ตอนที่ 941 ตบหน้าครั้งที่สิบ (5) / ตอนที่ 942 ไทฮองไทเฮา (1)
ตอนที่ 941 ตบหน้าครั้งที่สิบ (5)
ดวงเนตรของฮ่องเต้เบิกกว้าง
“อะไร…เจ้าทำอะไร!” ฮ่องเต้ตะโกนออกมาอย่างตื่นตระหนก
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นแล้วถามว่า “อะไรอย่างนั้นหรือ ฝ่าบาทจำพระธำมรงค์วงนี้ไม่ได้หรือพ่ะย่ะค่ะ”
“พระธำมรงค์อะไร! เราไม่รู้อะไรทั้งนั้น!” ฮ่องเต้รู้สึกหวาดกลัวมาก พระองค์ย้ำกับตัวเองว่าให้พระทัยเย็นๆ เข้าไว้
ไม่มีทางที่จวินเสียจะรู้ความลับของพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนนี้ได้หรอก!
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!
“ฮ่องเต้พระองค์แรกของสายสกุลของพระองค์ได้ออกพระราชโองการไว้ว่า เมื่อไรก็ตามที่ผู้ครอบครองพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนปรากฏตัวขึ้นในรัฐเหยียน ไม่ว่าลูกหลานรุ่นไหนก็ตามที่ครองบัลลังก์อยู่ในขณะนั้น จะต้องสละราชบัลลังก์ในทันที และมอบบัลลังก์ให้แก่ผู้ครองพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน ฝ่าบาทจำไม่ได้หรือ” คำพูดของจวินอู๋เสียได้ทำลายเศษเสี้ยวความหวังสุดท้ายของฮ่องเต้จนหมดสิ้น
พระองค์ทรุดตัวลงประทับนั่งบนบัลลังก์อย่างพ่ายแพ้หมดรูป พระพักตร์ปราศจากสีเลือด
“เจ้ารู้ได้อย่างไร…ราชครูอย่างนั้นหรือ ราชครูเป็นคนบอกเจ้าใช่หรือไม่!” ฮ่องเต้จ้องมองจวินอู๋เสียด้วยดวงเนตรที่แดงก่ำ
แต่ตอนนั้นเองเหลยเชินก็พูดขึ้นว่า “ลูกเป็นคนบอกเอง”
ฮ่องเต้หันไปมองเหลยเชิน พระพักตร์ของพระองค์บิดเบี้ยวเหลือจะกล่าว
“เป็นเจ้า…”
เหลยเชินมองสบตาฮ่องเต้ที่จ้องเขาอย่างจะกินเลือดกินเนื้อตรงๆ โดยไม่เกรงกลัว
แล้วฮ่องเต้ก็ร้องตะโกนขึ้นว่า “ในโลกนี้มีคนที่จำพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น! จวินเสีย! เจ้าอย่าคิดว่าจะชิงรัฐของเราไปครอบครองได้ด้วยแหวนแค่วงเดียว! รัฐเหยียนเป็นของเรา! เป็นของฮ่องเต้! เราคือฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน! ต่อให้เจ้ามีแหวนแล้วอย่างไร! ถ้าเจ้าฆ่าเรา คนทั้งรัฐเหยียนก็จะตามฆ่าเจ้าทุกวิถีทาง! ไม่มีใครรู้เรื่องพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนหรอก! เจ้าจะไม่มีวันได้ครองบัลลังก์รัฐเหยียน! ไม่มีวัน! เจ้าไม่มีวันทำได้!”
