ลู่โจวเหลือบมองไปที่ด้านล่างของเกาะลอยฟ้าในตอนนี้ตัวเขากำลังจดจ่ออยู่กับการควบคุมพลังฝ่ามือขนาดใหญ่อยู่ พลังวิเศษที่ออกมาจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์เป็นพลังที่ทำให้ทุกคนต้องเหลือบตามอง ลู่โจวมองเห็นสีหน้าตกตะลึงของทุกๆ คนในขณะที่เหลือบมองมาที่ตัวเขา
หลายคนนั่งตัวสั่นอยู่บนพื้นด้วยความกลัวและยังมีอีกหลายคนที่เลิกคิดต่อต้าน
ลู่โจวไม่มีเวลามีเหลียวดูคนแถวนี้อีกต่อไปตัวเขายังคงโอบอุ้มเกาะลอยฟ้าให้ยกสูงขึ้น
ครืดด!
พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ได้ยกเกาะลอยฟ้าให้สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า100 เมตร
เมื่อใจกลางเกาะลอยขึ้นสู่ตำแหน่งเดิมเสียงร้องของใครบางคนก็ได้ดังขึ้น มันเป็นเสียงที่ฟังดูเกรี้ยวกราดและมีความสุขในเวลาเดียวกัน
นายหญิงแห่งเกาะเผิงไหลไม่อาจที่จะระงับความสุขที่เอ่อล้นเข้ามาในหัวใจของนางได้หลังจากที่นายหญิงหวางกลับมาได้สติ นางก็เผลอหลั่งน้ำตาออกมา
ในตอนนั้นเองหยวนเอ๋อก็ได้ลืมเรื่องของธิดาหอยสังข์ไปชั่วขณะนางจ้องมองไปที่ผู้เป็นอาจารย์ของตัวเองกำลังโอบอุ้มทั้งเกาะด้วยมือข้างเดียวแทน “ท่านอาจารย์…”
บนท้องฟ้าเหนือระดับน้ำทะเลกว่า100 เมตร
พลังฝ่ามือของลู่โจวยังคงโอบอุ้มเกาะลอยฟ้าอยู่ในตำแหน่งเดิมแต่ในตอนนี้พลังวิเศษที่ตัวเขามีมันใกล้ที่จะหมดลงเต็มที ลู่โจวไม่ได้สนใจทุกคนที่เหลือบมองมายังตัวเขาเลย ในขณะที่ยังเหลือพลังวิเศษอยู่ ตัวเขาควรจะเก็บสะสมพลังที่ยังมีไว้รับมือกับศัตรูที่ยังเหลืออยู่ดีรึเปล่า นี่เป็นสิ่งที่ลู่โจวคิดลังเลอยู่ภายในใจ
ครืดด!
เกาะลอยฟ้าสั่นสะเทือนพลังฝ่ามือที่โอบอุ้มเกาะเริ่มหดตัวลง!
เมื่อเห็นแบบนั้นหยวนชงก็สะดุ้งด้วยความตกตะลึง ตัวเขาอุทานออกมาด้วยความยินดี “ไม่เสี่ยงย่อมไม่ได้ผลตอบแทน! สุดท้ายแล้วข้าจะต้องเป็นผู้ชนะแต่เพียงผู้เดียว!”
ตู๊ม!
หยวนชงได้พุ่งตรงไปราวกับลูกศรที่ถูกยิง
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายต่างก็ตื่นตระหนกกับการเคลื่อนไหว
ไม่เสี่ยงย่อมไม่ได้ผลตอบแทน!
ยอดฝีมือทั้งหลายต่างก็เริ่มเคลื่อนไหวพร้อมๆกัน
คนอื่นๆต่างกลับมาโจมตีผู้ฝึกยุทธผู้ใช้ร่มจากเกาะเผิงไหลต่อ จนถึงตอนนี้ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องตายจากการต่อสู้
อันที่จริงหลายคนหวังที่จะให้ปลาแห่งท้องทะเลอย่างหลัวยูทำลายน่านน้ำให้มากกว่านี้เมื่อเกิดปัญหาและความวุ่นวายขึ้น มันก็ย่อมที่จะก่อความวุ่นวายและใช้ความรุนแรงได้มากขึ้น เป็นธรรมดาที่จะมีหลายคนไม่อยากเดิมพันชีวิตของตัวเอง แต่ถ้าหากถูกกระตุ้นด้วยสิ่งของมีค่าหรือสิ่งที่หมายตาแล้ว หลายคนก็เลือกที่จะเข้าสู่การเดิมพันนี้
หม่าชิงมองไปที่สนามรบที่วุ่นวายก่อนที่จะส่ายหัว“บ้าไปแล้ว นี่มันบ้าชัดๆ !”
