ตอนที่ 479 ภัยร้ายแรง

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 479 ภัยร้ายแรง

เนื้อหาในจดหมายของไป๋จิ่นซิ่วกล่าวว่าสืบพบสาเหตุที่จวนหวังแห่งซอยจิ่วชวีและจวนเหลียงอ๋องไปมาหาสู่กันแล้ว…จวนเหลียงอ๋องแลกเปลี่ยนเด็กกับจวนหวัง ไป๋จิ่นซิ่วสั่งให้คนจับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนเหลียงอ๋องและจวนหวังอยู่ตลอดเวลา

องครักษ์ลับที่ไป๋จิ่นซิ่วส่งไปเห็นทั้งสองฝ่ายพบกันกับตาของตัวเอง ได้ยินผู้ดูแลจวนเหลียงอ๋องกล่าวว่าต่อไปต้องการเด็กหญิงชายที่อายุต่ำกว่าสิบปี ที่สำคัญต้องการเด็กหญิงเด็กชายอย่างละสิบคนต่อครั้ง จากนั้นผู้ดูแลจวนเหลียงอ๋องจึงพาเด็กหญิงและเด็กชายอย่างละห้าคนแอบเข้าไปในจวนเหลียงอ๋องอย่างเงียบเชียบ

ไป๋ชิงเหยียนเผาจดหมายในมือ เมื่อเห็นจดหมายกลายเป็นขี้เถ้าจนเกือบหมดแล้วจึงวางลงบนถาด

เหลียงอ๋องต้องการเด็กไปทำสิ่งใดกันแน่

ฮ่องเต้ส่งองครักษ์ไปคุ้มกันจวนเหลียงอ๋องอย่างแน่นหนา ฮ่องเต้ไม่มีทางไม่รู้ว่าเหลียงอ๋องลอบนำเด็กสิบคนเข้าไปในจวน

หรือว่าจะเกี่ยวข้องกับการปรุงยาวิเศษ

ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ เม้มปากไม่กล่าวสิ่งใดออกมาทั้งสิ้น

หลังจากที่จี้หลางหวาป่าวประกาศในเมืองหลวงว่าตนมียาวิเศษชุบชีวิตคนให้ฟื้นขึ้นมาได้ ฮ่องเต้ดูจะสนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษ เหลียงอ๋องจึงใช้เรื่องนี้ประจบเอาใจฮ่องเต้

ไป๋ชิงเหยียนเดือดดาลขึ้นทันที ในสมองเต็มไปด้วยโทสะ

หากเป็นอย่างที่นางคาดเดา หากเหลียงอ๋องกล้าทำเรื่องที่เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉานอย่างการใช้ชีวิตของเด็กมาปรุงยาเพื่อเอาใจฮ่องเต้…

หากฮ่องเต้รู้เรื่องและยังกล้าใช้ยาวิเศษนี้ กระทั่งนี่คือคำสั่งของฮ่องเต้…

เช่นนั้นอำนาจของราชวงศ์หลินแห่งแคว้นต้าจิ้นก็ควรจบลงจริงๆ แล้ว

“ลุงหลิวอยู่ที่จวนหรือไม่” ไป๋ชิงเหยียนหันไปถามถงหมัวมัว

“น่าจะอยู่เจ้าค่ะ!” ถงหมัวมัวตอบ

“หมัวมัวส่งคนไปบอกให้ลุงผิงและพ่อบ้านเหาไปรอข้าที่เรือนรับรองหน้าด้วย” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวจบจึงหยิบพู่กันเขียนจดหมายตอบกลับไป๋จิ่นซิ่ว

ไป๋ชิงเหยียนบอกให้ไป๋จิ่นซิ่วส่งคนจับตาดูความเคลื่อนไหวของจวนหวังต่อไป อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น ส่งคนไปสืบเรื่องราวในจวนอ๋อง พยายามปกป้องชีวิตของเด็กสิบคนนั้นอย่างสุดความสามารถ

เรื่องบางเรื่องไม่เหมาะให้ไป๋จิ่นซิ่วซึ่งกำลังตั้งครรภ์อยู่ทำอีกต่อไปแล้ว ทว่า องค์รัชทายาทน่าจะเหมาะสมกว่า

เมื่อพับจดหมายที่เขียนถึงไป๋จิ่นซิ่วเสร็จแล้ว ไป๋ชิงเหยียนเขียนจดหมายถึงองค์รัชทายาทอีกหนึ่งฉบับ

ไป๋ชิงเหยียนบอกองค์รัชทายาทว่าเหลียงอ๋องอาจกำลังแอบปรุงยาวิเศษลับหลังฮ่องเต้ ที่สำคัญเขาสั่งให้คนใช้เด็กในการปรุงยา หากองค์รัชทายาทเปิดโปงเหลียงอ๋องได้จะถือเป็นการกำจัดภัยร้ายแรงอย่างเหลียงอ๋องไปได้

