บทที่ 610 ศูนย์กลางของจักรวาล

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 610 ศูนย์กลางของจักรวาล

บทที่ 610 ศูนย์กลางของจักรวาล

…คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้ใต้จมูกตัวเอง และไม่รู้เลยว่าตนเองจะสายตามืดบอดได้ขนาดนี้ ! ดูท่า มันก็อาจจะถึงเวลาแล้วก็ได้ ที่ตัวเองจะต้องออกไปจากสนามรบชิงคง ! เพราะต้องเข้าใจว่าหลานชาย 2 คนของเขาได้ตายไปหมดสิ้นแล้ว จนไม่มีเหตุอื่นใดอีกที่จะต้องอยู่ที่นี่ต่อ !

ส่วนคนที่จะได้เป็นแม่ทัพเสือขาวคนต่อไปก็ไม่ใช่ใครอื่น เป็นคนที่ฉู่เหินเคยช่วยชีวิตมาจากคุกน้ำครั้งนั้น และที่เขาต้องอยู่ในนั้นก็เพราะพ่ายแพ้ในการชิงตำแหน่ง !

ซึ่งการที่เขาได้นั่งตำแหน่งนี้ ก็ต้องบอกเลยว่าเป็นเพราะฉู่เหินล้วน ๆ ชนิดที่ว่าถ้าไม่ได้ฉู่เหินช่วยเอาไว้ เขาก็คงไม่ได้มาอยู่ในจุดนี้ได้ !!!

และเพื่อตอบแทนบุญคุณ เขาจึงยินดีที่ร่วมติดประกาศที่ว่าด้วย ! ซึ่งมันก็ไม่เคยมีครั้งไหนในอดีตที่มีประกาศล่าตัวแล้วได้รับความร่วมมือจากทุกกลุ่มแบบนี้มาก่อน ! ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยอย่างแน่นอน

จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง ที่เรื่องประกาศนี้ระเบิดขึ้นมา เมื่อมีสามีภรรยาคู่หนึ่งเล่าว่าพวกตนเคยเจอหญิงชราหน้าตาแบบนี้ และแท้จริงแล้วหญิงชรานั่นก็เป็นคนของศูนย์กลางจักรวาล !!!

เมื่อได้ยินดังนั้น คนอื่น ๆ ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ด้วยศูนย์กลางจักรวาลมีแต่คนเก่ง ๆ ทั้งนั้น ! ผิดกลับโลกฝั่งนี้ที่มีดวงดาวพิเศษใหญ่ ๆ อยู่แค่ 2-3 ดวง ได้แก่กลุ่มดาวเหนือและกลุ่มดาวหมีใหญ่ ที่ถึงแม้จะมีขนาดใหญ่ไม่น้อย แต่พวกเขาก็คล้ายเทียบไม่ได้เลยกับดาวในบริเวณรอบ ๆ ของศูนย์กลางจักรวาล !

ซึ่งถ้าลองเทียบกันแล้ว ก็จะพบเลยว่าอาณาจักรเทียนชิงที่ฉู่เหินอยู่นั้นไม่อาจนับเป็นอะไรเลย เมื่อนำไปเปรียบกับดาวเหนือและดวงหมีใหญ่ที่แข็งแกร่งกว่าไม่รู้กี่เท่า แล้วจะนับประสาอะไรกับศูนย์กลางจักรวาลนั่น ! เพราะจากที่ได้ยินมา คนที่สามารถเข้าไปอยู่ในศูนย์กลางจักรวาลได้นั้นจะต้องเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นเทพดาราขึ้นไปเท่านั้น

ส่วนคนธรรมดา ถ้าเข้าไปที่นั่นก็อย่าหวังว่าจะรอดเลย ด้วยคงมีแต่ต้องตายสถานเดียวเท่านั้นถ้าไม่มีคนคุ้มครอง !

และก็เพราะแบบนี้ ตอนที่รู้ว่าเป้าหมายเป็นคนที่ศูนย์กลางจักรวาล ใบหน้าของพวกเขาก็พากันย่ำแย่ไปตาม ๆ กัน ด้วยคนที่สามารถไปตามหาคนจากศูนย์กลางจักรวาลได้ ก็ต้องเป็นขั้นเทพดาราขึ้นไปแล้วเท่านั้น !

