บทที่ 486 ถามข่าวคราวของเจียงหย่วน

ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย

บทที่ 486 ถามข่าวคราวของเจียงหย่วน

บทที่ 486 ถามข่าวคราวของเจียงหย่วน

ซุนซื่อร้อนรนกระวนกระวาย เอ่ยปลอบใจกู้ซินเถาอย่างรีบร้อน “เจ้าอย่าร้อนใจไป อย่าเพิ่งร้องไห้ ร้องไห้จนตาแดงไม่สวยแล้ว วางใจเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะไถ่ถามที่ตระกูลเจียง ถามว่าเจียงหย่วนผู้นั้นจะกลับมาเมื่อใด”

ซุนซื้อต้องการถามถึงสถานการณ์ของเจียงหย่วนให้แน่ชัด นางต้องการทราบว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง ลูกสาวของตนถูกเจียงหย่วนทิ้งขว้างไว้ที่นี้

ครั้นกู้ซินเถาได้ยินสิ่งนี้ หยาดน้ำตาหยุดชะงัก “จริงหรือท่านแม่?”

ซุนซื่อพยักหน้าเร็วรี่ “แน่นอนอยู่แล้ว! เจ้าเด็กโง่ ข้ามองเจ้าตอนนี้ หัวใจของข้าเจ็บปวดรวดร้าวจนแทบทนไม่ไหว!” นางชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่ปิดบัง “เจียงหย่วนผู้นั้นไม่ได้เรื่องเสียเหลือเกิน ลูกสาวของข้าเพียบพร้อมเพียงนี้ เขายังไม่ต้องการอีก จะไปก็ไม่ปริปากบอกกันสักคำ อย่างน้อยก็น่าจะบอกลูกสาวข้าสักคำ!”

ซุนซื่อใช้ผ้าเช็ดคราบน้ำบนใบหนัาของกู้ซินเถาอย่างสงสาร ยามนางได้ยินถ้อยคำของผู้เป็นมารดาก็พลันยิ้มทั้งน้ำตา

“ขอบคุณท่านแม่” ใบหน้าของกู้ซินเถาฉาบด้วยความเขินอาย

ภายใต้แสงเทียนสลัว ใบหน้าของกู้ซินเถาแปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย

เจียงหย่วน ฉินเย่จือ

พวกเขาทั้งสองคน จะต้องเป็นของข้า!

หากข้าไม่ต้องการ ก็ย่อมเป็นข้าที่สลัดพวกเจ้าทิ้ง ไม่ใช้ให้พวกเจ้ามาทิ้งข้าเยี่ยงนี้!

แววตาของกู้ซินเถาฉายแววมาดร้าย สายตามองไปยังแสงเทียนสลัว

…….

เช้าวันรุ่งขึ้น ซุนซื่อตรงปรี่ไปยังตระกูลเจียง รออยู่เนิ่นนานก็มีเด็กรับใช้ของตระกูลออกมาเทของเสีย

“น้องชาย เจ้าช้าก่อน!”

ซุนซื่อไม่สนว่ามันจะทั้งเหม็นและสกปรก กลับกุลีกุจอเรียกเด็กรับใช้ผู้นั้นไว้

ครั้นเด็กรับใช้เห็นว่ามีคนเรียกตนเองก็พลันรู้สึกไม่เป็นสุข เขาหันศีรษะไปมองซุนซื่อ อาภรณ์บนร่างกายหญิงผู้นี้มิได้มีราคาสูง น่าจะไม่ใช้ฮูหยินตระกูลร่ำรวย

ทว่า… จงใจมารออยู่หน้าประตูบ้านตระกูลเจียงเช่นนี้ ต้องไม่ใช่แขกของตระกูลเจียงอย่างแน่นอน

เด็กรับใช้ผู้นั้นคิดถึงเรื่องนี้พลางเอ่ยถามอย่างเหยียดหยาม “เจ้ามีเรื่องอันใดหรือ?”

ซุนซื่อไม่สนใจใบหน้าหยิ่งผยองของอีกฝ่าย เวลานี้นางต้องการรู้ข่าวคราวของเจียงหย่วนอย่างเร็วที่สุด และไม่รู้ว่าคนผู้นี้จะรู้หรือไม่ ตนเองรอมานานขนาดนี้แล้วเพิ่งได้เจอกับคนผู้นี้ บางทีเขาอาจจะเป็นคนของจวนตระกูลเจียง

การคาดเดาของซุนซือนั้นถูกต้อง เด็กรับใช้คนนี้เป็นช่างซ่อมบำรุงของตระกูลเจียง เพียงแต่ว่า เขามักจะทำงานหยาบ ๆ อยู่ข้างนอก แม้แต่ห้องของเจียวหย่วนยังไม่อาจย่างก้าวเข้าไปได้

“น้องชาย เจ้ารู้หรือไม่ว่านายน้อยของเจ้าตอนนี้เป็นเยี่ยงไร? แล้วอยู่ที่ใด!” ซุนซื่อถามด้วยรอยยิ้ม

แต่เมื่อเด็กรับใช้เห็นรอยยิ้มลังเลไม่เต็มใจบนใบหน้าของอีกฝ่าย จึงถามกลับว่า “เจ้าคือผู้ใดกัน กล้าดีอย่างไรถามถึงนายน้อยของพวกเรา!” เขากล่าวพลางมองซุนซืออย่างเย็นชา เตรียมหมุนกายเดินจากไป ทว่าปากยังสบถวาจาไม่น่าฟัง

ซุนซื่อรุดขึ้นหน้ากระชากเด็กรับใช้ผู้นั้นไว้ หยิบเศษเงินออกมาจากยัดลงในมือของเขา “น้องชายทำงานเหนื่อยเกินไปแล้ว เก็บไว้กินเหล้าเถอะ!”

