บทที่ 592 พ่ายแพ้และบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 592 พ่ายแพ้และบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

บทที่ 592 พ่ายแพ้และบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย

ความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวของฉู่เหิน เปิดโอกาสให้ชายตรงหน้ารัวหมัดใส่ร่างกายของเขาไม่ยั้ง ! และแม้ว่าด้านนอกจะเป็นหุ่นเชิดที่สามารถช่วยป้องกันการโจมตีได้ระดับหนึ่ง หากแต่พอได้รับพลังมหาศาลเข้ามามาก ๆ มันก็ทำให้เลือดลมของเขาปั่นป่วนทันที

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็รู้สึกเหมือนเส้นชีพจรของตัวเองกำลังจะแตกออก อีกทั้งอวัยวะภายในก็ตกเลือดแล้วด้วยในขณะนี้ เห็นเลยว่าบาดแผลรอบนี้นั้นไม่เบา ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ก็เกรงว่าชีวิตเขาคงจบสิ้นแล้ว !

แม้ว่าตอนนี้เขาจะเหลือเพียงมือข้างเดียว แต่ฉู่เหินก็ยังไม่ได้สูญเสียพลังการต่อสู้ไปเสียทีเดียว ทำให้ในขณะที่เขากำลังถูกซ้อมไม่ยั้งอยู่นั้น เขาก็ได้ใช้จังหวะที่ว่าคิดแผนการไปด้วย เพื่อหาทางรักษาชีวิตไว้ให้ได้ ! เพราะถ้าไม่อย่างนั้นล่ะก็ หากอีกฝ่ายพลังฟื้นคืนมาหมดแล้ว เขาได้จบสิ้นจริง ๆ แน่

พริบตาเดียวนั่นเอง จู่ ๆ ฉู่เหินก็คิดแผนการอันแยบยลแผนหนึ่งออกมา จากนั้นก็เห็นเพียงเขาโบกมือหนึ่งครั้ง ก่อนทำการดึงเชือกเส้นหนึ่งออกมาจากแหวนมิติ แล้วจึงใช้เชือกเส้นนี้มัดตัวอีกฝ่ายในทันที

เชือกนี้ไม่ใช่อะไรอื่น มันคือแส้เซียนที่เขาได้มาเมื่อตอนอยู่ในมิติของพวกแฟรี่ ! และหลังจากผ่านการหลอมพลัง มันก็ไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้อีกแล้ว ! ด้วยด้านบนของแส้เซียนเต็มไปด้วยรอยอักขระเวทย์มากมายเต็มไปหมด ที่แค่เห็นก็รู้ได้ในทันทีว่ามันทรงพลังมากขึ้นขนาดไหน

ระหว่างที่เหล่าแฟรี่ทำการศึกษาแส้อันนี้ พวกเธอก็ได้บังเอิญปลดผนึกบางอย่างออกมาส่วนหนึ่ง ทำให้ระดับของแส้เซียนเพิ่มสูงขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ! แต่ทว่าจนถึงตอนนี้ฉู่เหินก็ยังไม่เคยได้ใช้มันเลย เพราะว่าแส้เซียนนี้เป็นของที่เขาโกงเอามาได้ตั้งแต่สมัยเข้าบ้านวายุแรก ๆ!

เขากลัวว่าแส้เซียนนี้จะสร้างเรื่องวุ่นวายอะไรให้ตนเอง จึงไม่เคยหยิบมันมาใช้ มาตอนนี้ที่ชีวิตตัวเองกำลังเสี่ยงอันตราย เขาถึงได้คิดถึงมันขึ้นมาได้ ! และหลังจากแส้เซียนออกมาแล้ว มันก็เข้ารัดชายหนุ่มตรงหน้าไว้อย่างหนาแน่นในทันที !

ชายหนุ่มผู้ใช้พลังขั้นเทพดารา จู่ ๆ ก็ถูกเชือกเส้นหนึ่งมัดตนเองไว้แน่น ทำให้เขาตกใจมาก ! และเมื่อก้มหน้าลงมองแส้เซียนเส้นนี้ มุมปากของเขาก็ยกโค้งขึ้นทันที เพราะต้องเข้าใจว่าอาวุธจำพวกแส้นั้นเป็นอาวุธระดับกลางไปถึงต่ำเท่านั้น ไม่ได้น่ากลัวเลยแม้แต่น้อย !

