บทที่418 เหตุใดถึงต้องทารุณกรรมเด็กเช่นนี้ด้วย

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่418 เหตุใดถึงต้องทารุณกรรมเด็กเช่นนี้ด้วย

เมื่อเห็นฉากภายใน หยุนถิงก็ตกตะลึงยิ่งนัก

ห้องสกปรกและรก มีเด็กชายคนหนึ่งถูกมัดไว้บนเตียง อายุประมาณสิบสอง สิบสามปี มือและเท้าถูกล่ามไว้ด้วยโซ่เหล็กหนา เสื้อผ้าขาดวิ่น คลุมร่างกายแทบไม่มิด ผมก็ยุ่งเหยิงไปหมด ใบหน้าสกปรกจนมองไม่เห็นหน้าตา

รอบตัวเขายิ่งยุ่งเหยิงไปหมด มีอาหารที่ขึ้นราและบูดเน่า มีอุจจาระ และเสื้อผ้าที่สกปรก—–ห้องทั้งห้องมีกลิ่นเหม็นเน่าและเปรี้ยว ทำให้คนอยากอ้วกยิ่งนัก

เด็กชายข้างในกำลังกัดกินของก้อนสีเหลืองก้อนหนึ่ง เหมือนอุจจาระ เมื่อเห็นมีคนมา ก็ดูตื่นเต้นมาก และพยายามดิ้นรนมาหาหยุนถิง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงที่พูดออกมาก็เป็นเสียงฮือฮือ

นี่มันไม่ใช่เด็ก เป็นเหมือนหมู หมาชัดๆ แม้แต่หมูหมายังเทียบมิได้เลย

หยุนถิงไม่เคยเห็นเด็กคนไหนถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน แม้จะไม่ชอบแค่ไหน ก็มิควรทารุณกรรมอย่างโหดร้ายเช่นนี้

“เขาเป็นลูกชายแท้ๆ ของเจ้าหรือ?” สีหน้าของหยุนถิงเย็นชายิ่งนัก ออร่ารอบกายก็เปลี่ยนไปหมด

เด็กคนนั้นดูแล้วก็อายุประมาณสิบสองสิบสามเท่านั้น ส่วนหญิงชรานี้ก็ดูอายุเจ็ดสิบ แปดสิบแล้ว ดังนั้นไม่มีทางที่จะเป็นแม่แท้ๆของเด็กคนนี้ได้

หญิงชราเห็นลูกชายกินอุจจาระ ก็พอใจมาก และหัวเราะอย่างน่ากลัว “ถูกต้อง เขาเป็นลูกชายของข้า เป็นลูกที่ข้าตั้งครรภ์มาสิบเดือนแล้วคลอดออกมา ฮ่าฮ่าฮ่า ฮ่าฮ่า——”

“เหตุใด เหตุใดเจ้าต้องปฏิบัติเช่นนี้กับลูกของตัวเองด้วย หากไม่ชอบหรือเลี้ยงไม่ไหว ก็สามารถส่งให้คนอื่นได้ เหตุใดถึงต้องทารุณกรรมเด็กเช่นนี้ด้วย?” หยุนถิงถามอย่างเย็นชา มือที่อยู่ข้างกายก็อดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น

บนใบหน้าของหญิงชราเต็มไปด้วยความเศร้าโศกและความแค้นเคือง “ก็เป็นเพราะพ่อเขานะสิ ข้าตั้งครรภ์มาสิบเดือน ในช่วงสองเดือนแรกข้าอาเจียนทุกวัน อยู่ยากยิ่งนัก แต่ตอนที่ข้ากำลังจะคลอด พ่อของลูกกลับไปมีดีกับนางแพศยาคนหนึ่ง

ข้าจะไม่แค้นได้อย่างไร เขาบอกว่าจะดีกับข้าชั่วทั้งชีวิต และจะให้ครอบครัวที่มีความสุขแก่ข้าและลูก ข้าตั้งท้องอย่างยากลำบาก แต่เขากลับไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น

ข้าไม่ยินยอมที่จะจากไป เขาก็ให้นางแพศยานั้นเหยียดหยามข้า ทั้งสองจงใจมีอะไรกันต่อหน้าข้า จึงทำให้ข้าคลอดยาก

ไอ้สารเลวสองคนที่สมควรตายนั้น กลับอยากให้ข้าเจ็บปวดจนตาย สุดท้ายก็เป็นผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมาแล้วพบข้า และช่วยชีวิตข้าไว้ แต่ลูกของข้ากลับเสียไปแล้ว

