บทที่ 512 จุดเปลี่ยน

จวนอู่โหว

มีผู้หญิงคนหนึ่งคุกเข่าอยู่ที่หน้าจวนอู่โหว นางร้องไห้และร่ำร้องขอพบถังหลี่

หญิงสาวตื่นตระหนก รีบออกมาที่หน้าจวนอย่างรวดเร็ว ที่ด้านนอกประตูถูกล้อมรอบไปด้วยผู้คนเมื่อมีคนเห็นถังหลี่จึงรีบพูด

“ฮูหยินเฉิน นั่นคือฮูหยินอู่ ผู้ที่เจ้าอยากพบ”

เมื่อเห็นถังหลี่ นางรีบเดินเข้ามาจับมือและคุกเข่าอ้อนวอน

“นายหญิงช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ ช่วยข้าด้วยเถิด!” ถังหลี่รีบประคองนางขึ้น

“ฮูหยินท่านอย่าได้คุกเข่าเลย มีอะไรให้ข้าช่วยหรือ? หากข้าช่วยได้ข้าจะช่วย” หญิงสาวพยักหน้ารับ

“เฉินเหวินหานบุตรชายของข้า เป็นลูกศิษย์ของกั๋วจื่อเจี้ยน ไม่กี่วันก่อนถูกวางยาพิษจนเสียชีวิตเจ้าค่ะ”

เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่รู้กันดีทั่วทั้งเมืองหลวง สวี่เจวี๋ยกับเว่ยจื่ออั๋งก็ศึกษาอยู่ที่นั่นเช่นเดียวกัน พวกเขาพูดคุยเรื่องนี้ในตอนที่กลับมาถึงบ้าน ทำให้ถังหลี่ทราบความจริงมากกว่าคนอื่น

“เหวินหานบุตรชายของข้าสู้อุตส่าห์เรียนหนังสือหนักมานับสิบปี ในที่สุดก็สามารถเข้าเรียนที่กั๋วจื่อเจี้ยนได้ วันที่เขาได้รับจดหมายตอบรับเข้าเรียน เขามีความสุขมาก ใครจะรู้ว่าจะเป็นเหตุให้เขาเสียชีวิต หากข้ารู้เช่นนี้ ข้าจะไม่ปล่อยให้เขามาเรียนที่นี่อย่างเด็ดขาด!”

“บุตรชายที่น่าสงสารของข้าเขาอายุเพียงสิบหกปีเท่านั้น เหตุใดจึงรีบจากไปปล่อยแม่ไว้เพียงลำพังเช่นนี้!

“ถึงคนที่สังหารบุตรชายของข้าจะมีอำนาจจนยากที่จะแก้แค้นได้ แต่ข้าก็ไม่อยากให้บุตรชายข้าตายอย่างไร้ความเป็นธรรมเช่นนี้!”

“ฮูหยิน ข้าได้ยินว่าท่านมาจากเมืองชิงเหอเช่นกัน ข้าไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว ข้าจึงได้มาหาท่าน ได้โปรดช่วยคนบ้านเดียวกันด้วยเถอะ!”

“ฮูหยิน ได้โปรดช่วยด้วยเถิดเจ้าค่ะ!” ฮูหยินเฉินก้มหัวขอร้องถังหลี่ นางคุกเข่าขอร้องพร้อมกับโขกศีรษะเสียงดัง จนหน้าผากมีเลือดไหลซึมออกมา ถังหลี่รีบหยุดนางเอาไว้ ผู้คนที่เห็นพากันทนไม่ได้

“ฮูหยิน บุตรข้าเข้ามาเรียนที่กั๋วจื่อเจี้ยนเพื่อหาความรู้ ไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องสกปรกเช่นนี้ หากศาลไม่ให้ความยุติธรรมกับข้า ข้ายินดีเข้าร่วมกับศิษย์ของสำนักเพื่อทวงคืนความยุติธรรม!”

