ตอนที่ 552 ทำงานคือทำงานไม่ได้

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

หลังจาก​หลิน​เยวียน​ผลิต​ภาพยนตร์​ไม่กี่​เรื่อง​ เขา​ก็​มีทีม​งานประจำ​แล้ว​

สมาชิก​หลัก​ของ​ทีมงาน​กอง​ถ่าน​นี้​ยังคง​ไม่เปลี่ยนแปลง​ โดยเฉพาะ​พ่อบ้าน​อย่าง​โปรดิวเซอร์​เสิ่น​ชิง และ​ผู้ช่วย​งาน​อย่าง​ผู้กำกับ​อี้​เฉิงกง​

อย่างไรก็ตาม​ เมื่อ​ตัวแทน​หลิน​อนุมัติ​โปรเจ็กต์​ภาพยนตร์​เรื่อง​ใหม่​นี้​ เห็นได้ชัด​ว่า​ทีมงาน​ของ​ภาพยนตร์​เรื่อง​นี้​ไม่ได้​เปลี่ยนแปลง​มาก​นัก​ แต่​ผู้กำกับ​เปลี่ยน​จาก​อี้​เฉิงกง​เป็น​ตู้​อั้น​ แน่นอน​ว่า​อี้​เฉิงกง​จึงอด​รู้สึก​ผิดหวัง​ไม่ได้​

ถึงแม้ใน​ใจของ​อี้​เฉิงกง​จะรู้ดี​

ว่า​ในแง่​ของ​ความสามารถ​ใน​การกำกับ​ภาพยนตร์​ ตน​เทียบ​ไม่ได้​กับ​ผู้กำกับ​ตัว​ท็อป​ซึ่งทาง​บริษัท​อุตส่าห์​ดึง​ตัว​มาจาก​ฉีโจว​

ยิ่งไปกว่านั้น​…

เพื่อที่จะ​เป็น​ผู้​กำ​ กับ​เรื่อง​ชีวิต​อัศจรรย์​ของ​พาย​ ตู้​อั้น​ถึงขั้น​ยอม​เป็น​ผู้ช่วย​งาน​ให้​กับ​ตัวแทน​หลิน​ ความเสียสละ​ใน​ครั้งนี้​ยิ่งใหญ่​จริงๆ​

เพราะ​ภายใต้​สถานการณ์​ปกติ​

ผู้กำกับ​ระดับ​ตู้​อั้น​ไม่มีทาง​ยอม​ก้มหัว​ให้​ใคร​

ดังนั้น​ หาก​บอ​กว่า​เสียเปรียบ​ ไม่เพียง​อี้​เฉิงกง​ที่​เสียเปรียบ​ แต่​ตู้​อัน​ก็​เสียเปรียบ​มาก​เช่นกัน​

เสิ่งชิงไม่ถูก​เปลี่ยนตัว​

ทว่า​เมื่อ​เห็น​ว่า​ใน​ภาพยนตร์​เรื่อง​ใหม่​ หลิน​เยวียน​เลือก​ตู้​อั้น​ ไม่ได้​เลือก​อี้​เฉิงกง​ ใน​ใจของ​เสิ่น​ชิงก็​พลอย​รู้สึก​เศร้า​ขึ้น​มาเช่นกัน​

ถึงอย่างไร​พวกเขา​ก็​ร่วมงาน​กัน​มานาน​ เสิ่น​ชิงและ​อี้​เฉิงสร้าง​มิตรภาพ​ที่​ดี​ต่อกัน​ ฉะนั้น​เขา​จึงยังคง​ดื่ม​สุรา​เพื่อ​ปลอบใจ​เพื่อนเก่า​ของ​ตน​

“ตัวแทน​หลิน​คง​รู้สึก​ว่า​สไตล์​ของ​หนัง​เรื่อง​นี้​เหมาะ​ที่จะ​ให้​ตู้​อั้น​ถ่ายทำ​มากกว่า​ ถ้าในอนาคต​เจอ​หนัง​เรื่อง​ที่​เหมาะกับ​คุณ​ เขา​ก็​จะมาเรียก​คุณ​ไป​ร่วมงาน​ เดี๋ยว​ผม​จะไป​คุย​กับ​ตัวแทน​หลิน​อีกที​…”

