ตอนที่ 973 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (2) ตอนที่ 974 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (3)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 973 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (2) / ตอนที่ 974 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (3)
ตอนที่ 973 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (2)

จวินอู๋เสียไม่สนใจการเย้ยหยันดูถูกของชายคนนั้น นางมองใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ออกฤทธิ์เป็นเด็กเอาแต่ใจแล้วพูดว่า

“ชนะแล้วได้กินใบบัว”

ใบบัวที่จวินอู๋เสียพูดถึง ก็คือใบบัวสุดอร่อยหวานล้ำจากบัวหิมะซังอวี้ของเจ้าดอกบัวขาวน้อย ตอนนี้เจ้าดอกบัวขาวน้อยน่าจะเก็บใบบัวได้กองหนึ่งแล้ว และใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะชอบรสชาติของบัวหิมะซังอวี้อย่างถึงที่สุด มันไม่ได้รับอนุญาตให้กัดเจ้าดอกบัวขาวน้อยก็จริง แต่ใบบัวของเจ้าดอกบัวขาวน้อยก็อร่อยมาก

เนื่องจากเจ้าดอกบัวขาวน้อยมักจะกลัวจนร้องไห้ออกมาทันทีที่เห็นใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ จึงไม่เคยตั้งสติได้เลยว่าจะป้อนมันด้วยใบบัวแทน ถ้าเจ้าดอกบัวขาวน้อยไม่ซุกอยู่ในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียเพื่อหาการปกป้อง ก็จะหายตัวเข้าไปในแหวนโดยทันที ตอนนี้ในหัวของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะคิดถึงแต่เรื่องจะกินใบบัวหวานฉ่ำเพื่อให้หายอยาก

อย่างที่คาด เมื่อได้ยินคำว่า ‘กินใบบัว’ สายตาไม่พอใจของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็หายไป ประกายตายินดีและคาดหวังปรากฏขึ้นทันที!

“แบ๊ะ! แบ๊ะ!”

สัญญาแล้วนะ ห้ามโกงแบ๊ะด้วย!

แม้ว่านางจะไม่เข้าใจว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะพูดอะไร แต่ดูจากท่าทีที่เปลี่ยนไปของเจ้าแกะน้อย จวินอู๋เสียก็รู้ว่ามันตกลง นางจึงพยักหน้าตอบ

เมื่อได้รับคำยืนยันจากเจ้านายของมัน ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็หันหลังกลับทันที มันชูหางขึ้นพลางวิ่งเหยาะๆ ไปกลางเวทีอย่างมีความสุข

จะได้กินใบบัวแล้ว ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะสุขใจจังเลย

เจ้านายของเจ้าพยัคฆ์ไม่เข้าใจว่าเด็กหนุ่มกับสัตว์วิญญาณของเขาตกลงแลกเปลี่ยนอะไรกัน เขาป้อนเนื้อดิบโชกเลือดอีกชิ้นให้เจ้าพยัคฆ์ร้ายแล้วพูดว่า “ไปจัดการมัน”

เจ้าพยัคฆ์ร้ายไม่เข้าใจว่าเจ้านายของมันพูดอะไร แต่มันก็แลบลิ้นออกมาเลียโลหิตที่เปื้อนอยู่รอบๆ ปากอย่างคาดหวัง มันหันกลับไปช้าๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการประลองรอบต่อไป

บนเวทีประลอง เจ้าก้อนกลมขนปุยอ้วนกลมยืนอยู่ด้านหนึ่ง และฝั่งตรงข้ามที่กำลังเผชิญหน้ากับมันคือเจ้าพยัคฆ์ร้ายที่มีคราบโลหิตของคู่ต่อสู้ที่พ่ายแพ้มันรอบก่อนๆ เปื้อนอยู่เต็ม ดูจากขนาดและความก้าวร้าวก็เห็นได้ชัดว่าใครเหนือกว่าในรอบนี้

เจ้านายของเจ้าพยัคฆ์ร้ายมองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ข้างเวทีพร้อมกับเดาะลิ้นอย่างเหยียดหยาม เขาไม่เคยเจอเด็กที่ดื้อรั้นจะส่งสัตว์วิญญาณของตัวเองไปตายแบบนี้เลย