หลี่จิงยี่บินมาพร้อมกับร่มของนางในมือร่มในอากาศได้ปล่อยพลังงานที่หนาแน่นออกมา มันคือเคล็ดวิชาวิหคสีเขียวของเกาะเผิงไหลนั่นเอง
ในตอนนั้นเองผู้ฝึกยุทธประมาณ5 คนได้เรียกพลังอวตารของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะพุ่งไปยังด้านล่างของเกาะลอยฟ้า
วู่วว!
“หลัวยู”
หลัวยูขยับตัวท่ามกลางเกลียวคลื่นมันกำลังลอยตัวขึ้นมาโดยสร้างกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวไปด้วย
ธิดาหอยสังข์กำลังขี่หลังของหลัวยูอยู่แม้ว่าจะอยู่บนหลังของมันแต่นางก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอะไร สาวน้อยเป็นผู้กระตุ้นให้หลัวยูบินขึ้นมาก่อนที่จะกางปีก หลัวยูได้กางปีกก่อนที่จะปล่อยลำแสงออกมา
ปลายักษ์หลัวยูบินสูงขึ้นเหนือเกาะลอยฟ้า
เกลียวคลื่นที่ถูกหลัวยูสร้างขึ้นอาบไปด้วยแสงอาทิตย์และก็เพราะแบบนั้นจึงทำให้มีสายรุ้งเกิดขึ้นเหนือเกาะลอยฟ้า มันเป็นภาพที่น่าทึ่งกับผู้ที่ได้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ในตอนที่อาบแสงแดดจู่ๆ ลู่โจวก็รู้สึกราวกับว่าพลังจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์เพิ่มพูนขึ้น “น่าสนใจ”
ลู่โจวมีความสามารถที่จะเสกปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติอย่างงั้นเหรอหรือเป็นเพราะหลัวยูเชื่อฟังคำสั่งธิดาหอยสังข์กันแน่?
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็แล้วแต่มันจะต้องเป็นเจตจำนงของสวรรค์แน่นอน!สุดท้ายแล้วลู่โจวก็ได้ฟื้นคืนพลังวิเศษมา มันเป็นพลังที่มาจากความช่วยเหลือของหลัวยูนั่นเอง
พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ที่โอบอุ้มเกาะในที่สุดก็หายจางไป
หยุนชงต้องการที่จะจัดการกับลู่โจวในตอนที่หมดพลังตัวเขาที่คิดแบบนั้นจึงได้ใช้พลังอวตารดอกบัวเจ็ดกลีบขึ้นมา แต่ก่อนที่จะเข้าถึงตัวลู่โจว ตัวเขาก็ถูกพลังฝ่ามือสีทองขนาดใหญ่กระแทกเข้าที่ใบหน้าซะก่อน “นี่มันเป็นไปไม่ได้! เขาเป็นผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบ…”
ตู๊ม!
ก่อนที่หยวนชงจะพูดจบตัวเขาก็ถูกพลังฝ่ามือปลิดชีวิตไปซะก่อน
“ติ้ง!สังหารเป้าหมายสำเร็จ ได้รับรางวัลแต้มบุญ: 1,500”
ลู่โจวไม่ได้เหลือบมองไปที่หยวนชงซะด้วยซ้ำตัวเขาเหลือบมองไปรอบตัวแทน ถ้าหากยังจะประคองเกาะด้วยฝ่ามือเอาไว้ ลู่โจวคงจะไม่มีวันหยุดผู้ฝึกยุทธที่ก่อความวุ่นวายได้ มีเพียงทางเดียวเท่านั้นที่จะหยุดเรื่องทั้งหมด ทางเลือกนั้นก็คือสังหารทุกคน
“ในเมื่อพวกเจ้าทั้งหมดต้องการจะตายข้าก็จะเติมเต็มความปรารถนาให้กับพวกเจ้าเอง!”