“บุตรของข้าเป็นศิษย์ของสำนักหลวงเช่นกัน…ข้าจะทำเต็มที่ในส่วนของข้า”

ราชสำนักให้ความสำคัญกับศิษย์ที่มีพรสวรรค์ ยิ่งถ้าหากเกี่ยวกับศิษย์ในกั๋วจื่อเจี้ยน ต้องยิ่งเร่งตรวจสอบ

แม้จะเป็นเพียงก้อนหิมะเล็กๆ แต่ยิ่งนานวันเข้าย่อมเกิดผลกระทบที่ใหญ่กว่าตามมา ถ้าหากนางต้องการทวงคืนความยุติธรรมของบุตรชายจริงๆ…แต่ถ้าหากไม่ใช่…

“นางเฉิน ข้าได้ยินมาว่าศาลต้าหลี่กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ ท่านต้องให้เวลาพวกเขาได้สืบสวน” ถังหลี่มองไปยังผู้คนที่พากันมุงดู

“ทุกท่านคงทราบดีว่าการสืบสวนจะต้องใช้เวลาคดีถึงจะมีความคืบหน้า และมีหลักฐานแน่นหนา ศาลต้าหลี่ยึดหลักการนี้มาตลอด ทุกท่านได้โปรดรอสักหน่อยเถิด”

ศาลต้าหลี่มีน้ำหนักในใจของผู้คนในเมืองหลวง เมื่อถังหลี่พูดเช่นนี้ความโกรธของผู้คนจึงลดน้อยลง

“ใต้เท้ากู้ของศาลต้าหลี่เป็นคนเที่ยงธรรมและเข้มงวดมาก ได้โปรดอดทนรอสักหน่อยเถิด”

“ฮูหยินเฉิน หากว่าสุดท้ายแล้วผลการสอบสวนออกมาอย่างไม่เป็นธรรมแล้ว ข้าจะทวงความยุติธรรมให้แก่ท่านอย่างเอง” ถังหลี่กล่าว

หลังจากที่ถังหลี่พูดจบ นางเฉินไม่ตอบ นางเดินหายไปท่ามกลางฝูงคน ถังหลี่มองตามอย่างครุ่นคิด

สวี่เจวี๋ยและจื่ออั๋งได้เล่าให้ฟังว่า คดีนี้ดูผิดปกติมาก เรื่องที่น่าแปลกเป็นอย่างยิ่ง คือหลังจากที่เฉินเหวินหานได้เสียชีวิตลง นางเฉินได้เผาร่างของบุตรชายทันที เปรียบได้กับการทำลายศพและหลักฐานในคดี

ในไม่ช้าข่าวลือที่ไม่เป็นผลดีกับองค์ชายหกและกั๋วจื่อเจี้ยนก็แพร่กระจายราวกับมีคนจงใจสร้างขึ้น นางเฉินมาขอร้องอ้อนวอนถังหลี่ถึงประตูหน้าจวน ทำให้นางยิ่งรู้สึกไม่ชอบมาพากลมากขึ้นไปอีก

ถังหลี่กลับไปที่ห้องของนาง

“ฉือซื่อ”

หลังจากที่ถังหลี่พูดจบ ฉือซื่อปรากฏตัวขึ้นมาในห้องเงียบๆ เขาก้มศีรษะรอคำตอบด้วยความเคารพ

“ไปสืบเรื่องมารดาของเฉินเหวินหาน” ถังหลี่กล่าว

“ขอรับนายหญิง”

“มีอีกเรื่อง….”

….

ในชั่วพริบตา ข่าวลือก็แพร่กระจายในเมืองหลวงทันทีไม่เพียงแต่กล่าวถึงว่าฮูหยินอู่มีพื้นเพมาจากชิงเหอที่เดียวกับศิษย์ที่เสียชีวิตอย่างเฉินเหวินหาน ความสิ้นหวังของนางเฉินทำให้นางได้ไปขอร้องกับฮูหยินอู่ ถึงฮูหยินอู่จะรับฟังแต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร

เมื่อนางเฉินไปหานางอีกครั้ง ฮูหยินอู่จึงไม่ได้ออกมาพบ

“ข้าได้ยินว่าบุตรชายบุญธรรมทั้งสองคนของสกุลอู่ปกป้ององค์ชายหกในกั๋วจื่อเจี้ยนด้วย”

“ฮูหยินอู่ผู้นี้มาจากสกุลกู้ใช่ไหม…หรือองค์ชายหกได้รับการสนับสนุนจากสกุลกู้?”

“องค์ชายหกเป็นพวกอันธพาล เกเร ไม่สนใจชีวิตของมนุษย์ เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นองค์ชายเลยแม้แต่น้อย”

เหตุการณ์ในครั้งนี้เหมือนกับหิมะที่ถล่มใส่องค์ชายหก สกุลเหลียง สกุลอู่ และสกุลกู้ถูกลากลงไปจมน้ำโคลนจนหมด

…..

