเจอกับเธอได้ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าอาอยู่ แต่เพียงแค่อามองเธอจากไกลๆก็รู้สึกดีมากแล้ว ”

เมื่อสือจินหว่านได้ยินเขาบรรยายเรื่องนี้ด้วยความรู้สึกที่ระมัดระวังแบบนี้ ทันใดนั้นก็รู้สึกปวดใจเล็กน้อย

เธอเงยหน้าขึ้น : “ อันที่จริงแล้วในตอนนั้น ฉันก็รู้ความรู้สึกในใจของตัวเองแล้ว แต่ฉันรู้ว่าอากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น ดังนั้นพวกเราจึงถูกลิขิตเอาไว้แล้วว่าไม่เดินไปต่อด้วยกัน ฉันไม่อยากที่จะไปยุ่งเกี่ยวกับการแต่งงานของอา และฉันก็ยิ่งกลัวว่าตัวเองจะถลำลึกเข้าไปมากกว่านี้ ดังนั้นฉันจึงตั้งใจที่จะถอยห่าง และอยากจะใช้เวลาที่ไม่กลับบ้านนานๆนี้ เพื่อที่จะได้ค่อยๆลืมคุณไป ”

เมื่อโอหยางจวิ้นได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก้นบึ้งหัวใจของเขาก็รู้สึกเจ็บจิ๊ดขึ้นมา ด้วยความสงสารนี้เขาจึงเธอเข้ามากอดในอ้อมกอดเพื่อเป็นการปกป้องเธอ : “ หวันหว่าน ขอโทษนะ ที่อาในตอนนั้น ทำให้เธอต้องเจ็บปวดใจ ”

“ จะโทษอาก็ไม่ได้ ” สือจินหว่านก็ถอดหายใจและพูดว่า : “ ถ้าเกิดว่าฉันสามารถเกิดเร็วกว่านี้ได้มันก็คงจะดี…… อาไม่รู้หรอกว่า ในตอนนั้นที่เค้าเป็นฝ่ายยกเลิกงานแต่ง ฉันก็รู้สึกดีมากแค่ไหนเมื่อได้ยินข่าวนี้ !”

“ หวันหว่าน ” โอหยางจวิ้นก็กอดเธอไว้แน่น : “ ในตอนนั้นที่อาถูกเค้าทิ้ง อันที่จริงแล้ว อาก็รู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก แล้วก็ยังรู้สึกสบายใจขึ้นอีกด้วย ”

เมื่อสือจินหว่านได้ยินแบบนั้น ทันใดนั้นก็หัวเราะในทันที

โอหยางจวิ้นก็หัวเราะเช่นกัน จากนั้นเขาก็มองไปที่เธอและพูดอย่างจริงจังว่า : “ หวันหว่าน อารักเธอแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น และต่อไปในอนาคต ก็จะรักเธอเพียงคนเดียวไปตลอดชีวิต !”

“ ฉันก็เหมือนกัน !” สือจินหว่านก็เอนตัวเข้าไปใกล้และจูบบนแก้มของโอหยางจวิ้นหนึ่งที : “ ได้ยินแม่บอกว่า ในตอนที่ท้องฉัน อาก็เคยช่วยแม่เอาไว้ที่สนามบิน นั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นโชคชะตาของพวกเรา !”

“ ใช่ ในตอนนั้นทั้งๆที่อาสามารถเดินไปอีกฝั่งได้แท้ๆ แต่สุดท้ายก็อ้อมไปตั้งไกล แล้วก็ได้เจอกับเค้า ” โอหยางจวิ้นก็จูบไปบนริมฝีปากของสือจินหว่าน : “บางทีนี่อาจเป็นสิ่งที่โชคชะตาในความมืดกำลังเรียกหา !”

ในตอนบ่าย ทั้งสองก็กลับมาถึงเพอร์เซลล์ และก็เพิ่งจะรู้สึกว่าเหนื่อยเล็กน้อย

ในเช้าวันที่สอง สือจินหว่านก็ยังคงหลับอยู่ด้วยความอ่อนเพลีย ส่วนโอหยางจวิ้นก็ไปที่ห้องดามอนพ่อของตัวเอง

ดามอนหลายปีที่ผ่านมา จิตใจและกำลังก็ไม่ได้มากเหมือนแต่ก่อนแล้ว ดังนั้น งานทุกอย่างก็แทบจะส่งมอบให้โอหยางจวิ้นหมดแล้ว

เมื่อเห็นว่าลูกชายเข้า เขาก็ชี้ไปที่โซฟาที่อยู่ด้านข้าง : “ Bojan นั่ง ”

โอหยางจวิ้นก็นั่งลงและเอ่ยปากว่า : “ พ่อครับ ผมมีเรื่องที่จะบอกกับพ่อครับ ”

ดามอนเห็นสีหน้าที่จริงจังของเขา ดังนั้นก็พูดอย่างเป็นทางการว่า : “ โอเค แกพูด ”

“ พ่อครับ ผมวางแผนไว้ว่าจะแต่งงาน ” โอหยางจวิ้นก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง : “ กับหวันหว่าน ”

ดามอนก็ตะลึงไปสองวินาที : “ แกยอมที่จะแต่งงานแล้วหรอ ? !”

เมื่อพูดจบ เขาก็พูดเพิ่มเติมอีกว่า : “ กับใครนะ ? ! หวันหว่านคนนั้นหรอ ? !”

โอหยางจวิ้นพูด : “ ครับ ผมตกหลุมรักหวันหว่าน สือจินหว่าน ”

ทันใดนั้นดามอนก็ลุกขึ้นมานั่งในทันที : “ Bojan นี่แกกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า ?”

