ตอนที่ 507 หลังฮ่องเต้แคว้นเย่ว์เสด็จสวรรคต(4)

หวนคืนชะตาแค้น

เซี​่ย​ซิวจู​๋​มอง​มู่​ชิง​อี​ ​สุดท้าย​ก็​ทำได้​แค่​พยักหน้า​แล้ว​ไม่​พูด​อะไร​ต่อ​อีก

ทหาร​และ​ม้า​ของ​เมืองหลวง​จำนวนนับ​หมื่น​ ​ต่อให้​จะ​ระมัดระวัง​มาก​เพียงใด​ก็​ย่อม​สร้าง​ความ​หวาดผวา​ให้​ผู้คน​อยู่ดี​ ​แต่​ประชาชน​นอกเมือง​ไม่มี​ความใคร่​รู้​ใดๆ​ ​ทั้งสิ้น​ ​ส่วน​เหล่า​ประชาชน​ที่อยู่​ภายใน​เมืองหลวง​กลับ​เข้าใจ​หลักการ​เอาตัวรอด​ได้​เป็น​อย่างดี​ ​เวลา​เช่นนี้​หาก​ใคร่รู้​มาก​เท่าไร​ก็​จะ​ยิ่ง​ตาย​เร็ว​มาก​เท่านั้น

ขณะ​ยืน​ตรง​ประตู​ทางเข้า​วัง​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งก​็​ใช้​สีหน้า​ไม่​สู้​ดี​จับจ้อง​หนุ่มน้อย​ชุด​ขาว​ที่​ทั้ง​รูปงาม​และ​อ่อนโยน​ตรงหน้า​ด้วย​แววตา​ซับซ้อน​ ​ถึงแม้​หนุ่มน้อย​ที่​กางร่ม​อยู่​ท่ามกลาง​ความมืด​จะ​ชวน​ให้​รู้สึก​อ่อนแอ​กว่า​ใน​ยาม​ปกติ​ ​แต่​เขา​รู้ดี​ว่า​หนุ่มน้อย​ที่​ดู​ไร้​พิษภัย​ตรงหน้า​สามารถ​วาง​อุบาย​ปั่นหัว​คน​ได้​เพียง​ใน​ระยะเวลา​อัน​สั้น​ ​กระทั่ง​ทำให้​เหล่า​ลูกหลาน​ท่าน​อ๋อง​ทั้งหลาย​ที่​ทะเยอทะยาน​วางมือ​ไป​เงียบๆ

“​เจ้า​จะเข้า​ไป​จริงๆ​ ​หรือ​”​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ขมวดคิ้ว​เอ่ย​ถาม

มู่​ชิง​อี​พยักหน้า​เอ่ย​ ​“​แน่นอน​”​ ​ถึงแม้​ข่าวคราว​ที่​หรง​จิ​่น​ส่ง​มา​จะ​สื่อ​ว่า​ทุกอย่าง​อยู่​ใน​การควบ​คุม​แล้ว​ ​แต่​หาก​ไม่ได้​เห็น​กับ​ตา​คง​วางใจ​ไม่ได้​ ​นาง​อาจม​อบ​หมาย​เรื่อง​นี้​ให้​ลูกน้อง​จัดการ​ได้​เช่นกัน​ ​แต่​…​มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​ขมขื่น​ ​เวลานี้​นาง​เพิ่ง​รู้​ว่า​ตน​ไม่ใช่​คนที​่​เก่ง​เรื่อง​การ​วาง​กลศึก​ ​ลำพัง​แค่​จัดการ​เรื่อง​เบื้องหน้า​เสร็จ​ก็​ใช่​ว่า​จะ​สำเร็จ​จริงๆ​ ​เสมอไป

เพราะ​ภายใน​วัง​หลวง​แห่ง​นี้​มี​คน​ๆ​ ​หนึ่ง​ที่นา​งอา​วรณ์​หา​ ​นาง​ไม่​เข้าไป​คง​ไม่ได้

มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งม​อง​นาง​เงียบๆ​ ​อยู่นาน​ก่อน​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​ข้า​เข้าไป​เป็นเพื่อน​เจ้า​”​ ​ถึงแม้​ใน​ระยะเวลา​สั้น​ๆ​ ​ไม่​ถึง​สามสิบ​ปี​ตลอดชีวิต​มานี​้​เขา​จะ​เคย​เจอ​ผู้หญิง​มามาก​มาย​ ​กระทั่ง​ใบหน้า​งดงาม​หรือ​ความสามารถ​เหนือ​ใคร​มา​ไม่น้อย​ ​ทว่า​แต่ไหนแต่ไรมา​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ไม่เคย​เจอ​ผู้หญิง​แบบนี้​เลย

