ตอนที่ 502

My Disciples Are All Villains

ตอนที่ 502 โลงศพลอยฟ้า

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย

พลังฝ่ามือสละปัญญาของลู่โจวได้กระแทกเข้ากับโลงศพ จากการคํานวณที่ลู่โจวคิดไว้ พลังวิเศษของเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ 1 ใน 3 ส่วนก็คงจะเพียงพอแล้วที่จะสังหารลานนีในทันที่ได้ แต่อย่างไรก็ตามมันกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น ทันทีที่พลังฝ่ามือกระแทกเข้ากับโลงศพ แสงสีแดงที่ดูคล้ายกับใยแมงมุมก็ได้ระเบิดพลังออกมา

เมื่อพลังฝ่ามือและแสงสีแดงเข้าปะทะกัน ทั่วทั้งศาลาปีศาจลอยฟ้าก็เต็มไปด้วยแรงกระเพื่อมจากการระเบิด

โลงศพสีแดงเริ่มหมุนกลับก่อนที่จะมีแสงหรี่ลง

ลานนีที่รับแรงกระแทกจากพลังฝ่ามือตกลงจากโลงศพ ตัวเขาตกลงสู่พื้นก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา

ตุบ!

โลงศพและลานนีถูกพลังการโจมตีจนกระเด็นออกไปนอกม่านพลัง

ม่านพลังมีหลักการทํางานที่แสนจะเรียบง่าย มันเป็นหลักการเข้าง่ายแต่ออกยากนั่นเอง

ยิ่งไปกว่านั้นลานนียังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากพลังฝ่ามือ

ด้วยพลังฝ่ามือเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้ลานนีบาดเจ็บสาหัสได้

หมิงซูหยินและต้วนมู่เฉิงสามารถจัดการกับชาวรั่วหลี่ทั้งสองคนได้อย่างง่ายดาย ทันทีที่จัดการกับทั้งสองคนได้ทั้งคู่ก็เหลือบมองขึ้นไปอย่างพร้อมเพรียงกัน

พลังเมื่อครู่นี้เป็นพลังฝ่ามือของอาจารย์พวกเขา

นี่เป็นการใช้พลังฝ่ามือสละปัญญาของลู่โจวเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกลู่โจวได้ใช้อยู่ในระหว่างการต่อสู้ที่มณฑลเหลียง เดิมที่ฝ่ามือสละปัญญาของชาวลัทธิขงจื้อมักจะต้องการมือสองข้างในการปลดปล่อย แต่อย่างไรก็ตามลู่โจวสามารถปลดปล่อยพลังออกมาด้วยฝ่ามือเพียงข้างเดียว แม้ว่าจะใช้พลังฝ่ามือเพียงข้างเดียวแต่มันกับมีพลังทําลายล้างที่รุนแรงมหาศาล

โลงศพที่กระเด็นเพราะการโจมตีได้บินกลับมา แต่ถึงแบบนั้นมันก็ไม่เรืองแสงอีกต่อไป

เมื่อการโจมตีจบลงลู่โจวก็ได้แต่แปลกใจ ตัวเขาไม่ได้รับการแจ้งเตือนใดจากระบบเลย สิ่งนี้ทําให้ลู่โจวสับสน การที่โจมตีผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบด้วยพลังวิเศษ 1 ใน 3 ส่วนมันก็น่าจะเพียงพอที่จะจัดการผู้ฝึกยุทธคนนั้นได้แล้ว! แล้วทําไมลานนีถึงรอดชีวิตมาได้?

ลู่โจวเหลือบมองโลงศพและลานนี มันเป็นอย่างที่เขาเคยคาดไว้ในโลงศพนั้นมีอะไรมากกว่าที่ลูโจวเห็นด้วยตา!

ลู่โจวรีบลอยขึ้นไปบนอากาศก่อนที่จะบินไปที่โลงศพ ตัวเขาที่ไปถึงโลงศพได้หยุดอยู่กลางอากาศ ลู่โจวเลือกที่จะปล่อยแสงสีฟ้าจางๆ จากปลายเท้าก่อนที่จะลงเหยียบโลงศพ

ตุ๊บ!

