บทที่ 462 สงสัยการตัดสินใจของหัวหน้าหมู่บ้าน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 462 สงสัยการตัดสินใจของหัวหน้าหมู่บ้าน

บทที่ 462 สงสัยการตัดสินใจของหัวหน้าหมู่บ้าน

กู้ซินเถาร้องไห้อย่างเศร้าโศก “ข้าเพียงหวังดี แต่เสี่ยวหวานกลับคิดเป็นอย่างอื่น ฮือ ๆ… ท่านลุง ท่านต้องตัดสินใจแทนข้า!”

หลังจากฟังคำอธิบายของกู้ซินเถา หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ตระหนักว่านางกำลังพูดถึงฉินเย่จือ ชายหนุ่มที่ถูกกู้เสี่ยวหวานรับตัวไว้

ทั้งสองทะเลาะกันเพราะชายหนุ่ม

เมื่อเห็นท่าทางที่เป็นกังวลของกู้ซินเถา เขาก็ถอนหายใจและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “สาวน้อยซินเถา เจ้าใจดี แต่…ถ้านางไม่ฟัง เราจะทำอย่างไรได้?”

“ว่าอย่างไรนะ?” เมื่อกู้ซินเถาได้ยินคำพูดหมดหนทางของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง นางไม่อยากจะเชื่อเลย “ท่านลุง ท่านเคยไปพูดเรื่องนี้กับนางหรือยัง?”

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงสูดลมหายใจเย็นชาและพูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมข้าจะไม่พูด ข้าพูดไปแล้วมากกว่าหนึ่งหรือสองครั้ง เจ้ายังเป็นเด็กน้อย กู้เสี่ยวหวานจึงไม่ไว้หน้าเจ้า ในเวลานั้นตอนที่ข้าไปหานาง ข้าก็ถูกนางเชิญออกไปอย่างเย็นชาเช่นกัน”

เขาหมดหนทางและรู้สึกโกรธเคือง

แม้แต่หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ไปหากู้เสี่ยวหวานและพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แล้วทำไมกู้เสี่ยวหวานถึงยังไม่สนใจ!

“ว่าอย่างไรนะ นางก็ไล่ท่านออกมาด้วยหรือ?” กู้ซินเถาขึ้นเสียง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

กู้เสี่ยวหวานผู้นี้กล้าหาญมาก นางไม่สนใจแม้แต่หัวหน้าหมู่บ้าน “ท่านลุง นางก้าวร้าวเกินไป นางไม่สนใจท่านด้วยซ้ำ” ท่าทางของนางดูขุ่นเคืองและเศร้ายิ่งกว่าการถูกทุบตีและดุโดยกู้เสี่ยวหวาน

“ก็นั่นน่ะสิ!” หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ก่อนหน้านี้ ข้าก็เคยไปหาสาวน้อยเสี่ยวหวาน และบอกนางเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว”

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเล่าถึงอดีต เมื่อกู้เสี่ยวหวานปรากฏตัวในหมู่บ้านพร้อมกับชายหนุ่มชื่อฉินเย่จือ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็ได้ยินข่าวลือบางอย่าง

ความประหลาดใจและความริษยาของผู้คนในตอนแรกกลายเป็นความโกรธในตอนท้าย ไม่มีบุคคลภายนอกมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอู๋ซีมาก่อน ถึงมีคนมาอยู่ที่นี่ คนเหล่านั้นก็เป็นคนที่รู้ที่มาที่ไป และมีบางคนที่ไปอยู่ที่อื่นไม่รอดถึงกลับมา

แต่ฉินเย่จือผู้นั้นมีเสน่ห์เกินไป และเมื่อทุกคนไม่ได้เขามา เช่นนั้นแล้วพวกเขาก็ไม่ต้องการให้กู้เสี่ยวหวานได้เขาไปเช่นกัน

ดังนั้นทุก ๆ สามวัน ผู้คนจากหมู่บ้านจึงไปที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงเพื่อพูดคุยเรื่องนี้

เขาได้ยินเรื่องซุบซิบมากมาย หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจึงวิ่งไปถามกู้เสี่ยวหวาน

ในตอนแรก กู้เสี่ยวหวานให้คำอธิบายที่ดี แต่ต่อมาเมื่อนางรู้สึกรำคาญกับคำถามจากหัวหน้าหมู่บ้าน นางจึงปิดประตูไม่ต้อนรับเขาอีก

หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงโกรธมาก แต่เขาไม่กล้าทำอะไรกับกู้เสี่ยวหวาน! เนื่องจากกู้เสี่ยวหวานให้วิธีการทำเงินแก่หมู่บ้านหลายวิธี หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงจึงไม่กล้าที่จะรุกรานนาง!

ในท้ายที่สุด เมื่อเห็นว่าเรื่องนี้ยังไม่จบ กู้เสี่ยวหวานจึงพาฉินเย่จือไปเยี่ยมบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง

ต่อหน้าผู้อาวุโสในหมู่บ้าน นางเปิดเผยต่อสาธารณชนว่าฉินเย่จือเป็นพี่ชายของนาง!

ตอนนี้ฉินเย่จือได้รับการยอมรับว่าเป็นพี่ชาย และเป็นสมาชิกของครอบครัวกู้

เดิมที บางคนไม่มั่นใจและต้องการขับไล่ฉินเย่จือออกไป แต่ในเวลานั้น กู้เสี่ยวหวานพูดอย่างดื้อรั้นว่า ถ้าฉินเย่จือออกไป ครอบครัวของพวกเขาก็จะย้ายออกไปด้วย

เมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็หายใจเข้าลึก ๆ กู้เสี่ยวหวานผู้นี้ ตอนนี้กลายเป็นขุมทรัพย์ในหมู่บ้านไปแล้ว นางมีวิธีการหาเงินมากมาย ถ้าปล่อยนางไปจากหมู่บ้านเช่นนี้ หมู่บ้านจะสูญเสียรายได้ไปอีกเท่าไร!

