บทที่ 381 ลูกคนใช้

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

หลีซืออวิ๋นไม่ได้ไปช็อปปิ้งกับเฟิงหย่า แต่หาข้ออ้างว่ามีธุระที่บริษัท แล้วรีบออกไป

เธอไปคอนโดส่วนตัวที่อ่าวมั่นเย่ว์ นี่เป็นจุดนัดพบของเธอกับเฉินเจี๋ย

หลังจากที่เฉินฮวนฮวน “เสียชีวิต” เธอคิดว่าจะตัดความสัมพันธ์กับเฉินเจี๋ย เพียงแต่เฉินเจี๋ยตามจอแจเธอตลอด ด้านเฟิงหานชวนก็ไม่สนใจเธอ ดังนั้นเธอกับเฉินเจี๋ยก็อยู่ในสถานะเด็ดบัวสายใยไม่ขาด

แต่หลายวันมานี้ เธอคิดว่าเฟิงหานชวนจะคบกับเธอ ดังนั้นจึงตัดขาดกับเฉินเจี๋ย แต่เธอคาดไม่ถึง ว่าเธอจะเป็นฝ่ายที่มาหาเฉินเจี๋ยเอง

ถึงแม้ว่าเฉินเจี๋ยจะตัวเตี้ยขี้เหร่ แต่พูดหยอดคำหวานเก่ง ปกติก็สามารถปลอบเธอให้มีความสุขได้ ที่สำคัญคือ เฉินเจี๋ยมีฝีมือที่ทรงพลังมากนั่นก็คือ…วิธีสะกดจิต

เป็นเพราะการช่วยเหลือของเฉินเจี๋ย ตอนนั้นเธอถึงเอาชนะเฉินฮวนฮวนได้

แต่ตอนนี้กลับแย่กว่าเดิม ไม่มีเฉินฮวนฮวนแล้ว แต่กลับมีเป๋าฮวนปรากฏตัวขึ้น แถมยังเป็นคนเดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนสถานะ

เธอคิดไม่ถึงว่าเฉินฮวนฮวนคือทายาทของตระกูลเป๋า!

หลีซืออวิ๋นมาอย่างรีบร้อน เมื่อเธอมาถึงอ่าวมั่นเย่ว์ เฉินเจี๋ยยังรถติดอยู่บนถนน

เธอเปิดไวน์แดงขวดหนึ่ง ดื่มแก้วแล้วแก้วเล่า ในที่สุดเฉินเจี๋ยก็มาถึง เฉินเจี๋ยมีรหัส จึงเข้ามาในคอนโดได้ทันที

“อวิ๋นเออร์!” เฉินเจี๋ยไม่ได้เจอหลีซืออวิ๋นหลายวันแล้ว จึงพุ่งตัวเข้าไปกอดเธอไว้

เฉินเจี๋ยเตี้ยกว่าหลีซืออวิ๋นหลายเซนติเมตร บวกกับหลีซืออวิ๋นสวมรองเท้าส้นสูง หน้าของเฉินเจี๋ยสามารถถึงแค่ไหล่ของหลีซืออวิ๋นเท่านั้น เขาแทบรอไม่ไหวที่จะซุกหน้าลงบนกระดูกไหปลาร้าของหญิงสาว

“ตอนนี้ไม่ใช่เวลา!” หลีซืออวิ๋นผลักเขาออก เดินไปที่หน้าต่างด้วยความหงุดหงิด เธอขมวดคิ้วแน่น พูดขึ้นอย่างกระหืดกระหอบ “ตอนนี้ฉันควรจะทำยังไงดี?”

“อวิ๋นเออร์ เธอบอกว่าเฉินฮวนฮวนคนนั้นกลับมาแล้ว ตกลงว่ามันเรื่องอะไรกัน เธอบอกฉันหน่อย” อันที่จริงเฉินเจี๋ยก็รู้สึกกลัดกลุ้ม ในเมื่อตอนนั้นเฉินฮวนฮวนถูกไฟเผาแล้วจริง ๆ

หลีซืออวิ๋นหมุนตัวมา หน้าดำหน้าเขียวถึงที่สุด เธอกัดฟันพูดขึ้น “ผ่านการสนทนาระหว่างนายท่านกับเฉินฮวนฮวนที่โต๊ะอาหาร ฉันเดาได้คร่าว ๆ แล้ว”

“เฉินฮวนฮวนคือทายาทของตระกูลเป๋า หลังจากที่ตระกูลเป๋าตามหาตัวเธอเจอ เธอจึงใช้อำนาจของตระกูลเป๋าหนีไปได้ ศพหญิงที่ถูกเผานั่นก็ไม่ใช่เธอ”

“ตระกูลเป๋า?” เฉินเจี๋ยได้ยินคำนี้ สีหน้าครุ่นคิดขึ้น

“ตระกูลเป๋า ตระกูลขุนนาง ในช่วงปลายราชวงศ์ชิงทั้งครอบครัวไปพัฒนาอยู่ที่ประเทศเฉิน ภายหลังยิ่งอยู่ยิ่งเงียบ ตอนนี้สถานะเป็นยังไง ยังไม่แน่ชัด”

เธอเกลียด!

