บทที่ 510 กลัวตัวเองไม่ได้รับผลประโยชน์

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

วันนี้เจียงหยุนเอ๋อถูกลี่จุนซินส่งไปดูงานที่บริษัทสาขาในเขตหนึ่งของเมืองจิ่งเฉิง

หลังจากที่เจียงหยุนเอ๋อสำรวจดูหนึ่งรอบ ก็พบว่าสถานการณ์ของบริษัทสาขาแห่งนี้ยังคงไม่มีปัญหาใด ๆ เมื่อสำรวจตรวจสอบดูแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็วางใจขึ้นเยอะ

ถึงแม้สถานการณ์ของบริษัทใหญ่ค่อนข้างแย่ แต่ยังดีที่ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทสาขาค่อนข้างเชื่อถือได้ ดังนั้นจึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรนัก

ระหว่างทางกลับไป เจียงหยุนเอ๋อนึกอยากดื่มชานมที่ร้านชานมตรงมุมถนนใจกลางเมืองขึ้นมา

อยากทานอะไร เจียงหยุนเอ๋อก็พยายามสนองความต้องการของตัวเองให้ได้

เมื่อคิดได้อย่างนี้ เจียงหยุนเอ๋อจึงให้คนขับรถขับไปยังใจกลางเมือง

เจียงหยุนเอ๋อสั่งนมชาเขียวราดวิปปิ้งครีมที่ตัวเองชอบมากที่สุดมาหนึ่งแก้ว ช่วงนี้งานยุ่งจนเจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสุขแบบนี้เลย

เมื่อได้ลิ้มรสเค็ม ๆ หวาน ๆ ของวิปปิ้งครีมผสมชาเขียวที่หอมและกลมกล่อม เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

ขณะที่กำลังจะกลับขึ้นรถ เจียงหยุนเอ๋อก็เหลือบไปเห็นคนคนหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน

มองแผ่นหลังคนคนนั้นแล้วรู้สึกคุ้น ๆ เจียงหยุนเอ๋อจึงมองไปรอบ ๆ ขณะที่คนคนนั้นหันตัวมาครึ่งหนึ่งเจียงหยุนเอ๋อก็เห็นว่าเป็นลี่หุย

“ลี่หุย?” ในหัวเจียงหยุนเอ๋อเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม

ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?

ต่อให้ออกมาซื้อของ ก็ไม่น่าจะมาไกลขนาดนี้นี่นา

เจียงหยุนเอ๋ออยากรู้ จึงปิดประตูรถ : “เหล่าเฉิน รอฉันอยู่ที่นี่สักครู่นะ ฉันจะไปดูฝั่งตรงข้ามสักหน่อย”

“คุณนายน้อย ต้องระวังตัวด้วยนะครับ” เมื่อได้ยินเจียงหยุนเอ๋อพูดอย่างนั้น เหล่าเฉินก็รู้สึกเป็นห่วงขึ้นมา “ให้ผมไปเป็นเพื่อนไหมครับ?”

ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เจียงหยุนเอ๋อไปไหนทำอะไรคนเดียว ก็มักจะพบเจอกับปัญหาขึ้นมา

“ไม่ต้องหรอกเหล่าเฉิน เดี๋ยวฉันจะรีบกลับ” เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางเดินไปข้ามถนน แล้วตรงไปยังจุดที่ลี่หุยอยู่

เหล่าเฉินมักจะเป็นห่วงเจียงหยุนเอ๋อกลัวเกิดเรื่องขึ้น อีกอย่างตอนนี้เจียงหยุนเอ๋อกำลังท้องอยู่ด้วย เขาจึงไม่อาจวางใจได้

แต่เจียงหยุนเอ๋อไม่ให้เขาตามไปด้วย เขาจึงได้แต่แอบตามไป ไม่ว่ายังไง ความปลอดภัยของเจียงหยุนเอ๋อก็สำคัญที่สุด

เจียงหยุนเอ๋อเพียงแค่อยากรู้ เพราะช่วงนี้ลี่หุยเป็นที่สะดุดตาเหลือเกิน เรียกได้ว่าเป็นคนดังของบริษัทเลยทีเดียว

มาโผล่อยู่ที่นี่ในเวลาอย่างนี้ เจียงหยุนเอ๋อมีลางสังหรณ์ว่าเขาต้องมาแอบทำอะไรแน่นอน