ทันทีที่ปลายเท้าของเขาสัมผัสโลงศพ ในตอนนั้นเองระลอกพลังลมปราณก็ได้แผ่ออกมาจากปลายเท้าของลู่โจว

ทุกๆ คนตกตะลึงกับภาพที่ได้เห็น

ชาวศาลาปีศาจลอยฟ้าต่างก็ชื่นชมกับสิ่งที่ได้เห็น ทุกคนต่างก็เหลือบมองผู้เป็นอาจารย์กําลังบินขึ้นไปบนท้องฟ้า เป็นเพราะอาจารย์ของพวกเขาเคลื่อนไหวแล้ว เพราะแบบนั้นทุกคนจึงไม่จําเป็นที่จะต้องทําอะไรอีก! ทุกคนเพลิดเพลินไปกับการเฝ้ามองผู้เป็นอาจารย์ใช้พลังจัดการกับศัตรูแทน

ลู่โจวได้เหยียบโลงศพเอาไว้ก่อนที่จะบังคับมันให้กลับเข้าไปในม่านพลัง โลงศพได้หมุนเข้าไปในม่านพลังอีกครั้ง

หมิงซูหยินและต้วนมู่เฉิงต่างก็เข้าใจสิ่งที่ลู่โจวคิด ทั้งคู่จ้องมองไปที่ลู่โจวที่กําลังบินกลับมากับโลงศพด้วยพลังลมปราณ

ในตอนนั้นเองเทียนกูวก็เริ่มกระพือปีกอีกครั้ง

ฮวว!

เสียงร้องอันโหยหวนรวมไปถึงแรงลมกระโชกแรงได้ก่อตัวขึ้นมาอีกครั้ง

ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นหยุดอยู่กลางอากาศ

พลังขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์และอวตารดอกบัวสองกลีบที่มีดูเหมือนจะอ่อนแอจนเกินไป ในขณะที่ลอยกลับมา ลานนีที่อดทนต่อความเจ็บปวดได้บินไปทางเทียนกูว ในตอนนี้ตัวเขาดูสิ้นหวัง ดวงตาของเขาแดงก่ําในขณะที่ยืนอยู่บนหลังเทียนกูว ลานนีได้ร้องออกมาด้วยความโกรธแค้น “เจ้าโง่ เจ้ากําลังรออะไรอยู่กัน? ไปได้แล้ว!”

เทียนกูวได้ส่งเสียงร้องตอบโต้ จากคําสั่งที่ได้รับทําให้มันกระพือปีกก่อนที่จะบินหนีไปอย่างบ้าคลั่ง

ลานนีหันไปมองลู่โจวที่กําลังลอยเข้ามาหา ตัวเขาได้แตะไปที่เส้นพลังลมปราณของตัวเองก่อนที่จะพูดใส่ลู่โจว “แม้ว่าเจ้าจะไม่ใช่ผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ…แต่อย่างน้อยๆ เจ้าก็มีพลังคล้ายกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบหรือไม่ก็แปดกลีบ…” ตอนนี้ลานนีรู้สึกผ่อนคลายลงแล้ว ตัวเขาได้ตบหลังของเทียนกูวก่อนที่จะพูดต่อ “หลังจากที่ข้าหลบหนีการต่อสู้ครั้งนี้ได้ สักวันหนึ่งตระกูลโบน่ารของข้าจะต้องยึดครองดินแดนหยาน!”

ในขณะนั้นเองเสียงที่น่าเกรงขามก็ได้ดังมาจากด้านหลัง “ข้าบอกตอนไหนกันว่าจะปล่อยเจ้าไป?”

หัวใจของลานนีสั่นสะท้านอย่างที่ไม่เคยเป็น ดวงตาของเขาเบิกกว้างก่อนที่จะหันกลับมามอง ลานนีมองเห็นลู่โจว ชายชราที่เคยเห็นก่อนหน้านี้กําลังติดตามตัวเขาอยู่บนหลังของวิซซาร์ด!

ในเมื่อมีผู้ล่าก็ต้องมีผู้ถูกล่า

ในไม่กี่อึดใจลู่โจวที่ชีวิซซาร์ดก็เร่งความเร็วจนเข้าใกล้ลานนีมากขึ้น

“เร็วเข้า!” ลานนีรีบใช้ฝ่ามือตบไปที่ร่างเทียนกูว

เทียนกวเป็นสัตว์ที่บินได้ตั้งแต่แรก เพราะแบบนั้นมันจึงสามารถบินได้อย่างว่องไว แม้ว่ามันจะบินได้รวดเร็วแค่ไหนแต่สุดท้ายมันก็ไม่อาจทิ้งห่างกับศัตรูได้ ยังไงซะคู่ต่อสู้ของมันก็คือวิซซาร์ด!