เธอเกลียดที่เฉินฮวนฮวนเปลี่ยนเป็นเป๋าฮวน ปรากฏตัวต่อหน้าเฟิงหานชวนอีกครั้ง!

เธอเกลียดมากจริง ๆ!

“ฉันก็เคยได้ยินตระกูลเป๋า ฉันเคยเรียนที่ประเทศเฉินอยู่ช่วงหนึ่ง” เฉินเจี๋ยพยักหน้า เห็นด้วยกับคำพูดของหลีซืออวิ๋น

ได้ยินเฉินเจี๋ยพูดแบบนี้ หลีซืออวิ๋นจับแขนของเขาในทันที แล้วรีบถามขึ้น “นายได้ยินอะไรมาอีก?”

“มหาลัยของพวกเรามีคนของตระกูลเป๋าคนหนึ่ง ตอนนั้นฉันไม่ได้ใส่ใจ แค่ได้ยินนักเรียนหญิงในห้องพูดว่าตระกูลของเขาเก่งมาก มีผู้หญิงเยอะแยะตามจีบเขา” เฉินเจี๋ยตอบตามความจริง

หลีซืออวิ๋นได้ยิน ก็เหมือนกับหาเบาะแสได้ จึงรีบถามขึ้นอีก “นายกับนักเรียนหญิงพวกนั้นยังติดต่อกันอยู่ไหม?”

“มีอยู่สองคนแต่งงานอยู่ที่เป่ยเฉิง ช่วงนี้มีอยู่คนหนึ่งที่ติดต่ออยู่ สามีของเธอเลี้ยงดูเมียน้อยอยู่ที่นอกบ้าน ให้ฉันช่วยสืบข้อมูล” เฉินเจี๋ยกลอกตา ยื่นมือออกไปลูบหน้านุ่มลื่นของหลีซืออวิ๋น แล้วถามขึ้น “อวิ๋นเออร์ ความหมายของเธอก็คือให้ฉันไปถามพวกเธอเหรอ?”

“ใช่ นายโทรไปให้ฉันตอนนี้เดี๋ยวนี้!” หลีซืออวิ๋นปัดมือเขาออก ถลึงตาโตแล้วพูดอย่างจริงจัง “ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์จะเล่นกับนาย ฉันจะต้องรู้เกี่ยวกับตระกูลเป๋าให้ชัดเจน!”

“ได้ได้ได้ เธออย่าโมโห ฉันจะโทรให้เธอตอนนี้เลย” เฉินเจี๋ยตามใจหลีซืออวิ๋นมาโดยตลอด เพราะเธอคนนี้เท่านั้น เขาถึงสามารถลิ้มลองรสหวานได้

พูดจบ เฉินเจี๋ยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา แล้วโทรหาเพื่อนนักเรียนหญิงของเขาทันที “ฮัลโหล ฝังซู ฉันเองเฉินเจี๋ย”

“ฉันรู้ว่าเป็นนาย เฉินเจี๋ย นายหาเบาะแสอะไรได้อีกเหรอ? ตอนนี้สามีของฉันอยู่กับเมียน้อยคนนั้นเหรอ?” เสียงของฝังซูค่อนข้างดัดจริต เมื่อได้ฟังก็รู้ว่าเป็นพวกชอบเข้าสังคม ที่เทิดทูนเงินทอง

หลีซืออวิ๋นเจอคนแบบนี้มาเยอะแล้ว ผู้หญิงแบบนี้รอบตัวเธอเยอะแยะที่ชอบประจบสอพลอเธอ คนมีชื่อเสียงแบบเธอ รู้สึกรังเกียจพวกเธอจนเข้ากระดูก เธอเผยสีหน้ารังเกียจออกมา

“ฝังซู เรื่องของสามีเธอกำลังสืบอยู่ เธอวางใจได้ ฉันจะหาหลักฐานมาให้เร็วที่สุด วันนี้ที่ฉันโทรหาเธอ ไม่ใช่เพราะเรื่องของเธอ แต่เป็นเรื่องของฉัน ฉันอยากจะถามเรื่องคนคนหนึ่งจากเธอ”

เฉินเจี๋ยเอ่ยปากตรง ๆ “ตอนที่เรียนมหาลัยที่ประเทศเฉิน เธอเคยจีบผู้ชายสกุลเป๋าคนหนึ่ง เคยพูดว่าเป็นคนของตระกูลเป๋า เธอรู้ภูมิหลังอะไรเกี่ยวกับครอบครัวของผู้ชายคนนั้นไหม?