เจียงหยุนเอ๋อไม่กล้าเดินเร็วเกินไป อีกอย่างตัวเองก็เดินไม่ค่อยสะดวกด้วย เมื่อเห็นลี่หุยมองไปมองมา ท่าทางมีพิรุธ เจียงหยุนเอ๋อก็ยิ่งมั่นใจในความคิดของตัวเอง

ขณะที่เจียงหยุนเอ๋อหันกลับมา ก็เห็นเหล่าเฉินตามหลังตัวเองมา

เมื่อถูกเจียงหยุนเอ๋อเห็นเข้า เหล่าเฉินก็รู้สึกกระอักกระอ่วน : “คุณนายน้อย ผม……”

“เหล่าเฉิน กลับไปเอาหมวกกับแว่นกันแดดบนรถมาให้ฉันหน่อย แล้วก็เอาอันนี้วางไว้ในรถให้ด้วยนะ” เจียงหยุนเอ๋อพูดพลางยื่นชาเขียววิปปิ้งครีมที่อยู่ในมือให้กับเหล่าเฉิน

เธอรู้สึกว่าตัวเองแอบตามโดยไม่ได้ปลอมตัวเลยสักนิด จะทำให้เป็นที่สังเกตได้ง่ายเกินไป

เหล่าเฉินอึ้งไปครู่หนึ่ง ถึงได้เข้าใจ แล้วกลับไปหยิบของที่รถ

“คุณนายน้อย นี่ครับ” เพียงแค่ชั่วพริบตา เหล่าเฉินก็เอาของมาให้แล้ว

“เหล่าเฉิน ไม่ต้องเข้าไปหรอก รอฉันอยู่ด้านนอกนี่แหละ ฉันกลัวลี่หุยจำนายได้” ยังไงเหล่าเฉินก็เป็นคนขับรถประจำตัวของเจียงหยุนเอ๋อ จึงกลัวว่าลี่หุยจะสังเกตเอาได้

เมื่อคิดได้ว่าเจียงหยุนเอ๋อกำลังสะกดรอยตามคนอยู่ เหล่าเฉินจึงไม่กล้าไปรบกวน เลยได้แต่ยืนรออยู่ด้านนอกร้านกาแฟ

เจียงหยุนเอ๋อสวมหมวกและใส่แว่นกันแดด อีกทั้งปิดบังใบหน้าตัวเองไว้เกือบทั้งหน้า

คิดได้ว่าเช้าวันนี้ตัวเองยังไม่ได้เข้าไปที่บริษัท เสื้อผ้าที่สวมใส่วันนี้ลี่หุยก็น่าจะมองไม่ออก ดังนั้นจึงโล่งใจไม่น้อย

หลังจากปลอมตัวแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็เข้าไปในร้านกาแฟที่ลี่หุยเข้าไป

เมื่อเจียงหยุนเอ๋อเข้าไปแล้ว ก็เหลือบมองลี่หุยที่อยู่ไม่ไกลนัก เจียงหยุนเอ๋อมองไปรอบ ๆ ก็เห็นว่ามีที่นั่งอยู่ด้านหลังลี่หุยที่หนึ่ง และมีต้นไม้ที่ประดับอยู่ในร้านสามารถบังตัวเองไว้ได้พอดี เจียงหยุนเอ๋อจึงเดินเข้าไป

เจียงหยุนเอ๋อสั่งกาแฟมาหนึ่งแก้ว แล้วหยิบนิตยสารขึ้นมา แสร้งทำเป็นการเปิดอ่าน

ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อเพิ่งเดินเข้ามา มีเพียงลี่หุยคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงนั้น

เจียงหยุนเอ๋อพึมพำในใจ เขากำลังรอใครงั้นเหรอ?

เพิ่งมีความคิดนี้ขึ้นมา ประตูร้านก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วมองไปรอบ ๆ ร้านกาแฟ

เจียงหยุนเอ๋อหันดู ก็ตาโตทันที นี่คือผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัทหลี่ซื่อกรุ๊ปไม่ใช่เหรอ?

ไม่ใช่ว่าเขาจะ……เจียงหยุนเอ๋อเห็นผู้ถือหุ้นคนนั้นเดินมาทางตัวเอง จากนั้นก็เดินไปที่โต๊ะของลี่หุย

เจียงหยุนเอ๋อตกใจมาก ทำไมในเวลาอย่างนี้ สถานที่แบบนี้ ถึงได้มีคนสองคนที่ไม่น่าจะมาอยู่ตรงนี้โผล่มาได้ล่ะ พวกเขาแอบมีแผนชั่วกันหรือเปล่านะ?