บัดนี้เหลียงอ๋องกำลังจะแต่งงานกับหลิ่วรั่วฟู เบื้องหลังของหลิ่วรั่วฟูคือเสียนอ๋องซึ่งมีอำนาจทางทหาร องค์รัชทายาทร้อนใจยิ่งกว่าผู้ใดทั้งสิ้น

หากองค์รัชทายาทรับรู้ว่าเหลียงอ๋องลอบปรุงยาวิเศษในจวนของตัวเอง เขาต้องใช้ความลับนี้มาจัดการกับเหลียงอ๋องแน่นอน

ถึงแม้ที่ปรึกษาขององค์รัชทายาทจะเดาได้ว่าเหลียงอ๋องปรุงยาเพื่อฮ่องเต้ ทว่า หากต้องเลือกระหว่างการขัดขวางไม่ให้เหลียงอ๋องแต่งงานกับบุตรสาวคนเดียวของเสียนอ๋องกับการล่วงเกินฮ่องเต้ องค์รัชทายาทย่อมเลือกขัดขวางการแต่งงานของเหลียงอ๋องและหลิ่วรั่วฟูอยู่แล้ว

แม้องค์รัชทายาทมั่นใจว่าตนควบคุมกองทัพไป๋ได้แล้ว ทว่า กองทัพไป๋อยู่ไกลถึงหนานเจียง องค์รัชทายาทย่อมกังวลเป็นธรรมดา…

ที่สำคัญที่สุด ขอเพียงขัดขวางการขึ้นครองบัลลังก์ของเหลียงอ๋องได้ นอกจากโอรสที่ยังเด็กอยู่เหล่านั้น ฮ่องเต้มีองค์รัชทายาทเป็นโอรสที่อยู่ในวัยที่เหมาะสมสำหรับการขึ้นครองบัลลังก์เพียงคนเดียวเท่านั้น ผู้อื่นไม่อาจแย่งชิงบัลลังก์กับเขาได้อีก

การคำนวณผลประโยชน์และอำนาจที่จะได้รับ คนขององค์รัชทายาทอย่างฟางเหล่าไม่มีทางทำให้คนผิดหวังแน่นอน

ไป๋ชิงเหยียนพับจดหมายทั้งสอง จากนั้นนำไปยังโถงรับรองด้านหน้าด้วย

ผู้ดูแลหลิวและพ่อบ้านเหารอไป๋ชิงเหยียนอยู่ก่อนแล้ว เมื่อเห็นไป๋ชิงเหยียนเข้ามาแล้วไล่ทุกคนออกไปจนหมด ทั้งคู่จึงตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องที่จะกล่าวทันที

“ลุงหลิวช่วยส่งคนที่ไว้ใจได้สองคนนำจดหมายสองฉบับนี้ไปส่งที่เมืองหลวงโดยเร็วที่สุด ฉบับนี้ให้จิ่นซิ่ว!” ไป๋ชิงเหยียนยื่นจดหมายที่เขียนถึงองค์รัชทายาทให้ผู้ดูแลหลิวเช่นกัน “ฉบับนี้ส่งไปยังจวนองค์รัชทายาท”

“ขอรับ!” ผู้ดูแลหลิวรับคำแล้วเดินจากไป

“พ่อบ้านเหาช่วยไปที่จวนเจ้าเมืองให้ข้าสักรอบ บอกเสิ่นเยี่ยนฉงว่าพรุ่งนี้เช้าข้าจะไปตรวจสอบที่สนามฝึก จากนั้นถือโอกาสสอบถามเขาด้วยว่ามีเด็กถูกจับตัวไปทั้งหมดกี่ครอบครัวแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนกล่าว

แม้พ่อบ้านเหาจะไม่เข้าใจเจตนารมณ์ของไป๋ชิงเหยียน ทว่า รู้ดีว่าไป๋ชิงเหยียนทำทุกอย่างอย่างมีเหตุผล เขาจึงพยักหน้ารับคำ “ขอรับ!”

ระหว่างเดินทางกลับซั่วหยางไป๋ชิงเหยียนได้ยินเรื่องเด็กสูญหายไปไม่น้อย ประจวบเหมาะกับที่จวนเหลียงอ๋องนำเด็กไปจากจวนหวังถึงสิบคน ไป๋ชิงเหยียนอดเชื่อมโยงเรื่องเข้าด้วยกันไม่ได้

พ่อบ้านเหาเป็นตัวแทนของตระกูลไป๋ ทุกคนในซั่วหยางต่างรับรู้เรื่องนี้ดี เมื่อพ่อบ้านเหาไปยังจวนเจ้าเมือง หากเจ้าเมืองต้องการผูกมิตรกับไป๋ชิงเหยียนย่อมบอกทุกอย่างที่ตัวเองรู้ให้พ่อบ้านเหาฟัง

เมื่อเห็นผู้ดูแลหลิวและพ่อบ้านเหาออกมาจากด้านในหมดแล้ว ชุนเถาจึงเดินเข้าไปในโถงรับรอง