ยาม​เป็น​หญิง​ก็​งดงาม​อ่อนช้อย​ ​สติปัญญา​เฉียบแหลม​ว่องไว​ ​ยาม​เป็น​บุรุษ​ก็​อ่อนโยน​สง่างาม​ ​จัดการ​เรื่อง​ใด​ล้วน​ไม่​แพ้​ผู้ชาย​เลย​ ​หาก​ไม่ใช่​เพราะ​เขา​มีฝีมือ​การรักษา​อัน​ยอดเยี่ยม​ ​เกรง​ว่า​มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งคง​ไม่​สามารถ​มอง​ตัวตน​ของ​มู่​ชิง​อี​ได้​ทะลุปรุโปร่ง​ง่ายดาย​ขนาด​นี้​ ​สตรีที​่​เกิด​มาจาก​ตระกูล​ชื่อดัง​และ​ฉลาด​หลักแหลม​ ​โดดเด่น​เหนือ​ใคร​ ​กระทั่ง​ได้​ตำแหน่ง​องค์​หญิง​สถานะ​สูงส่ง​ ​เดิมที​นาง​ควรจะเป็น​เป้าหมาย​ที่​ใครต่อใคร​ต่าง​รักใคร่​อยาก​ทะนุถนอม​ดูแล​ ​แต่​นาง​กลับ​ยอม​ละทิ้ง​ทุกอย่าง​ตาม​องค์​ชาย​แคว้น​เย​่ว​์​คน​หนึ่ง​มา​แคว้น​เย​่ว​์​สถานที่​ที่​ไม่​คุ้นเคย​เลย​ใน​ชีวิต​ ​กระทั่ง​ยอม​สละตำแหน่ง​ผู้ว่าการ​ระดับ​สาม​ทั้งๆ​ ​ที่​ทำได้​ดีมาก​ทีเดียว​ ​จนบัดนี้​ยัง​คิด​ช่วย​อวี​้​อ๋อง​ช่วงชิง​บัลลังก์​โดย​ไม่​คิด​กลัว​ตาย​เลย​สักนิด

มั่ว​เวิ​่น​ฉิ​งอด​ยอมรับ​ไม่ได้​ว่า​ผู้หญิง​อย่าง​มู่​ชิง​อี​หาก​จะ​สรรหา​คน​อย่าง​นาง​จาก​ผู้หญิง​นับ​พัน​นับ​หมื่น​ใน​โลก​ใบ​นี้​ก็​ยัง​ยาก​จะ​หา​ได้​ หรง​จิ​่​น.​..​ช่าง​มีบุญ​จริงๆ ​ฉับพลัน​ภายในใจ​ก็​อด​ผุด​ความอิจฉา​บาง​ๆ​ ​ขึ้น​มา​ไม่ได้

“​ขอบคุณ​ท่าน​มาก​”​ ​มู่​ชิง​อี​เอ่ย​เสียง​เบา​ ​บัดนี้​สถานการณ์​เป็น​เช่นไร​มิ​อาจ​วิเคราะห์​ได้​ ​แต่​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​ยินดี​เข้าไป​เผชิญ​อันตราย​เป็นเพื่อน​นาง​เพราะ​มิตรภาพ​ระหว่าง​พวกเขา​สอง​คน​ ​นอกจาก​คำขอบคุณ​นาง​ก็​ไม่รู้​จะ​พูด​อะไร​แล้ว

“​ข้า​รับปาก​กับ​คนอื่น​ไว้​ว่า​จะ​ปกป้อง​เจ้า​”​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​อีก​อย่าง​ข้า​คิด​ว่า​เรา​ก็​เป็น​สหาย​กัน​”

มู่​ชิง​อี​ยิ้ม​บาง​พยักหน้า​กล่าว​ ​“​พูด​ถูก​ ​เรา​เป็น​สหาย​กัน​”

มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​รีบ​ปรับ​สีหน้า​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​“​ไป​เถิด​”​ ณ​ ​มุม​ที่​มู่​ชิง​อี​มองไม่เห็น​ ​มั่ว​เวิ​่น​ฉิง​เจ้าสำนัก​เย​่า​หวัง​กู่​ที่​เย็นชา​ไร้ความรู้สึก​ใน​สายตา​คนอื่น​กลับ​หู​แดง​ซ่าน​ ​แต่ไหนแต่ไรมา​เจ้าสำนัก​มั่ว​อยู่​สูงส่ง​ ​นี่​เป็นครั้งแรก​ใน​ชีวิต​ที่​เขา​เป็น​ฝ่าย​เอ่ยปาก​ว่า​เป็น​สหาย​ก่อน​ ​แถม​ยัง​เป็น​แค่​สาวน้อย​อ่อนวัย​ที่​อายุ​ยัง​ไม่​ครบ​สิบ​แปด​ปีด​้วย​ซ้ำ

ภายใน​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​ ​หรง​จิ​่น​เดิน​ออกมา​จาก​ฉาก​กั้น​ ​เหล่า​องค์​ชาย​ที่นั่ง​คุกเข่า​อยู่​บน​พื้น​ใน​เดิมที​ก็​ค่อยๆ​ ​ทยอย​ลุกขึ้น​ ​นอก​เสีย​จาก​หรง​จัง​ที่​ถูก​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​สกัด​จุด​จน​ขยับตัว​ไม่ได้

หรง​เหยี​่​ยน​มอง​หรง​จิ​่น​แวบ​หนึ่ง​ด้วย​ท่าที​ประหลาดใจ​ ​เอ่ย​ถาม​อย่าง​เป็นกังวล​ ​“​น้อง​เก้า​ ​เสด็จ​พ่อ​เป็น​อย่างไรบ้าง​”

หรง​จิ​่น​เอ่ย​เสียง​เรียบ​ ​“​สวรรคต​แล้ว​”

ทุกคน​สีหน้า​เรียบ​ตึง​และ​ไร้​ท่าที​ปฏิกิริยา​ใด​ไป​ชั่วขณะ​ ​มอง​ชาย​ชรา​ที่นอน​อยู่​บน​เตียง​ภายหลัง​ฉาก​กั้น​พลาง​ชะงัก​ไป​ สวรรคต​แล้ว​หรือ​ ​เร็ว​ขนาด​นี้​เชียว​…

พอได้​สติ​ ​หรง​เหยี​่​ยน​ก็​บุกเข้าไป​เป็น​คน​แรก​ ​องค์​ชาย​คนอื่นๆ​ ​ก็​รีบ​ตามหลัง​ไป​เช่นกัน​ ​ไม่นาน​ด้านใน​ก็​มีเสียง​ร้องไห้​เศร้าสร้อย​ดัง​แว่ว​มา​ ​เจี่ยง​ปิน​ยืน​ถือ​พระราช​โองการ​อยู่​ตรงนั้น​ตลอด​ ​ครั้น​เห็น​เหตุการณ์​นี้​ก็​รู้​ว่า​เจ้านาย​ที่​ตน​ปรนนิบัติ​ดูแล​มา​หลาย​สิบ​ปี​สิ้นใจ​แล้ว​จริงๆ

“​ฝ่า​บาท​ทรง​สิ้นพระชนม์​แล้ว​!​”​ ​ผ่าน​ไป​ไม่นาน​บน​กำแพง​วัง​หลวง​ที่สูง​ที่สุด​ใน​วัง​ก็​มีเสียง​ระฆัง​ไว้ทุกข์​ดัง​ขึ้น​ ​ทั่วทั้ง​เมืองหลวง​ได้ยิน​เสียง​ของ​ระฆัง​ดังก้อง​ ​แสดงถึง​การ​เปลี่ยน​ผ่าน​ของ​กษัตริย์​อีก​ยุค

ความจริง​วันนี้​คน​มากมาย​ใน​เมืองหลวง​ต่าง​เตรียมตัว​ไว้​แล้ว​ ​ดังนั้น​เพียง​ครึ่ง​ชั่ว​ยาม​เหล่า​เชื้อพระวงศ์​และ​ขุนนาง​ใหญ่​ระดับ​หนึ่ง​ขึ้นไป​ก็​มาชุ​มนุ​มกัน​ใน​วัง​ ​ทว่า​คนที​่​สามารถ​เข้ามา​ใน​พระตำหนัก​ชิง​เหอ​ได้​มี​แค่​เหล่า​เชื้อพระวงศ์​เท่านั้น

