บทที่ 600 โจมตีกลุ่มเสือขาว
บทที่ 600 โจมตีกลุ่มเสือขาว
ตอนที่ฉู่เหินเดินออกมา จู่ ๆ ระหว่างนั้นเขาก็พบว่าในหน้าอกตนมีของอยู่สิ่งหนึ่ง และเมื่อใช้พลังจิตตรวจสอบดูก็เห็นป้าย ! ในป้ายเขียนว่า สงครามชนเผ่าเป่ย !
แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะไม่รู้ว่าสงครามชนเผ่าเป่ยหมายความว่าอะไร แต่จากคำชี้แนะที่จริงจังของชายชราตรงหน้า ก็รู้ได้ว่าสถานที่นี้ไม่ใช่สถานที่ที่ธรรมดาแน่นอน !
และในเมื่ออีกฝ่ายรู้ความจริงแล้ว งั้นชายหนุ่มก็ไม่จำเป็นต้องเสแสร้งอีกแล้ว กลับมาใช้ลมปราณตัวเองดั่งเดิม ! ทำให้คนที่ยืนอยู่ด้านหลังยิ้มออกมานิด ๆ เมื่อเห็นแบบนั้น เพราะนี้แปลว่าเขาเดาถูกต้องแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมดก็ตาม !
อย่างไรดีตาม สายตาของเขาก็อดเผยแววสงสัยไม่ได้ ถ้าบอกว่าไม่รู้สึกโลภเลย ก็คงเป็นไปไม่ได้ ! แต่เขาก็ไม่คิดจะแย่งชิง ด้วยในใจรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้าไม่อาจดูถูกได้ อีกทั้งนิสัยก็ถือได้ว่าดี มีความตรงไปตรงมา !!
หลังจากที่ชายหนุ่มจากไปแล้ว ชายชราก็กลับมายืนคิด ว่าอีกฝ่ายทำให้คนที่ควรจะอยู่หายไปได้ยังไง ? กระทั่งเป็นหรือตายก็ไม่อาจรู้ได้ ! และที่สำคัญเลยก็คือกลิ่นไอลมปราณที่หายไปอย่างสิ้นเชิงนั่น เพราะต้องเข้าใจห้องปิดตายเล็ก ๆ นี้ไม่มีทางออกอื่นอีกแล้ว !!!
ทางเข้าออกเดียวที่มีก็คือทางที่ตัวเขาเพิ่งเข้าผ่านเข้ามา ซึ่งตั้งแต่มาถึงตัวเองก็ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูตลอดเวลา ดังนั้นไม่มีทางเลยที่จะหายไปเฉย ๆ! เกรงว่าที่ตัวของชายหนุ่มจะมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่เป็นแน่ !
เมื่อคิดถึงตรงนี้ชายชราก็เริ่มตื่นเต้น ด้วยถ้าไม่ใช่อย่างที่เขาคิด งั้นจะมีหรือที่จะมองอีกฝ่ายจากไปง่าย ๆ แบบนี้ ! แล้วก็เพราะแบบนี้นี่แหละ ที่ทำให้ตัวเองพยายามสารสัมพันธ์กับฉู่เหิน ! ก็ในเมื่อไม่อาจเป็นศัตรูได้ งั้นก็ต้องพยายามผูกมิตรไว้ เพื่อต่อไปเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกฝ่ายก็จะได้ถือว่าเขาเป็นครอบครัวเดียวกับตัวเอง !
มีคำกล่าวที่ว่าคนยิ่งแก่ยิ่งเจ้าเล่ห์ ซึ่งมันก็ไม่ผิดเลยสักนิด ! ด้วยชายชรามีแผนการมากมายขนาดนี้ในหัว ทว่าฉู่เหินกลับไม่เอะใจอะไรแม้แต่น้อย !
ถึงแม้ฉู่เหินจะฉลาดมาก แต่เมื่อเทียบกับประสบการณ์ของชายชราแล้ว ก็ยังนับว่าอ่อนหัดนัก !
ด้านนอกบึงมังกรโลหิตมีสหายยืนรอตัวเองอยู่มากมาย ! แม้กระทั่งแม่ทัพหงส์เพลิงที่ออกไปรบ ก็ยังมายืนรอเหมือนหวังซานเหนียงไม่ไปไหน !
