บทที่ 598 สัตว์เซียนที่ต้องคำสาป

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 598 สัตว์เซียนที่ต้องคำสาป

บทที่ 598 สัตว์เซียนที่ต้องคำสาป

เป็นเพราะรอบ ๆ ตัวมีเลือดอยู่เยอะ จึงทำให้ชายหนุ่มเกิดความคิดบางอย่างขึ้นมา ว่าแล้วฉู่เหินก็หยิบรูปปั้นออกมาวาง และทันทีที่เขานำมันออกมา เขาก็รู้สึกว่าเลือดที่อยู่ในที่นี้ถูกรูปปั้นดูดซึมอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้พื้นผิวลื่น ๆ ด้านนอกของรูปปั้นหลุดลอกออก

พอมันหลุดออกไปชั้นหนึ่ง ก็จะเห็นได้ว่ามันไม่เหมือนกับก่อนหน้าแล้ว ด้วยเดิมทีมันเป็นเพียงรูปปั้นหนูใหญ่ ๆ ตัวหนึ่ง แต่เมื่อชั้นผิวด้านนอกหลุดออก รูปปั้นนี้กลับเปลี่ยนเป็นรูปปั้นเสือขาวที่น่าเกรงขาม !

เสือตัวนี้มีลำตัวสีขาว อีกทั้งยังมีปีกขนาดใหญ่งอกออกมาด้วยคู่หนึ่ง มันอยู่ในท่าเชิดหน้าราวกับเสือที่กำลังคำราม และทันทีที่เห็น เขาก็รู้เลยว่ามันคือเสือขาว สัตว์เซียนในตำนาน !

เพียงแต่ดวงตาของเสือขาวตัวนี้กลับแปลก ๆ! เพราะดวงตาที่ว่าดำสนิท อีกทั้งภายในดวงตาก็เหมือนมีม่านหมอกบางอย่างปกคลุมเอาไว้ ทำให้ฉู่เหินเดาได้ทันทีว่าเสือขาวตัวนี้ต้องคำสาป ! และเมื่อดูจากท่าทางแล้ว มันก็น่าจะถูกสาปมานานพอตัวทีเดียว

คิดถึงตรงนี้ ฉู่เหินก็รู้แล้วว่าทำไมถึงมีคนบอก ว่าหากเอารูปปั้นนี้ออกมาจะทำให้โลกพินาศ ! เพราะต้องเข้าใจว่าพลังของสัตว์เซียนนั้นสูงส่งมาก อย่างไรก็ตามในสถานการณ์แบบนี้ ยังดีที่เขาไม่ได้มีจิตมุ่งร้าย ไม่งั้นก็คงถูกคำสาปเล่นงานไปแล้ว !

ในใจฉู่เหินคิดสงสัย สัตว์เซียนถูกปิดผนึกไว้ในรูปปั้นที่แท่นบูชาของพวกปีศาจเพื่ออะไรกัน ? หรือว่าพวกเขาต้องการจะเปลี่ยนสัตว์เซียนให้กลายเป็นกำลังของกองทัพปีศาจเพื่อใช้ในการทำสงคราม !

เมื่อคิด ๆ ดูแล้ว ถ้าวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นจริง งั้นมันก็น่ากลัวเกินไปแล้ว ! และเมื่อคิดถึงตอนนี้ ชายหนุ่มก็ย้อนนึกขึ้นได้ ว่าที่ดินแดนนั้นยังมีรูปปั้นที่คล้าย ๆ กันอีก 2-3 ตัวไม่ใช่เหรอ !

หลังจากคิดมาถึงตรงนี้ ชายหนุ่มก็ตั้งท่าจะเอาเสือขาวเก็บกลับเข้าไปในแหวนมิติ แต่จู่ ๆ เขาก็เห็นตัวของมันเปล่งแสงออกมา ก่อนจะทะลุเข้ามาในร่างกายเขา !