“ไม่ต้อง​ยุ่งยาก​หรอก​”

อี้​เฉิงกง​ยิ้ม​ขมขื่น​ “ผม​ไม่ได้คิด​จะโทษ​ตัวแทน​หลิน​หรอก​ เขา​ช่วย​ผม​มามาก​แล้ว​ ครั้งนี้​ที่​ไม่ถูก​เลือก​เป็น​เพราะ​ความสามารถ​ของ​ผม​เอง​ ผม​หวัง​ว่า​หนัง​ของ​ของ​ตัวแทน​หลิน​จะถ่ายทำ​ออกมา​ได้​อย่าง​สมบูรณ์แบบ​ที่สุด​ ผม​ ผม​เอง​จะได้​ใช้เวลา​ช่วงนี้​พัฒนา​ฝีมือ​ของ​ตัวเอง​ด้วย​ จะพยายาม​ตาม​ตัวแทน​หลิน​ให้​ทัน​”

จะเห็น​ได้​ว่า​

ภาพยนตร์​หลังจากนี้​ของ​ตัวแทน​หลิน​จะมีสเกล​ที่​ใหญ่​ขึ้น​เรื่อยๆ​ อย่าง​แน่นอน​ เกณฑ์​ความสามารถ​ของ​ผู้กำกับ​ย่อม​สูงขึ้น​เรื่อยๆ​ เช่นกัน​ ถ้าหาก​ระดับ​ของ​อี้​เฉิงกง​ยังคง​หยุด​อยู่กับที่​ไป​ตลอด​ เห็นที​ไม่ช้าก็เร็ว​จะเขา​ย่อม​ตก​ขบวน​

ในขณะนั้น​

จู่ๆ โทรศัพท์มือถือ​ของ​อี้​เฉิงกง​ก็​ดัง​ขึ้น​ เขา​จึงหยิบ​ออกมา​ดู​ และ​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​จาก​ปลาย​สาย​ อี้​เฉิงกง​ก็​สร่าง​เมาขึ้น​มาทันที​ เสิ่น​ชิงซึ่งอยู่​ด้าน​ข้าง​มีสีหน้า​เคร่งขรึม​

เป็น​โทรศัพท์​จาก​ตัวแทน​หลิน​

อี้​เฉิงกง​กระแอม​ ก่อน​จะกด​รับสาย​

เขา​คิด​โดยสัญชาตญาณ​ว่า​ตัวแทน​หลิน​คง​โทร​มาปลอบใจ​ตน​ ปรากฏ​ว่า​เมื่อ​ได้ยิน​เสียง​จาก​ปลาย​สาย​ อี้​เฉิงกง​ก็​ตกตะลึง​ไป​ทันใด​ และ​เขา​ยังคง​สับสน​เล็กน้อย​หลังจาก​วางสาย​

“เป็น​ยังไง​”

เสิ่น​ชิงกล่าว​กลั้ว​หัวเราะ​ “ผม​ว่าแล้ว​เชียว​ ตัวแทน​หลิน​ไม่ลืม​คุณ​หรอก​ เขา​ไม่ใช่คน​ที่จะ​มาปลอบใจ​คน​ ถ้าเขา​มาปลอบใจ​คุณ​ก็​ชัดเจน​แล้ว​ว่า​เขา​ยัง​ให้ความสำคัญ​กับ​คุณ​มาก​”

“ไม่ใช่…”

“งั้น​มีเรื่อง​อะไร​”

อี้​เฉิงกง​สูด​สมหายใจเข้า​ลึก​ พูด​ด้วย​ความตื่นเต้น​ “ตัวแทน​หลิน​บอ​กว่า​มีบทภาพยนตร์​เรื่อง​ใหม่​จะให้​ผม​กำกับ​ อีก​สัก​ระยะ​หนึ่ง​เขา​จะส่งบท​มาให้​ผม​ หนัง​สอง​เรื่อง​ต่อไป​ของ​เขา​จะเริ่ม​ผลิต​ทีละ​เรื่อง​!”

“พระเจ้า​ช่วย​!”

เสิ่น​ชิงประหลาดใจ​ และ​รู้สึก​ดีใจ​จน​ลิงโลด​

“ยินดี​ด้วย​ ตัวแทน​หลิน​เขียน​บท​เรื่อง​ใหม่​เพื่อ​ชดเชย​ให้​คุณ​​ เขา​ให้ความสำคัญ​กับ​คุณ​มาก​!”

“ใช่แล้ว​!”

อี้​เฉิงกง​เสียงดัง​ขึ้น​มาอย่าง​ห้าม​ไม่อยู่​ ความเมามาย​พลุ่งพล่าน​ใน​ใจอีกครั้ง​ ชั่ว​ขณะนั้น​เขา​เกิด​ความรู้สึก​ภาคภูมิใจ​ “ผม​ต้อง​ถ่ายภาพยนตร์​เรื่อง​ใหม่​ออกมา​ให้​ดี​ จะไม่ทำให้​ตัวแทน​หลิน​ผิดหวัง​เป็นอันขาด​!”

……

อันที่จริง​ นี่​ไม่ใช่การ​ปลอบใจ​อี้​เฉิงกง​ เหตุผล​หลัก​คือ​หลิน​เยวียน​คาดการณ์​ว่า​ชีวิต​อัศจรรย์​ของ​พาย​อาจ​ต้อง​ใช้เวลานาน​ใน​การผลิต​ ทิ้งช่วง​สุญญากาศ​ค่อนข้าง​ยาว​ เพราะฉะนั้น​เขา​จึงอยาก​ให้​อี้​เฉิงกง​กำกับ​เรื่อง​อื่น​ใน​ระหว่าง​นี้​

เมื่อ​พิจารณา​จาก​ระดับ​ความ​ยาก​ ช่วงเวลา​ใน​การ​เข้า​ฉาย​ของ​ภาพยนตร์​ทั้งสอง​เรื่อง​สามารถ​หลีกเลี่ยง​กัน​ได้​

อย่างไรก็ตาม​ หลิน​เยวียน​ยัง​ไม่ได้​ตัด​สนใจ​ว่า​จะสร้าง​ภาพยนตร์​เรื่อง​ใด​ เขา​วางแผน​ว่า​จะเลือก​จาก​คลัง​ภาพยนตร์​อย่าง​ละเอียดถี่ถ้วน​

วันรุ่งขึ้น​

หลิน​เยวียน​ใช้เวลา​ใน​สตูดิโอ​การ์ตูน​ของ​ตน​อย่าง​ที่​ไม่เกิดขึ้น​บ่อยครั้ง​นัก​

ในเวลานี้​ เรื่อง​บันทึก​มรณะ​อัปเดต​มาจนถึง​ช่วง​สุดท้าย​ คาด​ว่า​จะจบบริบูรณ์​ก่อน​ปลายปี​นี้​

หลังจาก​วาด​การ์ตูน​อยู่​หลาย​ชั่วโมง​

หลิน​เยวียน​จึงเขียน​ยอด​นักสืบ​โฮล์มส์​ต่อ​

นิยาย​ชุด​นี้​มีการ​เผยแพร่​อย่าง​ต่อเนื่อง​ ความคืบหน้า​ใน​การ​อัปเดต​นั้น​สอดคล้อง​กับ​นิยาย​ชุด​ปัว​โร​ต์​ก่อนหน้านี้​ อิทธิพล​ของ​โฮล์มส์​ค่อยๆ​ ขยายตัว​ ผู้คน​มอง​โฮล์มส์​ใน​ระดับ​เดียว​กับ​ปัว​โร​ต์​มากขึ้น​เรื่อยๆ​

นั่น​ทำให้​หลิน​เยวียน​ถอนหายใจ​ด้วย​ความ​โล่งอก​

อุปาทาน​หมู่​อันที่จริง​เป็น​สิ่งที่​น่ากลัว​ ผู้อ่าน​ใน​โลก​นี้​ยอมรับ​ปัว​โร​ต์​ได้​ก่อน​ ถ้าหาก​ต้องการ​ให้​ทุกคน​ยอมรับ​โฮล์มส์​อีก​ จึงไม่ใช่เรื่อง​ง่าย​ แต่​ความจริง​ได้​พิสูจน์​แล้ว​ว่า​ปัว​โร​ต์​ไม่ได้​กลบ​ความ​เปล่งประกาย​ของ​โฮล์มส์​ ตัวละคร​ทั้งสอง​ให้​กลิ่นอาย​ของ​ความสำเร็จ​ร่วมกัน​ เพราะ​ความสัมพันธ์​ซึ่งเกิดขึ้น​ต่อเนื่อง​กัน​