เจียงหยุนเอ๋อกังวลใจ แต่ก็ไม่กล้าว่อกแว่ก สายตาจับจ้องอยู่ที่นิตยสาร แต่หูนั้นตั้งใจฟังบทสนทนาของลี่หุยกับผู้ถือหุ้นคนนั้น

“รอนานเลยนะครับ ผู้จัดการลี่” ผู้ถือหุ้นหลิววางแฟ้มเอกสารในมือของตัวเองลง แล้วยิ้ม

ลี่หุยส่ายหน้า : “ไม่หรอกครับ ผมก็เพิ่งมาถึง คุณอยากสั่งอะไรดื่มสักหน่อยไหม?”

“ขอนมแก้วหนึ่งก็พอครับ” ผู้ถือหุ้นหลิวพูดอย่างสบายใจ

“ขอนมหนึ่งแก้ว แล้วก็กาแฟจาเมกาบลูเมาท์เทนหนึ่งแก้ว ขอบคุณครับ” ลี่หุยพูดกับพนักงาน

“คิดว่าวันนี้ที่ผมนัดคุณออกมาเพราะเรื่องอะไรคุณคงรู้อยู่แล้วใช่ไหมครับ” ลี่หุยวางมือทั้งสองทับกันบนโต๊ะด้วยท่าทีสบาย ๆ

สำหรับพวกผู้ถือหุ้นเหล่านี้ในตอนนี้ ลี่หุยสามารถรับมือได้สบายแล้ว

การที่ไม่มีลี่จุนถิง หรือการหายตัวไปของลี่จุนถิง ทำให้พวกเขากระสับกระส่ายเป็นกังวลใจอย่างมาก เวลานี้เหมาะอย่างยิ่งที่จะซื้อตัวพวกเขา

“ใช่ครับ ใช่” ผู้ถือหุ้นหลิวพยักหน้า “สำหรับเรื่องของหุ้นนั้นผมคิดดูแล้ว ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อเสนอของผู้จัดการลี่ เพียงแต่ว่า……”

ลี่หุยยิ้มอย่างเข้าใจทันที : “ผู้ถือหุ้นหลิวกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใช่ไหมครับ?”

เมื่อถูกลี่หุยพูดสิ่งที่ตัวเองคิดในใจออกมาตรง ๆ อย่างนี้ ผู้ถือหุ้นหลิวก็ฝืนยิ้มออกมา แต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นกังวล ผมเพียงแค่ซื้อไว้ชั่วคราว ถ้าหลังจากนั้นผมสามารถขึ้นเป็นผู้มีอำนาจของบริษัทลี่ซื่อกรุ๊ปได้ ผมจะคืนหุ้นพวกนี้ให้กับคุณ”

ผู้ถือหุ้นหลิวแสดงท่าทีไม่ค่อยวางใจเท่าไหร่

“คุณดูสิ พ่อผมเชื่อมั่นผมขนาดนี้ เอาหุ้นมากมายของเขาให้กับผม แน่นอนว่าเขาเชื่อมั่นในการควบคุมของผม ความสามารถของผมเป็นยังไง คุณและหุ้นส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้เห็นกันแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ถ้าคุณยังไม่วางใจจริง ๆ ละก็ คุณอาจจะโอนหุ้นมาส่วนหนึ่งก่อนก็ได้ แล้วคุณถือไว้เองส่วนหนึ่ง ผมคิดว่าแบบนี้คุณน่าจะสบายใจขึ้นเยอะนะครับ?”

ผู้ถือหุ้นหลิวพยักหน้า : “ความสามารถของผู้จัดการลี่ ผมก็รู้ดีครับ แต่ในเมื่อผู้จัดการลี่พูดอย่างนี้ ก็หวังว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูดนะ”

“แน่นอนครับ คนอย่างผมพูดแล้วต้องทำให้ได้” ลี่หุยยิ้มแล้วพูดด้วยความมั่นใจ

ขณะที่พูด ลี่หุยก็ได้หยิบเอาแฟ้มเอกสารจากด้านหลังออกมา : “นี่คือหนังสือข้อตกลงความร่วมมือ คุณอ่านดูก่อน เงื่อนไขในนั้นคุณพอใจหรือเปล่า? ถ้าหากไม่พอใจ พวกเราเจรจากันได้ครับ”

“ครับ” ผู้ถือหุ้นหลิวอ่านเอกสาร หลังจากที่เห็นว่าไม่มีปัญหาอะไร ก็ได้เซ็นชื่อลงไปบนนั้น

“หวังว่าผู้จัดการลี่จะสามารถทำได้อย่างที่พูดไว้นะครับ”