ทุกคนพากันยืนรออย่างกระวนกระวาย จนกระทั่งได้ยินเสียงประตูเปิด และตามมาด้วยร่างของฉู่เหินที่เดินออกมาจากข้างใน ! ที่ดูสดชื่น และไร้ร่องรอยบาดเจ็บใด ๆ
ทุกคนเห็นแบบนี้ก็ดีใจ ! โดยเฉพาะหวังซานเหนียงที่จู่ ๆ ก็รู้สึกดวงตาร้อนผ่าว ! ก้าวเข้าไปกอดฉู่เหินแนบแน่น ! ซึ่งนั่นมันก็ทำให้หัวใจของฉู่เหินรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ด้วยเขารู้ได้เลยว่าผู้หญิงคนนี้เห็นตัวเองเป็นลูกชายของเธอจริง ๆ
แม้ว่าสติของหวังซานเหนียงจะกลับมาแล้ว แต่เธอก็ยังมองว่าตัวเขานั้นเป็นลูกอยู่ดีงั้นเหรอ ! เมื่อคิดแบบนี้ แทนที่ชายหนุ่มจะดีใจ ลึก ๆ เขากลับรู้สึกเศร้า เพราะตัวเองคงจะอยู่ที่โลกแห่งนี้ไม่ได้นานแล้ว
“แม่ อย่าร้องไห้เลย ผมไม่เป็นอะไรแล้วเห็นไหม ! ตอนนี้ร่างกายของผมดีจนไม่รู้จะดียังไงแล้ว” พอพูดไปแบบนั้น หวังซานเหนียงก็ยิ่งร้องไห้หนักกว่าเดิมเสียอย่างนั้น เพราะคำพูดนั้นทำให้หวังซานเหนียงคิดคิดถึงลูกชายตัวเองขึ้นมา ด้วยถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ก็เกรงว่าคงจะมีอายุเท่า ๆ กับฉู่เหินนี่แหละ !
“ดี ๆๆ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” พอเห็นว่าฉู่เหินไม่เป็นอะไรแล้วจริง ๆ หวังซานเหนียงถึงได้วางใจ และพาฉู่เหินกลับไปที่บ้าน ! ทว่าเขายังไม่ทันได้ทำอะไร ก็ได้ยินว่าแม่ทัพหงส์เพลิงได้จัดทัพจะไปตีกลุ่มเสือขวาเรียบร้อยแล้ว ! จนทำให้ฉู่เหินไม่อาจนิ่งเฉย รีบไปเตรียมตัวจะไปด้วย !!!
พอชายหนุ่มบอกว่าตัวเองจะได้ปล้นขุมทรัพย์แล้วก็เก็บแต้มความดีความชอบ กับได้แก้แค้นให้ตัวมารดาบุญธรรม หวังซานเหนียงที่ได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้ายินยอม แต่มาพร้อมข้อแม้อย่างหนึ่งคือขอเดินทางไปกับกองทัพด้วย !
ตอนนี้หวังซานเหนียงหายเป็นปกติแล้ว ดังนั้นฉู่เหินจึงไม่มีข้ออ้างไม่ให้เธอตามไปด้วยอีก ! ซึ่งก็ไม่ใช่แค่นั้น เพราะนอกจากนี้ก็ยังมีฮวามู่ตันและหลิวซินยี่ที่จะตามมาด้วยเช่นกัน
ฉู่เหินคิดสักพักก็ตอบตกลง ! และหลังจากกลับมาที่บ้านของแม่ทัพ หวังซานเหนียงก็มอบทหาร 1 หมื่นคนให้ฉู่เหินควบคุม ! ซึ่งมันก็ถือได้ว่าเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบที่ใหญ่มากทีเดียว
สำหรับชายหนุ่ม กำลังทหาร 1 หมื่นนายก็นับว่ามากเกินพอ ! เพราะนี้ไม่ใช่การนำทัพครั้งแรกของเขา และเมื่อเห็นท่าทีของฉู่เหิน มันก็ทำให้พวกทหารใต้บังคับบัญชารู้ได้ในทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้ามีความเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้มากกว่าที่คิด !
แล้วก็เพราะแบบนี้เอง ที่ทำให้ความคิดที่พวกทหารเคยดูถูกไว้หายไปโดยสิ้นเชิง !
ฉู่เหินนำทัพจำนวน 1 หนึ่งนายบุกโจมตีกลุ่มเสือขาว ทำการฆ่าสังหารไปตลอดทาง และที่ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจก็คือ ทันทีที่ฉู่เหินมาถึง เขากลับไม่มุ่งตรงไปที่จวนแม่ทัพในทันที แต่ทว่ากลับพาพวกเขาบุกโจมตีรอบ ๆ เมืองเสือขาวแทน !!!