เด็กรับใช้ชำเลืองมองเงินในมือของตนเอง อารมณ์ดีขึ้นมาเล็กน้อย กระตุกยิ้มแล้วเก็บเงินมา ท่าทางหยิงยโสเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเคารพและเอ่ยอย่างนอบน้อม “ฮูหยิน มีเรื่องใดโปรดถามมาเถิด”

ซุนซื่อเห็นทัศนคติของอีกฝ่ายพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ แม้จะเสียดายเงินนั้น แต่ว่าท่าทางของเด็กรับใช้ตอนนี้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ถ้าหากได้รู้ข่าวเกี่ยวเจียงหย่วนก็รู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปคุ้มค่าแล้ว

“น้องชาย ข้าเพียงอยากถามว่า ตอนนี้นายน้อยของเจ้าอยู่ที่ใด?” ซุนซื่อถามอย่างกังวล

“ไม่ปิดบังฮูหยิน นายน้อยของพวกเราอยู่ที่เมืองหลวง!” เด็กรับใช้ตอบ

“เมื่อใดนายน้อยเจียงจะกลับมา เจ้ารู้หรือไม่?”

“ข้าเป็นเพียงเด็กรับใช้ผู้ต่ำต้อย เรื่องนั้นข้าไม่รู้หรอก แต่ว่า…” ช่างซ่อมบำรุงคนนั้นพลิกลิ้นพลางกลอกตา ดูเหมือนจะคิดบางอย่างได้ “ข้าได้ยินคนในบ้านกล่าวว่า นายท่านกับฮูหยินส่งจดหมายหลายฉบับให้นายน้อย โดยหวังว่าจะให้เขากลับมาโดยเร็ว นายท่านกับฮูหยินรีบร้อนเพียงนี้ นายน้อยของพวกข้าคงจะกลับมาเร็ว ๆ นี้แน่”

สิ่งที่เด็กรับใช้คนนี้พูดล้วนเป็นข่าวดี

ใบหน้าของซุนซื่อมีความสุขและเหลือบมองที่เด็กรับใช้อย่างซาบซึ้ง “ขอบคุณน้องชาย แล้วนายน้อยเจียงกำลังทำอะไรอยู่ในเมืองหลวงหรือ?”

“ทำสิ่งใดงั้นหรือ? นายน้อยเจียงของพวกเรามีทรัพย์สมบัติมากมายที่นี่ เขายังต้องทำสิ่งใดอีก?” เด็กรับใช้งงุนงง

หลังจากได้ยินเรื่องนี้ ซุนซื่อพยักหน้าและพูดอย่างประจบสอพลอ “ใช่ ๆ ตระกูลเจียงเป็นหนึ่งในตระกูลที่มั่งคั่งที่สุดในเมืองหลิวเจีย แม้ว่าจะไม่ทำสิ่งใด เงินและสมบัติก็ยังใช้ไปได้อีกหลายชั่วอายุคน”

เด็กรับใช้คิดจะรีบกลับไปทำความสะอาดห้องน้ำ หากไปสายเพียงนิดเดียว เขาจะได้ต้องออกมาเทน้ำสกปรกอีกครั้งแน่ จึงไม่อยากเสวนากับซุนซื่อและเอ่ยอย่างรำคาญ “เจ้าไม่มีอะไรแล้วใช่หรือไม่ หากไม่มี ข้าจะไปแล้ว!”

หลังจากพูดจบ โดยไม่ต้องรอคำตอบจากซุนซื่อ เด็กรับใช้คนนนั้นก็ยกถังมูลสัตว์ตรงหน้าเขาเข้าไปในบ้าน แล้วประตูก็ปิดลงอย่างช้า ๆ

หากต้องรอให้ประตูถูกเปิดอีกครั้ง ก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าจะต้องรอถึงเมื่อใด

ซุนซื่อคร่ำครวญถึงคำพูดของเด็กรับใช้คนนั้นในใจ แต่ว่าเขาได้หายไปแล้ว

“น้องชาย…” ซุนซื่อคิดอะไรบ้างอย่างขึ้นมาได้และอยากจะถามเด็กรับใช้คนนั้นอีกครั้ง ครั้นเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าประตูปิดสนิท เกรงว่าเขาจะจากไปแล้ว

ซุนซื่อหงุดหงิดงุ่นง่าน เงินเกือบครึ่งตำลึงได้รับเพียงข่าวคราวเล็ก ๆ น้อย ๆ มันไร้ค่าเหลือเกิน

แต่ไม่มีทางเลือก ประตูถูกปิดสนิท นางไม่สามารถพังประตูเข้าไปหาคนผู้นั้นได้

ซุนซื่อทำได้เพียงเก็บง่ำความทุกข์ และกลับบ้านไปพร้อมกับข้อมูลบางอย่าง

กู้ซินเถาที่อยู่ภายในห้อง นางเดินวนไปมาดั่งหนูติดจั่นรอข่าวคราวจากซุนซื่อ

ตอนที่ซุนซื่ออยู่ข้างนอก ใบหน้าของนางยังเศร้าโศก เจียงหย่วนจะกลับมาวันไหนนางยังไม่รู้จริง ๆ

จดหมายของฮูหยินและนายท่านตระกูลเจียงบอกให้เขากลับบ้าน หากแต่เขายังไม่กลับมา

ฮึ…

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

นายน้อยเจี่ยงคงจะไม่กลับมาหาหล่อนแล้วล่ะกู้ซินเถา ทุกคนคิดเหมือนกันไหมคะ?

ไหหม่า (海馬)