“เป๋าอวี้? ทำไมจู่ ๆ นายถามถึงเขา? ฉันเกือบจะลืมคนคนนี้ไปแล้ว!” ฝังซูพูดถึงชื่อนี้ แถมยังหัวเราะเยาะเย้ย

หลีซืออวิ๋นได้ยิน ก็เห็นได้ชัดว่าฝังซูดูเหมือนจะดูถูกเป๋าอวี้ เธอขมวดคิ้ว แล้วส่งสายตาให้เฉินเจี๋ย บอกเขาว่าให้ถามต่อให้ชัดเจน

“เขาทำไมเหรอ? ไม่ดีเหรอ? ที่บ้านล้มละลายเหรอ?” เฉินเจี๋ยจี้ถาม

“ไม่ใช่หรอก! ตระกูลของเขาไม่ได้ล้มละลาย ก็แค่ไฮโซเล็ก ๆ ไม่มีอะไรดี ตอนนั้นยังทำเป็นกร่าง อ้างว่าเป็นตระกูลขุนนางราชวงศ์ชิง ตอนนั้นพวกเราไม่รู้เรื่องอะไร ถูกเขาโกหกกันหมด กินฟรีดื่มฟรีแถมยังนอนฟรี มีผู้หญิงหลายคนที่ถูกหลอก!”

ฝังซูเหมือนว่าไม่ใส่ใจกับเรื่องนี้เลยสักนิด พูดออกมาเยอะแยะไปหมด มีแต่เรื่องที่เป๋าอวี้หลอกฟันผู้หญิงยังไง พูดถึงชื่อนักเรียนหญิงเยอะแยะ”

“ไม่จริงมั้ง! ชายคนนี้ขี้งกขนาดนี้เหรอ? ฉันจำได้ว่ามีตระกูลเป๋าที่เป็นตระกูลขุนนางอยู่จริง แล้วย้ายไปพัฒนาอยู่ที่ประเทศเฉิน เป๋าอวี้คนนี้ใช้นามสกุลเดียวกัน เพื่อตั้งใจพูดอวด แต่ความจริงแล้วไม่ใช่คนของตระกูลเป๋าหรือเปล่า?” เฉินเจี๋ยคิดว่าบางทีอาจจะเป็นแบบนี้ หลีซืออวิ๋นก็คิดเช่นเดียวกัน

“เป็นคนตระกูลเป๋าไหม แน่นอนว่าเป็นคนตระกูลเป๋า เพียงแต่ตอนหลังมีเพื่อนฉันพัฒนาความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเป๋าอวี้ ถึงได้รู้ว่าเป๋าฮวนก็แค่ลูกนอกคอก นายรู้ไหม? ก็คือพวกลูกคนใช้ แบ่งมรดกได้ไม่เท่าไหร่! ได้เพียงแค่เศษของตระกูลเป๋า ถือว่าเป็นลูกคนรวยเล็ก ๆ” คำพูดของฝังซูเต็มไปด้วยความดูถูกเป๋าอวี้

เฉินเจี๋ยพยักหน้าทันที “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้ ตระกูลผู้ดีก็ค่อนข้างวุ่นวาย แถมยังแบ่งเยอะขนาดนี้…”

“แน่นอนสิ ไม่อย่างนั้นนายคิดว่าลำดับชั้นของสังคมเก่ามาจากไหน? ไม่ได้เกิดมาจากของแท้ แม่งก็เป็นลูกเมียน้อย ต่อไปไม่มีสิทธิ์รับมรดก!”

ฝังซูเป็นคนนิสัยตรง ๆ เธอพูดฉอดต่อ “ประเทศของพวกเราตอนนี้ก็พอ ๆ กัน? สามีของฉันก็เป็นลูกเมียน้อย ได้รับส่วนแบ่งแค่บริษัทเล็ก ๆ โชคดีที่ธุรกิจของตระกูลใหญ่โต ใช้ชื่อในนามของบริษัท ผลประโยชน์ของบริษัทเล็กไม่เลว ไม่อย่างงั้นตอนนี้ฉันคงกินดินแล้ว!”

“แต่ก็โชคดีที่สามีของฉันคือลูกเมียน้อย ไม่อย่างงั้นฉันคงเหยียดเท้าเข้าตระกูลของเขาไม่ได้ ทายาทตระกูลที่แท้จริงต้องหาคนที่คู่ควรเหมาะสมอยู่แล้ว”