บทที่444 ชาตินี้จวินหย่วนโยวก็ไม่มีวันหย่าข้า

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่444 ชาตินี้จวินหย่วนโยวก็ไม่มีวันหย่าข้า

“คนที่ด่าข้าในครั้งก่อนนั้น ถูกข้าตัดลิ้นทิ้งแล้ว และทั้งชีวิตนี้ก็ไม่สามารถพูดได้อีกต่อไป ซูหลินตัดลิ้นของนางทิ้งซะ!” หยุนถิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

ฮูหยินหานกั๋วตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว แต่ต่อหน้าคนจำนวนมากเช่นนี้ และถูกหยุนถิงคุกคามเช่นนี้ แน่นอนว่าฮูหยินหานกั๋วเองก็กลัวเสียหน้า ดังนั้นจึงแสร้งทำเป็นกล้าหาญ

“เจ้ากล้าหรือ ข้าเป็นคนที่เลี้ยงจวินหย่วนโยวโตมา หากเจ้ากล้าทำร้ายข้า จวินหย่วนโยวจะไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!”

“ต่อให้ตอนนี้จวินหย่วนโยวอยู่ที่นี่ ข้าก็จะจัดการเจ้าเช่นกัน แม้แต่เขาก็จะต้องฟังข้า!” หยุนถิงหัวเราะเย้ยหยัน

“จวินหย่วนโยว จวินหย่วนโยวเจ้าอยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ เจ้าอยากเห็นข้าถูกหยุนถิงรังแกจนตายหรือ?” ฮูหยินหานกั๋วตะโกน

ในความเป็นจริงคนที่ปลอมตัวเป็นจวินหย่วนโยวก็อยู่ในห้องหนังสือ แต่เมื่อเขาได้ยินองครักษ์ที่ประตูรายงานว่าฮูหยินหานกั๋วมาที่จวน ก็บอกให้คนอื่นบอกว่าซื่อจื่อออกไปแล้วโดยตรงเลย

ฮูหยินหานกั๋วทารุณกรรมและทำเกินไปกับซื่อจื่อมากเพียงใด ผู้คนในจวนซื่อจื่อต่างก็รู้กันหมด ดังนั้นจึงไม่มีใครสนใจนาง พลังต่อสู้ของซื่อจื่อเฟยนั้นทุกคนต่างก็ไม่สงสัยกัน แน่นอนว่าก็ต้องดูละครหน่อยแล้ว

“เสียงดังชะมัด!” ซูหลินพูดอย่างหมดความอดทน กดจุดหย่าเหมินของฮูหยินหานกั๋วโดยตรงแล้วโยนนางลงไปในบ่อน้ำ

“ตูม!” เสียงน้ำกระเซ็น ฮูหยินหานกั๋วถูกโยนลงไป

“อ๊าก ช่วยด้วย มาช่วยข้าที——” ฮูหยินหานกั๋วดิ้นรนไปมาอย่างสุดกำลัง อยากร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ร้องไม่ออกมา คนทั้นคนก็ดิ้นรนอยู่ในน้ำแบบนั้น

องครักษ์ องครักษ์ลับ และองครักษ์เงามังกรที่อยู่บนกำแพงล้วนรู้สึกสะใจยิ่งนัก สมกับเป็นซื่อจื่อเฟยจริงๆเลย ควรทุกข์ทรมานนางแบบนี้แหละ ทุกข์ทรมานแรงๆเลย

บ่าวรับใช้ชายและคนรับใช้ในห้องต่างก็ตกใจกลัวกันหมด และอยากวิ่งออกไป แต่หลงเอ้อก็ชักดาบออกมาโดยตรง “หากใครออกไป ระวังดาบนี้ของข้าเอาไว้!”

บ่าวรับใช้ชายและคนรับใช้คุกเข่าลง “ขอซื่อจื่อเฟยปล่อยฮูหยินของข้าไปเถอะ ฮูหยินของข้าว่ายน้ำไม่เป็น”

“อย่ากังวลไป ข้าไม่ปล่อยให้นางตายแน่นอน” หยุนถิงตอบอย่างเฉยชา

จากนั้นบ่าวรับใช้ชายและคนรับใช้จึงค่อยแอบโล่งใจลง และกำลังจะขอบคุณ ก็ได้ยินหยุนถิงพูดมาอีกประโยคหนึ่งว่า “ให้นางจมน้ำตายไปแบบนี้ง่ายเกินแล้ว ข้าต้องทรมานนางดีๆสักหน่อย”

บ่าวรับใช้ชายและคนรับใช้ตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว และไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบคุกเข่าไปข้างๆ

ส่วนฮูหยินหานกั๋วในบ่อน้ำก็ตกใจกลัวมากจริงๆ นางสำลักน้ำหลายครั้ง ความรู้สึกของการหายใจไม่ออกนั้นยิ่งอยู่ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ คนทั้งคนก็สติพร่ามัวไปเล็กน้อย

ในขณะที่นางกำลังคิดว่าตัวเองจะตายไปแบบนี้แล้ว จู่ๆ ก็ถูกคนดึงขึ้นมา

ฮูหยินหานกั๋วหอบหนัก ตัวสั่นอย่างรุนแรง ตกใจกลัวยิ่งนัก

หยุนถิงเดินตรงไป และมองดูนางจากด้านบน “ฮูหยินหานกั๋วตื่นหรือยัง?”

