บทที่ 590 การต่อสู้ชี้เป็นชี้ตาย

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 590 การต่อสู้ชี้เป็นชี้ตาย

บทที่ 590 การต่อสู้ชี้เป็นชี้ตาย

ช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายแบบนี้ไม่อาจชักช้าได้ ฉู่เหินรีบหายร่างและใช้วิชามายาเก้าพิภพสวรรค์ แบ่งร่างวิ่งหายไปคนละทิศละทางอย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้ง 9 ร่างมายาที่ว่าก็แยกกันไปพร้อมกับลมปราณติดไปด้วย ทำให้ในเวลาสั้น ๆ เช่นนี้ไม่มีทางรู้ได้เลยว่าควรตามไปทางไหนดี !

และเมื่อถูกตามทันมาได้ ฉู่เหินก็ได้เปลี่ยนร่างตัวเองให้ใหญ่ขึ้นอย่างฉับพลัน ! ทำให้เพียงชั่วพริบตาชายหนุ่มก็กลายเป็นยักษ์สูงเทียมฟ้าตนหนึ่งแล้ว ก่อนที่เขาจะคำรามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด เปิดดวงตาที่สามมองชายที่ตามตนมา ใช้ออกด้วยวิชาสกัดร่าง จนทำให้ร่างกายอีกฝ่ายหยุดชะงักชั่วคราว !

ชายคนนั้นหยุดอยู่กลางอากาศในพลัน และแม้ว่าจะเป็นเพียงวินาทีเดียว แต่มันก็สร้างความตกตะลึงให้เขาไม่น้อย ด้วยเพราะเขาคิดไม่ถึงว่าฉู่เหินจะสามารถหยุดคนอย่างเขาได้ทั้ง ๆ ที่ระดับขั้นพลังต่างกันขนาดนี้ !

ระหว่างที่ฉู่เหินใช้วิชาสกัดร่าง ในขณะเดียวกันนั้นเขาก็ได้ปล่อยพลังจิตสังหารของตัวเองออกมาด้วย ! และเพียงวินาทีเดียวมันก็เพียงพอแล้วที่จะใช้มัน !

ซึ่งก็ไม่เพียงแค่นั้น เพราะเขายังได้ปล่อยพลังไฟเย็นที่อยู่ในร่างกายของตนออกมาด้วย เรียกได้ว่าตอนนี้ฉู่เหินได้รวบรวมการโจมตีที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่งที่สุดของเขาออกมาทั้งหมดแล้ว !!

ชายคนนั้นตกตะลึง เขาคิดไม่ถึงว่าฉู่เหินจะเก่งกาจเพียงนี้ ถึงขนาดใช้พลังเทพสวรรค์ได้ถึง 3 กระบวนท่า ! ซึ่งก็ต้องเข้าใจว่าในระหว่างที่เขาหยุดชะงักไปวินาทีเดียว ฉู่เหินกลับทำได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ นี่มันไม่ธรรมดาแล้วนะเนี่ย !

เมื่อคิดแบบนั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกไม่สบายใจ แต่ถึงจะมาเสียใจเอาตอนนี้มันก็สายไปแล้ว ! เพราะตอนนี้ร่างกายของเขาได้เข้ามาอยู่ในพลังจิตสังหารแล้ว ซึ่งภายในนั้นมันก็เต็มไปด้วยสายฟ้าและอันตรายนับไม่ถ้วน ! ชนิดที่ว่าถ้าตั้งรับไม่ได้ มันก็เป็นไปได้ว่าวันนี้เขาจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิตแน่ !!!

ยังไม่ทันได้ทำอะไร ภายในจิตสังหารก็มีวิญญาณผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด ! แล้วพอวิญญาณเหล่านี้ผุดขึ้นมา ก็ไม่รู้ว่าปากของพวกมันกำลังสวดพึมพำว่าอะไร แต่เมื่อพวกมันสวดขึ้นมาพร้อมกันแล้ว มันก็ราวกับว่าเขากำลังถูกสาปแช่ง เพราะตอนนี้ตัวเองกำลังปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้ว !

ต่อมาสายฟ้าที่รอตั้งท่าอยู่ด้านบนในมิติจิตสังหารก็ผ่าลงมาอย่างไม่ให้เขาได้ตั้งตัว !! ทำให้ชายคนนั้นที่เห็นฉากนี้จำต้องขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด ด้วยเขาสามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายถึงตายจากมัน !

ระหว่างที่เขารับรู้ได้ถึงอันตรายนั่น จู่ ๆ ก็มีสะพานเส้นหนึ่งปรากฏขึ้นมาข้างใต้ฝ่าเท้า ดูราวกับภาพมายาไม่ใช่ของจริง แต่แค่เห็น เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายอีกอย่างที่กำลังตามมาติด ๆ!

