บทที่ 516 ยุ่งวุ่นวาย

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

หลังจากที่คนคนนั้นจากไป เจียงหยุนเอ๋อก็หมดแรงล้มลงไปกับเก้าอี้ คิดไปถึงคำพูดเมื่อกี้ของเขา เธอเองก็รู้สึกเหนื่อยใจ ถอนหายใจอย่างกลัดกลุ้มออกมา แล้วค่อยๆหลับตาลง เพื่อใช้ความคิด

ไม่นาน เรื่องนี้ก็รู้ไปถึงหูลี่จุนซินจนได้ เมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติ เธอจึงได้รีบมาที่ห้องทำงานของเจียงหยุนเอ๋อทันที ภาพที่เห็นตรงหน้าคือเจียงหยุนเอ๋อที่มีท่าทีที่อิดโรย

“เจียงหยุนเอ๋อ พี่ได้ยินว่าคนที่คุณปู่ติดต่อไปเขามาหาเธอแล้ว แล้วเขาพูดอะไร?”

เมื่อได้ยินเสียงของลี่จุนซิน เจียงหยุนเอ๋อก็ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วค่อยนั่งตัวตรง

“เขา……เขาบอกว่าที่เขายอมกลับมาก็เพราะเห็นแก่หน้าคุณปู่ ตอนนี้ร่างกายของคุณปู่ก็แย่ลงไปอีก อีกทั้งความสามารถของเราก็มีจำกัด เขาคิดทบทวนแล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะไปไม่อยู่เสียดีกว่า ”

“อะไรนะ?นี่น่ะเหรอคนที่คุณปู่ไว้ใจ ตอนนี้คุณปู่เกิดอุบัติเหตุ เขายังทรยศหักหลัง จะมากเกินไปแล้ว! คนแบบนี้ ไม่รู้ว่าคุณปู่คิดยังไงถึงคิดว่าเขาจะพึ่งพาอาศัยได้ !”

ลี่จุนซินตบไปที่โต๊ะอย่างแรง สีหน้าขุ่นเคืองและไม่พอใจ

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้คิดมากอะไรกับเรื่องนี้ เธอขยับริมฝีปาก แล้วฝืนยิ้ม เอ่ยพูดอย่างแผ่วเบาไปว่า “โบราณว่าไว้เมื่อต้นไม้ลมลิงกระจัดกระจาย ทุกคนต่างก็ต้องการมีอนาคตดีๆ ที่เขาทำมันก็ไม่ได้ผิดอะไร ต้องโทษที่เรารั้งเขาเอาไว้ไม่ได้ต่างหาก ”

“แต่เขาก็รู้ว่าสถานการณ์ของเราในตอนนี้เข้าขั้นวิกฤต แล้วเขาทำแบบนี้ได้ยังไง ? เขาไม่กลัวว่าหากคุณปู่หายดีแล้วจะมาคิดบัญชีย้อนหลังกับเขาหรือไง ? ”

สีหน้าของลี่จุนซินก็ดูแย่ขึ้นไปอีก

“สถานการณ์ของคุณปู่ในตอนนี้เราต่างก็รู้กันดี เขาเองก็ต้องรู้อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นหากเรารั้งคนของปู่เอาไว้ได้จริง แต่หากใจเขาไม่อยู่กับเรา แล้วเขาจะทุ่มเททำงานให้เราได้ยังไง ? เขาไปก็ดีแล้ว เราจะได้ไม่ต้องมานั่งเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ ไม่งั้นคงยิ่งแย่หนักเข้าไปอีกแน่ ” เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยพูดด้วยท่าทีที่เรียบเฉย

เมื่อได้ยินเช่นนี้แล้ว ลี่จุนซินก็พยักหน้าอย่างเห็นด้วย

“ที่เธอพูดมามันก็มีเหตุผล ในเมื่อเขาตัดสินใจที่จะไป เราก็ไม่จำเป็นต้องรั้งเขาเอาไว้ เพียงแต่เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นเราก็ต้องมาจัดการกันเอง แล้วคุณปู่ก็มาเป็นแบบนี้อีก ฉันกังวลใจจริงๆ !หากบริษัทยังไม่มั่นคงอยู่แบบนี้ เห็นท่าผู้ถือหุ้นเหล่านั้นคงได้มาหาเรื่องอีกเป็นแน่ !”