จวินอู๋เสียพ่นลมออกทางจมูกอย่างดูถูกแล้วพูดว่า “ชิ! นี่คิดว่าข้าสนใจมันหรืออย่างไร”
ฮ่องเต้ตะลึงไปอีกครั้ง
“ถ้าไม่ใช่เพราะพระองค์รนหาที่ตายมาข่มเหงข้าก่อน ไอ้เก้าอี้ผุๆ ของพระองค์ตัวนี้ข้าไม่เห็นสนใจเลยสักนิด แต่พระองค์มาเล่นงานข้าเอง เพื่อตอบแทนของขวัญที่พระองค์ให้ข้ามา ข้าก็ย่อมอยากช่วยเหลือให้พระองค์ตระหนักถึงความผิดที่พระองค์ได้ใส่ร้ายข้าเอาไว้” ดวงตาของจวินอู๋เสียพลันส่องประกายเย็นยะเยือกขึ้นในทันที
บัลลังก์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนแล้วอย่างไร ในสายตาของนาง มันเทียบกับต้นหญ้าในสวนของจวนหลินอ๋องไม่ได้ด้วยซ้ำ
แต่ในเมื่อฮ่องเต้พยายามจะฆ่านาง นางจะยอมให้พระองค์สมปรารถนาได้อย่างไร
“เป็นไปไม่ได้…เจ้าจะไม่เป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน…เป็นไปไม่ได้…เป็นไปไม่ได้…” ฮ่องเต้สติหลุดจนได้แต่ทวนคำพูดของตัวเองซ้ำๆ ไปมา
ทหารถูกใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะขวางเอาไว้ด้านนอกท้องพระโรงและไม่สามารถเข้ามาช่วยพระองค์ได้ พระโอรสในสายโลหิตเพียงคนเดียวของพระองค์ที่อยู่ในท้องพระโรง ก็ไม่อยากจะช่วยพระองค์เพราะพระองค์ได้เมินเฉยและไม่สนใจไยดีเขาเลยตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา
ตอนนี้ผู้ครองรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้ากำลังรู้สึกหวาดกลัวและหมดสิ้นหนทางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
“อย่าลืมว่าพระราชโองการฉบับนั้นยังอยู่ในมือของไทฮองไทเฮา” จวินอู๋เสียยังอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยย้ำเตือนความทรงจำให้ฮ่องเต้ด้วย
ไทฮองไทเฮาจะทำตามพระประสงค์ของฮ่องเต้พระองค์แรกของสายโลหิตนี้อย่างแน่นอน และต่อให้ฮ่องเต้จะเป็นลูกหลานของพระนางเอง พระนางก็จะไม่เปลี่ยนพระทัย
“แต่วางใจเถอะ ข้าจะไม่เป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนหรอก” จวินอู๋เสียพูดขึ้น
ดวงเนตรของฮ่องเต้ส่องประกายความหวังขึ้นมาทันที!
แต่ดวงตาของจวินอู๋เสียยังคงเย็นเยียบเช่นเดิม
“หลังจากที่พระองค์สละราชบัลลังก์แล้ว บัลลังก์จะตกเป็นของข้า ข้าจะออกพระราชโองการแต่งตั้งเหลยเชินเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนองค์ต่อไปทันที!”
ดวงเนตรของฮ่องเต้เบิกกว้างขึ้นอีกครั้ง แล้วพระองค์ก็เหลือบไปเห็นเหลยเชินกำลังเบิกตาโตแบบเดียวกับที่พระองค์กำลังทำไม่ผิดเพี้ยน
จวินอู๋เสียไม่สนใจบัลลังก์จริงๆ และถึงขั้นจะมอบบัลลังก์ให้เจ้าเด็กที่มีชาติกำเนิดต่ำต้อยซึ่งเป็นสายเลือดของนางกำนัลกับทหารองครักษ์ชั้นต่ำ! ฮ่องเต้รู้สึกอยากจะบ้าตายเสียให้ได้!
ตอนที่ 942 ไทฮองไทเฮา (1)
ถ้าจวินอู๋เสียทำเช่นนั้นจริงๆ อย่างนั้นที่ฮ่องเต้ทำมาทั้งหมดนั้นทำไปเพื่ออะไรกัน
ถึงจวินอู๋เสียจะรู้ความลับของพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนแล้ว อีกฝ่ายก็ยังไม่สนใจบัลลังก์ของรัฐเหยียนเลยสักนิด ฮ่องเต้หันไปทอดพระเนตรจวินอู๋เสียอย่างหวาดกลัวและอดที่จะคิดไม่ได้ว่า ถ้าพระองค์ไม่คิดกำจัดจวินอู๋เสียตั้งแต่แรก ถ้าพระองค์ทำกับจวินอู๋เสียดีๆ อย่างที่พระองค์ทำกับผู้เยาว์คนอื่นๆ ก็หมายความว่าเรื่องพวกนี้จะไม่เกิดขึ้นอย่างนั้นใช่หรือไม่
ฮ่องเต้ประทับนั่งพระวรกายสั่นอยู่บนบัลลังก์ จู่ๆ พระองค์ก็รู้สึกหนาวเยือกขึ้นมา ความหนาวเย็นแล่นไปทั่วพระวรกายทำให้พระธำมรงค์ที่นิ้วของพระองค์พลันเย็นเฉียบ
“เราเป็นพระราชนัดดาของไทฮองไทเฮา…เสด็จย่าจะไม่…เสด็จย่าจะไม่ช่วยเจ้าหรอก…” จนถึงวินาทีสุดท้าย ฮ่องเต้ก็ยังดิ้นรนไม่เลิก
“โอ้ อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียยิ้มมุมปาก
ทันใดนั้น คนสามคนก็ปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังท้องพระโรง
ราชครูที่อยู่กับชวีหลิงเย่ว์ตัวจริง และหญิงชราที่มีเกศาขาวโพลนทั้งศีรษะพากันเดินเข้ามาในท้องพระโรงช้าๆ
“ไทฮองไทเฮา!” เหลยชิวที่ยืนมึนงงอยู่ในท้องพระโรง อ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นไทฮองไทเฮา
ฮ่องเต้ร้องตะโกนออกมาทันที “เสด็จย่า! ช่วยหลานด้วย! เจ้าโจรชั่วพวกนี้จะเอาชีวิตหลาน!”