ผ้าม่านผืนบางซึ่งแขวนอยู่ที่เสาใหญ่สีดำทั้งสองข้างถูกแขวนเก็บอยู่บนตะขอเหล็ก เปลวไฟในตะเกียงทั้งสิบหกดวงส่องแสงริบหรี่ แสงไฟสีเหลืองส่องสะท้อนใบหน้าของไป๋ชิงเหยียนซึ่งกำลังนั่งใช้ความคิด ช่างงดงามราวกับภาพวาด

ชุนเถาสงสารไป๋ชิงเหยียนที่ตั้งแต่กลับมายังไม่ได้พักผ่อนแม้แต่น้อย นางก้าวไปด้านหน้า เอ่ยเสียงแผ่วเบา “คุณหนูใหญ่เสร็จแล้วก็รีบกลับไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ เมื่อครู่บ่าวได้ยินว่าตอนคุณหนูสี่กลับมา นางหลับไปตื่นหนึ่ง เมื่อทานข้าวที่เรือนเสาหวาเสร็จ คุณหนูสี่ยังง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้นเลยนะเจ้าคะ หมัวมัวข้างกายของฮูหยินสามเป็นคนแบกนางกลับเรือนเจ้าค่ะ!”

มีเพียงคุณหนูใหญ่ของนางเท่านั้นที่ตั้งแต่กลับมาถึง ได้พักสายตาแค่ตอนอาบน้ำเท่านั้น จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้พักผ่อนเลย

ไป๋ชิงเหยียนได้ยินจึงพยักหน้าให้ชุนเถา ลุกขึ้นยืน เดินทอดยาวไปตามระเบียงทางเดินไปทางเรือนปัวอวิ๋น ในใจยังคงคิดเรื่องโจรป่าลักพาตัวเด็กอยู่

แม้หลูผิงจะยังไม่กลับมาจากไปพบจี้ถิงอวี๋ ทว่า ไป๋ชิงเหยียนมีความรู้สึกว่าคนที่ลักพาตัวเด็กเหล่านี้ไปคิดว่าโจรป่าเหล่านั้นกล้าปล้นแม้กระทั่งของขององค์รัชทายาทและองค์หญิงเจิ้นกั๋ว พวกเขาจึงเลือกลงมือที่ซั่วหยางเช่นเดียวกัน

ไม่ว่า ‘โจรลักพาตัวเด็ก’ จะเป็นคนของจวนหวังหรือจวนเหลียงอ๋อง ในเมื่อพวกเขากล้ามาที่นี่…เช่นนั้นก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปอีก

ทุกคนไม่ว่าฮ่องเต้หรือชาวบ้านล้วนรับรู้เรื่องที่นางฝึกซ้อมชาวบ้านเพื่อปราบปรามโจรป่า นางจะได้ถือโอกาสนี้ลงมือกับคนกลุ่มนี้ก่อน ถือเป็นการแสดงให้ฮ่องเต้เห็นด้วย

พรุ่งนี้ไป๋ชิงเหยียนจะไปตรวจสอบที่ค่ายฝึก หากชาวบ้านเริ่มฝึกซ้อมได้ดีแล้ว นางอาจพาไปลองในสนามจริงได้ คนที่แฝงตัวมาเพื่อเล่นสนุกมีของกินไปวันๆ จะได้รู้ว่าของเหล่านี้ไม่ได้ได้มาเปล่าๆ ต่อไปหากผู้อื่นอยากเข้าร่วมการฝึก พวกเขาจะได้พิจารณาให้ดีเสียก่อน

เมื่อไป๋ชิงเหยียนกลับไปถึงเรือนปัวอวิ๋นก็ไม่ได้พักผ่อน หญิงสาวให้ชุนเถาเพิ่มน้ำหนักถุงทรายเพื่อฝึกฝนหอกหงอิง ชุนเถาและถงหมัวมัวสงสารคุณหนูใหญ่จับใจ ทว่า คุณหนูใหญ่ของพวกนางเป็นคนกล่าวคำไหนคำนั้น ไม่มีผู้ใดโน้มน้าวได้ คุณหนูใหญ่ไม่ยอมนอนพักผ่อน พวกนางจึงทำได้แต่อยู่เป็นเพื่อน

จนเมื่อพ่อบ้านเหากลับมาจากจวนเจ้าเมือง ไป๋ชิงเหยียนจึงเสียบหอกไว้ที่ชั้นตามเดิม หญิงสาวใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อ ให้ถงหมัวมัวไปตามพ่อบ้านเหามาที่ลานหญ้า

“เจ้าเมืองกล่าวว่าเท่าที่เขาตรวจสอบรวมถึงที่ได้รับรายงานวันนี้อีกเจ็ดคน มีเด็กสูญหายไปทั้งสิ้นยี่สิบเอ็ดคนขอรับ ในยี่สิบเอ็ดคนนี้มีสิบหกคนถูกโจรจับตัวไปขอรับ” พ่อบ้านเหายืนรายงานอยู่ด้านข้างไป๋ชิงเหยียน

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว ลำบากพ่อบ้านเหาแล้ว ไปพักผ่อนเถิด!”