เมื่อโดนบีบจากทุกมุมแบบนี้ เขาก็ไม่อาจอยู่เฉยได้อีก รีบทำการอัญเชิญจิตวิญญาณมาแทนที่ร่างของตัวเอง ก่อนที่ทันใดนั้นร่างกายที่มาแทนที่เขาจะระเบิดแตกกระจายเป็นชิ้น ๆ บนพื้น ! ซึ่งก็ต้องบอกเลยว่าตัวเองนั้นโชคดีมากที่หลบได้ทัน !!!

เมื่อเขาหลบออกมาได้ ตำแหน่งที่เขาเคยยืนสะพานมายานั่นก็หายไปในความว่างเปล่า ! และถ้าเขาหนีออกช้ากว่านี้ ก็เกรงว่าสภาพของเขาคงไม่ได้ดีเท่าไรแน่ !

เมื่อเห็นฉากนี้ฉู่เหินก็จำต้องบ่นว่าน่าเสียดาย ! ด้วยเขาเสียโอกาสอันดีที่จะได้ฆ่าอีกฝ่ายไปแล้ว ต่อจากนี้จะหาโอกาสดี ๆ แบบนี้อีกก็คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก !

เช่นนี้เขามีแต่ต้องใช้ดาบใช้กระบี่จริง ๆ ต่อสู้เสียแล้ว ทว่าเมื่อมีความห่างชั้นของพลังกว่าขั้นใหญ่ ๆ แบบนี้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองจะสามารถเป็นคู่ต่อสู้อีกฝ่ายได้ไหม !

เห็นทีคงจะรอช้าไม่ได้อีก ได้เวลาจัดการอีกฝ่ายแล้ว ! เมื่อคิดแบบนั้น นัยน์ตาของชายตรงหน้าก็เหมือนมีแสงเปล่งออกมา ก่อนจะหันมองมาที่ฉู่เหิน ซึ่งตัวของฉู่เหินก็รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าแสงนั่นอันตรายมาก ! ดังนั้นจึงไม่แม้แต่จะคิด หันหลังแล้วใช้มายาเก้าพิภพสวรรค์หลบหนีทันที !

แต่แสงนั่นราวกับไม่รู้จักคำว่าเหนื่อย ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้มันยังคงไล่ตามไม่ยอมห่าง ซึ่งพอชายคนนั้นออกจากพลังจิตสังหารได้แล้ว ฉู่เหินก็ไม่สามารถทำแบบเดิมต่อไปได้อีก ด้วยถ้าเขาเสียเวลาแม้เพียงเสี้ยววินาทีเขาอาจจะถูกแสงนี้โจมตีจนถึงแก่ชีวิตได้ !

คิดถึงตรงนี้เขาก็ใช้วิชาสกัดร่างหยุดเวลาเอาไว้หนึ่งวินาที จากนั้นก็กระชับกระบี่สีดำในมือขึ้นเหนือหัวและฟันมันลงไป !

ฉับ !

การลงดาบในครั้งนี้สามารถหยุดแสงนั่นได้ในพลัน มันถูกตัดขาดเป็นสองท่อน ทว่าถึงจะเป็นเช่นนั้นแต่ลำแสงนั่นก็ยังไม่หยุด ! ทำให้ฉู่เหินได้แต่ใช้เก้าพิภพสวรรค์ขั้นสุดเพื่อหายไปจากจุดนั้นในทันที !

ร่างเขาเพิ่งจะออกมาจากตรงนั้นได้ไม่เท่าไรก็เกิดเสียงระเบิดดัง ตู้ม ! และแม้ว่าฉู่เหินจะออกมาทันเวลา แต่เขาก็ยังคงถูกแรงระเบิดอัดจนต้องกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง ! ก่อนที่ในเวลาเดียวกันนั้นจะมีเสียงแหวกอากาศดังขึ้นข้างหู

ที่แท้ก็คือชายคนนั้นที่มองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ตลอดเวลา ! ที่ได้กระชับดาบในมือและพุ่งเข้าแทงฉู่เหิน ซึ่งดาบยาวนั่นมันก็พลิ้วไหวราวกับงูเต้นระบำจนเกิดเสียงแหวกอากาศจนสะเทือนไปทั่วชั้นฟ้า !

