ตอนที่ 999 ใครกลืนกินใครกันแน่ (1) ตอนที่ 1000 ใครกลืนกินใครกันแน่ (2)

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 999 ใครกลืนกินใครกันแน่ (1) / ตอนที่ 1000 ใครกลืนกินใครกันแน่ (2)
ตอนที่ 999 ใครกลืนกินใครกันแน่ (1)

พอจวินอู๋เสียเห็นมังกรมายา นางก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างอธิบายไม่ถูกโดยไม่รู้ว่าทำไม แรงกระตุ้นของสัญชาตญาณที่รุนแรงกำลังจะเข้ายึดครองสติของนาง!

มันเป็นความรู้สึกที่จวินอู๋เสียไม่เคยสัมผัสมาก่อน แรงกระตุ้นที่รุนแรงทำให้นางขมวดคิ้วพร้อมกับพยายามฝืนสะกดความรู้สึกนั้นลง สีหน้าของนางจึงดูไม่ค่อยดีนัก

ตอนนั้นเองหลินเฟิงก็บังเอิญหันมามองจวินอู๋เสียพอดี และสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของสีหน้านางได้อย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของจวินอู๋เสียซีดขาว คิ้วขมวดแน่น หลินเฟิงก็รู้สึกยินดี เขาอยากเห็นภาพจวินอู๋เสียร้องไห้สะอึกสะอื้นและคร่ำครวญอย่างหมดสิ้นหนทางเร็วๆ!

บนเวทีประลอง มังกรมายามองไปที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะด้วยแววตาอำมหิต

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแปลกใจอยู่ชั่วครู่ตอนที่เห็นมังกรมายาครั้งแรก มันจ้องมองสัตว์วิญญาณตัวมหึมาตรงหน้ามัน

เสียงระฆังเริ่มศึกประลองสัตว์วิญญาณดังขึ้น!

มังกรมายาอ้าปากกว้างทันทีตามคำสั่งของชายหนุ่มคนนั้น ร่างครึ่งบนของมันพุ่งตรงเข้าใส่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะราวกับลูกธนู!

การเคลื่อนไหวของมันรวดเร็วราวสายฟ้าเรียกเสียงฮือฮาอย่างตกใจจากผู้ชม!

“เร็วมาก!”

เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนดังขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเจ้าแกะจะถูกฆ่า ร่างเล็กๆ สีขาวก็กระโดดขึ้นสูงจากเวทีประลองอย่างฉับพลัน!

การเคลื่อนไหวของมันราวกับสายฟ้าสีขาว ไม่ได้ช้าไปกว่ามังกรมายาเลยแม้แต่น้อย!

ทุกคนมองร่างเล็กๆ ของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ลอยอยู่กลางอากาศด้วยความตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นสัตว์วิญญาณแกะน้อยตัวนี้ขยับออกจากที่ที่มันยืนอยู่ในการต่อสู้บนเวทีประลอง ความเร็วของมันทำให้ทุกคนตกตะลึงอยู่พักใหญ่

ขณะที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกระโดดขึ้นไปบนอากาศ สายตาของมันก็ยังจับจ้องอยู่ที่มังกรมายาบนเวทีประลอง ในดวงตาใสกระจ่างกลมโตคู่นั้นปรากฏแววกระหายอย่างรุนแรงขึ้นมา!

มังกรมายาโจมตีพลาดในครั้งแรก มันหมุนหัวกลับมาแล้วพุ่งเข้าใส่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ยังลอยอยู่กลางอากาศพร้อมกับอ้าปากกว้างเพื่อเตรียมงับเหยื่อ การเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วของร่างที่ใหญ่โตนั้นทำให้เกิดสายลมแรงทั้งสี่ด้านของเวทีประลอง!

คนที่อยู่ใกล้เวทีประลองที่สุดถูกกระแสลมแรงพัดจนล้มลงกับพื้น!

ทุกสายตาเฝ้ามองอย่างตั้งใจขณะที่มังกรมายากำลังจะเขมือบใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่กำลังตกลงมา ทันใดนั้นเจ้าก้อนกลมสีขาวขนปุยที่ยังลอยอยู่กลางอากาศก็ส่องแสงสว่างจ้าจนแสบตาออกมา!