ต้องเข้าใจว่ารอบ ๆ เมืองกลุ่มเสือขาวนั้นมีคนอยู่ไม่เท่าไร ทุก ๆ ที่จะมีคนอาศัยอยู่ไม่ถึงพันคนเท่านั้น แล้วก็เป็นอย่างที่คิด ที่ว่าคนเหล่านั้นถูกกองทัพทหารของฉู่เหินทำลายย่อยยับ ! พร้อม ๆ กับที่ชายหนุ่มทำการจับคนพวกนั้นเป็นเชลยไปด้วยตลอดทาง ก่อนจะทำให้คนพวกนั้นกลายมาเป็นกำลังทหารของตัวเอง
…วิธีที่มีทั้งแข็งและอ่อนในเวลาเดียวกันแบบนี้ ทำให้พวกเขาเหมือนกลายเป็นทหารที่รบในสงครามจริง ๆ!
การสู้รบไปตลอดทางทำให้ทุกคนเริ่มรู้สึกนับถือในตัวฉู่เหิน ! เพราะเมื่อก่อนตอนที่กลุ่มทั้ง 4 ทำสงครามสู้รบกัน กลุ่มที่แพ้จะถูกจับไปเป็นเชลยและขังไว้ในคุกทั้งหมด รอให้เสร็จสงครามถ้าแม่ทัพต้องการจะช่วยเชลยคนไหน ก็ต้องเอาเงินไปแลกเท่านั้น !
ซึ่งมันก็ผิดกับฉู่เหินที่ใช้วิธีต่างออกไป ด้วยเพราะก่อนมาพวกเขามีทหารอยู่ 1 หมื่นคนเท่านั้น แต่มาแต่พวกเขากับมีกำลังทหารมากกว่า 6 หมื่นนายเข้าไปแล้ว !
แม้แต่กลุ่มหงส์เพลิงก็ยังไม่เคยเห็นวิธี เอาคนของตัวเองโจมตีพวกตัวเองเช่นนี้เนี่ยนะ !
เมื่อเห็นการวางแผนรบที่ชาญฉลาดของฉู่เหิน ก็ทำให้หวังซานเหนียงมองอย่างภูมิใจ ! กระทั่งคนผ่านไปมาก็จะทักทายแล้วพูดว่า เห็นนั้นไหม นั่นลูกชายฉันเองแหละ !
การสู้รบระหว่างสองกลุ่มไม่ได้ใช้เวลาแค่ 8 หรือ 10 วันก็จบ ด้วยไม่ว่าจะสงครามครั้งไหนก็ย่อมต้องใช้เวลาเป็นปีถึงจะจบสิ้น !
1 กลุ่มมีแสนกว่าคน มาตอนนี้มีถึง 3 กลุ่มสู้รบกัน ก็ปาเข้าไปหลายแสนคนแล้ว จนทำให้ทั่วทั้งสนามรบเจิ่งนองไปด้วยเลือด
บัดนี้กลุ่มหงส์เพลิง กลุ่มเสือขาว กลุ่มเต่าดำ ต่อสู้ชุลมุนพร้อม ๆ กัน ! ซึ่งก็ใช่ว่ากลุ่มมังกรเขียวจะนิ่งเฉย เพราะพวกเขาเองก็ทำการส่งคนไปปล้นสะดมกลุ่มเต่าดำด้วย ! จนทำให้สถานการณ์ของกลุ่มเต่าดำกลายเป็นแพ้ได้น่าอนาถที่สุดแล้ว !
ต้องเข้าใจว่าทหารที่เก่งที่สุดต่อสู้อยู่ในสนามรบ ส่วนทหารที่ปกป้องเมืองก็มีเพียงน้อยนิด ! จนทำให้ถูกกลุ่มมังกรเขียวตีแตกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่เวลาไม่นานจะถูกกลุ่มมังกรเขียวขนของมีค่าของกลุ่มเต่าดำออกไปจนหมด !
กลุ่มเตาดำที่รับมือกับศึกสองสามด้านแบบนี้ พวกเขาก็ถึงกับโง่งมไปครู่หนึ่ง กองกำลังของพวกเขาไม่ใช่กระจอก ๆ! แต่อีกฝ่ายกลับทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันจะหยามหน้าเกินไปหน่อยแล้วนะ ! กระทั่งสมบัติภายในก็ขโมยไปหมดเลย !!