ข้าถูกพี่สะใภ้โจวรับเอาไว้ดูแล เมื่อร่างกายหายดี ข้าฟื้นฟูขึ้นมา ข้าก็วางยาพิษในอาหารของไอ้สารเลวนั่นด้วยตนเอง และสับชายและหญิงสองสารเลวนั้นให้เป็นชิ้นๆ

ถึงตอนนี้ข้าก็ยังจำได้ ตอนนั้นข้ากรีดที่บนตัวของพวกเขา พวกเขากลัวมากแค่ไหน และข้ายังจำสภาพที่พวกเขาร้องขอความเมตตากับข้า ฮ่าฮ่า——” เสียงที่น่ากลัวของหญิงชราดังก้องไปทั่วห้อง ฟังเอาคนขนหัวลุกไปหมด

“ดังนั้นเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกแท้ๆของเจ้า แต่เป็นเด็กที่เจ้าเก็บมา” หยุนถิงตะคอกอย่างเย็นชา

ไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการยืนยัน

หญิงชราเอียงหัวมองดูเด็กคนนั้น และคิดไปครู่หนึ่ง “ใช่ ข้าเป็นคนเก็บเขามาเอง เก็บมาจากหลังเภา เดิมทีข้าอยากปฏิบัติต่อเขาอย่างดี แต่เขายิ่งโตก็ยิ่งเหมือนอีนางแพศยานั้น ข้าเกลียดนาง ดังนั้นข้าจึงมัดเขาไว้ในห้อง และปล่อยให้เขากินอุจจาระ อุจจาระของหมา ดื่มปัสสาวะของม้า——ทรมานเขาด้วยวิธีต่าง ๆ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นถึงจะทำให้ข้าระบายความโกรธได้”

หยุนถิงชำเลืองมองหญิงชรา นางในขณะนี้ดวงตาขว่างเปล่า เหมือนบ้าไปแล้ว ราวกับว่าจมอยู่ในความทรงจำที่แสนเจ็บปวดในอดีต และไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้

ว่าแล้ว ผู้ที่น่าสงสารย่อมมีสิ่งที่น่าชัง

“เขาไม่มีความผิดใดๆเลย เจ้าไม่ควรนำความแค้นมาลงบนตัวของเด็กคนหนึ่ง”

“เด็ก เขาเหมือนนางแพศยานั้นเยี่ยงนัก ก็สมควรตาย เจ้าก็ด้วย เจ้าก็สมควรตาย ใครให้เจ้าสวยงามมากเช่นนี้ ข้าจะให้เจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนเขาเดี๋ยวนี้เลย พวกเจ้าทั้งหมดล้วนสมควรตาย!” หญิงชรามาดึงหยุนถิง

หยุนถิงตกตะลึง และเข็มเงินในมือก็เจาะเข้าจุดที่ทำให้ขยับตัวไม่ได้ของหญิงชราอย่างรวดเร็ว

เดิมทีหญิงชราคลุ้มคลั่งก็ขยับตัวไม่ได้ในทันที “เจ้า เจ้าทำอะไรกับข้า ไม่ เจ้าถูกพิษแล้ว เป็นไปได้อย่างไร?”

“ยาพิษของเจ้าวางได้วิเศษมากจริงๆ แต่ข้าร้อยพิษไม่กล้ำกราย แถมข้ายังเป็นทักษะทางการแพทย์ด้วย และเหตุผลที่ข้าร่วมมือกับเจ้าก็เพื่อดูว่าจุดประสงค์ของเจ้าคืออะไร ผู้หญิงเลวทรามร้ายกาจเช่นเจ้า กรรมเกิดจากเหตุ มีเหตุจึงมีผลตามมา ใครทำให้เจ้าผิดหวังเจ้าก็ไปหาคนนั้นแก้แค้น กลับมาทารุณกรรมเด็กคนหนึ่งเยี่ยงนี้ สมควรตายยิ่งนัก!” หยุนถิงตะโกนด้วยความโกรธ

นอกประตู จวินซื่อจื่อและคนอื่น ๆ ต่างก็ออกมากันหมด

เมื่อพวกเขาเห็นทุกอย่างในห้อง แม้แต่หลงเอ้อและหลิงเฟิงที่เคยผ่านอะไรมากเยอะ ก็ยังตกตะลึงไปหมด

“พิษร้ายสุดคือจิตใจของผู้หญิงจริงๆด้วย ปฏิบัติกับเด็กคนหนึ่งถึงเช่นนี้ คนอย่างเจ้าไม่สมควรมีชีวิตอยู่ในใต้หล้านี้อีกต่อไป” หลงเอ้อตะโกนด้วยความโกรธ