แสงนั้นสว่างจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ มันขยายตัวขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว!

“แบ๊ะ!”

เสียงร้องที่คุ้นเคยดังขึ้นจากในแสงแสบตานั้น ผู้ชมต่างหรี่ตาลงและยกมือขึ้นป้องตาพลางพยายามมองอย่างเต็มที่ว่าเกิดอะไรขึ้นบนเวทีประลอง เมื่อแสงสว่างจ้านั้นจางหายไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงกระแทกหนักๆ ดังลั่นขึ้นทันที! ร่างขนาดมหึมาพลันปรากฏขึ้นในลานประลองสัตว์วิญญาณ!

มันคือสัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ที่มีแสงจางๆ เปล่งออกมาจากทั่วร่าง หางยาวทั้งเก้าของมันโบกสะบัดไปมาอยู่ด้านหลัง!

มังกรมายาที่หยิ่งผยอง จองหอง และทรงอำนาจอยู่เมื่อครู่นี้ ตอนนี้ถูกตรึงอยู่กับพื้นเวทีประลองภายใต้เท้าของสัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ตัวนั้น!

เวทีประลองทำจากเหล็กจึงแข็งแกร่งและทนทานมาก แต่แค่สัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ตัวนั้นกระทืบเท้าลงครั้งเดียว เวทีประลองทั้งเวทีก็แตกละเอียดในชั่วพริบตา!

มังกรมายากรีดร้องเสียงแหลมจนแสบแก้วหู ทันทีที่พบว่าตัวเองถูกกรงเล็บของสัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ตัวนั้นตรึงเอาไว้ มันก็ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง เสียงร้องของมันเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและสิ้นหวัง!

สัตว์วิญญาณขนาดยักษ์หรี่ตาลงมองมังกรมายาที่กำลังดิ้นรนอยู่ใต้เท้าของมัน แล้วมันก็แลบลิ้นสีแดงโลหิตออกมาเลียปาก

ทั่วทั้งลานประลองเงียบกริบ ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาเลยสักเสียงเดียว ไม่มีใครรู้ว่าสัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ตัวนั้นโผล่มาจากที่ไหน…

ตอนที่ 1000 ใครกลืนกินใครกันแน่ (2)

พอสัตว์วิญญาณขนาดยักษ์ปรากฏตัวขึ้น ลานประลองที่กว้างขวางใหญ่โตก็เล็กแคบลงในพริบตา คนที่อยู่ใกล้เวทีประลองที่สุด ถูกเหยียบตายคาที่ทันทีตอนที่สัตว์วิญญาณขนาดยักษ์หล่นลงมาที่พื้น!

กลิ่นคาวโลหิตลอยไปทั่วลานประลองสัตว์วิญญาณ ดวงตาทุกคู่เบิกกว้างพลางจ้องมองไปที่สัตว์วิญญาณเก้าหางอย่างไม่อยากจะเชื่อ!

“สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ…มันคือสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ!” ท่ามกลางความเงียบ เสียงกรีดร้องเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นทำให้ฝูงชนพากันอ้าปากค้าง!

ไม่มีใครคิดว่าสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่มีอยู่แค่ในตำนานจะปรากฏตัวขึ้นที่ลานประลองสัตว์วิญญาณในเมืองพันอสูร!

จวินอู๋เสียมองใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่เปิดเผยตัวจริงของมันออกมาอย่างใจเย็น รอยยิ้มบางๆ ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของนาง

หลินเฟิงที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางฝูงชนและเตรียมสนุกสนานกับแสดงอันยอดเยี่ยมที่กำลังจะเกิดขึ้น ก็ตกตะลึงกับทุกสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างตกใจ เขามองมังกรมายาที่ถูกตรึงอยู่ใต้เท้าของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง

เสียงกรีดร้องครวญครางของมังกรมายาดังมาถึงหูของเขา เสียงนั้นฟังดูน่าสงสารมากและเต็มไปด้วยความหวาดกลัว!