ซึ่งคนที่มีฝีมือขนาดนั้นในดวงดาวทั้งหมดก็มีไม่กี่คน จนทำให้ผู้คนมากมายพากันทิ้งความตั้งใจเดิมไป ! แต่ทว่าถึงเรื่องจะเป็นแบบนี้แล้ว หากแต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ได้รับรู้ เนื่องจากตอนนี้เขากำลังอยู่ในอสนีทะเลเพลิง !

หลังจากหวังซานเหนียงได้รู้ข่าว เธอก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ด้วยรู้สึกว่าลูกชายคนนี้ของตัวเองเจอกับก้างชิ้นใหญ่เข้าเสียแล้ว แต่เมื่อคิดอีกที มันก็กลายเป็นว่าศูนย์กลางจักรวาลแล้วยังไง ? ในเมื่อพวกมันกล้าขโมยตัวภรรยาลูกชายตน งั้นก็ต้องเจอกันสักตั้ง !

กับอีกแค่ขั้นเทพดารา ถ้าให้เวลาฝึกสักหน่อย มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะทะลวงผ่าน !!! ต้องเข้าใจว่าในเรื่องพรสวรรค์ที่ติดตัวมานั้น หวังซานเหนียงมีมากกว่าพี่ชายของตัวเองเสียอีก ! เพียงแต่พึ่งมาหายดีได้ไม่นาน จนทำให้พลาดโอกาสฝึกฝนไป !!!

ซึ่งเมื่อคิดถึงเหตุผลต่าง ๆ นานา หวังซานเหนียงก็เลือกที่จะเข้าฌานในทันที ด้วยไม่ว่าอย่างไรเธอจะต้องเลื่อนขั้นให้ได้ !!!

ที่หวังซานเหนียงคิดเช่นนี้ ก็เพราะว่าเธอได้มองว่าฉู่เหินเป็นลูกชายของตัวเองไปแล้ว ! ซึ่งเหตุผลที่ว่ามันก็สมเหตุสมผล ผิดกับที่ทำให้คนงงเลยก็คือหลิงซินยี่ ที่เมื่อหญิงสาวได้รับรู้ก็กัดฟันแน่นก่อนเข้าฌานตามไปติด ๆ เช่นกัน !

พูดไปแล้วก็แปลก หญิงสาวควรจะโกรธสิถึงจะถูก ! แต่ทำไมถึงกลายเป็นชื่นชม และมองว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์หนักแน่นเสียอย่างนั้น ! …นี่คงเป็นสิ่งที่เรียกกันว่าความรักบังตากระมั่ง ?

ฮวามู่ตันก็ได้แต่จำใจปล่อยเลยตามเลย มองทั้งสองเข้าฌานไป จนทำให้ไม่มีใครขึ้นมาเป็นผู้ดูแลกลุ่มกิเลนเลยในตอนนี้ ! ซึ่งอันที่จริงแล้วนั้น กลุ่มกิเลนก็ยังไม่มีอะไรให้จัดการมากเท่าไร คงต้องรอให้มีเมืองอยู่ก่อนจึงจะมีงาน !!!

สำหรับเรื่องปัจจัย 4 กลุ่มหงส์เพลิงและมังกรเขียวก็ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือเต็มที่ ! แต่ถึงจะมีคนมาช่วย ทว่ามันก็ยังวุ่นวายอยู่ดี เนื่องจากกลุ่มกิเลนมีคนกว่า 1 ล้านคนเข้าไปแล้ว ! ซึ่งก็ต้องบอกว่าโชคดีนัก ที่ฮวามู่ตันถือได้ว่าเป็นนักรบหญิงที่น่านับถือคนหนึ่ง จนทำให้ถึงแม้ฉู่เหินจะเข้าไปในมิติ กลุ่มกิเลนก็ยังคงดูเรียบร้อยดี !

ด้านฉู่เหิน หลังจากที่เข้ามาภายในเขาก็พักก่อนครู่หนึ่งแล้วค่อยเดินทางต่อ ! ซึ่งอุณหภูมิรอบ ๆ นั้น ก็บอกเลยว่าถ้าเอาที่วัดมาใช้ก็คงแสดงผลทะลุปรอทไปแล้ว !!!

