เฟิงหานชวนอุ้มเป๋าฮวน วางเธอลงบนที่นั่งข้างคนขับ
จากนั้น เขาก็สตาร์ทรถ ขับไปที่บริษัทหมิงอวี่ บ้านของพวกเขา
ตลอดถาม เป๋าฮวนพิงหลังบนที่นั่ง หลับตาลง ไม่ได้พูดอะไรทั้งสิ้น เหมือนกับหลับอยู่ยังไงยังงั้น
แต่เฟิงหานชวนรู้ ว่าหญิงตัวเล็กคนนี้ไม่ได้หลับ เธอแค่อารมณ์ไม่ดี
เขาไม่ได้รบกวนเธอ แล้วขับรถอย่างเงียบ ๆ
น่าจะประมาณสี่สิบนาที เขาจอดรถลงที่หน้าประตูบ้าน
เป๋าฮวนรู้สึกได้ว่าลงจอดลง จึงค่อย ๆ ลืมตาขึ้น เป็นไปอย่างที่คิด ด้านหน้าก็คือคฤหาสน์ของเธอกับเฟิงหานชวน
เธอหันหน้ามา ประสานสายตาเข้ากับชายหนุ่มพอดี สีหน้าของเฟิงหานชวนแสดงถึงความเป็นห่วง “ฮวนฮวน ถึงบ้านแล้ว”
“อืม” เป๋าฮวนพยักหน้า เธอดูเศร้าเล็กน้อย
“ฮวนฮวน ผมไปส่งคุณที่ห้อง” เฟิงหานชวนยื่นมือออกมาลูบหัวหญิงสาวเบา ๆ
ในตอนนี้เอง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมาดู เป็นลูกน้องที่โทรมา
เขารับสายทันที แล้วเปิดลำโพง เสียงของซูอวี่ดังขึ้น “ประธานเฟิงครับ พวกเราจับหลีซืออวิ๋นกับเฉินเจี๋ยได้แล้วครับ พวกเขาอยู่ที่โรงงานร้างแถบชานเมือง พื้นที่รกร้างสุดถนนเฉินตง”
“ฉันจะไปตอนนี้” เฟิงหานชวนสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงเย็นชาเป็นอย่างมาก
“ประธานเฟิงครับ ไม่อย่างงั้น…พวกผมพาพวกเขาไปที่คุกก่อน? สถานการณ์ของพวกเขาตอนนี้…” ซูอวี่พูดติด ๆ ขัด ๆ เหมือนจะพูดออกมาได้ยาก
“สถานการณ์ของพวกเขาเป็นยังไง?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว สีหน้าเคร่งขรึม
“คือแบบนี้ครับ ตอนที่พวกเรามาที่นี่ หลีซืออวิ๋นกับเฉินเจี๋ยกำลังทำบางอย่าง…อยู่ที่โรงงานร้าง…แล้วถูกพวกเราจับได้พอดี” คำพูดของซูอวี่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ และอธิบายได้อ้อมค้อมมาก
หลังจากที่เป๋าฮวนได้ยิน ก็หน้าดำหน้าเขียว
หลังจากที่เฉินเจี๋ยถูกเปิดเผย หลีซืออวิ๋นไม่เพียงไม่รู้สึกผิดใด ๆ สักนิด แถมยังมีเพศสัมพันธ์กันกับเฉินเจี๋ยที่โรงงานร้างอย่างโอ่อ่า
เธอทำเรื่องร้ายกาจขนาดนั้น แม้แต่รู้สึกผิดสักนิดก็ไม่มีเลยเหรอ?