ไทฮองไทเฮาแห่งรัฐเหยียนมีพระชนมพรรษาเกือบหนึ่งร้อยพรรษาแล้ว เวลาที่ผ่านมานานได้ทิ้งริ้วรอยไว้ที่ดวงหน้าของพระนาง แต่ท่วงท่าการเดินและการยืนของพระนาง ยังคงสงบเยือกเย็นและเปี่ยมไปด้วยอำนาจความสูงศักดิ์
ตั้งแต่ฮ่องเต้พระองค์แรกของสายโลหิตนี้สิ้นพระชนม์ไป ไทฮองไทเฮาก็ได้ช่วยให้ฮ่องเต้พระองค์ก่อนขึ้นครองราชย์ หลังจากฮ่องเต้พระองค์ก่อนส่งต่อบัลลังก์ให้พระราชนัดดาของพระนาง พระนางก็เก็บตัวอยู่เงียบๆ ในวังหลวง ไม่เคยเข้ามายุ่งเกี่ยวกับราชการงานเมืองใดๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ จะเรื่องในราชสำนักหรือเรื่องในวังหลัง จนขุนนางหลายคนเกือบจะลืมไปแล้วว่าไทฮองไทเฮาทรงยังมีพระชนม์ชีพอยู่
มีเพียงฮ่องเต้พระองค์เดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าคนที่มียอดฝีมือที่แข็งแกร่งมากที่สุดในรัฐเหยียนก็คือไทฮองไทเฮา!
แม้ว่าพระนางจะไม่เคยถามไถ่เรื่องของราชสำนัก แต่ก็ไม่มีเรื่องใดที่พระนางไม่รู้
“เสด็จย่า! เสด็จย่าช่วยหลานด้วย!” ฮ่องเต้แทบจะตะเกียกตะกายเข้าไปเกาะแทบเท้าของไทฮองไทเฮา ไม่เหลือท่าทีของผู้ครองรัฐเลยสักนิด แววตาของพระองค์เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
ไทฮองไทเฮายืนอย่างสง่างามอยู่ในท้องพระโรง ดวงเนตรสงบนิ่งและลึกล้ำมีแววฉลาดเฉลียวของผู้ที่เห็นโลกมามาก พระนางก้มพระพักตร์ทอดพระเนตรมองฮ่องเต้ที่กันแสงเหมือนเด็กๆ อยู่แทบเท้าพระนาง แล้วก็ถอนพระอัสสาสะออกมาเฮือกใหญ่
“ฝ่าบาทยังจำพระราชโองการของฮ่องเต้พระองค์แรกได้อยู่หรือไม่เพคะ สมาชิกของราชสกุลเหลยเรายึดมั่นในวาจาเสมอ ฝ่าบาทยังจำตอนที่ฮ่องเต้พระองค์แรกขึ้นครองบัลลังก์ได้หรือไม่ ตอนที่เสด็จพ่อของฝ่าบาทส่งต่อบัลลังก์นี้ให้กับพระองค์ เขาก็ย้ำเตือนฝ่าบาทอยู่หลายครั้งแล้ว แล้วทำไมตอนนี้ฝ่าบาทถึงยังยึดติดกับอำนาจขนาดนี้เล่าเพคะ”
ไทฮองไทเฮาทอดพระเนตรมองฮ่องเต้ด้วยแววตาที่ไม่รู้ว่าจะช่วยเหลือพระองค์อย่างไร
“เสด็จย่า…” ฮ่องเต้เงยพระพักตร์ขึ้นอย่างตกพระทัย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าไทฮองไทเฮาจะตรัสเช่นนี้ออกมา
ความหวังสุดท้ายถูกทำลายลงอีกครั้ง จากพระเสาวนีย์ของไทฮองไทเฮาได้ยอมรับแล้วว่าจวินอู๋เสียมีสิทธิ์ที่จะเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน ด้วยพระราชโองการที่ฮ่องเต้พระองค์แรกร่างขึ้นมาซึ่งอยู่ในมือของไทฮองไทเฮา ทำให้แค่คำพูดพวกนั้น เพียงพอแล้วที่จะบังคับให้ฮ่องเต้ต้องสละราชบัลลังก์!
ไทฮองไทเฮาหันไปทอดพระเนตรมองจวินอู๋เสีย นี่เป็นครั้งแรกที่พระนางพบกับ ‘เด็กหนุ่ม’ ที่ครอบครองพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน ตอนแรกที่พระนางได้ยินเวินอวี่บอกพระนางว่าผู้ครอบครองพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว พระนางรู้สึกประหลาดใจและยินดีมาก พระนางไม่คิดเลยว่าพระราชนัดดาของพระนางจะขัดขืนราชโองการของฮ่องเต้พระองค์แรก และพยายามสังหารผู้ครอบครองพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน!