บทที่ 483 โดนสงสัย

บทที่ 483 โดนสงสัย

ต้นเหตุของเรื่องคือโต๊ะจีนในวันนี้

เพราะเสี่ยวเถียนพาแขกไปที่หออีหมิง โต๊ะจีนที่เตรียมไว้จึงจัดไว้ให้แขกจากเมืองตะวันออก

หัวหน้าเหลียงพาแขกไปร้านเป็ดย่าง

ต้องบอกเลยว่า ถึงรสชาติจะไม่ได้ดีเท่าหออีหมิง แต่ก็เป็นร้านที่เก่าแก่และมากความสามารถ

แขกจากเมืองตะวันออกเอาแต่ชมอาหาร แถมยังพูดซ้ำ ๆ ว่าโรงงานผ้าไหมฉี่ลี่สุภาพกับพวกเขาเกินไป กินที่โรงอาหารของโรงงานก็พอแล้ว

หัวหน้าเหลียงมีความสุขมาก และรู้สึกมีหน้ามีตาขึ้นมา

แต่ใครจะรู้เล่าว่ามีแขกคนหนึ่งที่กินอาหารเข้าไปแล้ว จู่ ๆ ก็เอามือกุมท้องแล้วบอกว่ารู้สึกไม่ค่อยดี

ตอนแรกทุกคนไม่ได้สนใจนัก คิดว่าอีกฝ่ายคงไปกินอะไรที่ทำให้ท้องเสียมา

แต่หลังจากที่ส่งคนคนนั้นไปโรงพยาบาล สิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง

แขกคนอื่นก็เริ่มอาเจียนและท้องเสียเหมือนกัน

หัวหน้าเหลียงคิดว่าคงเพราะท้องไม่ชิน จึงพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการโดยพลัน แต่ไม่คิดว่ายังทำงานไม่ทันเสร็จ เขาก็ล้มลงเสียแล้ว

แม้แต่คนติดตามทั้งสองก็ยังไม่เว้น

สรุปแล้วก็โดนกันทั้งโต๊ะ

สถานการณ์นี้เป็นที่สนใจแก่แพทย์ในโรงพยาบาลมาก พวกเขาทำการตรวจอย่างเป็นระบบและกระทำอย่างเร่งรีบ

จากนั้นก็พบว่าอาหารเป็นพิษ

หัวหน้าเหลียงที่ได้ข้อสรุปมาแทบไม่อยากจะเชื่อ

อาหารก็ปรุงสุกใหม่ทุกจาน แล้วจะเกิดอาหารเป็นพิเศษได้ยังไง?

เขาถึงกับทะเลาะกับหมอด้วยซ้ำว่าผลตรวจผิด แต่มันก็ชี้ชัดว่าอาหารเป็นพิเศษจริง ๆ

ส่วนสาเหตุเกิดจากอะไรนั้นยังไม่มีการยืนยัน

ในช่วงเวลาคับขัน กลับไม่มีใครในโรงงานที่สามารถรับมือได้

เลขาของผู้อำนวยการฉือพยายามติดต่อเขาแล้ว และส่งคนอื่น ๆ ไปตามหาด้วยซ้ำ แต่คนเยอะขนาดนี้จะไปหาเจอได้ยังไง?

เพราะไม่มีทางเลือกอื่น เลขาจึงต้องจำใจไปหาผู้อำนวยการหม่า

แต่มันก็ก็ยุ่งเหยิงอยู่ดี

เพราะอีกฝ่ายบอกว่าตนลาป่วย แถมเรื่องเหล่านี้ก็อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาด้วย

ตอนที่ฉืออวี้เลี่ยงและหลี่ว์หรูหยาได้ยินข่าว ก็พลันเหงื่อแตกพลั่ก

อาหารเป็นพิษ?

จะเป็นไปได้อย่างไร?

นั่นเป็นอาหารจากร้านอาหารของรัฐเลยนะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องความสะอาดสิ?

“ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?” หลี่ว์หรูหยาเปลี่ยนเสียงแล้วกระซิบถาม

“เพราะเราไม่เจอพวกท่านทั้งสอง จึงขอให้อาจารย์ฮั่วมาดูแลสถานการณ์ก่อนครับ ตอนนี้เขาอยู่ที่โรงพยาบาล”

ผู้นำทั้งสองวิ่งไปยังโรงพยาบาลอย่างไม่คิดชีวิต ลืมแม้กระทั่งความเหน็ดเหนื่อยด้วยซ้ำ

ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกเขาต้องปลอบประโลมแขกจากเมืองตะวันออก

ถึงพวกเขาจะไม่สำคัญเท่ากับแขกชาวเยอรมัน แต่จะโดนโยนลงเตียงผู้ป่วยแบบนี้ไม่ได้นะ!

เรายังต้องร่วมมือกันอีกในภายภาคหน้า หากเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา นี่ถือเป็นการโจมตีโรงงานผ้าไหมฉี่ลี่เลยนะ!

พวกเขามาถึงในสภาพหมดลม คนแรกที่เห็นคือ ฮั่วซือเหนียน ชายตัวสูงและใบหน้าหล่อเหลา

วันนี้อีกฝ่ายสวมเสื้อกันลมยืนอยู่ตรงทางเดินของโรงพยาบาล ข้าง ๆ มีตำรวจสองนายยืนอยู่ด้วย

ไม่รู้ว่าคุยอะไรกัน แต่สีหน้าจริงจังมาก

แค่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ฉืออวี้เลี่ยงและหลี่ว์หรูหยาก็รู้แล้วว่า เรื่องนี้เราควรจะจริงจังด้วย!

“อาจารย์ฮั่ว เกิดอะไรขึ้นครับ? ทำไมถึงต้องแจ้งตำรวจด้วยล่ะ?” ผู้อำนวยการหลี่ว์ถามออกไปตรง ๆ

ฮั่วซือเหนียนขมวดคิ้ว ขณะที่มองคนทั้งสองอย่างมีความหมาย

จากนั้นก็เอ่ยกับทางตำรวจ “สหายสองคนนี้คือผู้อำนวนการฉืออวี้เลี่ยงและรองผู้อำนวยการหลี่ว์หรูหยาครับ ถ้ามีเรื่องอะไรไม่เข้าใจ ถามพวกเขาได้เลยครับ”

จากนั้นตำรวจทั้งสองนายก็ทำความเคารพ “วันนี้เรามีข้อสงสัยหลายจุดที่อยากคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลังจากที่สหายฮั่วซือเหนียนรายงานคดี พวกเราจะต้องจัดการและสืบสวนทันที ตอนนี้ขอให้พวกคุณทั้งสองให้ความร่วมมือในการสอบสวนด้วยครับ”

พวกเขาตะลึงงัน ไม่รู้อะไรสักนิด แล้วจะร่วมมือได้ยังไง?

“สหาย พวกเรารีบร้อนมาหา แต่ไม่รู้อะไรเลยนะ เรามาเยี่ยมแขกที่มาจากเมืองตะวันออกครับ”

“โปรดให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของเราด้วย!” ตำรวจทั้งสองพูดอย่างจริงจัง

แต่ผู้อำนวยการทั้งสองอยากจะปกป้องตัวเองด้วยการไปเยี่ยมแขก แต่ตำรวจก็ยืนกรานว่าจะพาพวกเขาไปที่สถานีตำรวจให้ได้

เราจึงไม่มีทางเลือกนอกจากตามไปด้วย

การเดินทางครั้งนี้ใช้เวลาอีกสองชั่วโมง

แม้แต่ในสถานีตำรวจ พวกเขาแทบไม่สามารถอธิบายได้ว่า ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนร้านอาหารอย่างกะทันหัน แทนที่จะใช้ร้านที่สงวนไว้แต่เดิมเพื่อรับรองแขกจากเมืองตะวันออก

เห็นได้ชัดว่าน่าสงสัยมาก

ทำผิดขนาดนี้ แถมยังเป็นคนใหญ่โตอีก จะโกหกกันได้เชียวหรือ?