“เจ้าอีนังหญิงร้ายกาจเกือบทำข้าจมน้ำตาย ข้าจะบอกให้จวินหย่วนโยว ให้เขาหย่าผู้หญิงใจดำ อำมหิตเยี่ยงเจ้าทิ้ง ข้ายังจะไปพระราชวังไปฟ้องฝ่าบาท เจ้าฆ่าข้าราชการที่สาธารณะ ฝ่าบาทไม่ปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!”

“เชอะ สมองเจ้าเสื่อมไปแล้วหรือ ข้าฆ่าเจ้า เจ้าคู่ควรหรือ พ่อของข้าคือหยุนเฉิงเซี่ยงคนปัจจุบัน และข้าก็ยิ่งเป็นถึงองค์หญิงที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่าบาท แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังต้องให้เกียรติข้า

เพียงแค่โทษที่เจ้าไม่ให้เกียรติและด่าว่าองค์หญิงคนปัจจุบัน ข้าก็สามารถลงโทษเจ้าด้วยวิธีห้าม้าแยกศพ หั่นเจ้าเป็นชิ้นๆแล้ว เจ้าเป็นเพียงฮูหยินระดับสอง ยังจะมีฐานะที่สูงศักดิ์กว่าข้าองค์หญิงผู้นี้อีกหรือ?

เห็นแก่หน้าของซื่อจื่อ ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า เจ้ายังคิดว่าข้ากลัวเจ้าจริงหรือ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร

หากเจ้าประพฤติตนเหมาะสมและปฏิบัติตนสงบเสงี่ยม เจ้าจะอาศัยอยู่ในจวนซื่อจื่อแห่งนี้ก็ไม่ว่า แต่หากเจ้าทำแบบนี้ ข้าก็จะให้คนโยนเจ้าออกจากจวนซื่อจื่อ และในชีวิตนี้เจ้าก็อย่าหวังว่าจะได้เข้ามาในเมืองหลวงอีกแม้แต่ก้าวเดียวเลย

อีกประเด็นหนึ่งก็คือ จวินหย่วนโยวไม่มีวันจากข้าไป ต่อให้หย่าก็เป็นข้าต่างหากที่หย่าเขา ชาตินี้เขาก็ไม่มีวันหย่าข้า

ข้าเป็นคนที่คิดแค้น และเกลียดคนอื่นมาเหยียดหยามและด่าว่าที่สุด เจ้าเจตนาก่อกวนเยี่ยงนี้หากไม่ลงโทษสักหน่อย ต่อไปข้าจะบริหารทั้งจวนซื่อจื่อได้อย่างไร” หยุนถิงมองดูนางอย่างเย็นชา

ฮูหยินหานกั๋วในขณะนี้อึ้งไปหมดเลย นางลืมไปได้อย่างไรว่า หยุนถิงเป็นบุตรีภรรยาหลวงของหยุนเฉิงเซี่ยง แถมยังเป็นองค์หญิงที่ฝ่าบาทแต่งตั้งขึ้นมา เมื่อครู่นางมัวแต่โอ้อวด ลืมไปเลยว่าหยุนถิงไม่ใช่หญิงสาวธรรมดาๆเหล่านั้น นางป็นคนที่ไม่สนอะไรสักอย่าง

“เจ้า เจ้าอยากจะยังไงกันแน่?” เสียงของฮูหยินหานกั๋วสั่นไหวเล็กน้อย

“ผู้ที่ล่วงเกินข้า ข้าจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว แถมจะเอาคืนร้อยเท่า โม่ฉือหานเป็นแบบนี้ เป่ยหมิงฉี่ก็เช่นเดียวกัน ชางเยว่หมิงก็ยิ่งไปใหญ่ ไท่จื่อและองค์ชายแคว้นอื่นๆข้ายิ่งไม่เห็นอยู่ในสายตา จะนับประสาอะไรกับเจ้าฮูหยินระดับสองธรรมดาๆคนหนึ่ง!” หยุนถิงกล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม โปรยผงหนึ่งในกำมือใส่บนตัวของฮูหยินหานกั๋ว