นายหญิงหวางที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดดวงตาเบิกกว้างนางเห็นฝ่ามือนับไม่ถ้วนกำลังกระจายไปในหลายทิศทาง พลังฝ่ามือที่เห็นดูคล้ายกับดอกไม้ไฟที่มักจะจุดขึ้นตามเทศกาล
เมื่อพลังฝ่ามือจางหายไปในตอนนั้นเองทั่วทุกที่ก็เต็มไปด้วยซากศพ ซากศพทั้งหลายได้ตกลงสู่ท้องทะเลราวกับฝูงแมลง เมื่อซากศพเพิ่มมากขึ้นน้ำทะเลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้มมากขึ้น
วู่วว!
หลัวยูต้องการที่จะบินต่อไป
ธิดาหอยสังข์ได้พูดกับหลัวยูอย่างนุ่มนวล“กลับบ้านเถอะ”
หลัวยูดูเหมือนจะไม่อยากบินอีกต่อไปในตอนนี้มันไม่สามารถวนเวียนรอบเกาะลอยฟ้าและไม่สามารถฟื้นฟูพลังวิเศษจากเคล็ดวิชาอักษรสวรรค์ได้อีก หลัวยูได้เปลี่ยนทิศทางก่อนที่จะลงสู่ท้องทะเล
ลู่โจวยกฝ่ามือขึ้นตัวเขาได้ส่งพลังลมปราณที่มีเพื่อห่อหุ้มตัวของธิดาหอยสังข์เอาไว้
เมื่อธิดาหอยสังข์ถูกยกออกจากตัวของหลัวยูมันก็กระโจนไปบนอากาศอีกครั้ง ดูเหมือนว่ามันจะไม่เต็มใจที่จะแยกจากกับนาง มันลอยค้างอยู่ในอากาศก่อนที่จะเหลือบมองมายังสาวน้อย
“เจ้าจะต้องไม่เป็นไร”ธิดาหอยสังข์โบกมือของนาง
วู่วว!
หลัวยูเปิดปากของมันออกมาในตอนนั้นเองลำแสงสีฟ้าก็ได้ส่องขึ้น
ผู้ฝึกยุทธทุกคนที่เห็นแบบนั้นต่างก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ“นั่นหยกหลานเทียน!”
ลู่โจวยกฝ่ามือขึ้นก่อนที่จะดึงหยกหลานเทียนเข้าหาตัวเอง
เมื่อหยกหลานเทียนถูกแสงแดดส่องกระทบมันก็ได้ปล่อยควันสีเขียวออกมา ควันสีเขียวที่ได้เห็นดูคล้ายกับน้ำตาของหลัวยูไม่มีผิด แท้จริงแล้วน้ำตาของหลัวยูได้เปลี่ยนไปเป็นไข่มุกก่อนที่จะตกลงไปในมหาสมุทร และเมื่อไข่มุกผ่านความอบอุ่นที่หุบเขาหลานเทียนมี ท้ายที่สุดแล้วหยกหลานเทียนจึงถือกำเนิดขึ้น..
มีข่าวลือหนาหูว่าหยกหลานเทียนอยู่ในท้องของสัตว์ใต้ทะเลข่าวลือที่ว่ามันก็ไม่ต่างอะไรกับการหาไข่มุกที่สุดแสนหายากในหอยเลย
เมื่อลู่โจวเห็นแบบนั้นตัวเขาก็ได้ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้มันถือเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกอย่างแท้จริง
หลัวยูส่งเสียงร้องเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะกลับสู่ท้องทะเลมันได้ว่ายน้ำวนเป็นวงกลมก่อนที่จะหายไปจากสายตาของทุกคน
ซู่วว!
ซู่วว!
พลังจากเขตแดนที่อยู่ใต้ท้องทะเลได้ส่องแสงไปยังเกาะเผิงไหล
เกาะทั้งสี่เริ่มกลับสู่ที่ที่มันเคยร่วงหล่นลงมา
ลำแสงของเขตแดนพลังทั้งหมดดูเหมือนจะถูกเปิดใช้งานอีกครั้ง
แกร๊ก!
