บทที่ 517 เขาเกี่ยวข้องกับยาฉางตาน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 517 เขาเกี่ยวข้องกับยาฉางตาน

จู่ๆหลานเยาเยาก็อยากรู้มาก ว่าพระคุณเจ้าหยวนซูนี้เป็นคนอย่างไร

ทันทีที่มีความคิดนี้ออกมา ต่อมาเสียงที่อยู่ข้างกายก็ต้องทำให้ประหลาดใจ ราวกับว่าเขารู้สิ่งที่นางคิด

“พระคุณเจ้าหยวนเป็นคนปริศนา ไม่มีใครรู้ว่าเขามาจากที่ไหน รู้เพียงแค่ออกเดินทางไปทั่วมานาน แล้วก็ไปยังส่วนลึกของทะเลทราย

และก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร รู้เพียงแค่ว่าเขาเป็นพระคุณเจ้าที่บรรลุธรรมะ รู้วิชาการรักษา อาจจะเป็นผู้พิทักษ์ทะเลทราย ถึงแม้จะออกเดินทางมาหลายปี แต่ก็ไม่เคยไปไกลจากทะเลทรายมากนัก”

เมื่อพูดถึงพระคุณเจ้าหยวนซู นัยน์ตาของส้งเย่นกุยก็เป็นประกายเล็กน้อย

“ที่แท้ก็เป็นบุคคลปริศนาที่มีเรื่องราว”

เพียงแต่ว่าเมื่อเทียบกับความประหลาดใจของพระคุณเจ้าหยวนซูแล้ว ส้งเย่นกุยกลัวว่ายิ่งจะทำให้นางรู้สึกว่าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาๆขนาดนั้น

“ข้าก็เป็นแค่หมอคนนึง ไม่ได้มีเจตนาร้านต่อเทพธิดา เทพธิดามิต้องระแวง”

เดาสิ่งที่เธอคิดออกอีกแล้วรึ?

เป็นคนที่สามารถเข้าใจความคิดนางจริงๆ เขาจะฆ่าปิดปากไหมนะ?

ส้งเย่นกุยมองหลานเยาเยาอย่างแปลกประหลาด ปิดปากอย่างอายๆ มีความระมัดระวังอยู่ในดวงตา

ความคิดมันพลิกผันเกินไป เขาต้องค่อยๆ

“เจ้ารู้ว่าข้ากำลังคิดอะไรจริงๆ? อีกอย่างความภาคภูมิใจนี้ แปลกจริงๆที่ข้าไม่เกลียดเจ้า”

เมื่อครู่นางสงสัยเล็กน้อย แต่ตอนนี้มั่นใจแล้ว

เป็นหมอเหมือนกันก็พอแล้ว ตอนนี้แม้แต่นางคิดอะไรอยู่ก็รู้อีก หรือเขาจะรู้วิชาการอ่านใจคน?

ตอนที่อยู่หมู่บ้านฝันฮั๋ว นางไม่ได้รู้สึกว่าส้งเย่นกุยมีอะไรที่พิเศษ แต่ยิ่งพอเข้ามาในทะเลทราย นางก็ยิ่งมีความรู้สึกผูกพันธ์กับเขา

แน่นอนว่าความผูกพันนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องความรัก

ส้งเย่นกุยขบคิด ไตร่ตรองคำพูดสักพัก และเอ่ยขึ้นมาว่า:

“เป็นพระกรุณาที่เทพธิดาชอบ เป็นเกียรติของข้าจริงๆ”

“อา! ข้าไม่รู้เลยว่าหมอส้ง ส้งเย่นกุยที่ขี้อายไม่มีพิษมีภัย ก็มีด้านที่หยิ่ง หลงตัวเองด้วย”

การพูดคุยอย่างเต็มที่อิสระนี้ทำให้คนมีความสุข ก็เหมือนกับการพูดคุยกับคนรู้ใจ

“บางที……นี่ก็คือเจตนาเดิมของข้า เกิดมาก็เป็นเช่นนี้ เพียงแต่ผ่านเรื่องราวอะไรมา ก็ซ่อนเอาไว้ในใจ พอเข้ามาในทะเลทราย ถึงจะเพิ่งตื่นตัวขึ้นมาได้เท่านั้น”

เรื่องที่แอบเห็นความคิดของเทพธิดาได้นั้นเริ่มตั้งแต่ตอนไหนนะ?