“ พ่อ ผมโตขนาดนี้แล้ว เรื่องใหญ่ขนาดนี้ผมจะมาล้อเล่นได้ยังไงกัน ?” โอหยางจวิ้นพูด : “ ผมอยู่กับเธอแล้ว ผมรักเธอมาก แล้วก็อยากจะได้เธอมาเป็นภรรยา และหวังว่าพ่อจะเห็นด้วย !”

“ โอ้……” ดามอนเดินไปรอบๆอยู่ภายในห้อง ผ่านไปสักพัก กว่าที่จะเข้าใจข่าวคราวที่รับได้นี้ จากนั้นก็หยุดลงและพูดว่า : “ ทาง honor รู้แล้วหรือยัง ?”

โอหยางจวิ้นส่ายหน้า : “ ผมมาคุยกับพ่อก่อน และตั้งใจว่าสัปดาห์หน้าจะไปสู่ขอกับทาง honor อย่างเป็นทางการ !”

ดามอนเดินไปมาและพูดบ่นอุบอิบกับตัวเองอยู่สักพัก ก่อนที่จะมองไปยังโอหยางจวิ้นแล้วก็ตบไปที่ไหล่ของเขา : “ แกรู้ไหมว่าคุณปู่ขอแกพูดอะไรกับฉันในตอนนั้น ?”

“ อะไรครับ ?” โอหยางจวิ้นก็พูดด้วยความสงสัย

“ เขาบอกว่า เรื่องของแก แกจะสามารถจัดการมันได้ด้วยตัวเอง และแกก็จำเป็นที่จะต้องให้คำอธิบายที่สมบูรณ์กับทุกคน !” ดามอนทอดถอนหายใจ : “ ยังไงก็เป็นปู่ของแกที่มองได้ทะลุปรุโปร่ง หลายปีที่ผ่านมา ฉันเป็นห่วงแกแทบตาย ! ในตอนนั้น honor ก็ติดค้างเจ้าสาวพวกเราไว้แล้วคนหนึ่ง หลานเสี่ยวก็พลัดไปแต่งงานกับคนอื่น และแกก็อยากจะไปแต่งงานกับลูกสาวเธอ !”

ในขณะที่ดามอนพูดก็ออกแรงบีบไปที่ไหล่ของโอหยางจวิ้น : “ โอเค พ่อจะสนับสนุนแกเอง ! สัปดาห์หน้า พวกเราไปสู่ขอกับทาง honor อย่างเป็นทางการ ! แต่ถ้าหวันหว่านแต่งเข้ามาแล้ว ชื่อและลำดับเครือญาติของพวกเรา ก็จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลง !”

“ ขอบคุณครับพ่อ !” โอหยางจวิ้นก็ยื่นออกไปกอดคุณพ่อที่ผมหงอกเต็มหัวแล้ว

ในวันนั้น โอหยางจวิ้นก็ได้บอกเรื่องที่ดามอนจะคอยสนับสนุนให้สือจินหว่าน เมื่อเธอได้ยินก็รู้สึกดีใจอย่างมาก แต่ก็อดไม่ได้ที่จะกังวลเรื่องการสู่ขอในสัปดาห์ที่จะมาถึงนี้

ถึงอย่างไรต่อให้จะกังวลใจ แต่พอถึงวันนั้นก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอยู่ดี

สัปดาห์นี้ โอหยางจวิ้นก็ไม่กล้าที่จะพาสือจินหว่านไปที่โรงแรมเลย อย่างไรก็ตาม เขาก็ยังคงจับมือกับเธอและเดินจนดึก จากนั้นก็ไปส่งเธอที่หอ

และในวันที่สอง ก็ยังคงมารับเธอไปกินข้าวเช้าตามปกติ

เวลาก็แกว่งไกวไปมาในที่สุดก็ถึงวันศุกร์

ก่อนหน้านี้สองสามวันโอหยางจวิ้นก็ได้โทรไปหาสือมูเฉินบอกว่า ในวันเสาร์นี้ดามอนจะไปที่ honor และพอถึงตอนนั้นก็มีเรื่องที่จะปรึกษาหารือกัน

ดังนั้น พอเลิกงานในวันนั้น สือมูเฉินก็ขับรถพาสือจินหว่านและหยานโม่หานกลับไปที่ honor ในทันที

ในคืนนั้น สือจินหว่านก็นอนไม่หลับ จนกระทั่งดึกดื่นกว่าจะนอนหลับ และพอตื่นขึ้นมา ยังไม่ทันที่จะกินข้าวเช้าเสร็จ ก็ได้ยินว่าดามอนและโอหยางจวิ้นมาถึงที่ honor แล้ว

เธอก็รีบเช็ดปากแล้วก็รีบร้อนวิ่งออกมาที่ประตูห้องนั่งเล่น แต่พอคิดอยู่ครู่หนึ่งก็คิดได้ว่าเรื่องที่จะคุยนั้นล้วนเป็นเรื่องของเธอ ดังนั้นก็เลยว่าจะหามุมซ่อนไว้และตั้งใจว่าจะแอบฟัง แล้วก็มองดูเหตุการณ์ให้พร้อมแล้วค่อยออกไป

ดามอนมาด้วยตัวเองแบบนี้ ถือเป็นเหตุการณ์ที่มีไม่มากนัก ดังนั้นในห้องโถงของบ้าน honor หลานจื่อเฉินและสือมูเฉินก็เดินออกมาพร้อมกัน

ทุกคนต่างก็ทักทายกันก่อนสองสามประโยค จากนั้น ดามอนก็เอ่ยปากพูดกับทุกคนเลยว่า :” วันนี้ที่ฉันและBojanมา ก็มาเพื่อที่จะสู่ขอ honor อย่างเป็นทางการ !”