และ​นี่​คือ​แผน​ของ​หลิน​เยวียน​ด้วย​

ใน​นิยาย​ชุด​ยอด​นักสืบ​โฮล์มส์​มัก​ให้​โฮล์มส์​เอ่ยถึง​ปัว​โร​ต์​เป็นครั้งคราว​ และ​ตัวละคร​ทั้งสอง​เกิด​ความใกล้ชิด​กัน​มากขึ้น​ผ่าน​ความนับถือ​ซึ่งโฮล์มส์​มีต่อ​ปัว​โร​ต์​

เมื่อ​เขียน​นิยาย​เสร็จ​

ฟ้าก็​มืด​ลง​แล้ว​

จิน​มู่ชงชาให้​หลิน​เยวียน​ หลังจากนั้น​จึงนั่งลง​บน​โซฟาฝั่งตรงข้าม​ของ​หลิน​เยวียน​ “นิยาย​ชุด​ยอด​นักสืบ​โฮล์มส์​ของ​หัวหน้า​น่าจะ​ยัง​ไม่ถึงครึ่งทาง​ใช่ไหม​ครับ​”

หลิน​เยวียน​พยักหน้า​

จิน​มู่เข้าใจ​ทันที​ “งั้น​ก็​ไม่น่า​ทัน​แล้ว​”

“ทัน​อะไร​ครับ​”

“การคัดเลือก​เทพ​สูงสุด​ของ​วงการ​นิยาย​แฟนตาซี​จะเริ่มต้น​ปลายปี​นี้​ ต้น​ปีหน้า​จะประกาศ​รายชื่อ​ ที่จริง​หัวหน้า​มีคุณสมบัติ​พอ​จะผ่าน​เกณฑ์​ แต่​เป็น​เพราะ​ช่วง​สอง​ปี​ที่ผ่านมา​นี้​หัวหน้า​เขียน​นิยาย​สืบสวนสอบสวน​มาตลอด​…”

เทพ​สูงสุด​?

หลิน​เยวียน​อึ้ง​ไป​เล็กน้อย​

เขา​จำได้​ว่า​ตน​เคย​ได้​รับรางวัล​มหาเทพ​ใน​สาขา​นี้​

และ​เหนือ​รางวัล​มหาเทพ​ขึ้นไป​ แท้จริง​แล้ว​ยังมี​การคัดเลือก​รางวัล​เทพ​สูงสุด​

อย่างไรก็ดี​ ใน​ตอนนั้น​หลิน​เยวียน​ไม่ได้รับ​เลือก​ให้​คว้า​ตำแหน่ง​เทพ​สูงสุด​เนื่องจาก​ปัญหา​ด้าน​คุณสมบัติ​

ในเวลานี้​เมื่อ​ได้​ฟังจิน​มู่พูด​ คุณสมบัติ​ของ​ตน​คล้าย​ว่า​จะพอ​ผ่าน​เกณฑ์​

“มีคำอธิบาย​เกี่ยวกับ​เรื่อง​นี้​ไหม​ครับ​?”

“แน่นอน​ครับ​”

จิน​มู่ยิ้ม​ตอบ​ “เทพ​สูงสุด​คือ​กลุ่ม​ที่​นับว่า​เป็นยอด​พีระมิด​ของ​สาขา​วรรณกรรม​แฟนตาซี​ ยัง​ไม่ต้อง​พูดถึง​ฉีฉู่เยี่ยน​ ใน​ฉิน​โจว​เรา​มีเทพ​สูงสุด​แค่​สี่คน​ เห็นได้ชัด​ว่า​ตำแหน่ง​นี้​ยาก​ขนาด​ไหน​ เพราะฉะนั้น​ส่วนตัว​ผม​แนะนำ​ให้​หัวหน้า​พิจารณา​ถึงความเป็นไปได้​ใน​การเขียน​วรรณกรรม​แฟนตาซี​ ถ้ามีนิยาย​แฟนตาซี​อีก​สัก​หนึ่ง​ถึงสอง​เรื่อง​ และ​กลายเป็น​เทพ​สูงสุด​ได้​อย่าง​ราบรื่น​ ผม​ก็​จะสามารถ​เจรจา​เงื่อนไข​กับ​คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​ได้​…”

“ตัวอย่างเช่น​?”