“ไม่นะ!” หลินเฟิงสังหรณ์ร้ายขึ้นมาทันที เขาโยนความระมัดระวังตัวทั้งหมดทิ้งไป แล้วตะเกียกตะกายแหวกฝูงชนตรงไปที่มังกรมายา

แต่แล้วทันใดนั้นเอง ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็อ้าปากกว้างแล้วจัดการเขมือบเจ้าสัตว์วิญญาณที่บิดตัวดิ้นรนอยู่ใต้เท้าของมันลงท้อง!

มังกรมายาที่ตัวใหญ่เกือบเท่าภูเขาขนาดย่อมๆ ถูกกลืนลงไปทั้งตัวโดยไม่ต้องเคี้ยวเลยด้วยซ้ำ!

หลินเฟิงที่แหวกฝูงชนออกมาได้ทันเห็นแค่ปลายหางของมังกรมายาหายเข้าไปในปากของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะและอาการของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะขณะกำลังกลืนมันลงท้อง หลินเฟิงรู้สึกเหมือนโลหิตถูกสูบออกไปจากร่างกายจนหมด เขาทิ้งตัวลงกับพื้นอย่างหมดเรี่ยวแรง

มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร

มันกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน

มังกรมายาเป็นฝ่ายถูกกินได้อย่างไร!

ในใจของหลินเฟิงปฏิเสธไม่ยอมเชื่อสิ่งที่เห็นว่าเป็นความจริง!

มังกรมายาเป็นของขวัญที่ท่านพ่อจัดเตรียมอย่างระมัดระวังเพื่อที่จะมอบให้แก่ท่านผู้นั้น!

แต่ตอนนี้เขาได้แอบเอามังกรมายาออกมา ทำให้มังกรมายาถูกสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติกินเข้าไปโดยไม่เหลือแม้แต่เกล็ดสักชิ้น…

ความหวาดกลัวเข้าเกาะกุมหัวใจของหลินเฟิง ฟันของเขาเริ่มกระทบกัน และร่างกายของเขาก็พลันเย็นเยียบขึ้นมา

ในตอนที่มังกรมายาถูกใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกลืนลงท้องไปจนหมด แรงกระตุ้นอย่างรุนแรงที่จวินอู๋เสียรู้สึกก็หายไปทันทีโดยไม่เหลือร่องรอย นางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างงุนงง ขณะที่สังเกตได้ถึงความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของตัวเอง

ทั้งลานประลองตกอยู่ในความโกลาหลวุ่นวาย การปรากฏตัวของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติทำให้หลายคนกลัวจนเสียสติ พวกเขาพากันร้องโหยหวนแล้วพยายามถอยหนีอย่างหวาดกลัว ความรู้สึกที่มีต่อสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติก็คือความกลัวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!

ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเลียปากอย่างพอใจ ความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะที่ใต้เท้าของมันทำให้มันรู้สึกไม่สบายตัว จึงเปลี่ยนร่างกลายเป็นลูกบอลแสงในทันทีและร่างอันใหญ่โตนั้นก็ค่อยๆ หดกลับมาเป็นก้อนกลมเล็กๆ ขนปุยทีละนิด

เมื่อแสงจ้าจางหายไป เจ้าแกะน้อยน่ารักก็ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางเศษซากเวทีประลอง

“แบ๊ะ” ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะมองความวุ่นวายรอบๆ ตัว มองเวทีประลองที่เหลือแต่ซาก และกองโลหิตและชิ้นเนื้อทางด้านหนึ่งที่มันทำไว้ตอนที่ ‘เผลอ’ เหยียบพวกเขา จากนั้นก็ส่งเสียงร้องออกมาหนึ่งครั้งอย่างงุนงง

และด้วยเสียงร้องหนึ่งครั้งนี้เอง ความโกลาหลวุ่นวายในลานประลองสัตว์วิญญาณก็หยุดนิ่งและตกลงสู่ความเงียบอีกครั้ง!

ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่ยืนอยู่ท่ามกลางเศษซากพวกนั้นอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาไม่เคยคิดฝันเลยว่าผู้ที่สร้างฝันร้ายอันน่าสะพรึงกลัวให้พวกเขาจะเป็น ‘สัตว์วิญญาณระดับต่ำ’ ที่พวกเขาดูถูกเหยียดหยามมาโดยตลอด!