เครือญาติ​ใน​ราชวงศ์​แคว้น​เย​่ว​์​ที่​สนิทสนม​กับ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มี​ไม่​มาก​นัก​ ​ใน​รุ่น​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​นั้น​เหลือ​เพียง​พี่ชาย​คน​หนึ่ง​ ​น้องชาย​หนึ่ง​คน​และ​หลาน​ๆ​ ​ไม่​กี่​คน​เท่านั้น​ ​ส่วน​ความสัมพันธ์​กับ​ญาติ​คนอื่นๆ​ ​ก็​ห่างไกล​จน​ไม่มี​สิทธิ์​มาร​่ว​มงา​นข​อง​ตระกูล​เชื้อพระวงศ์​ได้

เพราะ​ด้วย​รูปแบบ​การทำงาน​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ ​วัน​เวลา​ของ​ชิน​อ๋องจ​วิ​้​นอ​๋​อง​ที่​เหลืออยู่​เหล่านี้​จึง​ไม่ได้​สบาย​ไป​กว่า​เหล่า​อ๋อง​ทั้งหลาย​ของ​แคว้น​อื่นๆ​ ​สัก​เท่าไร​ ​วัน​ๆ​ ​เอาแต่​เดินตาม​คนอื่น​ต้อยๆ​ ​ในที่สุด​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ก็​ตาย​แล้ว​ ​ไม่แน่​ภายในใจ​ของ​พวกเขา​อาจ​ลอบ​ดีใจ​มาก​ก็​เป็นได้

“​เสด็จ​ลุง​ ​เสด็จ​อา​”​ ​เหล่า​องค์​ชาย​รีบรุด​หน้า​เข้าไป​ต้อนรับ

อ๋อง​สอง​คน​นี้​ก็​คือ​พี่น้อง​ร่วม​ตระกูล​ของ​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​ที่​เหลืออยู่​ในเวลานี้​ ​ลู่​อ๋อง​หร​งมู​่​หลี​่​และ​ฉี​อ๋อง​หร​งมู​่​เฟิง​ ​หร​งมู​่​หลี​่​อายุ​มากกว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​สี่​ปี​ ​ปีนี​้​อายุ​เจ็ดสิบ​สาม​ชันษา​แล้ว​ ​ถึงแม้​เส้น​ผม​จะ​ขาวโพลน​ ​แต่​เพราะ​อาจ​ดูแล​บำรุง​ร่างกาย​ตาม​หลัก​อย่างเหมาะสม​เลย​ทำให้​ดู​มี​กำลังวังชา​ ​หร​งมู​่​เฟิง​เป็น​ลูก​คน​สุดท้อง​ของ​ฮ่องเต้​องค์​ก่อน​ ​ฉะนั้น​จึง​อายุ​น้อยกว่า​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​และ​หร​งมู​่​หลี​่​มาก​ ​ปีนี​้​อายุ​ยังอยู่​ใน​ช่วง​ห้าสิบ​ชันษา​ต้นๆ​ ​ถึงแม้​ดวงตา​แดงก่ำ​จะ​ดู​เศร้าสร้อย​ไป​บ้าง​ ​แต่กลับ​ไม่ได้​ดู​แย่​นัก

หร​งมู​่​หลี​่​อายุ​มาก​แล้วจึง​ถูก​ลูกชาย​ของ​เขา​พา​เดิน​พยุง​เข้ามา​ ​เขา​โบกมือ​กล่าว​ ​“​ไม่ต้อง​พิธีรีตอง​นัก​หรอก​ ​ฝ่า​บาท​ทรง​สิ้นพระชนม์​ข้า​เอง​ก็​เสียใจ​มาก​เช่นกัน​ ​แต่​เรื่อง​หลังจากนี้​…​ต้อง​มีลูก​หลาน​อย่าง​พวก​เจ้า​คอย​จัดการ​ ​อย่า​เสียใจ​กัน​จน​ร่างกาย​ทรุดโทรม​เล่า​”

“​ขอบ​พระทัย​คำ​ชี้แนะ​ของ​เสด็จ​ลุง​ด้วย​”​ ​ทุกคน​กล่าว​ขอบคุณ

หร​งมู​่​หลี​่​เอ่ย​ถาม​ ​“​ขณะที่​ฝ่า​บาท​ทรง​มีชีวิต​อยู่​ได้​ทิ้ง​พระราช​โองการ​ใด​ไว้​หรือไม่​”