“หุ้น​!”

จิน​มู่เอ่ย​อย่าง​จริงจัง​ “ตอนนี้​ส่วนแบ่ง​จาก​นิยาย​ของ​หัวหน้า​ใน​คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​นับว่า​สูงมาก​แล้ว​ ตั้งแต่​เงื่อนไข​ต่างๆ​ ไป​จนถึง​สวัสดิการ​ที่​ได้รับ​จะเพิ่ม​ไป​กว่า​นี้​ไม่ได้​แล้ว​ แต่​ถ้าหัวหน้า​สามารถ​คว้า​ตำแหน่ง​เทพ​สูงสุด​มาได้​ ผม​คิด​ว่า​เรา​มีโอกาส​เข้าไป​เป็น​หุ้นส่วน​ใน​คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​ คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​เติบโต​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดีมาก​ใน​เวลา​ไม่กี่​ปี​ที่ผ่านมา​ แนวโน้ม​ของ​การ​เติบโต​นับ​ได้​ว่า​เป็น​สำนักพิมพ์​อันดับ​หนึ่ง​ใน​ฉิน​โจว​ ถ้าหัวหน้า​ได้​ถือหุ้น​ของ​บริษัท​นี้​ จะได้รับ​ผลตอบแทน​ที่​เร็ว​กว่า​ส่วนแบ่ง​จาก​ยอดขาย​นิยาย​อย่าง​แน่นอน​ครับ​!”

หลิน​เยวียน​ดวงตา​เป็นประกาย​!

ที่แท้​หลังจากที่​ได้รับ​ส่วน​แบ่งระดับ​สูงสุด​แล้ว​ ยัง​สามารถ​เข้า​ถือหุ้น​ของ​คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​ได้​ด้วย​ และ​นั่น​ทำให้​เขา​พร้อม​เคลื่อนไหว​

ใน​ระบบ​มีผลงาน​มาก​เหลือเกิน​

ทุกวันนี้​หลิน​เยวียน​ใช้เงิน​แลก​เพลง​บ้าง​เป็นครั้งคราว​ ต่อให้​เป็น​เพลง​ซึ่งยัง​ไม่มีโอกาส​ได้​ใช้ เขา​ก็​ยังคง​แลก​อย่าง​ต่อเนื่อง​ จึงส่งผล​ให้เงิน​ส่วนหนึ่ง​ของ​หลิน​เยวียน​ถูก​ระบบ​หักออก​ไป​

เขา​ยัง​ต้อง​การเงิน​!

เช่นนั้น​ทำไม​ไม่ลอง​เข้าไป​ถือหุ้น​ของ​คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​ดู​ล่ะ​?

ถ้าได้รับ​หุ้น​มาแล้ว​ ความร่วมมือ​ของ​ตน​กับ​คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​จะไม่ใช่เพียง​งาน​พาร์ทไทม์​อีกต่อไป​

ในแง่​หนึ่ง​

หลิน​เยวียน​ใน​ตอนนี้​นับว่า​เป็น​จักรพรรดิ​แห่ง​งาน​พาร์ทไทม์​

ไม่ว่า​เซี่ยนอวี๋​หรือ​ฉู่ขวง​ล้วน​นับว่า​อยู่​ใน​สถานะ​งาน​พาร์ทไทม์​ของ​บริษัท​ ถึงแม้จะเป็นงาน​พาร์ทไทม์​​ ก็​ทำให้​บรรดา​ผู้บริหาร​เห็น​เขา​เป็น​ลูกหัวแก้วหัวแหวน​ได้​ แต่​เมื่อ​เทียบ​กัน​แล้ว​ การ​เป็​นหุ้นส่วน​นั้น​หอม​หวาน​ยิ่งกว่า​…

“หัวหน้า​สนใจ​ใช่ไหม​ครับ​? ”