ถ้าชายหนุ่มไม่ใช้ไฟเย็นมาช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายไว้ ก็เกรงว่าทันทีที่มาถึงคงได้แห้งตายไปแล้ว ! ถ้าเห็นข้อความนี้จากที่อื่นโปรดกลับมาเยี่ยมเราบ้างนะ ขอบคุนจ้า

อย่างไรก็ตาม เพียงความร้อนอย่างเดียวนั้นไม่นับเป็นอะไรได้ ด้วยหลังจากที่เดินมาได้สักระยะ ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยสายฟ้าฟาดลงมาที่ตัวของเขาไม่หยุด จนทำให้ร่างกายรู้สึกเจ็บปวดราวกับได้รับการฝึกฝน ซึ่งยิ่งเดินเข้าไปเท่าไร สายฟ้าก็ยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้นจนเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว !!!!

และเมื่อฉู่เหินไม่อาจต้านทานสายฟ้าได้ไหวอีกต่อไปแล้ว เขาก็รีบปล่อยพลังจิตสังหารออกมา ทำให้สายฟ้าพวกนั้นพากันไหลบ่าเข้ามาในร่าง ! จนบาดแผลที่เกิดขึ้นได้รับการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว

ฉากนี้ทำให้ฉู่เหินไม่เข้าใจเล็กน้อย ถ้าสายฟ้าพวกนี้มีคุณสมบัติในการรักษาด้วยจริง งั้นมันจะเยี่ยมสักแค่ไหน ! ต้องเข้าใจว่าพวกมันไม่เพียงแต่จะใช้โจมตีได้ แต่ยังสามารถรักษาได้ด้วยเชียวนะ !!

เพียงแค่คิดมาถึงตรงนี้ฉู่เหินก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว เพราะหลังจากที่ได้สายฟ้าพวกนี้มา ต่อไปนี้ไม่ว่าจะเป็นสายฟ้าชนิดไหนก็ทำอันตรายเขาไม่ได้อีก !!!!

แต่พูดไปแล้วก็แปลก ที่อุณหภูมิของที่นี่สูงมาก !!! ผิดกับสภาพแวดล้อมที่ยันจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่เห็นเปลวไฟเลยสักนิดเดียว หรือเป็นเพราะเปลวไฟพวกนี้หลบซ่อนตัวอยู่ จนทำให้มองไม่เห็นกันนะ ?

คงเหมือนกับตอนที่เก็บหินไฟเย็นมาได้ตอนแรกละมั้ง ที่แม้ว่ามันจะอยู่ในน้ำ แต่เขาก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงพลังธาตุไฟ ! …อย่างไรก็ตาม มาตอนนี้เขากลับไม่มีความรู้สึกเหมือนตอนนั้นเลย !! อีกทั้งชายหนุ่มก็ยังรู้สึกด้วยว่า ยิ่งตัวเองหาเปลวไฟมากเท่าไร มันก็ยิ่งรู้สึกว่าอุณหภูมิสูงมากขึ้นเท่านั้น !

แม้ว่าตอนนี้ฉู่เหินจะมีไฟเย็นปกคลุมร่างกายอยู่ก็ตาม แต่เขากลับรู้สึกอ่อนเพลียมาก ซึ่งมันก็เป็นความรู้สึกที่เหมือนยิ่งเหงื่อออกมามากเท่าไรก็ยิ่งรู้สึกเพลียมากขึ้นเท่านั้น แต่ไม่ว่ายังไงชายหนุ่มก็จะไม่ยอม จะต้องหาเปลวไฟที่อยู่ในนี้ให้เจอให้ได้ !

เมื่อฉู่เหินสังเกตไปรอบ ๆ ระหว่างเดิน เขาก็สังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง และเมื่อลองใช้พลังจิตสำรวจ เขาก็พบว่าอุณหภูมิรอบ ๆ ปกติดี ! ผิดกับรอบ ๆ ตัวตอนนี้ที่ร้อนเหมือนอยู่ในเตาอบ !!!

เท่านี้ก็รู้แล้วว่าเปลวไฟพวกนี้มันพุ่งเป้ามาที่ตัวเอง เช่นนี้ก็แปลว่าเปลวไฟนั่นน่าจะอยู่ใกล้ ๆ เขาเนี่ยแหละ ไม่งั้นคงไม่สามารถทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย ๆ เช่นนี้ได้หรอก !

เมื่อเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มก็ไม่รอช้า รีบใช้วิชาเนตรของตัวเองที่ตอนนี้พัฒนาขึ้นจากเดิมมาก ตรวจสอบรอบ ๆ อย่างละเอียดในทันที !