ทันใดนั้นเขาก็โคจรพลังมาไว้ที่บ่าทั้งสองข้างของตัวเอง เตรียมที่จะทำลายแส้เซียนเส้นนี้ทิ้ง พร้อมทั้งคิดในใจว่าเพียงแค่ตัวเองใช้แรงเล็กน้อยแส้นี้ก็ไม่อาจทำอะไรได้แล้ว ทว่าเหตุการณ์ต่อมาก็ต้องทำให้เขาตะลึงอ้าปากค้าง เพราะพลังของเขาที่เพิ่งจะใส่ไป มันกลับไม่อาจทำลายแส้เซียนเส้นนี้ได้เลย !

เมื่อเป็นแบบนี้ มันก็ทำให้เขาอดขมวดคิ้วแน่นไม่ได้ แส้เซียนที่เขารู้จักมันเป็นอาวุธที่อ่อนด้อยไม่ใช่หรือไง! ไม่ควรที่จะต้านทานพลังของเขาได้สิ !

อย่างไรก็ตาม มาตอนนี้ร่างกายของเขาก็ได้ถูกมัดเอาไว้แล้ว ทำให้ความรู้สึกไม่สบอารมณ์ก่อตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ด้วยเพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าแส้เซียนนั้นสามารถควบคุมคนที่อยู่พลังวรยุทธ์ระดับตัวเองได้ !

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เหงื่อเย็น ๆ ก็อาบทั่วแผ่นหลังทันที เพราะตอนนี้แหวนมิติของตนก็เปิดไม่ได้แล้วด้วย !!!

แย่แน่แบบนี้ ถ้าเปิดแหวนไม่ได้ งั้นแล้วจะเอาของอะไรมาป้องกันตัวได้กัน ! ซึ่งในระหว่างที่กำลังคิดอยู่นั้นเอง มันก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ฉู่เหินโบกมือ เรียกพลังไฟเย็นออกมา !

และไม่ใช่เพียงแค่นั้น เขายังปลดปล่อยพลังจิตสังหารออกมาด้วย พร้อมกับกุมกระบี่ดำที่ตอนนี้ได้ชาร์ตพลังเต็มเปี่ยมแล้วไว้ในมือ ก่อนที่ฉู่เหินจะโบกมืออีกครั้ง เรียกให้กิเลนขนาดใหญ่คำรามลั่นออกมา !

ก่อนหน้านี้กิเลนของเขากับมังกรทองห้าเล็บของอีกฝ่ายต่อสู้กัน จนสุดท้ายทั้งคู่ก็ได้รับบาดเจ็บและเสมอกัน ! หากแต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้ว เพราะครั้งนี้ที่เขาเรียกออกมา อีกฝ่ายไม่สามารถเรียกมังกรทองห้าเล็บออกมาตอบโต้ได้ ด้วยถูกมัดไว้แน่น !

แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นฉู่เหินก็ยังไม่วางใจ ใส่พลังในร่างกายตัวเองที่เหลือไม่มากเข้าไปในกระบี่ดำซ้ำอีก ทำให้ควันดำที่อยู่บนคมกระบี่แผ่ออกมาอีกครั้ง ! หากแต่ราคาที่ต้องแลกคือร่างกายของเขาในตอนนี้ที่ว่างเปล่าไม่เหลือพลังใด ๆ อยู่เลย และถ้าครั้งนี้ไม่ได้ผล งั้นแล้วคนที่ต้องตายก็คือตัวเขาเอง !

ที่จริงต่อให้เขาไม่ใส่พลังเพิ่มเข้าไป ฉู่เหินก็ไม่ได้หลงเหลือพลังเยอะมากเท่าไร ! หรือก็คือเขาไม่อาจยืนหยัดได้นานกว่านี้แล้ว เช่นนี้ไม่สู้ดับเครื่องชนไปเสียเลย ! ถ้าเขาชนะเขาก็จะมีชีวิตรอด ถ้าเขาแพ้ก็ตายให้ดินกลบหน้าไปเลย !!!

ดังนั้นในตอนที่ฉู่เหินตัดสินใจฟันลงมา เขาก็ได้ปลดปล่อยวิชาที่มีออกไป พร้อม ๆ กับใช้วิชาสกัดร่างอีกฝ่าย ทำให้ชายตรงหน้าชะงักค้างไป 2 วินาที !!