“เจ้า เจ้าทำอะไรกับข้า?” ฮูหยินหานกั๋วด้วยความตกใจ

หยุนถิงไม่ได้สนใจ เพียงเป่าผิวปาก

“ข้าไม่ปล่อย—–” ฮูหยินหานกั๋วยังพูดไม่จบ ก็เห็นงูหลายสีจำนวนมากเลื้อยมาในรอบๆลานไปทั่ว

งูเหล่านั้นกำลังโจมตีมาทางฮูหยินหานกั๋ว ฮูหยินหานกั๋วตกใจกลัวจนฉี่ใส่กางเกงในทันที นางไม่อาจสนได้แล้วว่าจะเสียหน้าหรือไม่ รีบวิ่งหนีหลบไปแล้วตะโกนขอความช่วยเหลือในทั่วลาน

แต่กลับไม่มีใครไปช่วยเลย ต่างก็รู้สึกนับถือซื่อจื่อเฟยยิ่งนัก

ทันใดนั้นก็มีงูใหญ่เท่าๆ พันรอบขาของฮูหยินหานกั๋ว ฮูหยินหานกั๋วก็ล้มลง และงูตัวอื่นๆ ทั้งหมดก็โจมตีมาในทันที

“ไปให้พ้น อย่ามาที่นี่ ใครก็ได้ ช่วยข้าด้วย จวินหย่วนโยวรีบมาช่วยข้า ข้าจะถูกงูพิษพวกนี้กินแล้ว!” ฮูหยินหานกั๋วร้องขอความเมตตาในทันที

แต่จวินหย่วนโยวก็ไม่ปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบ ทีนี้ฮูหยินหานกั๋วก็ตื่นตระหนกกลัวขึ้นมาทันที

“หยุนถิงเป็นเจ้า ต้องเป็นเพราะเจ้าโปรยของบางอย่างใส่ตัวข้าแน่นอน หญิ่งชั่วร้าย สมควรตาย เจ้าจะไม่ได้ตายดีแน่ ต่อให้เป็นผีข้าก็จะไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่!”

ในอดีต ทุกครั้งที่นางมา จวินหย่วนโยวก็มักจะต้อนรับด้วยความเคารพ และปฏิบัติกับนางด้วยความเคารพ ให้ตายเถอะ ทำไมวันนี้ก่อนออกจากบ้านไม่ให้คนมาสืบดูก่อน คราวหน้าต้องรอให้จวินหย่วนโยวอยู่บ้านถึงค่อยมา

งูเหลือมสีเขียวที่มีดวงตาเป็นรูปสามเหลี่ยมปรากฏขึ้น อ้าปากที่กว้างและพุ่งไปหาฮูหยินหานกั๋ว

“อ๊ะ!” เมื่อได้ยินเสียงกรีดร้อง ฮูหยินหานกั๋วก็เป็นลมไปเพราะความตกใจ

หยุนถิงมองดูมันอย่างเหยียดหยาม แล้วเป่าผิวปากอีกครั้ง และงูพิษเหล่านั้นก็สลายหายไปในพริบตา

“ซื่อจื่อเฟยท่านเก่งมากเลย ข้านับถือท่านเยี่ยงนัก ควรสั่งสอนฮูหยินหานกั๋วแบบนี้แหละ เพื่อให้นางรู้ว่าจวนซื่อจื่อไม่ใช่ที่ที่นางจะมากำเริบเสิบสานได้!” หลงเอ้อพูดอุทาน

“เอาล่ะ ให้คนส่งนางไปที่ห้องด้านข้าง ผู้มาเยือนคือแขก สองสามวันนี้ข้าต้อนรับนางดีๆสักหน่อย!” หยุนถิงตะคอกอย่างเย็นชา

“ขอรับ!” หลงเอ้อให้องครักษ์ยกคนไปทันที พร้อมกับส่งบ่าวรับใช้ชายและคนรับใช้ไปด้วย

องครักษ์คนหนึ่งมาจากด้านนอก “ซื่อจื่อเฟย มีจดหมายด่วนจากแคว้นเป่ยลี่ หลีอ๋องถูกเป่ยหมิงฉี่จับแล้ว โดยบอกว่าจะเจรจาสันติภาพกับแคว้นต้าเยียน เป็นจดหมายที่คุณหนูโม่เขียนมา”

หยุนถิงเลิกคิ้วขึ้น และทันใดนั้นก็เดาออกได้ว่าคงทำโดยโม่หลาน หยุนเสี่ยวลิ่ว และอีกคนแน่นอน

“ชื่อเทพเจ้าแห่งสงครามนี้ของหลีอ๋องนั้นก็ไม่สมกับคำร่ำลือยิ่งนัก แคว้นเป่ยลี่กำลังตกอยู่ในสภาพที่อันตราย แต่เขายังถูกจับกุมอีก น่าอาบอายยิ่งนัก ไม่ต้องสนใจ”

“ขอรับ!”