วิซซาร์ดเป็นสัตว์ขี่ที่มีข้อดีในเรื่องของความคล่องตัวและความรวดเร็ว แม้ว่ามันจะไม่ได้ว่องไวเทียบเท่ากับเทียนกูวได้ แต่เทียนกูวก็ไม่ได้เหนือไปกว่ามัน

ลานนีที่ขี่เทียนกูวอยู่จะสามารถหนีไปได้ยังไงถ้าหากสัตว์ขี่ทั้งสองยังบินด้วยความเร็วที่เท่ากัน

ลู่โจวยืนอยู่บนหลังของวิซซาร์ด ในมือซ้ายของเขากําลังลูบเคราของตัวเอง ส่วนมือขวานั้นกําลังถูกยกขึ้น ฝ่ามือขวาถูกผลักไปด้านหน้า ในตอนนั้นเองพลังลมปราณที่มีก็เริ่มก่อตัว พลังฝ่ามือพร้อมกับแสงสีฟ้าจางๆ ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง ระหว่างฝ่ามือมีอักษรคําว่า “สละปัญญา” สลักอยู่

เมื่อลู่โจวเหยียดแขนสุด พลังฝ่ามือก็ถูกผลักออกมา

ซูววว!

พลังฝ่ามือปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเสียงดังกังวาน

ในขณะเดียวกันลานนีก็ได้ปลดปล่อยพลังลมปราณทั้งหมดที่มีออกมา ตัวเขาเลือกที่จะเปลี่ยนพลังทั้งหมดให้กลายเป็นม่านพลัง ในขณะที่แขนทั้งสองข้างของเขาไขว้กัน เขตแดนพลังก็เริ่มก่อตัวขึ้นก่อนที่จะปกป้องตัวเขาเอาไว้

ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นแปลกใจ เขตแดนพลังที่ได้เห็นมันทําให้ตัวเขานึกถึงวิธีการที่ชาวลัทธิขงจื้อใช้สร้างผนึก แต่ถึงแบบนั้นในตอนนี้ก็ไม่มีอะไรสําคัญอีกต่อไป

ครู่ต่อมาพลังฝ่ามือสละปัญญาอันใหญ่ยักษ์ก็ได้ซัดเข้าใส่ลานีและเทียนกูว!

ลานนีเบิกตากกว้าง เขตแดนพลังที่ตัวเขาเป็นคนสร้างขึ้นถูกทําลายเป็นเสี่ยงๆ พลังทั้งหมดที่มีไม่อาจต้านพลังฝ่ามือสละปัญญาได้

ตุ้ม!

ลานนีและเทียนกวตกลงจากท้องฟ้า

ในตอนนั้นเองทุกคนที่อยู่ในปาต่างก็เหลือบมองเทียนกูว

“ทําตามแผนที่วางเอาไว้ สนับสนุนท่านหัวหน้าซะ!”

ผู้ฝึกยุทธหลายคนที่แต่งตัวประหลาดออกมาจากป่า พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังที่ที่เทียนกูวตกลงสู่พื้น

ลู่โจวที่เห็นเป้าหมายถูกโจมตีได้แต่แปลกใจ ทําไมถึงไม่มีการแจ้งเตือนล่ะ? หรือว่านี่จะเป็นกับดัก?”

“พันธะแห่งโชคชะตา” อยู่ดีๆ ลู่โจวก็นึกไปถึงคําๆนี้ขึ้นมา เมื่อคิดเช่นนั้นตัวเขาก็ไม่ แปลกใจเลยที่ลานนีจะมีความกล้ามากพอจนกล้านําโลงศพมาให้กับตัวเขา เจ้านี่มันช่างเจ้าเล่ห์ซะจริง!

พันธะแห่งโชคชะตา เป็นวิธีการรูปแบบหนึ่งที่ชาวดินแดนหยานจะใช้เพื่อแบ่งบันพลังให้แก่กัน แต่สุดท้ายแล้วมันก็ถูกนํามาดัดแปลงให้กลายเป็นเวทมนตร์คาถาไป

ในตอนที่สี่วู่หยาถูกพลังผนึกมนตราในอดีต ครั้งหนึ่งตัวเขาก็เคยคิดที่จะใช้ซู่ฮ่องกงเพื่อหลอกล่อให้อาจารย์ของตนทําลายพลังผนึกด้วยวิชาแห่งการเชื่อมต่อนี้ แต่ในครั้งนี้มันแตกต่างออกไป ลานนีได้ผูกชีวิตของตนเอาไว้กับเทียนกูว ถ้าหากจะบอกว่าชีวิตของเทียนกูวก็คือชีวิตของลานนี คําพูดนี้ก็ไม่ได้ผิดแปลกไปเลย ตราบใดที่เทียนกูวรอด ลานนีก็จะยังไม่ตาย!