และแค่ 2 วินาทีมันก็เพียงพอแล้ว ที่จะทำให้กระบี่ดำของเขาฆ่าอีกฝ่าย !

เกิดเสียงกระบี่ดำวาดผ่าน จนเกิดเป็นคลื่นลมเมื่อฟันลงมา ! ซึ่งฉากนี้มันก็สร้างความตื่นตระหนกให้ชายคนนั้นเป็นอย่างมาก

เขาคนนี้รู้แล้วว่าความตายกำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า ด้วยตอนนี้ตัวเองถูกแส้เซียนมัดเอาไว้ทำให้ไม่สามารถทำสิ่งใดได้เลย ซึ่งก็ไม่ใช่แค่จับมัด เพราะแม้แต่พลังยุทธ์ก็ยังถูกผนึกไว้ด้วย ! ทำให้ตัวเองน่าจะตายแน่แล้วในตอนนี้

นาทีที่คิดเช่นนั้น นัยน์ตาของชายผู้นั้นก็แปรเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมา “ถ้าฉันไม่รอด แกก็อย่าหวังว่าจะรอด” สิ้นเสียง ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็บวมพองขึ้นมาอย่างฉับพลัน และเพียงไม่นานมันก็ระเบิดออก ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเห็นเป็นควันรูปเห็ดขนาดใหญ่ !!

ใครจะไปคิดว่าชายคนนี้จะระเบิดตัวเองแบบนี้ ! ชั่วขณะที่เขาระเบิดตัวเอง คนที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างฉู่เหินย่อมได้รับบาดเจ็บสาหัสที่สุด ! แรงระเบิดส่งผลให้เขาลอยกระเด็นไปไกล ! ทว่าครั้งนี้ก็เป็นหุ่นเชิดอีกเช่นกันที่ปกป้องเขาเอาไว้ ช่วยเขาจากแรงระเบิดมหาศาลไว้ได้ ไม่งั้นป่านนี้ฉู่เหินคงได้ไปดื่มชากับเง็กเซียนฮ่องเต้แล้ว

การระเบิดปิดท้ายครั้งนี้สร้างความเสียหายให้ฉู่เหินอย่างหนัก พลังจิตสังหารที่เขาปลดปล่อยเอาไว้ถูกระเบิดจนเกิดเป็นรอยร้าวขนาดใหญ่ ทำให้วิญญาณที่อยู่ภายในออกมาและหายไปไม่เห็นอีกเลย !

ทว่าโชคยังดีที่เขาสามารถรักษาวิญญาณเสี้ยวหนึ่งเอาไว้ได้ ! และแม้ว่าจะไม่ใช่วิญญาณทั้งหมด แต่ก็ถือว่ายังดีแหละน่า ! ด้วยถ้ามีเวลามากพอ มันก็อาจค่อย ๆ กลับมาเป็นเหมือนเอง !!! เพียงแต่ไม่รู้ว่าขั้นตอนนี้ต้องใช้เวลานานกี่ปีกัน

จนถึงตอนนี้อีกฝ่ายก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่าตนจะพ่ายแพ้ย่อยยับให้กับคนที่มีพลังต่ำกว่าตนเองแบบนี้ อย่างไรก็ตามไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ความจริงก็ปรากฏชัดอยู่ตรงหน้าเขาแล้วนี่ไง ! เขาทำได้เพียงพาวิญญาณเสี้ยวหนึ่งที่อ่อนแอของตัวเองหลบหนีไปให้ไวที่สุด

สำหรับคนอื่นแล้ว สนามรบโบราณหรือว่าสนามรบชิงคงนั้นเข้าง่ายแต่ออกยาก แต่สำหรับชายหนุ่มผู้นี้นั้น หากเขาอยากจะเข้าก็เข้า อยากจะออกก็ออกได้ดั่งใจนึก ! ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่เพราะเขาได้อภิสิทธิ์สามารถเปิดปิดสนามรบชิงคงหรอกนะ ! แต่เป็นเพราะตอนที่เข้ามาที่นี่นั่น เขาได้ใช้เวทย์เคลื่อนย้ายจากพลังวิญญาณของผู้อาวุโสในบ้านตนเองส่งมา !

ดังนั้นที่เขาสามารถรักษาวิญญาณตัวเองไว้ได้ ก็เพราะวิธีการที่ผู้อาวุโสของตนใช้นั่นเอง !