เจี่ยง​ปิน​เดิน​รุดหน้า​ขึ้น​มา​แล้ว​ถวาย​สาสน์​พระราช​โองการ​พร้อม​เอ่ย​ ​“​ทูล​ท่าน​อ๋อง​ ​คำสั่ง​เสีย​ของ​ฝ่า​บาท​อยู่​นี่​แล้ว​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​หร​งมู​่​หลี​่​ผุด​ความลังเลใจ​ผ่าน​นัยน์ตา​ ​พลัน​เงยหน้า​ขึ้น​มอง​ทุกคน​ ​หร​งมู​่​เฟิง​เอ่ย​เสียง​ขรึม​ ​“​ที่นี่​ก็​มี​แต่​คนกันเอง​ทั้งนั้น​ ​ท่าน​อาวุโส​ที่สุด​ ​ท่าน​จัดการ​เถิด​”

เวลานี้​หร​งมู​่​หลี​่​ถึง​รับ​สาสน์​สั่งเสีย​มา​แล้ว​ค่อยๆ​ ​คลี่​เปิด​ออก

“​ด้วย​อำนาจ​บัญชา​จาก​สวรรค์​ ​ฮ่องเต้​ทรง​มีพ​ระ​ราชโองการ​ว่า​…​”​ ​เห็นได้ชัด​ว่า​ขณะที่​ฮ่องเต้​แคว้น​เย​่ว​์​มีชีวิต​อยู่คง​มีชีวิตชีวา​ดี​ไม่น้อย​ถึง​ได้​เขียน​ยาวเหยียด​ขนาด​นี้​ ​รอก​ระ​ทั่ง​หร​งมู​่​หลี​่​อ่าน​ถึง​จุดสำคัญ​ก็​พลัน​ชะงัก​ไป​ ​“​องค์​…​อืม​ ​องค์​ชาย​เก้า​หรง​จิ​่น​สติปัญญา​หลักแหลม​เหนือ​ใคร​เหมือน​เรา​ไม่มี​ผิด​ ​จึง​ขอม​อบ​ให้​องค์​ชาย​เก้า​สืบทอด​บัล​ลัง​ต่อ​จาก​เรา​ ​จบ​แต่เพียง​เท่านี้​”

อย่า​ว่าแต่​เหล่า​องค์​ชาย​ที่นั่ง​คุกเข่า​เลย​ ​แม้แต่​หร​งมู​่​หลี​่​ที่​ถือสา​สน​์​อยู่​ก็​ยังกะ​พริบตา​ปริบๆ​ ​ดู​ว่า​ตน​ตาลาย​อ่าน​ผิด​ไป​หรือเปล่า​ ​แต่​ต่อให้​เขา​จะ​กะพริบตา​จน​เหน็บ​กิน​ก็​อด​ยอมรับ​ไม่ได้​ว่า​ตัวหนังสือ​บน​สาสน์​ที่​ส่อง​ประกาย​แสง​วิบวับ​นั้น​ก็​ยัง​เป็น​คำ​ว่า​องค์​ชาย​เก้า​หรง​จิ​่​นอยู​่​ดี

หร​งมู​่​หลี​่​อด​ลอบ​ถอนหายใจ​ไม่ได้​ ​น้องชาย​คน​นี้​ของ​เขา​เก่งกาจ​เหนือ​ใคร​ ​ตอน​ขึ้น​ครองราชย์​ครานั้น​ใครๆ​ ​ต่าง​ก็​ยอมรับ​ทั้งสิ้น​ ​เพียงแต่​น่าเสียดาย​ที่​หลังจาก​เจอ​ผู้หญิง​คน​นั้น​ก็​หน้ามืดตามัว​ ​กระทั่ง​ผ่าน​มายี​่​สิบ​ปี​จน​วัน​ตาย​ก็​ยัง​เลอะเลือน​ไม่ได้​สติ​ ​ใครๆ​ ​ต่าง​ก็​รู้เรื่อง​ที่​ฮ่องเต้​ทรงโปรด​ปราน​องค์​ชาย​เก้า​ ​แต่​หาก​กล่าวว่า​ฮ่องเต้​จะ​ยก​บัลลังก์​ให้​องค์​ชาย​เก้า​สืบทอด​กลับเป็น​เรื่อง​ที่​ใครๆ​ ​ยาก​ที่จะ​เชื่อได้​ ​นอกจาก​ความ​โปรดปราน​ของ​ฮ่องเต้​แล้ว​ ​องค์​ชาย​เก้า​ยัง​มี​อะไร​อีก​ ​ความสามารถ​?​ ​ความดี​ความชอบ​?​ ​แรง​หนุน​จาก​ตระกูล​ทรงอิทธิพล​?​ ​ชื่อเสียง​ใน​หมู่​ราษฎร​?​ ​องค์​ชาย​เก้า​ไม่มี​อะไร​เลย​สัก​อย่าง