“พอสัตว์วิญญาณของเจ้าถูกกินเข้าไปก็อย่าร้องไห้แล้วกัน” ชายคนนั้นพูดเหยียดหยาม

จวินอู๋เสียชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชา แต่ไม่ได้มีปฏิกิริยาอื่นใด

ผู้คนในลานประลองสัตว์วิญญาณไม่สนใจการประลองรอบนี้มากนัก พวกเขาตัดสินผลเอาไว้ในใจแล้ว จึงรอคอยการประลองรอบต่อไปมากกว่า

เจ้าหน้าที่ลานประลองมองความแตกต่างของพลังทั้งสองฝ่ายที่ห่างชั้นกันมากก็เริ่มกระสับกระส่ายขึ้นมา

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะตัวน้อยนั้นลงทะเบียนโดยชิงอวี่รองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ ไม่มีใครเคยเห็นสัตว์วิญญาณตัวนั้นมาก่อน พวกเขาคิดว่าเมื่อรองหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธเป็นคนแนะนำมา มันก็ต้องเป็นสัตว์วิญญาณที่น่าประทับใจมากแน่

เมื่อพวกเขาได้เห็นสัตว์วิญญาณตัวเป็นๆ ความคาดหวังและความมั่นใจทั้งหมดก็พังครืน

พวกเขาเห็นภาพในใจอย่างชัดเจนเลยทีเดียวว่าพอการประลองเริ่มต้นขึ้น เจ้าแกะน้อยนั่นคงจะได้กลายเป็นอาหารของเจ้าพยัคฆ์ร้ายอย่างรวดเร็ว พวกเขาหวังว่าถึงตอนนั้นชิงอวี่จะไม่หงุดหงิดมากนัก

ระฆังเริ่มศึกประลองดังขึ้น!

เจ้าพยัคฆ์ร้ายเดินวนรอบคู่ต่อสู้อย่างช้าๆ หางของมันชี้ขึ้นไปด้านหลังราวกับท่อนเหล็ก หลังจากสู้มาหลายรอบและได้กินเนื้อสดโชกเลือดเข้าไป สัญชาตญาณสัตว์ป่าในตัวมันก็ถูกกระตุ้นในสูงขึ้นมาก การออกแรงก่อนหน้านี้ทำให้มันหิวจัด และเนื้อเล็กๆ บางๆ สองชิ้นนั้นก็ช่วยให้หายหิวไม่ได้เลย กลับยิ่งทำให้สัญชาตญาณนักล่าของมันพุ่งขึ้นถึงขีดสุด!

ตอนที่ 974 ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแสดงอำนาจ (3)

ฝีเท้าหนักๆ ของเจ้าพยัคฆ์ร้ายย่ำลงบนเวทีประลอง สายตาของมันจ้องเขม็งไปที่เหยื่ออันโอชะตรงหน้า แล้วมันก็ก้าวเข้าไปใกล้ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอีกหนึ่งก้าว

ชิงอวี่นั่งมองดูจากที่สูง ก้นของเขาแทบจะไม่ติดเก้าอี้ขณะที่เจ้าพยัคฆ์ร้ายใกล้เข้ามา เขากังวลมากว่าเจ้าพยัคฆ์ร้ายจะกลืนใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะลงไปทั้งตัวและเขาจะไม่สามารถตอบคำถามจวินอู๋เสียได้ แม้ว่านี่จะเป็นความต้องการของจวินอู๋เสียเองก็ตาม แต่เขามีหน้าที่คอยติดตามเป็นพี่เลี้ยงของจวินอู๋เสีย ชิงอวี่ไม่กล้าคิดว่าเขาจะอธิบายให้สยงป้าฟังอย่างไรว่าเขาปล่อยให้สัตว์วิญญาณของจวินอู๋เสีย ‘ถูกสังหาร’ ในวันแรกที่เด็กหนุ่มคนนี้อยู่ในเมืองพันอสูร สยงป้าจะไม่ฉีกเขาออกเป็นชิ้นๆ เลยหรือ

แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนรับผิดชอบโดยตรง…แต่ชิงอวี่ก็แน่ใจว่าชะตากรรมของเขาจะไม่ดีขึ้นเพราะเรื่องนั้นแน่

ชิงอวี่กำลังครุ่นคิดอย่างจริงจังว่าเขาควรจะเข้าไปช่วยใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะระหว่างการประลองหรือไม่ ถึงแม้จะเป็นการฝ่าฝืนกฎของลานประลองสัตว์วิญญาณ แต่เทียบกับสยงป้าที่โกรธจัดจนคลั่งแล้ว เขาเลือกโดนท่านเจ้าเมืองด่าแรงๆ เอาเสียดีกว่า