ส้งเย่นกุยคิดไปสักพัก

ดูเหมือนว่าจะเป็นตอนที่หลังจากเดินออกมาจากหมู่บ้านฝันฮั๋ว และเขาหันกลับไปมองครั้งสุดท้ายครั้งนั้น หมู่บ้านฝันฮั๋วกลายเป็นซากปรักหักพังอยู่ในสายตา ถึงจะได้รู้ขึ้นมาในทันทีว่า หมู่บ้านฝันฮั๋วเป็นแค่เพียงภาพลวงตาในฝัน ราวกับว่าความทรงจำได้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และฝังเข้าไปในสมอง แต่พอนางมา ถึงจะสามารถทำให้เขาออกเดินออกจากดินแดนแห่งความฝันได้

“มีเจ้าพูดเช่นนี้ ในใจของข้าก็ยิ่งสงบ อย่างน้อยก็มีความหวังในการหายาฉางตานแล้ว”

ทั้งสองคนยืนบนเนินทรายอยู่นาน พอรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวทางด้านจื่อเฟิง ก็หมุนตัวกลับไป ถึงจะรู้ว่าเย็นหงฟื้นแล้ว นางรีบเดินไปทางจื่อเฟิง

มองเบื้องหลังของหลานเยาเยา ส้งเย่นกุยนักปราชญ์ผู้นอบน้อมมีสีหน้าอ่อนโยนเล็กน้อย พึมพำออกมาว่า:

“ดอกไม้เบ่งบานและโรยรา มีการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ภาพลวงตาในฝัน สุดท้ายก็คืออยู่คนละภพ เป็นข้าที่มาช้าไป เทพธิดาเจ้านายของข้า”

หลังจากที่เย็นหงตื่นมาถึงจะรู้ว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่

หลังจากรู้เรื่องราวที่ผ่านมาก็รู้สึกละอายใจ รู้สึกว่าตนเองทำให้เทพธิดาและผู้คุ้มกันเฟิงลำบาก เจตนาเดิมของนางก็เพียงแค่อยากจะติดตามร่วมเป็นร่วมตายกับเทพธิดา คิดไม่ถึงว่าจะมากลายเป็นภาระ

ใบหน้าจึงแดงก่ำด้วยความอับอายไปชั่วขณะ

จื่อเฟิงไม่พูดอะไร

แต่ยืนขึ้นมา และรักษาระยะห่างกับนาง

แต่เย่หลีเฉินย่อตัวลงมายองๆอยู่ครึ่งนึงตรงหน้านาง เสียงอ่อนลงเล็กน้อย

“แม่นางเย็นหง สถานการณ์อันตรายยากลำบากยังไม่พ้นไป อย่าดูถูกตัวเองและท้อถอยเลย เทพธิดาอยากเห็นความแข็งแกร่งของเจ้า ไม่ใช่ความอ่อนแอของเจ้า”

คาดว่าคงเคยหว่านเสน่ห์ใส่หญิงสาวไปทั่ว

สำหรับคำหลอกล่อหญิงสาว แค่เขาอ้าปากก็มาแล้ว เคยพูดว่าพวกนี้คือคำพูดปลอบให้หญิงสาวดีใจ ตอนนี้ก็พูดเช่นนี้เหมือนกัน ทั้งหมดทั้งมวลก็คือมีเจตนาดี

“ขอบพระทัยองค์ชายรัชทายาท ข้าน้อยเข้าใจแล้ว”

เมื่อเห็นหลานเยาเยาเดินมา เย็นหงที่ตัวสั่นก็ลุกขึ้น คำนับนางอย่างมีมารยาท

“ข้าน้อยขอบพระทัยเทพธิดา ที่มีบุญคุณช่วยชีวิตไว้!”

“ขอบคุณข้าทำไม? คนที่คว้าเจ้าออกมาจากทรายเหลืองคือองค์ชายรัชทายาท คนที่แบกเจ้าผ่านการล้อมโจมตีของกองทัพมดทะเลทรายคือจื่อเฟิง แต่คนที่ต้องของคุณที่สุดก็คือหมอส้ง เขาช่วยพวกเราไว้”

หลานเยาเยาพูดเบาๆ ไม่ได้มีความหมายถึงการตำหนิ แต่มีเสน่ห์ของการหยอกล้ออยู่ในนั้น

“ล้วนเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตข้าน้อย ข้าน้อยยอมเป็นวัวเป็นม้า แม้จะตายเป็นหมื่นครั้งก็ไม่ปฏิเสธ ขอขอบคุณทีละท่าน”

หลังจากหลานเยาเยาพยักหน้า เย็นหงก็ไปขอบคุณคนอื่น

เย่หลีเฉินขยับเข้าใกล้หลานเยาเยาเล็กน้อย มองส้งเย่นกุยที่อยู่ไกลๆด้วยท่าทางแปลกประหลาด พูดออกมาอย่างไม่ชัดเจนว่า

“เบื้องหลังเขาเป็นยังไง? มักจะรู้สึกว่าไม่เหมือนคนจริงๆ”

นี่คือความคิดในใจจริงๆของเขา เดิมเขาไม่อยากพูด แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้มองว่าหลานเยาเยาเป็นความช่วยเหลือจากภายนอกแล้ว เขาเชื่อว่าหลานเยาเยาน่าจะมองต้นสายปลายเหตุออก ดังนั้นจึงถามนางเพื่อคลายความสงสัย

ใครจะรู้……

“ไม่ว่าเขาคือใคร อย่างน้อยก็ไม่ได้ทำให้พวกเราตาย และยังช่วยพวกเราไว้ ค่อยๆมองไปทีละขั้นเถอะ!”