“มีฉันอยู่กับพี่ จะยังกลัวอะไรอีก ? วางใจเถอะค่ะ เราจะฟันฝ่าอุปสรรคนี้ไปด้วยกัน และรอจุนถิงกลับมาด้วยกัน ตอนนี้ฉันหวังอยู่อย่างเดียวขอให้คุณปู่หายเร็วๆ!ขอแค่คุณปู่อาการดีขึ้น ปัญหาที่เราเผชิญอยู่ก็จะบางเบาลงไปได้มาก”

เจียงหยุนเอ๋อถอนหายใจเล็กน้อย และพูดพึมพำเบา ๆ

กรอบรูปบนโต๊ะ มีรอยยิ้มของลี่จุนถิงที่ดูหล่อเหลา แต่ในสายตาของเจียงหยุนเอ๋อนั้นกลับดูหดหู่

……

ณ เฉินกั๋ว

วิลล่าที่ลึกลับและเงียบสงบ ชิงโม่กำลังจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังยืนรดน้ำดอกไม้อยู่ในสวนด้วยท่าทีที่ตื่นเต้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจ

หลังจากที่ได้เบาะแสจึงได้เดินทางมายังเฉินกั๋ว เขาตามหาที่อยู่ของลี่จุนถิงจากเบาะแสที่มี ด้วยความรู้สึกเป็นกังวล เขาดั้นด้นจากแดนไกลเดินทางมาถึงที่นี่ แล้วยังปลอมตัวเป็นคนรับใช้เพื่อให้ได้เข้าไปในวิลล่านี้ ในที่สุดก็ได้เจอลี่จุนถิงเสียที

เขาใช้เวลาอยู่หลายวันในที่สุดก็ได้เจอตัวลี่จุนถิง ชิงโม่ยากที่จะซ่อนอาการตื่นเต้นดีใจนี้เอาไว้ได้ ในจังหวะที่รอบตัวไม่มีใครอยู่ เขาก็รีบตรงเข้าไปในที่ที่ลี่จุนถิงยืนอยู่ทันที เอ่ยพูดด้วยความดีใจไปว่า :“ประธานลี่ ที่แท้คุณก็มาอยู่ที่นี่เอง! ในที่สุดผมก็หาคุณเจอสักที !คราวนี้ผมคงจะได้แจ้งข่าวดีกับท่านประธานและคุณนายได้รับทราบเสียที !”

พูดจบ เขาก็เดินก้าวไปข้างหน้าเพื่อที่จะกอดลี่จุนถิง แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือ ลี่จุนถิงขมวดคิ้ว แล้วผลักชิงโม่ออกไปอย่างแรง น้ำเสียงไม่พอใจพูดขึ้นมาว่า “คุณเป็นใคร ? ผมไม่น่าจะรู้จักคุณหรอกนะ ? คุณทำเหมือนรู้จักผมต้องการอะไรกันแน่ !”

เมื่อได้ยินดังนั้น ชิงโม่จ้องมองไปที่ลี่จุนถิงด้วยสายตาที่ตกตะลึง แต่ก็พบว่าดวงตาของเขาไม่มีแววความคุ้นเคยกับอดีตหลงเหลืออยู่เลย มีเพียงความประหลาดใจอยู่ลึกๆเท่านั้น ในใจกู่ก้องร้องดังขึ้นมาว่านี่มันไม่ใช่เรื่องดีแล้วแน่ๆ

เขาถามหยั่งเชิงไปว่า “ ประธานลี่ ผมคือชิงโม่ไง คุณจำผมไม่ได้เหรอ?”

“ชิงโม่?เราเคยรู้จักกันเหรอ ? ทำไมในความทรงจำของผมถึงไม่รู้สึกคุ้นเคยว่ามีคนคนนี้อยู่เลยล่ะ ?” คิ้วของลี่จุนถิงขมวดแน่น เขาพยายามนึก แต่ก็นึกอะไรไม่ออก

เมื่อเห็นลี่จุนถิงมีอาการปวดหัว ชิงโม่ก็เลิกคิ้วขึ้น เอ่ยถามไปอย่างไม่รู้ตัวว่า :“ประธานลี่ คงไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับการช่วยเหลือ คุณก็ความจำเสื่อม และลืมเรื่องราวก่อนหน้านั้นไปหมดแล้ว ?”