ตอนนี้เป๋าฮวนรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก เดิมทีตัวเองไม่อยากจะซักถามเรื่องนี้แล้ว ให้หลีซืออวิ๋นได้รับการลงโทษตามกฎหมายก็พอแล้ว แต่ตอนนี้เมื่อได้ยินข่าวนี้ เธอรู้สึกได้ถึงเปลวเพลิงแห่งความโกรธที่จุดประกายในหัวใจของเธอ
สองมือกำหมัดแน่น เส้นเลือดเขียวที่หลังมือปูดขึ้นมา
เธอกัดฟัน สายตาเย็นชา แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้น กดโทรหาจิ่งมั่ว “อามั่ว นายกับอาเหลิ่งพาคนกลุ่มหนึ่งไปที่โรงงานร้างสุดถนนเฉินตง”
“คุณหนูครับ คุณถึงประตูบ้านแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมจู่ ๆ…” จิ่งมั่วกับจิ่งเหลิ่งอยู่ที่ระเบียงของคฤหาสน์พอดี พวกเขาเห็นรถของเฟิงหานชวนจอดอยู่ที่ประตู เขาอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสงสัย
“สืบหาคนร้ายได้แล้ว อยู่ที่นั่น ฉันมีเรื่องให้พวกนายทำ” เป๋าฮวนสายตาเย็นชา สีหน้าไม่แสดงออกใด ๆ ทั้งสิ้น
หลังจากวางสาย เธอหันหน้ามามอง ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนที่นั่งคนขับ แล้วพูดขึ้นอย่างเย็นชา “อาหาน การลงโทษครั้งนี้ ให้ฉันเป็นคนจัดการเอง”
“นี่คือการลงโทษของตระกูลเป๋า ไม่เกี่ยวกับตระกูลเฟิงของคุณ และนี่ก็คือการลงโทษที่เป๋าฮวนมีต่อหลีซืออวิ๋น”
แต่ละคำพูดของเธอ ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนที่เคย รอบตัวเต็มไปด้วยออร่าความเย็นชา
เฟิงหานชวนรู้ว่าเธอโมโหจริง ๆ แล้ว
เขาพยักหน้า น้ำเสียงปกติ “ผมไม่มีทางห้ามขึ้น เพราะจากที่ผมดู อารมณ์ของคุณสำคัญที่สุด”
“อาหาน ขับรถไปกันเถอะ” เป๋าฮวนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ สายตาเย็นชาเป็นที่สุด
จากนั้นเฟิงหานชวนก็สตาร์ทรถ ไปยังตำแหน่งถนนเฉินตง
หลังจากที่รถของพวกเขาขับออกไป จิ่งมั่วกับจิ่งเหลิ่งก็ออกเดินทางทันที หลังจากพวกเขาไม่กี่นาที ก็มาถึงโรงงานร้างพร้อมกัน
ซูอวี่กับลูกน้องกลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่ที่โกดังของโรงงาน ตอนที่เป๋าฮวนเดินเข้าไป เห็นเฉินเจี๋ยกับหลีซืออวี๋เปลือยเปล่า ถูกมัดไว้ทั้งตัว ล้มลงอยู่บนพื้น
เมื่อเห็นเป๋าฮวนกับเฟิงหานชวนมา หลีซืออวิ๋นน้ำตาไหลภายในสามวินาทีทันที ตาแดงชุ่มน้ำคู่นั้น เธอมองพวกเขา แล้วรีบขอโทษ “ฮวนฮวน ขอโทษ เมื่อก่อนฉันวู่วามเกินไปจริง ๆ ฉันไม่ควรจะทำแบบนั้น ฉันรู้ว่าตัวเองผิดไปแล้วจริง ๆ”
“หานชวน นายรีบให้พวกเขาปล่อยฉัน ตอนนี้ฉันไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าอะไรเลย พวกเขาเป็นผู้ชายนะ ฮือฮือฮือ…” หลีซืออวิ๋นร้องไห้หนักมาก ใช้สายตาอ้อนวอนมองไปที่เฟิงหานชวน
เธอรู้ว่าตัวเองในตอนนี้ แสดงความอ่อนแอเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เธอไม่มีความจำเป็นต้องยั่วโมโหเฟิงหานชวนกับเป๋าฮวน