ก่อนที่สุดท้ายจะปรากฏมังกรทองห้ากรงเล็บพุ่งเข้าใส่ฉู่เหินในทันที ! ซึ่งเขาก็มองทั้งหมดและเห็นอย่างชัดเจนว่าพลังที่อีกฝ่ายใช้นั้นคือการสร้างร่างวิญญาณ

หลังจากเลื่อนขั้นเป็นเซียนได้แล้ว ฉู่เหินก็สามารถสร้างร่างวิญญาณได้ เพียงแต่เขาคิดมาตลอดว่ามันเป็นพลังกาก ๆ คิดไม่ถึงว่าที่จริงแล้วมันจะทรงพลังถึงเพียงนี้ ! ดังนั้นเขาเลยไม่ลังเลอีก ร่ายรำกระบวนดาบ ก่อนที่จะได้ยินเสียงท้องฟ้าคำรามลั่น !

สิ่งที่ปรากฏก็คือกิเลนตัวนั้นของฉู่เหิน ! และหลังจากที่กิเลนปรากฏตัว กรงเล็บทั้งห้าก็กางออกกระโจนเข้าใส่มังกรทองห้าเล็บทันที ! ก่อนที่มันจะอ้าปากออกกว้างแล้วปล่อยลูกบอลไฟเข้ากระแทกไปที่ลำตัวของมังกรทองห้าเล็บเข้าอย่างจัง !

ซึ่งเจ้ามังกรทองก็โกรธมากที่โดนสัตว์ชั้นต่ำโจมตีร่างกายอันล้ำค่าของตัวเอง ! อย่างไรก็ตามทันทีที่กิเลนโจมตีเสร็จ มันก็อ้าปากอีกครั้งอย่างไม่รอช้า ทว่าครั้งนี้ลูกบอลที่ออกมากลับเป็นลูกบอลน้ำ !

ลูกบอลน้ำนั่นโจมตีทุกสิ่งขวางหน้า ! ทำให้ฉู่เหินที่มองอยู่ถึงกับตากระตุก ! ด้วยนี้เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกจิตวิญญาณสัตว์ออกมาต่อสู้ และเขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าพลังของมันจะรุนแรงขนาดนี้ ! …ดูเหมือนว่ามันจะมีอีกหลายอย่างเลยที่เขาต้องกลับไปศึกษาให้ดี !

อีกฝ่ายเห็นฉากนี้ก็ตกตะลึง ต้องเข้าใจว่าเขาคือขั้นเทพดาราอย่างแท้จริงนะ ! ส่วนอีกฝ่ายดูยังไงก็มีขั้นพลังที่น้อยกว่า แล้วทำไมถึงทำได้กัน ! คิดมาถึงตรงนี้เขาก็เริ่มรู้สึกอับอายขึ้นมาแล้ว ด้วยมีหวังโดนหัวเราะเยาะแน่ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้เข้า !

วันนี้ไม่ว่าจะยังไงเขาก็ต้องฆ่าเจ้านี้ให้ได้ ไม่งั้นหากเรื่องนี้แพร่ออกไปคงไม่ดีแน่ ! พอคิดถึงตรงนี้ดวงตาของเขาก็สว่างวาบ ก่อนจะมีลำแสงพุ่งลงจากท้องฟ้าเข้าสู่ร่างกาย !

และทันทีที่ลำแสงเข้าสู่ร่างกาย พลังวรยุทธ์ของชายคนนั้นก็เหมือนจะระเบิดออกมา ทำให้จากขั้นเทพดาราระดับต้น จู่ ๆ ก็พลังเพิ่มขึ้นเป็นเทพดาราระดับกลางในชั่วพริบตา จนกระทั่งเลื่อนขึ้นไปที่เทพดาราระดับสูง ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่มีการเลื่อนขั้นเล็ก ๆ นี่ ท้องฟ้าก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปด้วย !!!

อย่ามองว่านี่เป็นแค่การเลื่อนขั้นเล็ก ๆ เพราะความแตกต่างด้านพลังนั้นต่างชั้นกันค่อนข้างมาก ! ด้วยเหตุนี้ฉู่เหินที่ยืนมองอยู่ก็ถึงกับขนลุกซู่ ! เพราะเขาคิดว่าตอนนี้ไม่ว่าอย่างไรตัวเองก็เอาชนะคู่ต่อสู้ไม่ได้แล้ว !

ทว่าตอนนั้นเอง นัยน์ตาของฉู่เหินกลับมีประกายพาดผ่าน ด้วยไม่ใช่ว่าเขาจะไม่มีไม้ตายอื่น ! และถ้าพลังวรยุทธ์ของเขาคนเดียวไม่พอ งั้นแล้วจะทำไมละ ! คิดถึงตรงนี้เขาก็ส่งกระแสจิตไปยังเหล่าแฟรี่ที่ไม่ได้ติดต่อกันมานานภายในร่างกายตนเองทันที !