ฉากนี้ทำให้ฉู่เหินรู้สึกไม่สบายใจเลย ด้วยเขาไม่รู้จริง ๆ ว่าเจ้านี้มันเป็นบ้าอะไรขึ้นมา ถึงได้เข้าไปในร่างของเขามาแบบนี้ โดยเฉพาะจุดที่มันเข้าไป ที่เป็นตำแหน่งสำคัญอย่างจุดตันเถียนอีกด้วย ซึ่งแม้แต่หม้อเซียนก็ยังเว้นที่ให้มันเลย !

แต่ที่ทำให้ฉู่เหินรู้สึกแปลกใจก็คือ อัคคีสงสารวัฏกลับไม่ปฏิเสธมัน พวกมันอยู่ใครอยู่มันวนเวียนในตันเถียนของเขา ก่อนจะเป็นเจ้าเสือขาวที่เห็นอัคคีสงสารวัฏ และทำท่าตื่นกลัว พร้อมกันกับที่รีบหนีไปให้ไกลจากไฟนั่นที่สุด ! ราวกับกลัวโรคติดต่อเสียอย่างนั้น !

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ฉู่เหินรู้สึกมึนงง เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสัตว์เซียนจะกลัวอัคคีสงสารวัฏด้วย ! แต่ว่าเป็นแบบนี้ก็ดี เพราะถ้าเกิดอีกฝ่ายมีอะไรไม่ชอบมาพากลขึ้นมา จะได้จัดการง่าย ๆ!

ตอนนี้งูดำตัวเล็กที่พันรอบข้อมือเขาได้กลายเป็นมังกรดำตัวเล็กไปแล้ว และหลังจากที่มันกลายร่างเป็นมังกรดำ เจ้าตัวเล็กก็ไม่ได้ดูดซึมเลือดที่น่ากลัวพวกนั้นอีก ด้วยดูแล้วอีกไม่นานมันก็น่าจะสามารถเลื่อนขั้นได้อีกขั้น !

ถ้าสามารถทะลวงเลื่อนขั้นได้อีกล่ะก็ มันก็จะหลุดจากคอขวดของขั้นเทพดาราไปได้ เมื่อคิดถึงตรงนี้มันก็รู้สึกดีใจ เพราะต้องเข้าใจว่าขนาดชายชราคนนั้นก็ค้างอยู่ที่ขั้นนี้เช่นกัน !

มากกว่าขั้นเทพดาราเรียกว่าขั้นบรรพกาล หรือจะเรียกว่าขั้นบรรพกาลดาราก็ได้เหมือนกัน ! ซึ่งขั้นบรรพกาลดารานั้น มันก็จะแบ่งออกเป็น 3 ระดับได้แก่ สวรรค์ ปฐพี มนุษย์

ถ้าสามารถเลื่อนเป็นขั้นบรรพกาลได้ ไม่ว่าดาวดวงไหนเขาก็มั่นใจว่าสามารถไปได้ทั้งสิ้น ! แต่เมื่อคิดถึงร่างกายของตัวเองแล้ว เขาก็ต้องหวาดกลัว ! เพราะถ้าเปิดเผยร่างกายของตัวเองในตอนนี้ ก็เกรงว่าจะถูกตามไล่ฆ่ามากกว่า !

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เขาก็ต้องรู้สึกแปลกใจ เพราะตามตำนานแล้ว เมื่อกลายเป็นมังกรนิลจะต้องโดนด่านเคราะห์สายฟ้า แต่จนกระทั่งบัดนี้ ทำไมถึงยังไม่มีพลังสายฟ้าเกิดขึ้นเลยสักนิดเดียว ?

หลังจากคิดไปคิดมา เจ้ามังกรดำว่ายออกจากข้อมือของฉู่เหิน ทว่าไม่ทันพ้น 5 เมตรดี เขาก็สัมผัสได้ถึงพลังสายฟ้าที่ผ่าลงมา ! จนทำให้เขาตกใจ รีบกลับมาหาฉู่เหินและกลายร่างเป็นกำไลที่พันรอบข้อมือฉู่เหินเช่นเดิม

ครั้งนี้ไม่ว่าจะยังไง มันก็จะไม่ห่างจากฉู่เหินอีกแล้ว เพราะถ้าออกไปก็โดนฟ้าผ่าเอานะซิ !