แต่ร้านที่เราจองไว้ก็เพื่อรับรองแขกจากเมืองตะวันออกนะ ทว่าตอนนี้มันกลับเกิดเรื่องขึ้นมาแล้ว ต่อให้โดนปิดปากก็บอกอะไรไม่ได้เลยอยู่ดี

แต่คงไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาไม่เกี่ยวใช่ไหมล่ะ?

สรุปแล้วกว่าจะออกจากสถานีตำรวจมาก็ปาไปเที่ยงคืน

แต่พวกเขายังพักผ่อนไม่ได้และต้องไปโรงพยาบาล เพื่อปลอบโยนแขกจากเมืองตะวันออก

ส่วนทางแขกก็ไม่คิดว่าพอมาถึงเมืองหลวงก็เจอเรื่องเลย

ชีวิตนี้คงไม่คิดจะกินเป็ดย่างในเมืองหลวงอีกแล้ว แค่นึกถึงก็กลัวจนตัวสั่น

ทำไมกันนะ?

ได้แต่คิดว่าอะไร ๆ ก็ไม่ง่ายเลย ต้องมีการวางแผนไว้แล้ว

คิดไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าเพิ่งจะมาถึงแท้ ๆ แล้วทำไมเกือบโดนฆ่าได้ล่ะ?

เราตั้งใจมาเยี่ยมชมและคิดวางแผนกับทางโรงงานผ้าไหมฉี่ลี่ เพื่อบรรลุความร่วมมือกันในขั้นพื้นฐานนะ แถมยังได้ประโยชน์ร่วมกันด้วย

งั้นทำไมทางโรงงานถึงลงมือกับเราล่ะ?

ด้วยความสงสัย ทันทีที่ผู้อำนวยการทั้งสองมาที่วอร์ด แขกจากเมืองตะวันออกไม่มองหน้าด้วยซ้ำ

ทั้งยังแสร้งเป็นหลับใส่ด้วย

ใครจะทนมองได้ล่ะ พวกเขาเป็นฝ่ายผิดแท้ ๆ?

ผู้อำนวยการทั้งสองอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นาน แต่เพราะเหนื่อยมากเลยต้องกลับ

พรุ่งนี้มีสิ่งที่สำคัญกว่าที่ต้องทำ เรื่องแขกจากเมืองตะวันออก พวกเราทำได้เพียงอธิบายให้พวกเขาฟังในคืนพรุ่งนี้

เสี่ยวเถียนไม่รู้เลยว่าทางโรงงานผ้าไหมฉี่ลี่เกิดเรื่อง

แถมยังไม่รู้อีกว่า ความตั้งใจที่พาพวกคริสติน่ามาที่หออีหมิงกลับส่งผลให้พวกเขารอดชีวิต

ถ้าอาหารพวกนั้นไม่ได้แขกจากเมืองตะวันออกกิน แต่เป็นพวกคริสติน่าแทน เรื่องนี้อาจเปลี่ยนเป็นเหตุการณ์ทางการทูตด้วยซ้ำ

เมื่อมีนักธุรกิจต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง ปัญหาจะร้ายแรงยิ่งกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ทางประเทศวางแผนที่จะดึงการลงทุนจำนวนมากจากต่างชาติเข้ามา ไอ้เรื่องอาหารเป็นพิษที่เกิดกับนักธุรกิจพวกนี้คงรับมือได้ยากแน่

พอถึงตอนนี้ ทางโรงงานคงไม่สามารถแบกรับความรับผิดชอบไว้ได้

โดยเฉพาะคนอย่างฉืออวี้เลี่ยงและหลี่ว์หรูหยา อาจเป็นมหันตภัยเลยก็ว่าได้