จวนรุ่ยอ๋อง

จินเซ่อพอใจกับผลที่เกิดขึ้นมาหลังจากการวางแผนของนาง จ้าวจิ่งซวนย่อมไม่มีคุณสมบัติในการขึ้นครองบัลลังก์เป็นแน่ การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ไม่เพียงแต่ทำให้องค์ชายหกเสียชื่อเสียงเท่านั้น ยังสร้างความเสียหายให้แก่สกุลเหลียงอีกด้วย

หากสกุลกู้ยังยืนยันที่จะปกป้องจ้าวจิ่งซวน ผนวกกับอำนาจทหารที่สกุลเหลียงมีแต่เดิม องค์ฮ่องเต้จะต้องระแคะระคายสกุลเหลียง ไม่มีทางมอบตำแหน่งองค์ชายรัชทายาทให้อย่างแน่นอน

ด้วยสาเหตุนี้น้ำหนักในพระทัยของฮ่องเต้ก็จะเหลือแต่จ้าวชูสามีของนางเท่านั้น ตอนนี้ทุกอย่างเหลือเพียงขั้นตอนสุดท้าย นางสั่งคนสนิทให้ไปฆ่าปิดปากนางเฉินเสีย! ตอนนี้นางเฉินได้หมดประโยชน์แล้ว นางจึงไม่จำเป็นต้องมีชีวิตอยู่ต่อ เมื่อนางเฉินตายก็จะไม่มีหลักฐาน ถึงตอนนั้นทุกคนจะคิดว่าจ้าวจิ่งซวนสังหารนางเพื่อปิดปาก!

ที่เรือนเล็กหลังหนึ่ง

นางเฉินกำลังเก็บข้าวของ แม้ดวงตาของนางจะแดงก่ำแต่กลับไม่มีความเศร้าโศกเหมือนก่อนหน้านี้ ทันใดนั้นมีเสียงคนมาเคาะที่ประตูของนาง นางเฉินเปิดประตูและเมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ไม่ได้แปลกใจมากนัก

“เข้ามาเถอะ” นางเรียกชายผู้นั้นให้เดินเข้าไปในบ้าน

“เจ้านำทุกอย่างมาหรือยัง ข้าทำตามที่สั่งเรียบร้อยแล้ว คืนนี้ข้าจะกลับไปที่ชิงเหอ เจ้าจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย…”

เสียงของนางเฉินหยุดลงเมื่อชายผู้นั้นยกมีดสั้นขึ้น แสงที่คมมีดสะท้อนให้เห็นใบหน้าที่ตื่นตระหนกของนางเฉิน ในขณะที่มีดสั้นกำลังจะฟันลงมาที่คอของนาง ทันใดนั้นเงาสีดำก็ปรากฏขึ้น ขวางคมมีดนั้นไว้ ทั้งสองต่อสู้กัน

นางเฉินตัวสั่นด้วยความหวาดกลัวแม้ว่าคนมาใหม่จะมีท่าทีที่แตกต่างกับชายคนแรก แต่บรรยากาศที่ล้อมรอบดูอันตราย

ชายคนแรกขมวดคิ้วสงสัย

เขาเป็นใคร?

เหตุใดถึงได้มาที่นี่ ? เขามาช่วยนางเฉินหรือ?

ผู้ชายคนนั้นไม่มีเวลาคิดจริงจัง เพราะต้องรับการโจมตีและต่อสู้กับศัตรูตรงหน้าด้วยกำลังทั้งหมดของเขา ทั้งสองห่ำหั่นกันจนแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร

นางเฉินแอบหยิบสัมภาระของนางออกไปที่ประตูเงียบๆ แต่ที่หน้าบ้านของนางมีเจ้าหน้าที่มาล้อมรอบอยู่มากมาย

พวกเขามาแอบซุ่มอยู่เงียบๆ จนนางไม่รู้ตัว

“เราเป็นเจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่ มาจับกุมเจ้า”

ใบหน้าของนางเฉินซีดเซียว แข้งขาอ่อนแรงทันที

ที่เรือนด้านใน เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ทุกอย่างจบลงแล้ว พวกเขาทั้งสองต่างรีบแยกย้ายหนีทันที มีเพียงอวี๋เฮยอิ่งที่ยืนอยู่ที่นั่น เขาจ้องมองไปที่เจ้าหน้าที่ศาลต้าหลี่เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อย

เฮยอิ่ง คือฉือซื่อ เขารับคำสั่งมาจากนายหญิงให้ปกป้องนางเฉิน ตอนนี้นางเฉินรอดจากการถูกลอบสังหารแล้ว นางถูกเจ้าหน้าที่ของศาลต้าหลี่พาตัวไป ภารกิจของเขาจึงเสร็จสิ้น

ฉือซื่อกระโดดตัวลอยไปตามหลังคา หายไปทันที