“แม้แต่สัตว์ยังเทียบมิได้!” สีหน้าของหลิงเฟิงจริงจัง

พวกเขาต่างก็เป็นเด็กกำพร้า และติดตามซื่อจื่อมาตั้งแต่เด็กๆ แม้ว่าพวกเขาจะไปปฏิบัติภารกิจบ่อยครั้งและชีวิตตกอยู่ในอันตราย แต่พวกเขากลับได้รับการปฏิบัติอย่างดี ซื่อจื่อก็ดีกับพวกเขา มองดูเด็กตรงหน้า ทุกคนต่างก็อดเห็นอกเห็นใจไม่ได้

สีหน้าของจวินหย่วนโยวเย็นชากว่าเดิม ดวงตามืดทึบที่เฉียบหันไปมองหญิงชรา “หลิงเฟิง มอบให้เจ้าแล้ว” จากนั้นก็ยื่นมือออกไปปิดตาของหยุนถิง

“ขอรับ!” หลิงเฟิงดึงหญิงชราออกไป ตัดมือและเท้าของนางทิ้งในทันที และทิ้งนางไว้ที่ลานให้นางตายเอง

“อ๊ากก!” เสียงกรีดร้องที่น่าเวทนา ดังสนั่นไปทั่วลาน แต่ไม่มีใครเห็นใจเห็นใจเลย

นาง ต่อให้ตายก็ไม่รู้สึกเสียดาย

หยุนถิงมองไปที่เด็กคนนั้น และพูดว่า “ปล่อยเขาซะ”

“ขอรับ!” หลงเอ้อผู้ที่รักในความสะอาดมาโดยตลอด กลับไม่ได้ลังเลเลยสักนิดเลย ทนต่อกลิ่นเปรี้ยวและเน่าเสียที่ลอยมาตรงหน้า และเดินตรงไป ใช้ดาบยาวในมือตัดโซ่ที่ง่ามมือและเท้าของเด็กเอาไว้ขาด

“หลงเอ้อ พาเขาไปด้วย!” หยุนถิงกล่าว

เดิมทีก็ถูกครอบครัวทอดทิ้ง แต่ก็มาเจอคนบ้าๆแบบนี้อีก หยุนถิงรู้สึกเห็นใจอย่างยิ่ง

“ขอรับ!” หลงเอ้อไม่ได้รังเกียจ ถอดเสื้อคลุมของตัวเองออกแล้วห่อตัวเขาแล้วอุ้มออกไป

ในหม้อยังมีน้ำที่เดือดอยู่ หลงเอ้อและองครักษ์ลับต่างก็เห็นอกเห็นใจ และไม่ได้รู้สึกรังเกียจ และอาบน้ำให้เด็กคนนั้นทันที

หยุนถิงมองดูเขาที่ที่มองดูน้ำด้วยความดีใจ และฮือฮือพูดอะไรบางอย่าง ก็รู้สึกปวดใจมากนัก

“อย่าคิดมาก เพราะชีวิตของเด็กคนนี้ไม่ดี ตอนนี้ถูกเจ้าช่วยเอาไว้ ถือว่าเป็นโชคของเขา!” จวินหย่วนโยวปลอบโยน

“อืม” หยุนถิงจับมือของจวินหย่วนโยวไว้แน่นๆ

ทั้งสองกลับไปที่ห้องและเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาด หลังจากล้างหน้าแปรงฟังเสร็จ หยุนถิงก็เอาอาหารออกจากมิติ และทุกคนก็กินในลาน

หลังเด็กคนนั้นอาบสะอาด ก็เป็นเวลาหลังก้านธูปแล้ว หลงเอ้อเอาชุดของตัวเองเปลี่ยนให้เขา และพาเขาไปหาหยุนถิง

อาจเป็นเพราะไม่ได้กินของ และเห็นดวงอาทิตย์มาเป็นเวลานาน แม้แต่เดินก็ยังเดินไม่มั่นคง โยกไปโยกมา ทันทีที่เขาเห็นหยุนถิงก็คุกเข่าลง และกราบทันที

หยุนถิงตกตะลึง “เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ ข้าก็แค่ถือโอกาสช่วยเจ้าไว้พอดี เจ้ารีบลุกขึ้นเถอะ”

“ฮือฮือ——ข้า—สามารถ–ติดตาม–ท่าน—ได้หรือ—ไม่—–” เด็กคนนั้นพูดคำไม่กี่คำออกมาอย่างยากลำบาก