เสียงการใช้งานอันเป็นเอกลักษณ์ของเขตแดนดังก้องไปทั่วเกาะเผิงไหล
ม่านพลัง…ได้รับการฟื้นฟูแล้ว!
หลังจากที่ถูกน้ำทะเลชะล้างทั้งอาคารทั้งหลายและพืชที่เคยมีในเกาะลอยฟ้าต่างก็ดูสะอาดตามากขึ้น ในยามพระอาทิตย์ตกดิน น้ำทะเลก็จะไหลทะลักออกมาจากเกาะลอยฟ้า ที่เป็นแบบนี้เป็นเพราะว่าเขตแดนที่มีเป็นเขตแดนแบบวนลูปนั่นเอง รุ้งเหนือเกาะลอยฟ้าจากน้ำตกได้เสริมความสดใสให้กับเกาะลอยฟ้าแห่งนี้
ในที่สุดเกาะเผิงไหลก็กลับมาเป็นปกติแล้ว
ทุกอย่างดูเหมือนกับความฝัน
หลี่จิงยี่ในตอนนี้พยายามที่จะระงับความตื่นเต้นในใจในขณะที่นางเหลือบมองไปที่เกาะทั้งสี่พร้อมกับร่มที่ถืออยู่ในมือนางได้พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แน่วแน่ “เขตแดนกลับมาสมบูรณ์อีกครั้งแล้ว สาวกของสำนักเผิงไหลทั้งหมด จงจัดการกับผู้ที่กล้ารุกรานพวกเรา”
เมื่ออยู่ต่อหน้าเขตแดนพลังผู้ฝึกยุทธคนอื่นๆ ก็ไม่กล้าที่จะต่อสู้อีกต่อไป แม้แต่จะบินหนีก็ยังไม่มีใครกล้าทำแบบนั้น
กระแสการต่อสู้บนเกาะเผิงไหลได้เปลี่ยนไปแล้ว
สาวกของเกาะเผิงไหลเป็นฝ่ายที่เริ่มโต้กลับแทน
ในที่สุดนายหญิงหวางก็เข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นนางได้ปาดน้ำตาของตัวเองก่อนที่จะโค้งคำนับหลี่จิงยี่เพื่อเป็นการขอบคุณ
หลี่จิงยี่ตกตะลึงนางรีบโค้งคำนับกลับไปในทันที “นายหญิง ข้าไม่กล้าที่จะรับการโค้งคำนับจากท่าน”
“ไม่ว่าจะยังไงก็ตามเจ้าก็เป็นผู้ช่วยเกาะเผิงไหลเอาไว้”
“คนที่ท่านควรจะขอบคุณก็คือผู้อาวุโสจีมากกว่านายหญิง”หลี่จิงยี่ที่พูดเสร็จก็เหลือบมองไปยังลู่โจวที่กำลังบินอยู่ใต้เกาะลอยฟ้า
นายหญิงหวางได้พูดออกมาอย่างตื่นตกใจ“นั่นคือผู้อาวุโสจีแห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าจริงๆ อย่างงั้นเหรอ”
ลู่โจวได้วางหยกหลานเทียนที่ได้รับมาไว้บนมือของธิดาหอยสังข์ก่อนที่จะมองไปที่นายหญิงหวาง“ตัวจริงเสียงจริง”
นายหญิงหวางที่ได้ฟังแบบนั้นไม่แปลกใจอีกต่อไปใครจะไปสามารถรับมือกับผู้มีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบได้กัน
นายหญิงหวางได้โค้งคำนับขอบคุณอย่างสุดซึ้ง“เกาะเผิงไหลขอขอบคุณท่านผู้อาวุโส พวกเราชาวเกาะเผิงไหลจะจดจำสิ่งที่ท่านได้ทำให้ตลอดไป!”