หลังจากฉู่เหินปรับสภาพร่างกายสักพักก็เตรียมตัวออกไป ที่จริงเขารู้สึกเสียดายเลือดในบึงโลหิต อยากจะเอากลับไปด้วย แต่ที่ทำให้เขารู้สึกจนปัญญาก็คือ ก่อนหน้านี้เขาเคยเอาหม้อเซียนออกมาแล้ว แต่กลับไม่สามารถเอากลับไปได้เลยสักหยด ! จึงจำต้องออกไปทั้งแบบนี้

อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขากำลังจะเดินออกไป ก็ได้ยินเสียงสัตว์เซียนตัวนั้นเอ่ยเตือนขึ้นมาว่าให้ระวังด้านนอก ด้วยมีคนจะทำร้ายตัวเอง และเมื่อได้ยินประโยคนี้ ฉู่เหินก็ต้องขมวดคิ้วอย่างเคร่งเครียด ! ก่อนจะนึกขึ้นได้ถึงอะไรบางอย่าง

ไม่มีใครเคยดูดซึมพลังจากบ่อนี้ได้มาก่อน ดังนั้นเมื่อมีคนทำสำเร็จ ก็ต้องมีคนอยากรู้วิธีการที่ว่า เพราะผลลัพธ์ของมันไม่เพียงสามารถรักษาบาดแผลจนหาย แต่ยังเพิ่มขั้นพลังได้อีกด้วย ดังนั้นถ้าบอกว่าไม่มีคนอิจฉาก็คงเป็นไปไม่ได้ ! อย่างไรก็ตาม ถึงจะรู้แล้วแต่เขาก็ยังคิดหาวิธีดี ๆ ไม่ออกอยู่ดีว่าจะออกไปยังไงให้ปลอดภัย

ว่าแล้วฉู่เหินก็ตัดสินใจบางอย่าง ทำการแกล้งจมอยู่ในน้ำต่อไป ด้วยถ้าขึ้นไปแบบนี้คงไม่ดีแน่ ก่อนที่เขาจะเผยสีหน้าเจ็บปวด พร้อมทั้งทำให้ใบหน้าของตนซีดขาวเหมือนกับว่ายังรักษาไม่หายเต็มร้อย !

เมื่อสำรวจตัวเองจนไม่พบตรงไหนผิดปกติ เขาก็ทำเป็นหมดสติ ! และทันทีที่ฉู่เหินลอยขึ้นมา ชายชราก็ก้าวมาหยุดตรงหน้าเขาในพริบตาเดียว ซึ่งจากที่เดินมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม พอเห็นสีหน้าของฉู่เหินที่ขาวซีด เขาก็เปลี่ยนสีหน้าทันที !

เพราะตอนนี้เขาเห็นว่าฉู่เหินมีสภาพไม่ต่างจากเดิมเลย ! เข้ามาแบบไหนก็เป็นแบบนั้น ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไรเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายแช่ในน้ำตั้ง 10 วันเต็ม ๆ แต่มันกลับไม่เกิดอะไรขึ้นเลยงั้นเหรอ ! เมื่อคิดแบบนี้ ชายชราก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรดี

“ขอบคุณผู้อาวุโสที่มาดูแลผมด้วยตัวเองนะครับ เพียงแต่น่าเสียดายที่โลหิตพวกนี้ใช้ไม่ได้ พอพลังมันเข้ามาอยู่สักพักก็ไหลออก เหมือนกับตะกร้าขาด ๆ ที่ไม่อาจรองรับพลังใดได้เลย”

พูดจบฉู่เหินก็ไอออกมา ! ซึ่งตัวเขาก็แสดงได้เสมือนจริงมากจนชายชราเชื่อไปแล้ว และเหตุที่เป็นแบบนี้ ก็เพราะชายชราไม่รู้ว่าแผนการของตัวเองถูกชายหนุ่มจับได้ตั้งแต่ต้น !