“หลีซืออวิ๋น ตอนนี้เธอทำอะไร? แกล้งทำเป็นน่าสงสารเหรอ? ทำเหมือนกับเธอเป็นคนที่ถูกทำร้ายยังไงยังงั้น?” เป๋าฮวนมองดูหลีซืออวิ๋นที่ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด แล้วหัวเราะเย็นชา
หลีซืออวิ๋นรีบอธิบาย “ฮวนฮวน ฉันผิดไปแล้วจริง ๆ เมื่อก่อนฉันวู่วามเกินไป ถูกความอิจฉาริษยาครอบงำ โทษฉันที่อยากแต่งงานกับหานชวน แล้วจู่ ๆ เธอก็ปรากฏตัวขึ้น ดังนั้นฉันถึงได้ทำร้ายเธอ ฉันผิดไปแล้วจริง ๆ…”
“เธอผิดไปแล้ว? เธอรู้ว่าตัวเองผิด? ถ้าเธอรู้สึกผิดสักนิด คงไม่มีอารมณ์ทำเรื่องแบบนี้กับเฉินเจี๋ยที่โรงงานร้างนี่!” เป๋าฮวนมองดูรอยต่าง ๆ บนพื้น แถมยังได้กลิ่นคาว เธอรู้สึกว่าตัวเองแทบจะอ้วกแล้ว
“ไม่…ฮวนฮวน ฉันไม่ได้ตั้งใจ เฉินเจี๋ยบังคับฉัน! เป็นเขาทั้งนั้น…” เวลานี้ หลีซืออวิ๋นถลึงตาใส่เฉินเจี๋ยทันที เธอถลึงตาใส่เขาอย่างดุเดือด “เป็นเขาเป็นเขาทั้งหมด! เขาพูดว่าถ้าหากฉันไม่ทำตามเขา เขาจะพูดเรื่องนี้ออกมา ฉันถูกบังคับอย่างจนปัญญา ไม่อย่างงั้นฉันจะยินยอมคนแบบเขาได้ยังไง…”
อันที่จริงเธอพูดโกหก ตอนแรกเฉินเจี๋ยอยากจะขู่เธอ แต่เธอใจอยากแต่ทำเป็นปฏิเสธ ปฏิเสธไม่ได้ว่า เฉินเจี๋ยรู้ความชอบของเธอเป็นอย่างดี สามารถบริการเธอได้อย่างดีมาก
เดิมทีเธอคิดว่าวันนี้จะสามารถตบตาผ่านไปได้แล้ว ด้านเฟิงหานชวนจะไม่มีทางสงสัยมาถึงเธอ แต่คิดไม่ถึงว่าพ่อแม่โง่เขลาของเธอ จะเกิดพิรุธ!
“ถูกบังคับอย่างจนปัญญา?” เป๋าฮวนหัวเราะออกมา “บันทึกการขับขี่ของเธอ บันทึกทุกการเคลื่อนไหวของเธอ เธอคิดว่าเธอสามารถปกปิดอะไรได้?”
เป๋าฮวนรู้สึกตลกเป็นอย่างมาก เวลาแบบนี้ หลีซืออวิ๋นเป็นตายยังไงก็ไม่เปลี่ยนแปลง
“นาย…พวกนาย…” หลีซืออวิ๋นลืมเรื่องนี้ไปแล้ว คิดไม่ถึงว่าพวกเขาจะตรวจสอบกล้องวงจรรถของเธอ
เธอหน้าซีด เธอกัดฟัน พยายามคิดว่าควรจะอธิบายยังไง
ในตอนนี้เฉินเจี๋ยร้องออกมาเสียงดัง “คุณเป๋า คุณเฟิง พวกคุณปล่อยผมไปเถอะ! ผมก็แค่ลูกกระจ๊อก ผมฟังคำสั่งของหลีซืออวิ๋นทั้งหมด ความผิดของผมไม่ต้องถึงกับตาย! ขอร้องพวกคุณปล่อยผมไปเถอะ จะให้ผมทำอะไรก็ได้เพื่อตอบแทนพวกคุณ…”
“เฉินเจี๋ย! นายทรยศฉัน!” หลีซืออวิ๋นถูกหักหลัง จึงตะคอกอย่างโมโห ดวงตาแดง
เวลานี้ จิ่งมั่วกับจิ่งเหลิ่งเดินถือกล้องกับขาตั้งกล้องเข้ามา เป๋าฮวนเหลือบมองพวกเขา จากนั้นสายตาเย็นชาก็มองไปทางเฉินเจี๋ยอีกครั้ง
“เฉินเจี๋ย ปล่อยนายไปก็ได้ แต่นายจะต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน” เป๋าฮวนหัวเราะเย็นชา “ทำท่าทุกอย่างที่นายทำกับหลีซืออวิ๋นต่อหน้ากล้องนี้ แสดงมันออกมาทั้งหมดรอบหนึ่ง”
“ถ้าหากไม่มีแรง พวกเรายังเตรียมยาไว้แล้วด้วย” เธอพูดเสริม