ลู่โจวลูบเคราของตัวเองก่อนที่จะพูดออกมา“ข้าเป็นคนรักษาคำพูดเสมอ ในเมื่อข้าเอาคัมภีร์สวรรค์เกาะเผิงไหลของเจ้าไป จึงเป็นธรรมดาที่ข้าต้องช่วยเกาะแห่งนี้”
“พวกเราติดหนี้ท่านแล้วผู้อาวุโสจี…เดิมทีพวกเราก็ไม่เคยเข้าใจความหมายของม้วนคัมภีร์สวรรค์เผิงไหลตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าหากผู้อาวุโสสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้ มันก็สมเหตุสมผลแล้วที่ผู้อาวุโสจีจะรับมันไป ไม่ว่าท่านจะมาด้วยเจตนาอะไรก็แล้วแต่ แต่เกาะเผิงไหลของพวกเราจะสร้างอนุสรณ์เพื่อระลึกถึงสิ่งที่ท่านผู้อาวุโสจีได้ทำเอาไว้ พวกเราจะบูชาเทิดทูนมันทุกวัน”
‘สร้างอนุสรณ์เพื่อระลึกอย่างงั้นเหรอ’สิ่งที่นายหญิงหวางจะทำมันฟังดูน่าอึดอัดสำหรับลู่โจว สำหรับตัวเขาคงจะมีแต่ผู้ที่ตายไปแล้วเท่านั้นที่จะมีอนุสรณ์และได้รับการบูชา
ลู่โจวมองไปที่นายหญิงหวาง“ไม่จำเป็น”
นายหญิงหวางเคยได้ยินมาก่อนว่าปรมาจารย์แห่งศาลาปีศาจลอยฟ้าเป็นคนใจแข็งในเมื่อนางเห็นแล้วว่าลู่โจวไม่ต้องการ นางก็ไม่คิดที่จะพูดอะไรอีก
ในตอนนั้นเองเสียงของหยวนเอ๋อก็ส่งมาถึงพวกเขานางได้บินไปยังด้านข้างของลู่โจวด้วยความยินดี “ท่านอาจารย์”
ลู่โจวพยักหน้าก่อนที่จะถาม“เจ้าไม่เป็นไรสินะ”
“ข้าสบายดี”แม้ว่าจะพูดว่าสบายดี แต่ริมฝีปากของนางก็มีเลือดไหลออกมา หยวนเอ๋อเซเซเกินกว่าที่จะยืนไหว ดูเหมือนว่าหยวนเอ๋อจะได้รับบาดเจ็บ
“พี่หยวนเอ๋อ”
ลู่โจวยื่นมือออกไปตัวเขาได้ใช้พลังที่มีเพื่อช่วยพยุงหยวนเอ๋อเอาไว้
เมื่อนายหญิงหวางเห็นแบบนั้นนางก็รีบพูดให้ความช่วยเหลือ “เกาะลอยฟ้าบัดนี้เปียกปอนไปหมดแล้ว เชิญพวกท่านพักผ่อนที่เกาะตะวันออกก่อนเถอะ”
ลู่โจวส่ายหัวปฏิเสธ“ช้าก่อน”
“ผู้อาวุโสจีท่านมีอะไรที่ต้องทำอีกอย่างงั้นเหรอ”
ลู่โจวมองไปที่เกาะทั้งสี่ตัวเขาเห็นผู้ฝึกยุทธทั้งหลายยังคงดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง แทบที่จะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้รับความเห็นอกเห็นใจ “อย่าได้ปล่อยให้คนจากสถานศึกษาไท่ชูรอดไปได้…” ลู่โจวหยุดพูดก่อนที่จะพูดเสริม “ข้าจะยืนมองอยู่ตรงนี้”
หลี่จิงยี่รู้สึกตกใจลึกๆแต่ถึงแบบนั้นนางก็ไม่ได้คัดค้านอะไร มันเป็นความผิดของสาวกสถานศึกษาไท่ชูเองที่ก่อเรื่องขึ้น หลี่จิงยี่ที่ได้ฟังเช่นนั้นได้โค้งคำนับในทันที “ข้าจะไปจัดการพวกเขาเอง”
หลังจากที่พูดจบหลี่จิงยี่ก็ได้จากไปพร้อมกับพลังอวตารของนางนางและร่างอวตารได้จัดการกับผู้ฝึกยุทธระดับล่างอย่างไม่ปรานี
เพียงแค่ชั่วครู่เดียวเท่านั้นที่เกาะทั้งสี่ก็เต็มไปด้วยกองเลือด