คำพูดของชิงโม่เรียกความสนใจของลี่จุนถิงได้ไม่น้อย เขาพยักหน้ารับ:“ใช่ ผมเคยได้รับบาดเจ็บมาก่อนนั้น และคู่หมั้นของผมก็เป็นคนช่วยผมเอาไว้ แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นผมลืมมันไปหมดแล้วจริงๆ เพราะฉะนั้นผมก็จำคุณไม่ได้ว่าคุณเป็นใคร ต้องขออภัยด้วย”

“อะไรนะ? ประธานลี่ คุณความจำเสื่อมจริงๆงั้นเหรอ ! โอ้แม่เจ้า แล้วอย่างนี้ผมจะแจ้งข่าวกับท่านประธานและคุณนายยังไงดี ? พวกเขาต่างก็รอคุณกลับไป !แต่คุณกลับสูญเสียความทรงจำและจำพวกเขาไม่ได้ คราวนี้คงได้ยุ่งวุ่นวายกันแน่ ”

ชิงโม่ขมวดคิ้ว และทอดถอนหายใจ

“ผมก็ใช่ว่าจะจำอะไรไม่ได้เลยสักทีเดียวหรอก ในความทรงจำยังมีภาพเงาบางอย่างปรากฏขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่แล้วผมก็ได้คำตอบ ว่าภาพเงานั้นเป็นคู่หมั้นของผมซูซาน ตอนนี้พวกเราสบายดี มีแต่คุณนั่นแหละ ที่เอาแต่พูดว่ารู้จักผม แต่ผมกลับไม่รู้สึกคุ้นเคยกับคุณเลย คุณเป็นใครกันแน่!”

ลี่จุนถิงนิ่วหน้า เอ่ยถามไปด้วยความสงสัย

“ผมคือชิงโม่ไง……”

“นายคนนั้น! ใช่ ฉันหมายถึงนายนั่นแหละ ! นายอู้งานเหรอ ทำอะไรอยู่ !ยังไม่รีบไปทำงานอีก !”

การปรากฏตัวของแม่บ้านขัดจังหวะการพูดของชิงโม่ เขาจ้องเขม็งไปที่ชิงโม่ ชิงโม่ก็ได้แต่มองไปที่ลี่จุนถิงด้วยสายตาละห้อย และหยิบอุปกรณ์ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมาแล้วไปทำงานโดยไม่มีท่าทีที่รีบร้อนอะไร

เมื่อมองไปที่ลี่จุนถิง สีหน้าของแม่บ้านก็เปลี่ยนไปทันที เขายกยิ้มแล้วพูดว่า :“ที่แท้คุณก็มาอยู่ที่นี่เอง คุณซูซานให้มาเชิญคุณ บอกว่ามีธุระจะคุยด้วยค่ะ”

“ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”

ลี่จุนถิงพยักหน้าเล็กน้อย เหลือบมองไปยังชิงโม่ที่อยู่ไม่ห่างด้วยความลังเลไปแวบหนึ่ง แล้วก้าวเดินออกจากสวน มุ่งตรงไปยังวิลล่า

เมื่อเห็นลี่จุนถิงเดินจากไป ดวงตาของชิงโม่ก็หมองหม่น สถานการณ์ในปัจจุบันของลี่จุนถิงเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน

ลี่จุนถิงผู้ซึ่งสูญเสียความทรงจำลืมหมดสิ้นแล้วทุกสิ่งทุกอย่าง รวมถึงเจียงหยุนเอ๋อด้วย แล้วแบบนี้เขาจะแจ้งข่าวกับตระกูลลี่ว่ายังไงดี ?

คิดไปคิดมา เขาตัดสินใจว่าจะขอดูสถานการณ์ไปก่อน ดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วคนที่ลี่จุนถิงเอ่ยพูดถึงที่ชื่อซูซานนั้นเป็นใครกัน เขามีความสัมพันธ์ยังไงกับลี่จุนถิงกันแน่

หากมีอะไรกันมากกว่านั้นจริง เรื่องนี้คงเป็นเรื่องยากที่จะรายงานให้เจียงหยุนเอ๋อได้รู้ เมื่อคิดว่าเรื่องราวจะยิ่งยุ่งวุ่นวายมากขึ้นไปอีก ชิงโม่ก็จับอุปกรณ์ที่อยู่ในมือแน่นขึ้น แอบถอนหายใจ ดวงตาฉายแววเป็นกังวล