ขณะที่ชิงอวี่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอยู่ภายในใจ เจ้าพยัคฆ์ร้ายก็เข้ามายืนตรงหน้าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแล้ว

เจ้าพยัคฆ์ร้ายมองใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ตัวเท่าหัวของมันแล้วเลียปาก ความหิวและกลิ่นโลหิตจางๆ ที่เหลืออยู่ปลุกความกระหายเลือด กระตุ้นให้มันขย้ำเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า!

“กรร!” มันอ้าปากกว้างและส่งเสียงคำรามออกมาดังลั่น!

เสียงคำรามนั้นดังมากจนทำให้ผู้ชมที่นั่งอยู่ใกล้กับเวทีประลองรู้สึกปวดแก้วหู

เจ้านายของเจ้าพยัคฆ์ที่ยืนอยู่ด้านข้างแสยะยิ้มกว้างออกมา

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยืนเหม่อมองไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด มันมอง ‘เจ้าเหมียว’ ที่ทำน้ำลายกระเด็นไปทั่วตรงหน้าแล้วคิดว่ากลิ่นปาก ‘เจ้าเหมียว’ นี่โคตรเหม็น แตกต่างจากกลิ่นสะอาดๆ ของเจ้าแมวดำตัวน้อยนั่นโดยสิ้นเชิง

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกำลังคิดว่ามันจะตบ ‘เจ้าเหมียว’ นี่ให้ตายอย่างไรดีก็พลันนึกถึงสิ่งที่จวินอู๋เสียสัญญาไว้กับมันขึ้นมาได้

เจ้านายของมันบอกว่ามันต้องชนะถึงจะได้กินใบบัว แต่มันต้องทำอย่างไรจึงจะถือว่าชนะเล่า

ในหัวของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะมีแค่วิธีเดียวในการจัดการกับสัตว์วิญญาณตัวอื่น และนั่นก็คือการกินพวกมัน ดังนั้นเมื่อมันถูกบอกว่าให้ ‘เอาชนะ’ มันจึงไม่เข้าใจว่าสิ่งนั้นหมายความว่าอย่างไร

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยืนเอียงคอเค้นสมองคิดพลางจ้องมองเจ้าพยัคฆ์ร้าย

กินมันเข้าไปฟังดูไม่เหมือนชนะหรือเปล่านะ

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนี่!

หลังจากผู้ชมเห็นเจ้าพยัคฆ์ร้ายคำรามเสียงดัง ก็พากันคิดว่าเจ้าแกะอ้วนกลมคงหวาดกลัวจนแข็งทื่ออยู่กับที่ พวกเขาคิดว่าการประลองกำลังจะจบลงแบบนองเลือด

ในที่สุดใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็นึกออก มันอาจจะไม่เข้าใจว่าชนะหมายความว่าอะไร แต่สิ่งที่ ‘เจ้าเหมียว’ ทำตอนนี้น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้องใช่หรือไม่

ดังนั้นใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจึงเลียนแบบเจ้าพยัคฆ์ร้ายด้วยการอ้าปากและใช้พละกำลังทั้งหมดของมัน…

“แบ๊ะ!”

เสียงร้องแบ๊ะครั้งเดียวดังไปไม่ถึงที่นั่งของผู้ชมด้วยซ้ำ ขณะที่ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา สถานการณ์แปลกๆ ก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาพวกเขา!

ทันทีที่เสียงร้องเบาๆ ของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะดังขึ้น สัตว์วิญญาณที่มีรูปร่างเป็นพยัคฆ์ที่สง่างามก็ทำท่าเหมือนโดนสายฟ้าฟาดทันที ตัวของมันแข็งทื่อไม่ขยับเขยื้อน ดวงตามุ่งร้ายเบิกโพลง และขณะที่ทุกคนคาดว่ามันจะตะปบเข้าใส่ร่างกลมๆ ของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ เจ้าพยัคฆ์ร้ายก็หันหลังกลับแล้วตะเกียกตะกายวิ่งหนีกลับไปตามทางเดิมที่มันมา…วิ่งหนีแบบหางจุกตูดเลยทีเดียว…