ลู่โจวไม่รอช้ารีบพุ่งลง!

ลานนีบัดนี้สูญเสียความสามารถในการต่อสู้ไปแล้ว แม้ว่าจะยังไม่ตายแต่ร่างกายก็บาดเจ็บจากพลังฝ่ามือสละปัญญาอยู่ดี

ตุ้ม!

เทียนกูวตกลงสู่ป่าทึบก่อนที่จะเกิดฝุ่นควัน

พรึบ! พรึบ! พรึบ!

ป่าที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล มีใครหลายคนเริ่มเคลื่อนไหว ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหวเข้าใกล้กับเทียนกูวอย่างรวดเร็ว

เมื่อลู่โจวลงมาจากท้องฟ้าได้สักระยะ ตัวเขาก็เฝ้ามองทุกสิ่งที่เกิดขึ้น นี่คือจุดที่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ดีที่สุด ในตอนนั้นเองมีคนกว่า 100 คน บินเข้ามาใกล้

“นี่มันกับดัก?” แม้ว่าจะเห็นแบบนั้นแต่ลู่โจวก็ไม่คิดว่านี่จะเป็นแผนของลานนี

ในที่สุดฝุ่นควันก็ได้จางหายไป

บุคคลปริศนากว่า 100 คนกําลังพุ่งเข้าหาลู่โจวด้วยดาบ

สายตาของลู่โจวจับจ้องไปที่เทียนกูว

ลานนีได้ยกฝ่ามือขึ้นมาด้วยความยากลําบากก่อนที่จะแตะมันลงบนร่างเทียนกูว ในตอนนั้นเองแสงจากฝ่ามือของลานนีได้ส่องไปยังหน้าผากของเทียนกูว ลานนีได้เช็ดเลือกออกจากปากก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างเย่อหยิ่ง เห็นได้ชัดว่าลานนีกําลังยิ้มเยาะที่สามารถเอาชนะลู่โจวได้

ลู่โจวหันไปมองผู้คนที่วิ่งออกมาจากปา ตัวเขามองเห็นผู้คนเหล่านั้นเคลื่อนที่เข้าหาร่างของลานนี มีใครบางคนอุ้มลานนีขึ้นมาก่อนที่จะคิดถอยกลับ ในอีกด้านหนึ่งลู่โจวก็เหลือบเห็นผู้ใช้ดาบนับ 100 คนกําลังมุ่งหน้ามา พวกนี้มันเป็นมิตรหรือว่าเป็นศัตรูกันแน่?

“ไม่สําคัญอีกต่อไป ลู่โจวยกฝ่ามือขึ้นมา ในตอนนั้นเองการ์ดปลอมแปลงที่อยู่ในฝ่ามือก็ถูกทําลาย ในขณะที่การ์ดถูกทําลาย พลังจางๆก็ได้ไหลออกมาจากการ์ด

ซูวว!

พลังอวตารที่สูงกว่า 150 ฟุตได้ยืนตระหง่านอยู่ในอากาศ

ดอกบัวทองคําที่อยู่ใต้พลังอวตารเริ่มส่องแสงประกายระยิบระยับในทันที กลีบดอกบัวสีทองทั้งหลายเริ่มหมุนรอบดอกบัวทองคําด้วยความเร็วคงที่

ในขณะที่ลานนีกําลังถูกอุ้มอยู่ในมือของผู้ฝึกยุทธ ในตอนนั้นเองตัวเขาก็ลืมตามองมาที่ดอกบัวทองคํา “เก้ากลีบ!”

ลู่โจวยืนตระหง่านอย่างภาคภูมิใจ ตัวเขากําลังยืนอยู่เหนือดอกบัวทองคําของร่างอวตารที่มี ลู่โจวที่ยืนสง่าผ่าเผยได้ใช้พลังลมปราณที่มีกระจายเสียงออกมา “กําจัดชนเผ่าอื่นซะ!”