พอพูดประโยคนี้จบก็เห็นเย่หลีเฉินงงงวยเล็กน้อย นางจึงเสริมขึ้นมาอีกประโยคว่า

“ข้ารู้สึกว่าเขาเกี่ยวข้องกับยาฉางตาน”

แน่นอนว่านางไม่ได้พูดเรื่องที่ส้งเย่นกุยอ่านใจนางได้ออกมา

เพราะมันจะน่าตกใจเกินไป และตอนนี้เย่หลีเฉินก็มองว่านางเป็นของตัวเองไปแล้ว จากที่มีประสบการณ์เคยเห็นความแข็งแกร่งของเย่หลีเฉินที่ออกหน้าเพื่อหลานชิวหยุนแล้ว เกรงว่าถ้าพูดออกไป เย่หลีเฉินจะให้ท้ายลูกตัวเอง และตั้งแง่กับส้งเย่นกุย

จะมีความกังวลในการเอาชีวิตรอด

อย่างไรเสีย ส้งเย่นกุยก็ประหลาดเกินไป เย่หลีเฉินทำได้ไม่เท่าเขา

ทันทีที่คำพูดออกไป

ดวงตาของเย่หลีเฉินก็งงงัน ราวกับจมอยู่ในความคิดของตัวเองอยู่สักพัก แล้วค่อยพยักหน้าเห็นด้วยอย่างผิดปกติ

“พูดได้มีเหตุผล แต่เจ้าต้องระวังเขาใช้กำลังทุบตีเจ้า ข้ารู้สึกว่าเขามีเจตนาร้ายต่อเจ้า”

โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในหมู่บ้านฝันฮั๋ว สายตาที่ส้งเย่นกุยมองหลานเยาเยา ดูกระมิดกระเมี้ยน ดูแว็บแรกก็คือวัยรุ่นที่มีความรัก มีความคิดที่ไม่ดีต่อนาง

พอเข้ามาทะเลทราย สายตาก็กำเริบเสิบสาน ชำเลืองมองหลานเยาเยา สายตาแบบนั้นดูเหมือนกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดมาก

ตอนนี้เขากับหลานเยาเยาเป็นเพื่อนกัน ผ่านการร่วมเป็นร่วมตายกัน

เขารู้ความคิดของตัวเองดี

แต่ก็รู้ว่าระหว่างเขาและนางนั้นเป็นไปไม่ได้

อย่างไรเสียก็ยังมีเสด็จอาที่งดงามราวเทพบุตรอยู่ ซึ่งเป็นคนที่สำคัญที่สุดของหลานเยาเยา

เพื่อตัวเอง และเพื่อเสด็จอา เขาต้องดูส้งเย่นกุยให้ดี ป้องกันไม่ให้เขาเอาเสด็จอาสะใภ้ตนเองไป!

“ไม่เป็นไร ข้ารู้ว่าจะทำอย่างไร!”

ปัญหาตอนนี้ ไม่ใช่ว่าควรหรือไม่ควรกั้นส้งเย่นกุย แต่ควรต้องพิจารณาปัญหาอาหารและน้ำของพวกเรา

ในร่างกายตอนนี้มีแต่น้ำหนึ่งขวด พวกเขาทนได้ไม่ถึงสามวัน

จำเป็นต้องหาโอเอซิสให้เจอ

หรือว่า……

รอจนระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บเปิด

แต่ก็น่าแปลก หลังจากที่ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของนางปิดตั้งแต่ตอนอยู่ที่หมู่บ้านฝันฮั๋ว ก็ไม่สามารถเปิดเองอัตโนมัติได้อีก และนางก็ค่อยๆไม่รู้สึกถึงการมีอยู่ของระบบ

นี่ทำให้นางไม่สบายใจมาก

แต่ความไม่สบายใจนี้ก็อยู่ได้ไม่นาน นางกลับพบความสบายใจได้จากส้งเย่นกุย เหมือนกับว่านางอยากทำอะไร ส้งเย่นกุยก็จะทำในสิ่งที่นางต้องการ

ความรู้สึกแบบนี้ทั้งคุ้นเคย และก็ทั้งแปลก แต่เป็นความเชื่อใจแบบไม่มีเหตุผล

ราวกับว่าแม้คนทั้งโลกจะหักหลังนาง แต่ส้งเย่นกุยจะไม่……

แน่นอนว่า!

ความเชื่อใจแบบนี้ ไม่ได้เกี่ยวกับความรักเหมือนกัน