จิน​มู่มองออก​ว่า​หลิน​เยวียน​สนใจ​ จึงเอ่ย​อย่าง​ยิ้มแย้ม​ “เมื่อ​เทียบ​กับ​การทำงาน​พาร์ทไทม์​แล้ว​ การ​เป็น​ผู้ถือหุ้น​เหมาะสม​กว่า​จริงๆ​ ครับ​ ถ้านักเขียน​คนอื่น​เกิด​ความคิด​นี้​ คลัง​หนังสือ​ซิลเวอร์​บลู​ย่อม​ไม่เห็นด้วย​อย่าง​แน่นอน​ แต่​ถ้าเป็น​หัวหน้า​ละ​ก็​ ผม​ว่า​ไม่ใช่เรื่อง​ยาก​ การ​คว้า​ตำแหน่ง​เทพ​สูงสุด​จดหมาย​เสนอชื่อ​ใน​การ​เจรจา​เงื่อนไข​ของ​เรา​ พวกเขา​ไม่มีเหตุผล​ให้​ปฏิเสธ​ ในอนาคต​สำนักพิมพ์​ที่​อยาก​ร่วมงาน​กับ​เรา​คง​ต่อ​แถว​ไป​ถึงหา​น​โจว​แล้ว​ ประเด็น​อยู่​ที่​ความแตกต่าง​ของ​จำนวน​หุ้น​ที่​ได้รับ​เท่านั้นเอง​ครับ​”

หลิน​เยวียน​พยักหน้า​เต็มแรง​!

เพื่อ​ตอบสนอง​ความกระหาย​ของ​ระบบ​ ทำงาน​คือ​ทำงาน​ไม่ได้​ ชีวิต​นี้​ทำงาน​ไม่ได้​ จะให้​ตน​ไป​เป็น​ผู้บริหาร​ของ​บริษัท​ก็​ทำ​ไม่เป็น​ ทำได้​เพียง​ถือหุ้น​เพื่อ​ประทังชีวิต​[1]…

————————

ปล.​ ตัวเอก​เรื่อง​นี้​จะไม่เป็น​ประธาน​บริษัท​ คาแร็กเตอร์​ของ​เขา​ไม่เหมาะสม​ ดังนั้น​หลังจากนี้​เขา​จะเข้า​ถือหุ้น​บริษัท​บางแห่ง​ นับว่า​เป็น​กึ่ง​ประธาน​บริษัท​

[1] ทำงาน​คือ​ทำงาน​ไม่ได้​ ชีวิต​นี้​ทำงาน​ไม่ได้​ จะให้​ตน​ไป​เป็น​ผู้บริหาร​ของ​บริษัท​ก็​ทำไม​่เป็น​ ทำได้​เพียง​ถือหุ้น​เพื่อ​ประทังชีวิต​ เป็น​การเขียน​ล้อ​จาก​ข่าว​เกี่ยวกับ​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่งถูกจับ​ เมื่อ​ถูก​นักข่าว​ถามว่า​ทำไม​ถึงไม่ไปหา​งาน​ทำ​ ทำไม​ถึงมาขโมย​ของ​เช่นนี้​ เขา​ตอบ​ว่า​ ‘ทำงาน​คือ​ทำงาน​ไม่ได้​ ชีวิต​นี้​ทำงาน​ไม่ได้​ จะให้​ไป​ทำ​ธุรกิจ​ก็​ทำไม​่เป็น​ ทำได้​แค่​ขโมย​ของ​เพื่อ​ประทังชีวิต​ กลับ​เข้า​สถานกักกัน​ก็​เหมือน​ได้​กลับบ้าน​ รู้สึก​ว่า​ใน​สถานกักกัน​ดีกว่า​อยู่​บ้าน​อีก​! ใน​นั้น​ใครๆ​ ก็​เก่ง​ พูดจา​ก็​เพราะ​ ผม​ชอบ​ใน​นั้น​มาก​!’ ภายหลัง​คำพูด​ของ​เขา​กลายเป็น​ไวรัล​ และ​ใน​ปัจจุบัน​มัก​ใช้เสียดสี​ความเพ้อฝัน​ใน​ชีวิต​ของ​มนุษย์​เงินเดือน​ ซึ่งไม่อยาก​ทำงาน​ และ​อยาก​รวย​ขึ้น​มากะทันหัน​ แต่​ใน​ชีวิตจริง​กลับ​ต้อง​ก้มหน้าก้มตา​ทำงาน​ซึ่งค่าตอบแทน​ต่ำ​ต่อไป​