ทุกคนจึงรีบร้อนพยักหน้าเห็นด้วยและยอมให้ฉินเย่จืออยู่ในหมู่บ้านต่อไป

เมื่อเห็นว่าทุกคนเห็นด้วย หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงก็มีความสุขที่เรื่องนี้จบลงอย่างราบรื่น หลังจากพูดคุยกับคนในหมู่บ้านแล้ว ถึงแม้ว่าบางคนจะค่อนข้างไม่พอใจ แต่ต่อมากู้เสี่ยวหวานก็บอกทุกคนถึงวิธีการหาเงิน หลังจากนั้นทุกคนก็หลับตาข้างหนึ่ง และทุกคนก็ยอมรับไปโดยปริยายว่า ฉินเย่จือเป็นสมาชิกของครอบครัวกู้

ต่อมา เมื่อเห็นว่าฉินเย่จือก็เป็นคนที่ซื่อสัตย์เช่นกัน ในวันธรรมดา นอกจากการขนน้ำและตัดฟืนที่ต้องเดินผ่านหมู่บ้านแล้ว เขาจะไม่ปรากฏตัวในหมู่บ้านเลย พวกเขาจึงรู้สึกโล่งใจ

เมื่อได้ยินว่ากู้เสี่ยวหวานบอกว่าฉินเย่จือเป็นพี่ชายคนโตต่อหน้าผู้อาวุโสในหมู่บ้าน กู้ซินเถาก็ไม่สามารถเก็บใบหน้าได้ และพูดอย่างโกรธเคือง “ท่านลุง พวกท่านช่างสับสนจริง ๆ เพียงแค่เสี่ยวหวานบอกว่าเขาเป็นพี่ชายคนโตก็ได้แล้วอย่างนั้นหรือ? พวกเขาไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเลย ดังนั้นกู้เสี่ยวหวานซ่อนความรู้สึกอะไรอยู่เบื้องหลังการปกป้องคนนอก! ใครจะรู้ว่าพวกเขากำลังมีความไม่เหมาะสมโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องบังหน้า!”

เมื่อหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที ใบหน้าของเขาซีดเผือด และความโกรธก็ผุดขึ้นในใจ

มีคำพูดในใจของเขาอยู่บ้าง แต่ไม่กล้าพูดออกมา กู้ซินเถาตั้งคำถามกับการตัดสินใจของเขาในตอนนั้นอย่างนั้นหรือ?

กู้ซินเถาผู้นี้เป็นคนอย่างไรกันแน่ ทำไมปากของนางถึงได้สกปรกเช่นนี้ เด็กสาวที่มีความคิดสกปรกและไม่เหมาะสมเช่นนี้ แท้จริงแล้วในหัวของนางบรรจุอะไรไว้กันแน่

มันไม่ใช่การตัดสินใจของเขาคนเดียวที่จะให้ฉินเย่จืออยู่ แต่ผู้อาวุโสทุกคนในหมู่บ้านล้วนเห็นด้วย!

กู้ซินเถาชี้นิ้วตำหนิ นางไม่พอใจกับการตัดสินใจของผู้คนในหมู่บ้านหรือ?

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงยังคงกังวล

กู้ซินเถาไม่เห็นใบหน้าที่ไม่มีความสุขของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียงและพูดต่อว่า “กู้เสี่ยวหวานผู้นี้ไม่ได้สนใจท่านเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังมาข่มขู่ท่านอีก ในเวลานั้นพวกท่านควรไล่กู้เสี่ยวหวานออกไป!”

กู้ซินเถาผู้นี้มีใจที่มืดมน หัวหน้าหมู่บ้านเหลียงพูดอย่างโกรธเคือง “จะไล่นางออกไปได้อย่างไร? สาวน้อยซินเถา พวกเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้า หากพวกเขาถูกขับไล่ออกไปและไร้ที่อยู่อาศัย เจ้าจะทนได้หรือ?”

มีความโกรธเกิดขึ้นในใจ อย่ามองที่อายุน้อยของกู้ซินเถาเพราะนางโหดร้ายยิ่งนัก

ทน! จะไม่ทนได้อย่างไร! ไร้บ้าน อยู่ริมถนน ก็ดีแล้วนี่! ในกรณีนี้ พี่ฉินจะไปกับนางแน่นอน!

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ดวงตาของกู้ซินเถาพลันเป็นประกาย นางก้าวไปข้างหน้าและดึงแขนเสื้อของหัวหน้าหมู่บ้านเหลียง “ท่านลุง กู้เสี่ยวหวานรับชายแปลกหน้ามาเป็นการส่วนตัว จะเกิดอะไรขึ้นถ้าสิ่งสกปรกเหล่านั้นแพร่กระจายในอนาคต และส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของหมู่บ้านของเรา? ในเมื่อกู้เสี่ยวหวานไม่ต้องการขับไล่ชายผู้นั้นออกไป เช่นนั้นเราก็ต้องขับไล่กู้เสี่ยวหวานออกไปเช่นกัน และชื่อเสียงของหมู่บ้านเราก็จะไม่ถูกทำลาย!”

…………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

อายุแค่นี้แต่ความคิดชั่วร้ายไม่แพ้พ่อแม่เลยนะเนี่ย

ไหหม่า (海馬)